หนุ่มนักเรียนนอกสุดฮอต NC18+
รถเบ๊นซ์คันงามจอดเทียบหน้าบันไดคฤหาสน์อันโอฬารบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของบ้านว่าอยู่ในอันดับเศรษฐีต้นๆของเมืองไทย การินก้าวลงจากรถที่คนขับอ้อมมาเปิดประตูให้ ชายหนุ่มเดินพลางคุยโทรศัพท์พลางเข้าไปในบ้านอย่างร่าเริง
“มาถึงแล้วเว้ย เออ! เดี๋ยวฉันออกไป พวกแกรอที่นั่นแหละ” การินวัย 20 ปีเพิ่งได้กลับบ้านเพราะมหาวิทยาลัยปิดภาคเรียน พอเหยียบถึงบ้านยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านเพื่อนๆก็โทรตามกันยกใหญ่
การินเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลจิระการณ์ เขาไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นตั้งแต่อายุได้แค่10ขวบโดยที่พ่อของเขา’การัณ’ หวังจะให้ลูกชายเรียนด้านเทคโนโลยีการอุตสาหกรรมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของครอบครัวเพื่อกลับมาบริหารงานต่อจากบิดา เขาสอบติดสาขาตามที่บิดาอยากให้เรียนแต่พอเรียนไปแล้วการินก็รู้ว่ามันไม่ใช่แนวทางของเขาอย่างสิ้นเชิง เขาสนใจการเกษตรกรรมมากกว่า เขาจึงสอบเข้าสาขาเกษตรกรรมอีกครั้งในปีถัดไปและได้เข้าเรียนดังหวัง การัณได้แต่ถอดถอนใจเสียดายที่ลูกชายคนเดียวไม่อยากจะสืบทอดธุรกิจที่ตนเองสร้างมา แต่เขาก็เข้าใจเพราะเขาเองก็ไม่ได้สืบทอดธุรกิจโรงสีจากพ่อตาเหมือนกัน หากไม่มีใครสืบทอดกิจการจริงๆ เขาก็อาจจะให้บริษัทที่สนใจมาเทคโอเวอร์ไปและมอบทุนให้ลูกเพื่อทำธุรกิจของเขาเองต่อไป
“แม่คร้าบบบบ ผมกลับมาแล้วคร้าบบบ” การินส่งเสียงเรียกมารดาดังลั่นบ้าน เขารักแม่มากและชอบออดอ้อนแม่เป็นที่สุด ดารินเองก็เป็นแม่ที่รักลูกมากดูแลเอาใจใส่ลูกทุกขั้นตอนทุกช่วงของชีวิตไม่เคยรอดพ้นสายตาแม่
“ว่าไงล่ะเจ้าเด็กแสบ ส่งเสียงดังเชียวทำยังกับไม่เคยกลับบ้านเลยยังงั้น” ดารินกำลังนั่งอยู่ในห้องพักผ่อนอันโอ่โถงที่อยู่ถัดไปจากห้องรับแขก ทักทายบุตรชายสุดที่รักที่ก้มลงกราบที่ตักอย่างรักใคร่
“ก็กลับมาบ่อยๆ แต่ก็ยังคิดถึงแม่อยู่เหมือนเดิม” การินหยอดลูกอ้อนที่รู้ว่ามารดาชอบและอารมณ์ดีทุกครั้งที่ได้ยิน
“คิดถึงแม่แต่เห็นรินมาทีไรยังไม่ทันได้พักผ่อนนอนหลับก็ต้องรีบออกไปหาเพื่อนแล้วทุกที” มารดาแกล้งว่างอนๆ
“แหม..แม่ก็ เดี๋ยวผมก็กลับมานอนหนุนตักแม่ได้อีกทุกวันแหละแต่เพื่อนๆมันก็ไม่ค่อยว่างกันน่ะ ช่วงนี้เรียนหนักๆกันทั้งนั้น” ชายหนุ่มรีบยกแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบาย
“จ้าๆ...แม่ล้อเล่นน่ะ ไปเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนๆเถอะ ระวังเนื้อระวังตัวอย่าสนุกกันเกินไปก็แล้วกัน” ดารินยิ้มแย้มตอบลูกชาย
“ครับ แล้วพ่อละครับแม่” ชายหนุ่มถามถึงบิดา
“อยู่ในห้องทำงานตามเคยแหละ” มารดาตอบ
“อ้อเหรอครับ เดี๋ยวต้องแวะรายงานตัวสักหน่อย แม่ก็เข้านอนเร็วๆนะครับอย่ามัวดูทีวีดึก”
“จ๊าๆ ..แม่รู้แล้ว จะไปไหนก็ไปเถอะพ่อคุณ” ดารินยิ้มพลางขยี้ศีรษะลูกชายเล่นอย่างเอ็นดู
“ครับๆ ” ชายหนุ่มหอมแก้มมารดาแล้ววิ่งขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ใช้เวลาไม่นานการินก็หล่อเฟี้ยวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีเขียวซีดกับกางเกงยีนส์เดินผ่านหน้าห้องพักผ่อนที่มารดายังนั่งอยู่ก็โบกไม้โบกมือร่ำลายิ้มแย้มแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถBMWของตนเองขับออกไป
“กระดี๊กระด๊าซะจริง” ดารินยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของบุตรชาย
ผ่านไป 2 ชม.ดารินดูทีวีจนเบื่อและชักง่วงนอน นางจึงขยับลุกจากเก้าอี้นวมนุ่มสบายเพื่อจะขึ้นห้องนอนเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น นางใจเต้นแรงเล็กน้อยเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาแต่ก็พยายามสงบอารมณ์รับสายเสียงสั่นนิดๆ
“ฮัลโหล”
“คุณนายดาริน?” ปลายสายเอ่ยชื่อให้แน่ใจ
“ใช่ ฉันเอง” นางตอบรับ
“ผมได้หลักฐานที่คุณนายต้องการมาแล้วครับและตอนนี้ผมก็อยู่หน้าบ้านคุณนาย คุณนายจะออกมารับไปเองหรือจะให้คนมารับแทนก็ได้ครับ”
“ให้กับยามที่อยู่หน้าบ้านได้เลยเขาจะเอามาให้ฉันและจะเอาซองเงินค่าจ้างกลับไปให้เธอ” ดารินกดวางสายมือสั่นน้อยๆ นางพยายามจะข่มใจให้เป็นปกติแต่ก็ยากเต็มที ซองที่ชายในโทรศัพท์นำมาให้จะเป็นคำตอบที่นางกำลังสงสัยอยู่หรือไม่อีกเดี๋ยวนางก็จะได้รู้
“ขอบใจ เอานี่ให้คนที่เอาซองนี้มาให้” ดารินเดินมารับซองหนาๆ จากยามที่หน้าบันไดบ้านพร้อมส่งซองจม.บางๆ ให้ยามกลับไป ยามวัยกลางคนรับกลับไปเงียบๆ ไม่ได้ถามคำถามใดๆ
ดารินวัย 42 ปียังไม่ได้ดูสูงวัยดังเช่นหญิงวัยเดียวกันทั่วๆไปเพราะนางไม่เคยทำงานหนักใดๆ นางเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยด้วยธุรกิจโรงสีแต่นางก็ไม่ใช่คนสวยนักเพียงแค่หน้าตาหมดจดผิวขาวสะอาดเท่านั้น
เมื่อจบมัธยมต้นบิดาส่งดารินที่กำลังเป็นวัยรุ่นไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษซึ่งที่นั่นเองสาวน้อยได้พบกับ’การัณ’ นักเรียนทุนรูปหล่อจากเมืองไทย เธอหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบและพยายามสานสัมพันธ์กับเขา ทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันจนกระทั่งกลับมาแต่งงานกันที่เมืองไทยหลังจากเรียนจบ บิดาของดารินจึงมอบเงินทุนก้อนโตสำหรับทำธุรกิจให้กับลูกสาวและลูกเขยซึ่งการัณก็ไม่ได้ทำให้พ่อตาผิดหวัง ธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จและเจริญเติบโตยิ่งใหญ่จนทุกวันนี้ ทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี ธุรกิจของครอบครัวประสบความสำเร็จเป็นที่ภาคภูมิใจ ลูกชายที่เกิดมาก็น่ารักน่าชังโตขึ้นมาก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
แต่ดารินก็มีข้อเสียที่ทำให้การัณอิดหนาระอาใจที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ตลอดมาคือ ’ขี้หึง’ เธอหึงหวงสามีตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานจนการัณไม่กล้าติดต่อกับผู้หญิงคนไหนไม่ว่าด้วยเรื่องงานเรื่องเรียนเพราะดารินร้องห่มร้องไห้ทำร้ายตัวเองเสมอ จนแม้กระทั่งอยู่กันมาจนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังคอยสอดส่องไม่เลิก ดารินเป็นคนรักใครรักจริง เธอรักสามีมากยิ่งมีลูกเธอยิ่งรักสุดใจ แต่การินก็ยังเด็กเกินไปและด้วยความที่ไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่เด็กเขาจึงไม่รู้ถึงข้อเสียของมารดาข้อนี้มาก่อนเลย
ดารินถือซองเดินขึ้นไปบนห้องนอนใหญ่ นางนั่งบนเตียงกว้างค่อยๆเปิดซองหนาๆที่เพิ่งได้รับมาออกดูด้วยใจที่เต้นระรัวทั้งๆที่พยายามระงับมันไว้แล้ว นางหยิบรูปในซองที่อัดกันแน่นหนาเป็นปึกขึ้นมาดู ตาของดารินเบิกกว้างเมื่อเห็นรูปนั้นชัดๆ มือสั่นเทาค่อยๆดึงรูปดูทีละใบๆ จนถึงใบสุดท้ายน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูพร้อมกับกรีดร้องสุดเสียง! ...
“เฮ้ย! อะไรวะไอ้ริน! เพิ่งมาแท้ๆ เสือกจะรีบกลับได้ไงวะ!” คณิศเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของการินและเป็นลูกชายของ’ จรัสพงษ์’ ทนายประจำตระกูลจิระการณ์โวยวายหลังจากเพิ่งมาถึงผับได้แค่ชม.เดียวเท่านั้น
“เอาน่า! พรุ่งนี้ก็ออกมาอีกได้ พวกแกจะโวยวายไปทำไมวะ ชั้นยังอยู่อีกตั้งเดือนกว่า” การินตอบแต่ตากำลังมองหาอะไรบางอย่าง
“นี่แกมีหญิงใช่มั้ยเนี่ยะถึงได้ดูลุกลี้ลุกลนยังงี้น่ะ” วรวิทย์คาดเดาจากประสบการณ์
“เธอมาสะกิดชั้นเองนะชั้นไม่ได้เสนอ” การินเถียง
“เออสิวะ! หน้าตาแบบนายเนี่ยะผู้หญิงที่ไหนก็อยากสะกิดกันทั้งนั้นแถมฟูลออฟชั่นอีกต่างหากใครจะไม่สนละวะ ไปไหนกับแกทีไรอดแดร่กกันหมดทุกที” ประภาสรีบสนับสนุนอย่างหมั่นไส้พลางกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก
“เออน่าๆๆๆ พรุ่งนี้ฉันเป็นเจ้ามือละกัน วันนี้ฉันขับรถมาด้วยดื่มเยอะไม่ได้อยู่แล้ว โอเคตามนี้นะ ฉันไปละ” พูดจบการินก็ไม่รอฟังคำตอบเพราะสายตามองไปเห็นสาวสวยผมยาวหุ่นงามยิ้มให้และกำลังเดินออกไปทางประตูหน้า เขารีบเดินตามเธอไปอย่างรวดเร็ว
“เห๊อะ! ไอ้นี่ทิ้งเพื่อนอีกละ ประจำเลย!” คณิศสบถ
“พรุ่งนี้จะกินให้มันจนไปเลย” ประภาสตามน้ำ
“กินข้ามเดือนข้ามปีมันยังไม่จนเลยมั้งไอ้รินเนี่ยะ” คณิศยังเคือง
“ไม่ชินกันรึไง ไอ้นี่มันนักรักรูปหล่อหาใช่นักรบหน้าตาบ้านๆอย่างเราไม่ ชนแก้วกันดีกว่าว่ะอย่าไปพูดถึงมันเลยพรุ่งนี้จะลากมันมาเลี้ยงตั้งแต่มื้อเช้าเลยทีเดียว เอ้า! ชนเว้ยเฮ้ย!” วรวิทย์ชวนหนุ่มโสดที่เหลือชนแก้วปาร์ตี้กันต่อประสาหนุ่มๆ
“อื้อ..เธอนี่หุ่นน่ากินจริงๆ เลย” สาวสวยผมยาวที่เหลือเพียงแค่ชุดชั้นในติดกายเผยผิวขาวผ่องพึมพำ สองมือลูบไล้ตามกล้ามเนื้องามๆบนลำตัวของการินที่เธอนั่งคร่อมอยู่บนเตียงนอนนุ่มในห้องพักหรูของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุง
“แค่หุ่นหรอกเหรอที่น่ากินน่ะ พี่สาว” การินซึ่งเปลือยเพียงท่อนบนส่งยิ้มบาดใจ มือของเขาก็ซุกซนขยำอยู่ตรงสะโพกหญิงสาวอย่างมันเขี้ยว
“เดี๋ยวตีตายเลยนี่! ฉันแก่กว่าเธอแค่ปีสองปีมาเรียกพี่สาว” หญิงสาวกระเง้ากระงอดจริตจกร้านแบบสาวเอนท์
“ไม่เป็นไรหรอกน่าผมไม่แคร์เรื่องอายุหรอก ผมสนว่าอร่อยหรือไม่อร่อยมากกว่า” การินปลดตะขอเสื้อชั้นในของหญิงสาวออกแล้วเหวี่ยงทิ้งไป ปทุมถันอวบอิ่มทะลักออกมาจนล้นมือเขา
“ดูว่ามันน่าอร่อยมั้ยล่ะ” พี่สาวคนสวยก้มตัวลงมาจนหน้าอกอวบเกือบถึงใบหน้าชายหนุ่ม
“ไม่รู้สิ ต้องลองชิม” ขาดคำการินก็ใช้สองมือประคองเต้าอวบอ้าปากดูดกลืนปลายยอดสีแดงสดอย่างไม่ปรานีปราสัย
“โอ๊ย! ซี้ดดดด..” หญิงสาวแหงนหน้าร้องหน้าตาเหยเกเพราะความเสียวซ่าน
“อร่อยใช้ได้” การินเงยหน้าบอกสาวคู่ขายิ้มๆ แล้วกลับไปดูดเลียยอดอกที่แข็งชูชันสลับกันไปมาอย่างเมามัน
“อาห์! ซี๊ด! ...” แม่สาวไซด์ไลน์ส่งเสียงระบายความซาบซ่านที่กำลังทะยานขึ้นเพราะปากลิ้นของหนุ่มหล่อที่เธอปิ๊งและอยากจับกินตั้งแต่แรกเห็น
การินพลิกตัวกลับขึ้นไปนั่งคุกเข่าคร่อมบนร่างอวบอัด นิ้วเรียวสอดเข้าใต้ท้ายทอยกำผมยาวๆไว้ในอุ้งมือจับดึงจนหญิงสาวหน้าแหงนหงายแล้วก้มลงฝังจูบลงที่ซอกคอขาวๆ ลิ้นสากๆลากเลียไปตามลำคอที่มีกลิ่นน้ำหอมเจือกรุ่นยิ่งทำให้เร้าอารมณ์เขานัก
“โอย! ...” หญิงสาวคราง มือของการินยังไม่ปล่อยจากผมยาวสวย เขากระตุกมือจนใบหน้าของสาวอวบเอียงเชิดขึ้นพร้อมๆกับที่เขาส่งลิ้นเข้ากลีบปากที่เคลือบลิปสติกสีชมพูหวานเอาไว้มืออีกข้างบีบอยู่ที่แนวกรามของเธอ ลิ้นชื้นๆควานไปทั่วช่องปากของเธอลึกจนถึงลำคอ
“อื๊ออ! ....อือ!” สาวสวยถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งร่างกับจูบอันเร่าร้อนรุนแรงของเขา
การินผละจากปากของเธอให้เธอได้ระบายลมหายใจอย่างสั่นกระสัน เขาดึงกางเกงชั้นในตัวจิ๋วของเธอเหวี่ยงทิ้งไปอีกชิ้นพร้อมกับสลัดกางเกงออกจากกายเหลือเพียงร่างเปล่าเปลือยที่มีกล้ามเนื้ออันงดงามและอาวุธที่น่าเกรงขาม
“โอววว! ...” แม่สาวไซด์ไลน์ถึงกับห่อปากเมื่อเห็นขนาดของเขาเต็มๆตา เธอรีบเอามือคว้าไว้เหมือนกลัวมันจะหายไป
“ชอบมันมั้ยล่ะพี่สาว” การินขยับตัวเข้าไปจนแก่นกายแห่งชายของเขาจ่อไปที่ปากของเธอ
“อว๊า! ซ้วบบ..” สาวอวบไม่ตอบแต่ส่งแท่งสวรรค์เข้าปากดูดเลียอย่างหื่นกระหาย เธอทั้งอมทั้งดูดราวกับมันเป็นของอร่อย เลียมันไปมาจนมันแข็งขึงบวมเป่งแทบระเบิด
“ซี๊ดดด...ซี๊ดด” การินครางสะท้าน ขยับสะโพกกดลงไปที่ปากจนลึกสุดลำคอของเธอ เขาก็เสียวซ่านจากฝีมือออรัลของเธอเหมือนกันนับว่าเธอมีความชำนาญทีเดียว
“บรุ๊บ! ..” การินดึงของอร่อยออกจากปากของผู้ชำนาญเสียงดังเพราะเจ้าตัวเสียดายไม่ยอมปล่อย
“โอ๊ย กำลังอร่อย!” สาวอวบประท้วงปากแดงเยิ้มไปด้วยรสสวาท
“แบบนี้อร่อยกว่า” การินบอกเธอเสียงกระเส่า อารมณ์อยากเสพสมพุ่งจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
เขาเลื่อนตัวลงมาจับสาวอวบพลิกคว่ำยกสะโพกเธอขึ้นและด้วยความเจนเวทีของเธอที่ช่วยแอ่นตัวและอ้าขาออกจนกว้างอวดร่องสวาทฉ่ำเยิ้มให้เขาเห็นเต็มตา เขาดันสองนิ้วลงไปในความอุ่นชิ้นอันคับแคบจนสุดปลายนิ้ว
“อ๊า!! .” หญิงสาวร้องวี้ดทันที
“เสียวมั้ย” การินยังมีแก่ใจยั่วยวน
“สะ..เสียว..มาก” เธอตอบตะกุกตะกัก
“งั้นให้อีกสองนิ้ว” ขาดคำเขาก็ดันอีกสองนิ้วตามเข้าไปทันทีเพราะจากความรู้สึกของเขาคะเนแล้วว่ายังใส่เข้าไปได้อีก
“โอ๊วว!!” สาวอวบตัวสั่นเทาทั้งปากและขายิ่งอ้ากว้างขึ้นไปอีก การินชยับนิ้วทั้งสี่เข้าออกๆนิ้วโป้งไล้ไปที่จุดสวาทด้านหน้าไม่หยุด เขารู้สึกกระสันมากจนดันนิ้วเข้าไปไม่ยั้งนิ้วโป้งก็ยิ่งบดบี้ลงไปตามแรงอารมณ์ เธอสั่นสะท้านซ่านเสียวไปทั้งร่างจนไม่อาจจะทานทนได้
“โอ๊ยยยยย! ซี๊ด! ซี๊ด! ซี๊ด!” ร่างเธอกระตุกจนตัวลงไปนอนราบกับที่นอน การินหันไปหยิบเครื่องป้องกันมาสวมอาวุธแล้วดึงสะโพกเธอขึ้นมาอีก จับเธอแยกขากว้างแล้วดันท่อนลำอันปวดบวมเต็มที่เข้าไปอย่างแรง
“โอ๊ววววววว! ..” สาวอวบร้องเสียงหลงเมื่อเจอของจริง ท่อนลำที่ร้อนผ่าวคับแน่นเทียบไม่ได้เลยกับนิ้วเมื่อกี้นี้ เธอเสียวซ่านใจแทบขาด
การินไม่เสียเวลาอีกต่อไป เขากระแทกสะโพกเข้ากับหนั่นเนื้อแน่นๆของสาวอวบอย่างเมามันส์ มีแรงเท่าไหร่เขาใส่ไม่ยั้งจนเกือบถึงสุดปลายสวรรค์รำไร เขายืนขึ้นพร้อมกับยกขาเธอตามไปด้วยแล้วอัดกระแทกใส่แม่สาวอวบจนสะเทือนไปทั้งร่าง
“โอ๊ยยยย!!! ผัวขา! ไม่ไหวแล้วๆๆๆๆ!” หญิงสาวร้องเสียงแหบแห้งไม่ได้ศัพท์
“โอ๊ะ! ..โอ๊ย..โอ๊ย.ซี๊ดดดดดดดด!” การินร่างกระตุกกดสะโพกแนบกับร่องสวาทของเธอแน่นปล่อยลาวาสวาทอันสุขสมไหลลงสู่บ่อสวรรค์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง
ในห้องทำงานของการัณที่อยู่ทางปีกขวาของคฤหาสน์ ดารินกำลังขว้างรูปถ่ายที่ได้มาเข้าไปที่หน้าสามีดัง’เพี๊ยะ’
“นี่คืออะไรคะ?! นี่คืออะไร! รูปพวกนี้มันคืออะไร!! คุณกับผู้หญิงในรูปเป็นอะไรกัน!” ดารินส่งเสียงถามด้วยเสียงที่แทบจะกรีดร้องน้ำตาไหลพรากนองใบหน้า
“คุณไปเอารูปพวกนี้มาจากไหน? คุณจ้างนักสืบตามผมเหรอ” การัณขมวดคิ้วถามด้วยเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
“ก็ใช่น่ะสิ! ไม่งั้นจะได้เห็นอะไรดีๆแบบนี้เหรอ!”
“เฮ้อ! ..เอาเถอะๆ มันไม่มีอะไรหรอกคุณดา ผมสงสารเค้าก็เลยช่วยเหลือเขาบ้างนิดหน่อยเท่านั้น เราไม่ได้มีเรื่องชู้สาวต่อกันแน่นอน” การัณมีสีหน้าเหนื่อยอ่อนพยายามอธิบายเรื่องราวในภาพ
“ช่วยเหลือ!? ช่วยเรื่องอะไร? แล้วจะต้องไปช่วยมันทำไม? มันเป็นใคร!” ดารินยิ่งกระแทกเสียง
“คุณดาก็...เบาๆ ก็ได้เดี๋ยวเด็กๆข้างล่างมันก็ได้ยินกันหมด อายุเราก็ไม่น้อยแล้วนะมาทะเลาะเบาะแว้งเรื่องไม่เป็นเรื่องให้มันได้ยินมันจะเอาไปหัวเราะเยาะกันเปล่าๆ ” การัณห้ามปรามเสียงอ่อนใจ
“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!! ฉันไม่เบา! คุณบอกมาเดี๋ยวนี้ว่านังคนนี้มันเป็นใครแล้วคุณไปกอดมันทำไม๊!!” ดารินยิ่งกรีดเสียงแหลมมากกว่าเดิม
“เขาก็แค่แม่ลูกคู่นึง เขาลำบาก ผมสงสารก็เลยช่วยหางานแล้วก็ให้ทุนการศึกษากับเด็กมันบ้างบางครั้งเท่านั้นแหละ”
“อ๋อ! มันเสนอให้ทั้งแม่ทั้งลูกเลยรึไง!”
“โอ๊ย! ...คุณดา คุณพูดอะไรน่าเกลียดอย่างนั้น มองโลกในแง่ดีบ้างสิคุณอายุก็ปูนนี้แล้ว” การัณระอากับนิสัยขึ้หึงของภรรยาจนแทบอยากจะหนีไปบวชให้รู้แล้วรู้รอดถ้าไม่ติดว่าต้องเป็นหลักให้ลูกชายคนเดียวเขาก็คงไปนานแล้ว
“แล้วคุณต้องไปช่วยเหลือมันทำไม ไม่ได้รู้จักมักจี่ไปเจอมันไปสงสารมันได้ยังไง มันมาขอทานหน้าบริษัทรึไง”
“ไม่ใช่! คุณดา! คุณฟังเหตุผลหน่อยสิ! เขาเป็นคนที่ผมรู้จักมาตั้งนานแล้ว ผมเพิ่งพบเธออีกครั้งเมื่อไม่นานมานี่เอง”
“คนรู้จัก...” ดารินทำปากเหยียดกับคำนั้น
“ใช่ คนรู้จัก” การัณยืนยันไม่เต็มเสียง
“คนรู้จักหรือคนรักเก่ากันแน่!”
“ดาริน!” การัณตกใจ
“หึ! คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าคุณแอบติดต่อกับแม่นั่นตั้งปีกว่าๆแล้วน่ะ ฉันสังเกตุคุณตลอดแต่ยังไม่มีหลักฐานฉันก็เลยต้องหามายืนยันให้ได้เพื่อคุณจะได้ปฎิเสธไม่ออกไงล่ะ!”
“คุณก็เป็นซะอย่างนี้ทุกทีไง! คอยสังเกตุคอยหาหลักฐานตลอดเวลา! เราอยู่ด้วยกันมากี่สิบปีแล้ว! เจ้ารินปีนี้ก็20แล้วคุณยังปลงอะไรไม่ได้อีกเหรอ?”
“ก็ถ้าหูตาฉันไม่ไวป่านนี้คุณก็มีเมียน้อยเป็นโขยงแล้วมั้ง”
“บ้าไปแล้วคุณดา! ผมไม่เคยคิดมีเมียน้อยอะไรทั้งนั้น! คุณเองต่างหากที่คิดไปเองคนเดียว! ไม่รู้จักพิจารณาตัวเองซะมั่งเพราะเป็นแบบนี้ถ้าผมจะมีเมียน้อยก็ไม่แปลกหรอกแต่ผมก็ไม่ได้มี คุณได้ยินมั้ย!”
“กรี๊ดดดดดดดดดด!! ฉันเป็นคนผิดใช่มั้ย! ฉันผิดใช่มั้ยที่ฉันรักคุณ! ฉันผิดใช่มั้ยที่ฉันหวงคุณ!” ดารินกรีดร้องโหยหวน
“คุณไม่ผิดที่คุณรักผมแต่คุณผิดที่เอาแต่รักโดยที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลยสักนิด! แต่ขนาดคุณเป็นแบบนั้นผมยังไม่เคยนอกใจคุณเลยสักครั้งเดียว ไม่ใช่เพราะเห็นแก่คุณนะผมเห็นแก่บุญคุณที่พ่อของคุณสนับสนุนอุ้มชูจนผมมีทุกวันนี้ได้ พ่อที่เข้มแข็งแบบนั้นทำไมมีลูกจิตใจอ่อนแอขนาดนี้ได้นะ ผมจะบอกให้คุณฟัง ที่ผมไปพบสุรีย์บ่อยๆน่ะเพราะผมสบายใจ ผมพูดอะไรก็ได้ที่ผมอยากพูดไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไรสุรีย์ก็ได้แต่ยิ้มรับฟังเท่านั้น ผมขอยืนยันนอกจากผมแวะไปหาพูดคุยกันให้ความช่วยเหลือเป็นบางครั้งนอกจากนี้ไม่มีอะไรเกินเลยทั้งนั้น”
“คุณไปหาแม่นั่นเพราะคุณสบายใจ? แล้วที่คุณอยู่กับฉันนี่คุณไม่สบายใจงั้นใช่มั้ย?”
“มันไม่ใช่แบบนั้น มันไม่เหมือนกัน” การัณชักจะรำคาญที่ดารินไม่หยุดสักที
“มันไม่เหมือนยังไง ฉันเป็นเมียคุณก็จริงแต่คุณก็ไม่ได้รักฉันตั้งแต่แรกแล้ว คุณแต่งงานกับฉันก็เพราะพ่อฉันขอร้องก็เลยไม่เหมือนยัยสุรีย์นั่นที่เป็นคนรักกันมาก่อนงั้นใช่มั้ย”
“คุณดาริน! หยุดสักที! ผมรำคาญคุณเต็มทนแล้ว! ไม่ว่าผมจะอธิบายอะไรคุณไม่เคยจะฟังผมเลยคุณจะคิดอย่างที่คุณอยากคิดเท่านั้น! คุณเป็นภรรยาและแม่ที่ดีคนหนึ่งข้อดีของคุณก็มีมากในฐานะภรรยาและแม่ของลูก แต่ข้อเสียเดียวของคุณที่ไม่เคยเปลี่ยนคือคุณไม่เคยไว้ใจและเชื่อใจสามีคุณเลยตลอดชีวิตการแต่งงาน จนถึงตอนนี้คุณก็ยังไม่ไว้ใจผมถ้างั้นเราจะอยู่กันต่อไปเพื่ออะไร เราหย่ากันเถอะ” การัณพูดออกไปอย่างเหลืออด
“คุณ! ...” ดารินช็อคพูดอะไรไม่ออก ไม่นึกว่าสามีที่อยู่กันมากว่า20ปีจะพูดคำนี้ออกมา คำนี้คำเดียวบาดลึกถึงหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักของเธอ คำนี้คำเดียวสะบั้นจิตใจที่หวั่นไหวที่เธอพยายามประคับประคองไว้ของเธอ คำนี้คำเดียวที่สติของเธอขาดลงหันไปคว้าปืนที่อยู่ในลิ้นชักทำงานของสามีมาจ่อที่ศีรษะ
“ดา! อย่า!!” การัณตกใจแทบสิ้นสติไม่คิดว่าดาริณจะคิดสั้นกะทันหันแบบนี้ เขาพุ่งตัวไปคว้าข้อมือภรรยาไว้พยายามแย่งปืนออกจากมือเธอแต่เธอก็พยายามสะบัดหนี
“ปล่อยให้ฉันตาย! คุณไม่ได้อยากอยู่กับฉันแล้วปล่อยให้ฉันตายไป!” ดารินเสียใจจนขาดสติน้ำตาไหลพรากท่วมท้น เธอแย่งปืนมาได้และจับปืนจ่อศีรษะตัวเองอีกครั้ง
“ดารินอย่า!!”