บทที่ 6 จดทะเบียนสมรส (สินเดิมและสินสมรส)

1787 คำ
เมื่อครบกำหนดวันลาพักร้อนงานแต่งงานเสร็จสิ้นเรียบร้อย แพรวพรรณกับอชิระวัตรก็ได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพ โดยหลังจากแต่งงานได้สามเดือนพ่อและแม่ของแพรวพรรณก็อนุมัติให้แพรวพรรณซื้อบ้านย่านฝั่งธนซึ่งอยู่ไม่ไกลที่ทำงานของแพรวพรรณ แพรวพรรณสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปทำงานได้ ส่วนอชิระวัตรก็ได้ออกรถใหม่สมหน้าตาและหน้าที่การงานของวิศวกรในบริษัทใหญ่ ในช่วงที่บ้านกำลังตกแต่งอยู่ แพรวพรรณก็ได้ย้ายออกจากคอนโดที่เช่าไว้ไปอยู่กับอชิระวัตรที่อพาร์ตเมนต์ด้วยกัน แม้ว่าจะอยู่ไกลที่ทำงานหน่อยแต่ก็ได้ประหยัดค่าเช่าได้เอาเงินส่วนนั้นไปซื้อของเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านของตนเองแทน "แพรว เดินทางเหนื่อยมั้ย จะขับรถไปเองก็ได้นะครับพี่นั่งรถโดยสารไปทำงานเองก็ได้นะ" อชิระวัตรถามภรรยาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย "ให้พี่บาสส่งแพรวขึ้นบีทีเอสก็สะดวกอยู่แล้ว ที่ทำงานแพรวมันอยู่ใกล้บีทีเอส แต่ที่ทำงานพี่บาสต้องขับรถเข้าไป แพรวไม่ลำบากหรอกค่ะ อีกหน่อยบ้านเราก็เสร็จแล้วคงสะดวกมากขึ้น" "แพรวนี่น่ารักมาก พี่ขอบใจแพรวมากนะที่เข้าอกเข้าใจพี่ทุกอย่าง" "ก็ไม่เข้าใจทุกอย่างนะคะ อย่างน้อยแพรวก็ทำความเข้าใจเรื่องพ่อแม่พี่บาสลำบาก แต่ก็ช่างเถอะค่ะแพรวก็อยู่บ้านของแพรว ไม่ได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับพ่อแม่พี่บาส แพรวปล่อยผ่านนะคะ อย่างเงินที่ยืมไปคราวก่อนก็ไม่เห็นจะมีวี่แววจะคืนแพรวเลย" แพรวพรรณพูดกับสามีเรื่องเงินที่พ่อแม่สามียืมไป "เรื่องเงินที่พ่อแม่เอาไปพี่จะหามาคืนแพรวเองนะครับ นี่ก็จะบอกแพรวอยู่ว่าพี่จะกลับบ้านดึกหน่อยช่วงเดือนสองเดือนนี้ พอดีพี่จะอยู่ทำโอทีแทนเพื่อน เพื่อนของพี่เมียมันเพิ่งคลอดลูกมันต้องรีบกลับไปช่วยเมียเลี้ยงลูกเลยให้โอทีของมันกับพี่แทนยาวๆ ดีนะได้เงินเพิ่มด้วย" อชิระวัตรบอกเมียในใจก็รู้สึกอับอายแทนพ่อแม่ เขาต้องพยายามหาเงินให้ได้มาก เอามันมาถมให้พ่อแม่ให้พอแก่ความต้องการโดยที่พ่อแม่ไม่เคยรู้เลยว่าการที่ทำกับลูกแบบนี้จะส่งผลอย่างไรกับชีวิตครอบครัวของลูกในอนาคตบ้าง "ถ้าพี่บาสทำโอที พี่ก็ไม่ได้มารับแพรวที่ทำงานนะสิคะ งั้นแพรวก็ต้องกลับเองนั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้าหอพักเองหรือคะ" "แพรวกลับเองได้ไหม อดทนหน่อยนะ พี่ต้องทำโอทีเพื่ออนาคตของเรานะครับ" "พี่บาสไม่จำเป็นต้องอยู่โอทีทั้งเดือนเพื่อหาเงินห้าหมื่นมาคืนแพรวหรอกค่ะ แพรวยกหนี้ให้ แพรวสงสารอยากให้พี่บาสได้พักผ่อนบ้าง" "โธ่แพรว มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับหนี้ที่พี่ยืมแพรวมาเลยนะ พี่ทำงานเยอะก็ได้เงินเยอะ เราสองคนจะได้ช่วยกันสร้างครอบครัว สร้างไว้รอเจ้าตัวเล็กลูกของเราไง" "แต่พี่บาสก็จะเหนื่อยและเครียดกับงานมากจนเกินไปนะคะแพรวว่า" "พี่อดทนได้เพื่ออนาคตของเรานะครับคนดี ว่าแต่ว่าคืนนี้ขอคิวคุณภรรยาปั๊มลูกหน่อยได้มั้ย" "บ้า ปั๊มลูกอะไรกันเล่า น้ำยังไม่ได้อาบ ข้าวยังไม่ได้กินเลย วันนี้ต่างคนก็ต่างเลิกงานกลับมามืดแล้ว เอาอย่างนี้พี่บาสไม่อาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวแพรวเข้าครัวทำแกงจืด ไข่เจียวพริกน้ำปลาง่ายๆ พี่บาสอาบน้ำเสร็จแล้วจะได้ออกมากินข้าวกัน" "ครับคุณภรรยา"  หลังจากที่ทำอาหารมื้อเย็นง่ายๆ รับประทานกันเสร็จแล้ว แพรวพรรณกับอชิระวัตรก็ได้นอนดูทีวีอยู่บนเตียงด้วยกัน  "อีกเดือนเดียวเราก็จะได้ย้ายเข้าบ้านของเราแล้วนะ" อชิระวัตรพูดกับภรรยาน้ำเสียงสดใส รู้สึกดีใจที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองเสียที การมีบ้านในครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณพ่อตาแม่ยายที่ช่วยสนับสนุนออกเงินดาวน์ให้ "ใช่ค่ะ แพรวตื่นเต้นมากเลยค่ะพี่บาส แพรวว่าจะทำบุญบ้านแบบเรียบง่าย นิมนต์พระมาฉันเพลที่บ้าน มีพ่อแม่ขึ้นมาร่วมแสดงความยินดีกับเราก็พอ ไม่ได้บอกใครแม้แต่เพื่อนที่ทำงานก็ไม่ได้รบกวนเขานะคะ แต่มีเพื่อนสนิทของแพรวมาด้วยไม่กี่คน" "ครับ พี่รู้แล้ว ไม่ว่าจะงานไหนก็ไม่ขาดสี่สาวเพื่อนของแพรวหรอก" "ค่ะ แพรวง่วงนอนแล้ว ฝากพี่บาสปิดทีวีด้วยนะคะ พรุ่งนี้แพรวมีประชุมตอนเช้า" "อึ ยังไม่ให้นอน เรายังไม่ได้.....กันเลยนะ พี่อดมาหลายวันแล้วนะ แพรวอ้างว่างานยุ่งตลอดเลย" อชิระวัตรพูดเสร็จก็ปล้ำกอดจูบเมียของตัวเองทันที "โอ๊ย พี่บาสแพรวจั๊กจี้ หยุดก่อนๆ พอแล้วๆ แพรวยอมพี่บาสแล้ว" แพรวพรรณหัวเราะกิ๊กกั๊กเพราะความจั๊กจี้จากไรหนวดที่อชิระวัตรกำลังลงมือจูบซุกไซ้กลั่นแกล้งตัวเองอยู่ "ให้พี่หยุดก็ได้ แต่ว่าวันพฤหัสบดีนี้ลากิจสักครึ่งวันไปสำนักงานเขตกันนะครับ" "ไปทำไมคะ" "อ้าว ก็ไปจดทะเบียนสมรสกันไง เราแต่งงานกันมาหลายเดือนแล้วนะ ไปจดทะเบียนกันนะพี่อยากตีตราแพรว" "ไปจดก็ได้ค่ะ แต่ว่าแพรวไม่เปลี่ยนคำหน้าชื่อกับนามสกุลนะ" "อ้าว แล้วไงเป็นอย่างนั้นล่ะ" "ก็พ่อกับแม่แพรวมีแพรวเป็นลูกสาวคนเดียว แพรวอยากใช้นามสกุลพ่อต่อ ตอนแพรวเด็กๆ พ่ออยากให้แม่มีน้องชายเพื่อจะได้สืบทอดนามสกุล แต่แม่แพรวก็ท้องไม่ได้เพราะมีปัญหาเรื่องมดลูกตั้งแต่ตอนคลอดแพรวแล้ว นะคะพี่บาสนะ จดทะเบียนแต่ไม่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อไม่เปลี่ยนนามสกุลนะ" "แน่ใจนะว่าที่ไม่ยอมเปลี่ยนเพราะเหตุผลนี้ ไม่ใช่เพราะแพรวรังเกียจนามสกุลพี่ใช่ไหม" "จะบ้าหรือไงพี่บาส แพรวจะไปรังเกียจอะไรนามสกุลพี่เล่าคะ" "ไม่ได้รังเกียจ แพรวก็เปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่สิครับ" "แพรวบอกเหตุผลของแพรวไปแล้วนะพี่บาส จะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนกันแพรวได้หมดนะ ให้พี่บาสตัดสินใจเลยค่ะ" "จดแบบไม่เปลี่ยนก็ได้ แต่ว่าถ้ามีลูก ลูกต้องใช้นามสกุลพี่นะแพรว ห้ามมาหาเรื่องต่อนามสกุลนะพี่ไม่ยอมจริงๆ ด้วย" "ค่ะ ให้มันมีก่อนเถอะ นอนได้แล้วแพรวมีประชุมตอนเช้านะคะ" "งั้นมันก็ต้องจัดให้มีแล้วแหละ" อชิระวัตรยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วลงมือกอดจูบและเริ่มภารกิจเสกลูกเข้าท้องแพรวพรรณในทันที "โอ๊ย พี่บาสเบาๆ สิแพรวเจ็บนะ" แพรวพรรณดุสามีที่เอาแต่ใจ ลืมตัวจนทำแพรวพรรณเจ็บ "ยังเจ็บอีกเหรอ ได้กันออกจะบ่อยนะแพรว" "อือ ก็พี่บาสทำแรงอ๊ะ จริงๆ ก็ไม่ได้เจ็บเหมือนครั้งแรกหรอก" แพรวพรรณบอกสามีเขินๆ "ถ้าพี่ทำแพรวเจ็บ แพรวก็มาทำให้พี่แทนบ้างสิ" "ทำอะไรพี่บาส แพรวทำไม่เป็นหรอก" "เถอะน่า นะครับเดี๋ยวพี่สอนนะๆ" อชิระวัตรพูดออดอ้อนเสียงกระเส่า แล้วยกตัวแพรวพรรณขึ้นมาทาบทับตัวเองให้ท่าทางท่วงท่าวาบหวิว แล้วค่อยๆ สอนเมียและฝึกพรือติวเข้มจนเสร็จสมในเกมรัก "หลับแล้วเหรอ" อชิระวัตรผ่อนร่างลงมานอนกอดแพรวพรรณไว้หลวมๆ พร้อมกับหอมที่หัวไหลเปลือยขาวเนียนของแพรวพรรณเบาๆ "...." แพรวพรรณไม่ตอบสิ่งใดออกมาได้แต่นอนหลับตามเฉย "แกล้งหลับแบบนี้ เกรงว่าจะได้โดนอีกสักรอบ" อชิระวัตรแกล้งขู่เมียของตัวเอง "ไม่เอาแล้ว แพรวกำลังจะหลับ" แพรวพรรณรีบลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วรีบพูดบอกอชิระวัตรเร็วๆ "ก็ได้ ๆ ไม่ทำแล้วก็ได้ ถ้าอย่างนั้นหลังจากเราไปจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เราไปฮันนีมูนกันสักสองคืนดีมั้ยแพรว ขับรถกันไปหลังเลิกงาน ไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง" "ค่ะ แล้วแต่พี่บาสเลย ว่าแต่จะไปไหนกันดีคะ" "ไปแก่งกระจานดีมั้ย แพรวชอบบ้านริมน้ำไม่ใช่เหรอเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่โทรจองรีสอร์ตให้เอง" "ก็ดีค่ะ งั้นตกลงตามนี้นอนหลับนะคะ แพรวมีประชุมตอนเช้าเดี๋ยวไปทำงานสาย ช่วงนี้ยิ่งไปสายบ่อยๆ โดนเพื่อนที่ทำงานล้อตลอดเลยว่าโดนพี่บาสจัดหนัก" แพรวพรรณพูดเล่าสามีด้วยท่าทางเขินๆ "โดนจัดเต็มก็เป็นเรื่องธรรมดานะ คนมันเพิ่งจะมีเมีย คนเขาอดทนรอคอยมาตั้งแปดปีเชียวนะ" อชิระวัตรพูดขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ ในวันพฤหัสบดีต่อมา อชิระวัตรและแพรวพรรณก็ได้ไปจดทะเบียนสมรสกันที่สำนักงานเขต  "ยินดีกับคู่สมรสใหม่ด้วยครับ เอกสารทะเบียนสมรสสองฉบับนี้ให้ไว้กับคุณอชิระวัตร ดำรงค์และคุณแพรวพรรณ เลิศภักดี เก็บไว้คนละชุดเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าคุณสองคนได้เป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะครับ" นายทะเบียนพูดแสดงความยินดีพร้อมกับส่งเอกสารให้ "ขอบคุณครับ" "ขอบคุณค่ะ" แพรวพรรณและอชิระวัตรพูดขอบคุณพร้อมกัน แพรวพรรณกับอชิระวัตรจดทะเบียนสมรสกันหลังจากที่ซื้อบ้าน บ้านที่ซื้อก็ซื้อเป็นชื่อของแพรวพรรณ ส่วนรถที่อชิระวัตรขับอยู่ซื้อใหม่เป็นชื่อของอชิระวัตร จริงๆ แล้วพ่อแม่ของแพรวพรรณตั้งใจเซ็นยกมรดกให้แพรวพรรณก่อนที่จะจดทะเบียนสมรสเพราะต้องการให้มรดกที่ยกให้ลูกเป็นสินเดิม ส่วนบ้านและรถก็แบ่งให้ครอบครอง สร้างชีวิตครอบครัวกันต่อไป ในส่วนของบ้านได้มีการซื้อโดยวางเงินดาวน์จากเงินที่แม่และพ่อของแพรวพรรณมอบให้ และยื่นกู้เป็นชื่อของแพรวพรรณ ส่วนรถยนต์นั้นซื้อด้วยเงินสดจากเงินสินสอดที่อชิระวัตรเก็บสะสมมาขอแพรวพรรณ พ่อแม่ของแพรวพรรณได้คืนเงินจำนวนนั้นให้แพรวพรรณ มาใช้ตั้งตัวทั้งหมด บ้านซื้อเสร็จแล้วรอตกแต่งเพิ่มเติมและรอฤกษ์เข้าอยู่แล้วเท่านั้น 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม