ตอนที่ 3

1457 คำ
เมธาพัฒน์พาร่างสูงใหญ่แข็งแรงของตัวเองไปเดินทอดอารมณ์อยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อคิดไปถึงความขัดแย้งระหว่างตนเองกับเด็กสาวในปกครองอย่างพวงชมพู คำสัญญาที่เขาเคยรับปากเอาไว้กับบิดาของพวงชมพูยังก้องอยู่ในหูไม่หยุด พ่อของหล่อนฝากฝังให้เขาดูแลพวงชมพูจนกว่าหล่อนจะเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้ชายดี ๆ สักคน แต่ทำไมนะ เขาถึงไม่เคยกระตือรือร้นเรื่องหาคู่ครองให้กับพวงชมพูเลย แถมไอ้ความคิดที่จะให้พวงชมพูแต่งงานมันยังไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองของเขาเลยอีกต่างหาก เขาคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หากจะยอมรับออกมาว่าตัวเองหวงแม่เด็กสาวในปกครองแสนพยศคนนี้... เมธาพัฒน์เดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ จนไปหยุดยืนอยู่ที่แปลงกุหลาบที่ด้านหลังของตัวบ้าน แปลงกุหลาบที่เขาลงมือปลูกมันขึ้นมาด้วยตัวเองเมื่อ 3-4 ปีก่อน มันมีแต่กุหลาบสีชมพูเท่านั้น เพราะอะไรนะเหรอ... ชายหนุ่มแอบขำตัวเอง ก็เวลาพวงชมพูงอนเขา เจ้าดอกกุหลาบสีชมพูนี่แหละ ที่มันทำให้หล่อนใจอ่อนลงได้บ้าง แม้ว่าบางครั้งหล่อนจะทำตัวไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เขาถึงต้องยอมให้หล่อนชนะซะทุกทีคิดไปแล้วก็อดรู้สึกเวทนาตัวเองขึ้นมาไม่ได้ เมธาพัฒน์ถอนใจออกมาหนักหน่วง ความเคร่งเครียดกัดกินไปทั่วทุกอณูเนื้อกาย จากนั้นก็ก้าวเท้ายาวๆ เดินเข้าไปภายในบ้าน และแน่นอนว่าเขาไม่มีทางลืมเด็ดเจ้าดอกกุหลาบสีชมพูแรกแย้มตรงหน้าติดมือไปด้วย หลังจากที่หมกตัวอยู่ในห้องน้ำอยู่นานร่วมหนึ่งชั่วโมง ร่างบอบบางที่มีเพียงแค่ผ้าขนหนูสีชมพูเพียงผืนเดียวพันรอบกายก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำ แต่ยังก้าวไม่ถึงสองก้าวเลย เท้าเล็กก็ต้องชะงักอยู่กับที่ด้วยความประหลาดใจ เมื่อแผ่นหลังของอาหนุ่มหล่อระเบิดกระเด้งเข้ามาในสายตา สองแขนกำยำของเขาจับอยู่ที่ขอบหน้าต่างจ้องมองออกไปข้างนอก และก็ดูเหมือนว่าเมธาพัฒน์กำลังใจลอยซะด้วย เพราะชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าหล่อนก้าวออกมาจากห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว “อาต้น เข้ามาในห้องนอนของชมพูทำไมคะ!?” เสียงหวานที่เจือไปด้วยความแปลกใจของพวงชมพูทำให้เมธาพัฒน์รู้สึกตัวจากการครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มรีบหมุนตัวกลับเข้ามาภายในห้องทันที แล้วนั่นก็ทำให้เขาแทบช็อคกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้า เรือนร่างของผู้หญิงที่โตเป็นสาวเต็มตัวงดงามและสมบูรณ์แบบอยู่ภายใต้ภายขนหนูสีชมพูผืนเล็กเพียงผืนเดียว เนินอกขาวผ่องอวบอิ่มดันล้นเบียดขอบผ้าขึ้นมาจนแทบจะทะลักออกมาทั้งเต้า เมธาพัฒน์ลอบกลืนน้ำลายที่เหนียวเป็นยางของตัวเองลงคอด้วยความยากเย็น ตอนนี้ในลำคอของเขาแห้งผากไม่ผิดจากผืนทรายแห้งแล้ง และแน่นอนว่าพวงชมพูก็คือโอเอซิสสำหรับเขานั่นเอง ชายหนุ่มอยากจะหันหน้าหนี หรือไม่ก็เดินออกไปจากห้องนอนของเจ้าหล่อนซะเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขาก็ทำไม่ได้ บังคับตัวเองไม่ได้ จำต้องยืนมองความอะร้าอร่ามงดงามของเด็กสาวในปกครองต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก ผมเส้นเล็กสีดำสนิทของหล่อนที่เขามักจะเห็นมันถูกมัดรวมกันถักเป็นเปียไว้สองข้าง และผูกด้วยริบบิ้นสีดำ ตอนนี้ถูกปล่อยลงมาคลอเคลียไหล่เปลือยเปล่ามันสวยงามจนเขาอยากจะสอดนิ้วเข้าไปลูบไล้มัน เรือนร่างที่เขาเคยคิดว่าหล่อนยังเป็นเด็กสาวอยู่นั้น ตอนนี้มันกลายเป็นเรือนร่างของสาวงามที่มีหุ่นราวกับนาฬิกาทราย อวบอัดทรมานใจผู้ชายยิ่งนัก... ตอนนี้เรือนกายกำยำของเขาแข็งชันขึ้นมาในทันควัน ภาพที่ประสบพบเจอโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อนตรงหน้า ทำให้การควบคุมตัวเองของเขาลดน้อยถอยลงสุดกู่ แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษทำให้เขาต้องรีบเหยียบเบรกกัดฟันข่มความปรารถนาของตัวเองให้หยุดลงอย่างกะทันหัน แม้ใจจริงแล้ว... เขาอยากจะกระชากเจ้าผ้าขนหนูผืนนั้นออกมาจากเรือนร่างของหล่อนมากแค่ไหนก็ตาม โธ่... พระเจ้า ทำไมต้องส่งเขาเข้ามาตอนนี้ด้วย ทำไมต้องให้เขาเห็นสิ่งที่เขาพยายามหนีด้วย เมธาพัฒน์คร่ำครวญอยู่ภายในอกด้วยความปวดร้าว แสนอึดอัด “นี่เธอต้อนรับอาด้วยชุดนี้นะหรือ...” หลังจากตะลึงตะลานอยู่นาน พวงชมพูก็ได้สติ หล่อนหันรีหันขวางอย่างคิดอะไรไม่ออก ความร้อนผ่าวทำให้หล่อนหน้าแดงจัด ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาจะเข้ามาในห้องนอนของหล่อนตอนนี้ ก็เห็นปกติไม่เคยแม้แต่จะเหยียบย่างเข้ามาด้วยซ้ำ ต้องกราบต้องไหว้กันนั่นแหละถึงจะยอมเข้ามา หญิงสาวเงยหน้าที่แดงก่ำไปด้วยความอับอายของตัวเองขึ้นมองคนตัวโต สายตาของหล่อนประสานกับดวงตาสีเข้มของเขาพอดี แล้วก็เหมือนกับถูกสะกดด้วยเวทมนต์ขลัง “อะ...อาต้นไม่เคาะประตู…” หญิงสาวคิดคำพูดได้แค่นั้น ตอนนี้หัวใจของหล่อนพุ่งทะยานขึ้นไปสู่ดาวอังคารก่อนจะกระเด้งกลับมายังพื้นโลก หลายต่อหลายครั้งจนหล่อนเหนื่อยหอบ แม้แต่แรงจะหายใจหล่อนก็ยังขาดแคลนเลย ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีเข้มทำให้หล่อนรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความต้องการบางอย่างกำลังทะยานเข้าใส่หล่อนอย่างจังจนหล่อนแทบจะเก็บไว้ไม่มิด “อาเคาะแล้ว…” เสียงห้าว ๆ ของเขาพึมพำออกมา สายตาคมกริบยังจับจ้องอยู่ที่ร่างกายของหล่อนไม่วางตา และสุดท้ายหล่อนก็เห็นเขาหลับตาลง เหมือนกับจะข่มอะไรบางอย่างให้มันสงบอยู่แต่เพียงในอก “ถ้าอาลืมตาขึ้นอีกครั้ง หวังว่าชมพูคงแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนะครับ” เขาพูดขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตา ความร้อนฉ่าจากความอับอายค่อย ๆ แล่นขึ้นจากลำคอสู่นวลแก้มทั้งสองข้างของหล่อนช้า ๆ หญิงสาวรีบถอนสายตาจากร่างกายกำยำที่น่ามองของเขา แล้วก้มลงมองตัวเองก่อนจะอุทานออกมาอย่างตื่นตกใจ นี่หล่อนลืมไปสนิทเลยว่าตัวเองกำลังอยู่ในชุดอะไร น่าอายชะมัด... และด้วยความรีบร้อนที่จะรีบวิ่งหนีกลับเข้าห้องน้ำอีกครั้งของพวงชมพู ก็ทำให้หล่อนเสียหลักวิ่งชนเข้ากับขาโต๊ะเครื่องแป้งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ผลก็คือร่างบอบบางของหล่อนล้มลงไปกองกับพื้นห้อง และเจ้าผ้าขนหนูเจ้ากรรมก็เลื่อนหลุดไปกองอยู่ที่เอว “ว๊าย...!” หญิงสาวร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจแกมเจ็บปวด และนั่นก็มีผลทำให้เมธาพัฒน์ลืมตาขึ้นมาทันที และภาพที่ได้เห็นก็ทำให้ชายหนุ่มแทบอยากจะเอาหัววิ่งชนข้างฝาตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด ภาพของหญิงสาวที่สวยไปทั้งเนื้อทั้งตัวกำลังนอนระทดระทวยอยู่กับพื้น ร่างกายอวบอิ่มนั้นเปลือยเปล่า “ชมพูเจ็บขา... อาต้น...” เสียงร้องขอความช่วยของหล่อนทำให้เมธาพัฒน์จำต้องสลัดความคิดอกุศลออกไปจากสมองโดยฉับพลัน เขารีบก้าวฉับ ๆ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำออกมาส่งให้แม่เด็กสาวในปกครองทันที “ใส่ซะก่อน อาไม่ใช่พระอิฐพระปูนหรอกนะครับ” น้ำเสียงของเขาไม่ได้อยู่ในโทนเสียงปกติ หล่อนรู้ดี พวงชมพูรีบรับเสื้อคลุมจากเขามาคลุมร่างของตัวเองอย่างรวดเร็ว ความอับอายแล่นไปทั่วร่าง “คะ... คือชมพูไม่ได้ตั้งใจ...” หญิงสาวปฏิเสธตะกุกตะกัก ใบหน้างามแดงจัด “ไม่... ชมพูตั้งใจจะยั่วอาต่างหาก” หล่อนเห็นกรามเขาขบกันเป็นสันนูน ใบหน้าหล่อเหลาของเขากระด้าง แลดูดิบเถื่อนขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก่อนที่พวงชมพูจะซึมซับคำพูดกล่าวหาของเขาได้ ร่างบางของหล่อนก็ถูกอุ้มขึ้นมาอยู่ในวงแขนแข็งแกร่งกำยำ หญิงสาวตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่นใจ “อาจะพาชมพูไปนอนที่เตียง แล้วจะเรียกเด็กรับใช้ขึ้นมาดูแล...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม