Ep 2 : ผู้โชคดี

1935 คำ
Luna Say :: ทุกวันหยุดกลางเดือน และสิ้นเดือน เราต้องบินกลับมาที่เชียงใหม่ทุกครั้ง มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ฉันยังเด็ก และเมื่อโตมา ก็ยังคงเป็นแบบนี้ นี่คือความเสมอต้นเสมอปลายของลุงซันที่ฉันชอบ ฉันกับมูน จะนอนที่เรือนเล็กของพ่อ เพราะแม่ยกให้เราสองคนแล้ว “ มาแล้วหรอคะ ไปพักให้หายเหนื่อยกันก่อน “ “ คิดถึงแม่จัง “ ฉันสวมกอดหญิงสาวร่างเล็ก “ อ้อนเก่งดีจัง เอาของไปเก็บก่อนปะ แล้วค่อยมาอ้อน “ ฉันทำตามที่แม่บอก โดยการเอากระเป๋าและสัมภาระไปเก็บในบ้าน พอเดินเข้าเรือนเล็กก็เจอไอ้มูนกำลังจะออกมาพอดี ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ไม่ถูกกับมันเลย ทั้งๆที่เด็กๆก็ออกจะรักกันดีแท้ๆ ไร่ที่นี่มันกำลังจะใหญ่เกินกว่าที่เราจะดูแลไหวรึเปล่า ไหนจะคอกม้า ไหนจะไร่ ไหนจะสินค้าแปรรูป ไหนจะคน แม่เป็นผู้หญิงคนเดียวจะดูแลยังไงหมด แม่เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย วางตัวดี ไม่ฟุ่มเฟือย และ รักมูน แน่นอน คงจะมากกว่าฉันด้วยซ้ำ ฉันเดินมาที่เรือนใหญ่ ก็เห็นทุกคนนั่นล้อมคุยกันเรื่องธุรกิจของไร่ แน่นอนว่าตอนนี้ลุงซันเป็นเหมือนที่ปรึกษาของแม่อยู่เนืองๆ “ พี่ซัน ตอนนี้ฉันมีปัญหา ยอดขายสตรอว์เบอร์รี่กำลังตก เพราะนายทุน ถ้าฉันจะส่งไปตลาดที่กรุงเทพเองจะดีไหม แต่มันต้องมีการขนส่งอะไรอีกหลายอย่าง พี่ว่าฉันควรทำยังไงดี “ “ นี่ ไหวหรอ ทำอะไรที่มันมากมายอะ “ “ ก็อยากจะพัฒนาให้ทันยุคสมัย “ “ ซี ฟังพี่นะ เราไม่จำเป็นต้องทำให้ดีมากขึ้น ถ้าทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว ซีลองคิดดูนะ ถ้าซีจะส่งของลงไปขายเอง ค่าขนส่งอาจจะแพงกว่าส่วนต่างของพวกนายหน้าก็ได้ “ “ ผมคิดว่าจะขายผ่านช่องทางออนไลน์ สตรอว์เบอร์รี่เรามีแค่ช่วงหน้าหนาว ใช่ว่ามันจะมีทั้งปี เราจะแพคกล่องสวยๆ เพื่อนส่งผ่านทางขนส่งเอกชน “ น้องชายรวมสายเลือด ที่มีหัวพัฒนาเหมือนแม่ไม่มีผิด จะผิดก็ผิดที่ฉัน ที่ไม่เก่งทางไหนเลย ผิดพ่อ ผิดแม่ชิบเป๋งเลย ฉันเดินเข้ามานั่งฟัง ทั้งสามคนคุยกัน ในเรื่องที่ฉันเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่ได้อยากจะพยายามจะเข้าใจนะ เพราะฉันอยากอยู่ช่วยงานลุงซันที่โรงแรมมากกว่านิ “ ลูน่าคิดว่าดีไหม ถ้าแม่จะทำรีสอร์ต ให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวไปด้วยเลย “ “ ต้องใช้เงินเยอะมากเลยนะซี “ “ นั่นสินะคะ คงได้แค่ฝัน ที่นี่อะมีทุกอย่างพร้อม ยกเว้นเงินทุน ฮ่าๆ “ แม่หัวเราะออกมา ลุงซันอยู่ที่นี่ ยิ้มง่ายดีจัง ดูอารมณ์ดี แบบที่หาที่บ้านไม่ได้เลย ฉันนั่งฟังแม่เล่าถึงแพลนที่ตัวเองวางไว้ ว่าถ้าที่นี่เปิดเป็นรีสอร์ตมันจะเป็นยังไง แล้วดูทุกคนก็ฟังตามที่แม่พูดอย่างตั้งใจ รวมทั้งตัวฉันเองด้วย “ อยากทำจริงหรอ รับพี่เป็นหุ้นส่วนไหมล่ะ “ คำถามที่ทำเอาแม่เงียบ ลงไปทันที ก่อนจะปฏิเสธออกมาอย่างชัดเจน จนลุงซันหน้าเสียไปเลย “ เราเลิกคุยเรื่องนี้ แล้วกินข้าวกันดีกว่า “ เอกสารงานทุกอย่างถูกเก็บลงแล้วเปลี่ยนเป็นอาหารที่เต็มโต๊ะ “ พี่แจง ไปตามต้นกล้ามากินข้าวที “ “ ค่ะ คุณซี “ แม่ดีกับทุกคน ยกเว้นลุงซัน ทำไมกันนะ ถึงจะไม่ได้แสดงออกชัดเจน แค่ใครที่อยู่ใกล้ก็คงรู้สึก พอพี่ต้นกล้ามา เราก็เริ่มทานอาหารกันอย่างเงียบๆ ฉันอยากทำลายความเงียบที่หน้าอึดอัดนี้จัง “ ลุงซันกินนี่หน่อยนะคะ “ ฉันตักหมูใส่ลงที่จานของลุงซัน “ ขอบใจ แต่ไม่ต้องก็ได้นะ ลุงกินเองได้ “ ปกติก็ตักให้ตลอด ทำไมจู่ๆวันนี้ถึงปฏิเสธล่ะ นับวันก็ยิ่งเย็นชา ไม่รู้เลยรึไงว่าฉันรู้สึกยังไง “ จบปีหน้าจะกลับมาเลยไหมลูน่า “ “ ไม่ค่ะ หนูยากจะทำงานที่โรงแรมของลุงซัน “ คำตอบของฉันทำเอาแม่ถึงกับวางช้อน “ ไร่เรางานเยอะแยะ “ แม่เริ่มพูดขึ้นมาบ้าง “ แต่หนูเรียนบริหารมานะคะ “ “ กลับมาทำงานที่บ้านเรา คุณทวดกับพ่อทิ้งอะไรไว้ให้เยอะแยะ “ แม่เริ่มขึ้นเสียง “ แม่คะ หนูก็มีความฝันนะคะ “ “ เห็นแก่ตัว “ ลูกชายสุดที่รัก พูดขึ้นมา “ แกจะพูดอะไร ก็พูดได้นิ แกมันขี้ประจบ “ “ ลูน่า หนูจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ “ “ แม่ก็ปกป้องมันตลอด ถ้าพ่อยังอยู่ พ่อต้องเข้าใจหนูมากกว่าที่แม่เป็นแน่ๆ “ ฉันลุกพรวดแล้วเดินออกจากโต๊ะทันที “ พี่ไปตามเอง “ “ พี่ซันหยุด แล้วนั่งลง ต้นกล้าตามน้องไป “ แม่เข้าข้างมันตลอด ไม่ว่ามันจะทำอะไรฉันก็เป็นคนผิด แบบนี้มันได้หรอ แค่ไม่อยากอยู่ที่ไร่ ฉันผิดรึไง ฉันเรียนหนักขนาดนี้ เพื่อมาทำงานที่ไร่งั้นหรอ “ ทำไมถึงวิ่งออกมาแบบนี้ “ “ พี่ก็เข้าข้างแม่ “ “ แล้วที่เธอทำอยู่มันถูกหรอ ถ้านายอยู่คงจะเสียใจมากๆ “ พ่ออยู่พ่อจะเสียใจที่ฉันทำแบบนี้งั้นหรอ น้ำหยดน้อยๆค่อยไหลออกมาจากตาพร้อมระบายความรู้สึกที่อัดแน่น “ แม่ไม่เคยเข้าใจฉันเลย แม่เข้าข้างมูนมันตลอด “ “ ไม่จริงเลย คุณแม่ตามใจเธอมากนะ ทั้งที่ยอมให้ลูกสาวไปเรียนไกลถึงกรุงเทพ แต่คุณมูนกลับไม่ได้ไป เธออยากได้อะไร คุณแม่ก็หามาให้ก่อน “ “ แม่จ้างพี่มาพูดเท่าไหร่เนี่ย “ พี่ต้นกล้าปาดน้ำตาของฉันเบาๆ “ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ “ “ เลิกร้องไห้ได้แล้วเด็กขี้แย “ พี่ต้นกล้าขยี้หัวของฉันเบาๆ “ ขี้แยงั้นหรอ พี่ไม่เรียกฉันแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ “ “ ต่อไปเรียกว่าขี้แยดีไหม “ “ ม้ายยยยยย!!!! ต้องเรียกว่าลูน่าสิ ขอบคุณนะคะที่มาปลอบ พี่เป็นเหมือนพี่ชายของฉันจริงๆเลย แถมพี่ยังดีกับฉันมากกว่าน้องชายแท้ๆของฉันอีก “ “ เราไปปั่นจักรยานเล่นกันไหม เผื่ออารมณ์จะได้ดีขึ้น “ “ พี่ปั่นนะ ให้ฉันแบกคนตัวใหญ่แบบนี้ ขาฉันคงกล้ามขึ้น “ “ พี่เคยให้เธอปั่นรึไง “ “ ไม่เคยค่ะ “ ฉันซ้อนจักรยานของพี่ต้นกล้าไปเรื่อยๆ ตากลมเย็นๆไปตามถนน เห็นคนงานมากมายกำลังทำงานในไร่กันอย่างขะมักเขม้น จักรยานขับผ่านถนนที่เต็มไปด้วยต้นพญาเสือโคร่ง ที่ออกดอกสีชมพูสะพรั่งเต็มสองข้างทาง จนมาถึงจุดชมวิว ที่มองเห็นไร่ของเราได้ทั่ว “ อารมณ์ดีขึ้นไหม “ “ อื้อ ที่นี่พ่อกับแม่ฉันรักกัน ถ้าฉันสารภาพความในใจของฉันกับลุงซันบ้าง มันจะได้ผลเหมือนพ่อกับแม่ฉันไหมนะ “ “ พี่ว่าไม่อะ “ พี่ต้นกล้าตอบด้วยหน้าเซ็งๆ “ ชิ๊!! ฉันอะคือผู้โชคดี ที่ไม่เคยดีพอ ฉันอยู่ใกล้ลุงซันมากกว่าผู้หญิงคนไหน แต่ลุงซันไม่เคยหันมามองเลย “ “ ทำไมเธอถึงได้ยึดติดกับคุณซันนัก “ “ ไม่รู้สิ “ “ ทะ...เธอมั่นใจได้ยังไง ว่าชอบคุณซัน “ “ เค้าเป็นผู้ชายในอุดมคติ ใจดี เป็นผู้ใหญ่ เก่งไปซะทุกเรื่อง แล้วก็รักเดียว ฉันไม่รู้หรอกผู้หญิงในใจของลุงซันเป็นใคร สวยแค่ไหน ดีแค่ไหน ลุงซันถึงไม่ยอมแต่งงานใหม่ แต่เค้าเลิกกันมา 20 ปีแล้ว ความรักคงจางหายไปหมดแล้วล่ะ มันจะโอกาสของฉันบ้างละ “ “ เคยอยู่ใกล้เค้าแล้วหัวใจเต้นรึเปล่า “ คำถามที่เอาฉันถึงกับอึ้งเหมือนกัน เพราะมันไม่เคยเลยสักครั้ง ลุงซันมีผลต่อความรู้สึก แต่ไม่เคยมีผลต่อหัวใจของฉันเลย แต่ใครจะไปสนกัน ก็ความรู้สึกของฉันมันบอกว่าใช่อะ “ กลับดีกว่าพี่กล้า ฉันจะขับเอง “ “ ไหวหรอ “ “ ทางลงเขาไง ฉันขับได้ เพราะขึ้นเขาพี่ขับมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ “ ฉันปั่นจักรยานคันเก่าของพ่อ แล้วปล่อยมันไหลตามทางลาดลงมาเรื่อยๆ วู้วววว ที่นี่มันอากาศดีกว่ากรุงเทพจริงๆแหละ “ เดี๋ยวๆๆๆ ระวัง คุณหนูข้างหน้า “ เสียงตะโกนของพี่ต้นกล้าทำเอาฉัน ทำอะไรไม่ถูกเพราะมันกำลังจะเข้าข้างทาง อ้อมแขนใหญ่ๆ ของใครคนนึงรวบเอวของฉันเอาไว้ให้ดีดตัวลงจากรถก่อนที่มันจะพุ่งชนต้นไม้ จนเราล้มไถลไปกับพื้น “ โอ้ย!!! “ ด้วยแรงกระแทกทำเอาฉันถึงกับร้องโอดครวญออกมา “ เจ็บรึเปล่า “ พี่ต้นกล้ารีบสำรวจความเสียหายของรร่างกายฉันอย่างร้อนรน “ เรียกคุณหนูอีกแล้วนะคะ โกรธจริงๆแล้วนะ “ “ พี่เรียกแบบนี้มา 20 ปีแล้วนะ จะให้เปลี่ยนยังไงได้ทันที “ “ ฮ่ะๆ ล้มจนได้ รู้งี้ให้พี่ขับดีกว่า “ แล้วฉันก็ต้องตกใจเพราะพี่ต้นกล้ามีแผลใหญ่ที่แขน แต่ไม่ร้องสักแอะ ไม่ห่วงตัวเองเอาซะเลย “ พี่กล้า แผลใหญ่มากเลยนะคะ “ “ อ่อ นี่หรอ ไม่เป็นไร เธอไม่เป็นไรก็พอแล้ว “ ถึงจะชะงั้กทุกครั้งที่พูดคำว่าเธอ แต่โดยรวมแล้วถือว่าดี ฉันลากคนเจ็บเดินกลับบ้าน เพื่อไปทำแผล เบื่อจริงเลยนะ พวกเจ็บแล้วบอกไม่เจ็บเนี่ย พอกลับมาถึงบ้าน แม่ฉันเห็นแผลก็ตกใจเป็นอย่างมาก ฉันเลยเล่าให้แม่ฟัง ว่ามันเป็นเพราะฉันขับจักรยานพุ่งเข้าข้างทาง “ งั้นก็รับผิดชอบ ทำแผลให้พี่เค้าเลย “ “ คุณซี ผมทำเองดีกว่าครับ “ “ ไม่ได้ยินที่แม่สั่งหรอคะ “ “ นึกถึงวันนั้นที่แม่ทำแผลให้พ่อก็แบบเนี้ยะ ถ้าวันนั้นแม่ไม่ได้พ่อนะเจ็บหนักเลย ได้พ่อเค้าคว้าเอาไว้ก่อนมันจะชน “ ฉันเงยหน้ามองพี่กล้า เหมือนเป๊ะเลย ถ้าพี่กล้าไม่คว้าฉันเอาไว้ คงจะเจ็บหนักจริงๆ “ ขอบคุณค่ะ “ ฉันพูดขอบคุณพร้อมมือที่ทำแผลให้คนที่เจ็บแทน อย่างตั้งใจ น่าสงสาร แผลเบ่อเร่อเลย “ ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่อะ “ ทำตามหน้าที่งั้นหรอ นั่นสินะ ฉันยิ้มให้คนที่เจ็บตรงหน้า พอทำแผลเสร็จเราก็ต่างแยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเอง ฉันเดินกลับมาที่เรือนเล็ก เพราะพี่ต้นกล้าแท้ๆฉันถึงไม่มีแผลเลย Sun Say........ เธอยังคงกันผมออกทุกทาง เมื่อไหร่เธอจะลืมสามีเธอได้สักที ผมไม่ได้อยู่ในวัยมาจีบหญิงอีกแล้วนะ ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!!! ผมรีบออกไปเปิดประตูให้คนที่มาเคาะประตูห้องผมดึกขนาดนี้ “ ซี “ เธอมายืนหน้าห้องของผมในชุดนอนกระโปรงยาวจนถึงหัวเข่า การเวลาไม่เคยทำลายเธอเลย เธอยังดูเป็นเด็กสาวตาโต ตัวเล็กในสายตาของผมอยู่ตลอด “ ขอเข้าไปนะคะ “ ขอเข้าห้องเลยหรอ ผมอึ้งนิดๆก่อนจะหลบทางเพื่อให้เธอเข้ามาในห้อง “ ล็อกประตูด้วยค่ะ “
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม