งานศพการัณผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย ญาติมิตรและแขกเหรื่อต่างก็ไม่รู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัดว่าการัณเสียชีวิตเพราะอะไรกันแน่เพราะจรัสพงษ์กับการินตอบเพียงว่าการัณลื่นล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำทำให้สมองกระทบกระเทือนเสียชีวิต ซึ่งญาติๆต่างก็คลางแคลงใจแต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเพราะการินมีท่าทางเงียบขรึมโศกเศร้าและพูดน้อยมาก เขาดูแลต้อนรับผู้คนที่มาเคารพศพบิดาด้วยความสุภาพแต่ก็ดูออกว่าเขาเครียดมาก แม้แต่บรรดาเพื่อนสนิทก็ไม่กล้ามาพูดคุยกับเขามากนัก ดีที่มีจรัสพงษ์มาคอยอยู่ใกล้ๆ เขาจึงผ่อนคลายบ้าง
เช้าวันนี้การินมาเก็บอัฐิของบิดาความโศกเศร้าที่บรรเทาไปบ้างก็ถาโถมเข้ามาอีกครั้งเพราะวันนี้เป็น ‘วันแม่’ ทุกๆปีในวันพ่อและวันแม่ถ้าเขาไม่ได้กลับบ้านเขาจะโทรมากราบพ่อและแม่เสมอๆ และบางครั้งเขาก็จะสั่งร้านดอกไม้ร้านดังๆในกรุงเทพฯส่งพวงมาลัยสวยๆเพื่อแสดงความรักต่อบุพการีด้วย แต่ ‘วันแม่’ ปีนี้เขากลับต้องเก็บกระดูกพ่อและไปเยี่ยมแม่ในโรงพยาบาลบ้า! การินเก็บกระดูกบิดาใส่โกฐด้วยความอาลัยน้ำตาหยดลงบนกองเถ้ากระดูกพ่อเพราะกลั้นไว้ไม่อยู่
“ริน....โบราณว่าอย่าให้น้ำตาหยดลงร่างหรือเถ้าคนตายจะทำให้เค้าไม่เป็นสุขนะ” จรัสพงษ์ตบไหล่เตือนตามความเชื่อเก่าๆ
“เหรอครับอาพงษ์” การินเอาแขนเสื้อเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็ว เขาไม่ค่อยเคยได้ยินคำโบราณเท่าไหร่นักแต่ก็เชื่อผู้ใหญ่เกรงบิดาจะไม่เป็นสุขดังว่า
“โบราณเค้าว่ามาน่ะ ฟังไว้ก็ไม่เสียหายนะ”
“ครับ” การินเก็บอัฐิเสร็จแล้วเตรียมเอาโกศไปเก็บไว้ที่บ้านไม่ได้เอาไปลอยอังคารแบบคนอื่นๆ เพราะเขารู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นพ่อก็จะจากเขาไปโดยสิ้นเชิง
“รินจะกลับไปเรียนต่อเมื่อไหร่ล่ะ” จรัสพงษ์ถามเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องการินก็ลืมเรื่องการเรียนไปซะสนิท
“จริงๆ ผมอยากโอนหน่วยกิตมาเรียนต่อที่นี่เพราะจะได้ดูแลแม่ด้วยแต่ผมก็เสียดายการศึกษาแบบที่ผมเรียนที่นี่ยังไม่มี ที่ญี่ปุ่นมีการเกษตรที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนซึ่งการเกษตรแบบนี้เป็นนวัตกรรมทางการเกษตรที่ก้าวหน้าและจริงจังกว่าบ้านเรามาก บ้านเรายังนิยมทำการเกษตรเพื่อการค้าโดยใส่ยาฆ่าแมลงเพื่อจะได้ผลผลิตเยอะๆ เราจึงยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการทำการเกษตรแบบออร์แกนิคที่แท้จริง ถ้าผมเรียนต่อที่โน่นผมก็มีโอกาสลงพื้นที่จริงลงไร่จริงลงนาจริงเพื่อความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจนสามารถนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาการเกษตรที่บ้านเราบ้างคงจะสมกับที่ผมตั้งใจไปเรียน และยังมีการปศุสัตว์ที่ผมสนใจอยากเรียนรู้อีกอย่างนึงด้วยครับ”
“งั้นรินกลับไปเรียนต่อเถอะไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก อารับปากจะจัดการทุกๆอย่างให้เรียบร้อย สำหรับคุณดา..รินก็ไม่ต้องห่วงนะอาจะดูแลเป็นอย่างดีและจะส่งเมล์อัพเดทอาการคุณดาให้รินดูเป็นระยะๆ”
“ขอบคุณอาพงษ์มากครับ ผมจะพยายามตั้งใจเรียนให้จบเร็วๆเพื่อจะได้กลับมาดูแลแม่ได้ แล้วเรื่องบริษัทของพ่อละครับ อาจะทำยังไง”
“แล้วแต่รินสิ รินอยากทำต่ออาจะแจ้งทางบอร์ดให้ทราบแล้วแต่งตั้งผู้รักษาการแทนไว้จนกว่ารินจะเรียนจบแล้วรินค่อยกลับมาบริหาร”
“ผมไม่อยากทำแล้วครับอา ผมไม่อยากเห็นสิ่งเดิมๆ ไม่อยากเห็นโต๊ะทำงานของพ่อ ไม่อยากเห็นห้องทำงานพ่อ ผมทำใจไม่ได้ครับ รบกวนอาดำเนินการขายหุ้นหรือหานายทุนมาเทคโอเวอร์ไปได้เลยครับ ทั้งบริษัท บ้าน รถ ขายให้หมดเลยครับ”
“เอางั้นเลยเหรอ แล้วคนในบ้านล่ะรินจะให้ไปอยู่ที่ไหน”
“ผมอยากให้อาลองหาที่ที่ผมจะกลับมาทำสวนทำไร่ให้ผมแทนน่ะครับแล้วก็ปลูกบ้านอยู่ในไร่นั่นเลย คนของเราถ้ามีใครอยากไปอยู่ก็ให้เค้าไปแต่ถ้าใครอยากไปทำงานที่อื่นอาก็ช่วยจัดการเรื่องเงินทุนให้เค้าไปตั้งตัวกันด้วยแล้วกันครับ ถ้าผมกลับมาแล้วผมก็อยากให้แม่ไปอยู่กับผมด้วย มีสภาพแวดล้อมใหม่ๆสวนสวยๆ แม่อาจจะดีขึ้นเรื่อยๆก็ได้”
“ก็จริงนะ พาคุณดาออกจากสิ่งเดิมๆเธออาจจะหายเป็นปกติก็ได้ แล้วนี่รินยังต้องเรียนอีกกี่ปีล่ะ”
“2 ปีครับสำหรับปริญญาตรี และอีกปีครึ่งสำหรับปริญญาโท”
“รินจะต่อโทเลยเหรอ”
“ใช่ครับ ปริญญาโทจะเป็นเรื่องของงานวิจัยทางการเกษตรครับผมอยากเรียนมากๆ เพราะถ้ากลับมาทำธุรกิจทางการเกษตรการวิจัยผลิตผลของเราจะทำให้เราได้สินค้าที่มีคุณภาพเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นครับ”
“ไม่น่าเชื่อนะ รินอายุยังน้อยแท้ๆ แต่คิดการณ์ไกลได้ถึงเพียงนี้ อาไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
“พ่อสอนผมน่ะครับ ทุกๆอย่างในการดำเนินชีวิตพ่อเป็นคนสอนผม ผมเดินตามรอยพ่อเพียงแต่ไม่ได้ทำสิ่งเดียวกันกับที่พ่อทำเท่านั้นเอง” การินน้ำเสียงสลดหดหู่เมื่อพูดถึงบิดา
“ชีวิตต้องดำเนินต่อไปนะ...ริน” จรัสพงษ์ตบบ่าการินเบาๆ ให้กำลังใจ
“ครับ...ผมต้องมีชีวิตต่อไปเพราะยังมีแม่คอยผมอยู่”
“ใช่แล้วละ เสร็จจากวัดแล้วจะไปเยี่ยมแม่เค้ารึเปล่าล่ะอากำลังจะไปพอดี”
“ไปสิครับ ผมติดรถอาไปแล้วกัน ช่วงนี้ไม่อยากขับรถรู้สึกเวียนหัวเวลารถติดมากๆ”
“คงเป็นเพราะรินเครียดมากนั่นแหละ ไปกับอาก็แล้วกัน”
“ครับ”
ชายสองวัยผ่านความโศกเศร้าที่วัดเดินตามกันไปขึ้นรถเพื่อจะต้องไปพบกับความโศกสลดอีกครั้งที่โรงพยาบาลเป็นที่ต่อไป ความแค้นของชายหนุ่มที่เริ่มเบาบางลงจะลุกโชนโหมกระพือขึ้นมาอีกครั้งที่โรงพยาบาลแห่งนี้นี่เอง!