“พี่ขวัญ!! ..พี่ขวัญกลับมาแล้ว!” พิมพ์กานต์ยิ้มแป้นด้วยความดีใจเป็นที่สุดเมื่อเห็นครองขวัญลงจากรถตู้ที่เพิ่งวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เธอรีบวิ่งไปรับพี่สาว
“น้องสาวคนสวยของพี่! คิดถึงจัง!” ครองขวัญสวมกอดพิมพ์กานต์ที่เธอรักเสมือนน้องสาวแท้ๆ สองสาวกอดกันกลมดิก
“พิมพ์คิดถึงพี่ขวัญสุดๆเลยค่ะ!” พิมพ์กานต์ยิ้มสดใส
“ปากหวานจริงๆยัยคนนี้ เป็นยังไงมั่ง สบายดีมั้ย” ครองขวัญอดไม่ได้หมั่นเขี้ยวจนต้องบีบแก้มแดงๆของน้องสาวเล่น
“สบายดีค่ะ พิมพ์มีร้านกาแฟเล็กๆแล้วนะคะ เอาไว้บริการลูกค้าที่มาเยี่ยมชมไร่ พี่รินอนุญาตให้ทำค่ะ” พิมพ์กานต์เล่าเจื้อยแจ้วอวดพี่สาวถึงร้านกาแฟตรงจุดชมวิวที่การินเห็นด้วยว่าควรมีและให้เธอเป็นคนบริหารจัดการ ซึ่งก็เพิ่งจะเปิดบริการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง
“หือ? ..นายรินน่ะเหรอ เขาทำให้พิมพ์เหรอ?” ครองขวัญเลิกคิ้วถามอย่างไม่เชื่อหู
“ค่ะ พิมพ์แนะนำว่าน่าจะมีไว้ให้ลูกค้านั่งจิบกาแฟชมวิวเพื่อความเพลิดเพลินยิ่งขึ้น พี่รินก็เห็นด้วยค่ะ”
“อืมม...งั้นเหรอ ก็ดีจ๊ะพิมพ์จะได้มีอะไรทำ อ้อ! พี่พาเจคมาด้วยแน่ะ แล้วก็..คริสเตียนเพื่อนเจคก็ขอมาด้วย จำเขาได้มั้ยล่ะพิมพ์” ครองขวัญยังติดใจเรื่องระหว่างพิมพ์กานต์กับการินแต่ก็จะรอซักถามอย่างละเอียดในภายหลัง
“อ๋อ! จำได้ค่ะ ผมดำแต่ตาสีฟ้าใช่มั้ยคะ”
“ใช่ รูปหล่อตาสีฟ้าแล้วก็เคยจีบพิมพ์ด้วยไงล่ะ”
“แหม..พี่ขวัญก็ เคยจีบอะไรกันคะเขาก็แค่อัธยาศัยดีเท่านั้น”
“จ้าๆ มาเถอะ หนุ่มๆลงรถกันมาระ” ครองขวัญคล้องแขนน้องสาวไปต้อนรับแฟนหนุ่มนักธุรกิจกับเพื่อนหนุ่มรูปหล่อ
“Hi..พิมพ์กานต์” เสียงทุ้มๆของคริสเตียนเอ่ยทักสาวน้อยที่เขาคิดถึง
“หวัดดีค่ะ พี่เจค หวัดดีค่ะ คริสเตียน” พิมพ์กานต์ยกมือไหว้แบบไทยพร้อมรอยยิ้มหวานๆที่ทำเอาหนุ่มอังกฤษรีบรับไหว้ใจแทบละลาย
“hello my sis!” เจคสวมกอดน้องสาวด้วยความคุ้นเคยแถมยังแกล้งรัดพิมพ์กานต์จนแน่นเหมือนทุกครั้ง
“ว๊ายยยยย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” พิมพ์กานต์หัวเราะจนตาหยี
“คิดถึงyouนะ น้องพิมพ์” เจคพูดภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ เขาและคริสเตียนอุตส่าห์พากเพียรเรียนภาษาไทยก็เพราะชอบสาวไทยกันทั้งคู่
“ค่า คิดถึงพี่เจคเหมือนกันค่ะ เขิญข้างในบ้านดีกว่าค่ะ” พิมพ์กานต์ยิ้มแย้มเชื้อเชิญราวกับเป็นบ้านของตัวเอง เดินนำแขกคนสำคัญเข้าบ้าน
“เอ๊ะ นายรินไม่อยู่เหรอพิมพ์” ครองขวัญสงสัย
“พี่รินไปติดต่องานที่ญี่ปุ่นค่ะแล้วก็ไปหาซื้อต้นพันธุ์ดีๆมาปลูกด้วยค่ะ พี่รินอยากลองปลูกวาซาบิแล้วก็ผลไม้เมืองหนาวเช่นแอปเปิ้ล สตอเบอรี่ เชอรี่ องุ่น พีชอะไรแบบนี้น่ะค่ะ”
“เหรอ เออ..ก็ดีนะ ถ้าปลูกได้จนได้ผลผลิตงามๆก็จะได้ขายได้อีกด้วย แล้วนี่นายรินไปนานรึยังเมื่อไหร่กลับล่ะ”
“ไปได้ 3 อาทิตย์แล้วค่ะ น่าจะกลับวันนี้หรือไม่ก็พรุ่งนี้เช้าค่ะ”
“งั้นก็ดีสิจะได้เจอกัน พี่ไม่ได้บอกเขาล่วงหน้าหรอกว่าจะมา ยังไม่ได้แวะเข้าบ้านด้วยตรงดิ่งมานี่เลย เป็นห่วงน้องสาวพี่” ครองขวัญจับมือสบตาพิมพ์กานต์แววตาห่วงใยแท้จริง
“พิมพ์สบายดีค่ะพี่ขวัญ ไม่ต้องห่วงนะคะ” น้องสาวบีบมือตอบ อบอุ่นหัวใจสัมผัสได้ถึงความรักจากพี่
“เอาไว้ค่อยคุยกัน พี่มีอะไรจะคุยกับพิมพ์เยอะแยะเลย คืนนี้จะนอนคุยกันให้หายอยาก”
“ได้สิคะ พิมพ์ก็จะนอนกอดพี่ขวัญเหมือนตอนเด็กๆให้หายคิดถึงเลย”
“ยัยบ๊อง หล่อนโตแล้วนะยะ ฮะฮะ..” ครองขวัญขยี้หัวน้องด้วยความเอ็นดู ภาพวันวานผุดขึ้นมาในหัวเมื่อครั้งที่พิมพ์กานต์ไปถึงอังกฤษใหม่ๆ เธอโฮมซิกมากจนครองขวัญต้องนอนกอดเด็กน้อยไว้จนหลับไป
“ไปทานน้ำชาร้อนหอมๆกันก่อนดีกว่าค่ะ สองหนุ่มคงจะเบื่อแล้วที่เราเอาแต่คุยกัน”
“ไปสิจ๊ะ”
สองสาวเกี่ยวแขนกันเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่มีชุดน้ำชาเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยด้วยฝีมือป้าชื่นผู้รู้ใจ สองสาวไทยและสองหนุ่มอังกฤษจิบชายามบ่ายคุยกันกระหนุงกระหนิง พิมพ์กานต์เบิกบานเป็นพิเศษเพราะเจอครองขวัญที่เธอคิดถึง ส่วนหนุ่มอังกฤษผมดำตาสีฟ้าที่ตามติดมาด้วยก็ดีใจเหลือเกินที่เจอเธออีกครั้ง คริสเตียนจับจ้องพิมพ์กานต์ทุกอิริยาบถแล้วก็รู้สึกว่าเธอช่างน่ารักน่าใคร่อะไรอย่างนี้ เขาจะลองสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง เขาจะพาเธอกลับไปกับเขาให้ได้
‘ผมยังหวังได้ใช่มั้ยพิมพ์’ คริสเตียนแอบรำพึงในใจ
“เฮ้อออออ...สบายจังเลยยยย” ครองขวัญอาบน้ำสวมชุดนอนทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆของพิมพ์กานต์
“นั่งเครื่องมาซะนานนี่คะ ถึงจะเฟิร์สคลาสแต่ก็ยังไม่สบายเท่าเตียงนอนอยู่ดี” พิมพ์กานต์ช่วยรื้อกระเป๋าพี่สาวเอาเสื้อผ้าแขวนใส่ตู้เก็บของต่างๆเข้าที่เรียบร้อยเหมือนที่เธอเคยทำเมื่อตอนอยู่ด้วยกัน
“ช่ายยยย อะไรจะมาสบายเท่าอยู่บ้านเราล่ะ”
“จริงค่ะ เมืองไทยน่าอยู่ที่สุด” พิมพ์กานต์ยิ้มตอบ
“พี่ก็ไม่กลับไปอังกฤษแล้วละ ของๆพี่ก็ขนลงเรือมาหมดแล้ว”
“อ้าว..เหรอคะ แล้วเจคละคะ”
“หลังงานแต่งงานเจคเขาจะกลับไปจัดการทำเรื่องเปิดสาขาร้านจิวเวอรี่ที่เมืองไทย ปีแรกๆอาจจะต้องไปๆมาๆบ่อยหน่อยแต่เขาจะย้ายมาอยู่กับพี่ที่นี่อย่างถาวรจ๊ะ”
“ว๊าว..ดีจังเลยค่ะพี่ขวัญ พี่ขวัญจะได้อยู่ใกล้ๆลุงพงษ์แล้วยังมีเจคเป็นคู่คิดอีกด้วย”
“พี่ก็ว่าพี่โชคดีที่ได้เจอผู้ชายอย่างเจค เขาเกิดและโตที่อังกฤษไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินใจย้ายถิ่นฐานเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวไปอยู่ในที่ๆเขาไม่เคยอยู่มาก่อน”
“เจคต้องรักพี่ขวัญมากๆเลยนะคะพิมพ์ดูออก แววตาเขาที่มองพี่ขวัญมันแสดงออกถึงความรัก”
“แล้วคริสเตียนล่ะ ดูออกมั้ย”
“อุ๊ย! เขาก็เฉยๆนี่คะ อัธยาศัยดีเหมือนเดิม”
“พิมพ์อย่ามาเฉไฉ เขาตามจีบพิมพ์มาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ปี2 พิมพ์ก็ทำเป็นมองไม่เห็นอยู่ตลอด คบกันแบบเพื่อนมาตลอดแต่ก็ไม่เห็นเขายอมแพ้ จนพิมพ์กลับมาเมืองไทยพี่ก็คิดว่าเขาจะยอมถอดใจแล้วแต่พอได้ยินว่าเจคจะมาแต่งงานกับพี่ที่เมืองไทยเขาก็รีบบอกว่าจะมาด้วยทันที เขาบอกว่าเขาคิดถึงพิมพ์มาก”
“พี่ขวัญคะ..พิมพ์ไม่อยากให้เขามีความหวังในเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้น่ะค่ะ พิมพ์ไม่อยากให้เขามาเสียเวลากับพิมพ์ พิมพ์ไม่อยากให้เขาเสียใจ เขาเป็นคนดีพิมพ์อยากให้เขาเจอคนดีๆที่รักเขาค่ะ”
“เขาเป็นคนดีแล้วทำไมพิมพ์ถึงไม่เคยมองเขามั่งเลยล่ะ พิมพ์มีใครอยู่รึเปล่า”
“เอ่อ..ไม่มีนี่คะ..” พิมพ์กานต์ตอบไม่เต็มเสียงไม่กล้าสบตาครองขวัญ
“กับนายรินล่ะ”
“พ..พี่ริน พี่รินทำไมเหรอคะ” น้องสาวเริ่มอึกอัก
“อยู่ที่นี่นายรินรังแกพิมพ์รึเปล่า” ครองขวัญจ้องเขม็งเสียงคาดคั้น
“เปล่าค่ะ..พี่รินก็ให้พิมพ์ทำงานแล้วก็ดูแลพี่รินเท่านั้นค่ะ”
“ตอนนี้คุณน้าสุรีย์จดทะเบียนสมรสกับคุณพ่อพี่แล้วนะ ถ้าพิมพ์อยากจะกลับบ้านไปอยู่กับแม่พิมพ์ก็กลับได้แล้วไม่ต้องกลัวนายรินแล้ว พี่มาก็เพื่อจะบอกเรื่องนี้ด้วย”
“พิมพ์ก็ทราบแล้วค่ะพี่ขวัญ พิมพ์เพิ่งคุยกับแม่เมื่อวันก่อนนี่เองค่ะ” ตอบเสียงอ่อยๆ
“อ้าว! ไหนว่านายรินไม่ให้ใช้โทรศัพท์ไม่ให้ใช้อินเตอร์เนทแล้วโทรหาแม่ได้ยังไง ป้าชื่นโทรให้เหรอ?”
“เอ่อ..เปล่าค่ะ.. พี่รินซื้อโทรศัพท์ให้พิมพ์ไว้ใช้ก่อนไปญี่ปุ่นค่ะจะได้โทรมาสั่งงานได้สะดวก”
“เออ! เกิดจะมาใจกว้างนะนายริน เขาไม่บังคับพิมพ์แล้วรึไงเห็นโกรธแค้นจะเป็นจะตายใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง”
“เอ่อ...”
“เอ๊ะ!? ..หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพิมพ์กับนายรินที่พี่ไม่รู้?” ครองขวัญเริ่มขมวดคิ้วถาม
“.......” พิมพ์กานต์ก้มหน้าไม่ตอบขอบตาเริ่มร้อนผ่าวรู้สึกราวกับทำผิดแล้วถูกพ่อแม่จับได้ ครองขวัญนั้นก็เหมือนแม่คนที่สองของเธอนี่เอง
“นายรินรังแกพิมพ์ใช่มั้ย! นายรินขืนใจพิมพ์ใช่มั้ย!! พี่กลัวอยู่แล้วเชียวว่ามันจะเกิดขึ้นแต่ก็ยังหวังในความเป็นสุภาพบุรุษของนายรินที่ไม่เคยข่มเหงผู้หญิง แต่ในที่สุดนายรินก็เป็นแค่ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนึงเท่านั้น!” ครองขวัญโกรธจนหน้าแดง
“พี่ขวัญ...” พิมพ์กานต์เริ่มสะอื้น
“เรื่องนี้พี่จะไม่ยอมเด็ดขาด! พี่จะให้คุณพ่อมารับพิมพ์กลับบ้านวันพรุ่งนี้เลยไม่ต้องอยู่แล้วที่นี่ น้าสุก็แต่งงานกับคุณพ่อแล้วไม่มีอะไรต้องกลัวนายรินอีกต่อไปแล้ว ต่อให้นายรินกลับมาทันก็ไม่มีสิทธิจะมาขัดขวาง พี่จะให้คุณพ่อรับพิมพ์เป็นลูกบุญธรรมด้วย นายรินจะได้มายุ่งกับพิมพ์ไม่ได้อีก!”
“ไม่ค่ะพี่ขวัญ! ...พิมพ์ยังไม่ไป! ..” พิมพ์กานต์ระล่ำระลักบอกทั้งน้ำตา
“อะไรนะ!? เขาข่มเหงน้ำใจพิมพ์ขนาดนี้พิมพ์จะยังอยู่อีกทำไม!”
“เขาไม่ได้ขืนใจพิมพ์ค่ะ...”
“ไม่ได้ขืนใจ? ก็ไหนพิมพ์บอกว่านายรินรังแกพิมพ์ไง!?”
“พิมพ์..พิมพ์..พิมพ์ยินยอมเองค่ะ พี่รินไม่ได้ข่มขืน..” พิมพ์กานต์ก้มหน้าตอบน้ำตาไหลพราก ทั้งอับอายทั้งเสียใจ
“พิมพ์!” ครองขวัญอุทาน
“พิมพ์ขอโทษค่ะพี่ขวัญที่พิมพ์ทำตัวเหมือนผู้หญิงใจง่าย พิมพ์ขอโทษที่ไม่เชื่อฟังที่พี่ขวัญพร่ำสอน พิมพ์ขอโทษที่ทำให้พี่ขวัญผิดหวังในตัวพิมพ์ค่ะ” พิมพ์กานต์ยกพนมมือกราบลงบนตักพี่สาวที่เธอแสนรัก
ครองขวัญอึ้งไปกับเรื่องที่เพิ่งได้รับฟัง เด็กสาวที่เธอเลี้ยงดูมาหลายปีตั้งแต่เด็กจนโตและเพิ่งจะจากอกเธอมาได้เพียงแค่ครึ่งปีกลับยินยอมพลีกายให้ชายหนุ่มเสียแล้ว และคนๆนั้นถึงแม้จะเปรียบเสมือนน้องชายของเธออีกคนนึงแต่ก็เป็นคนที่รังเกียจเคียดแค้นพิมพ์กานต์ที่สุด เธอรู้สึกเหมือนสิ่งที่เธอได้ฟูมฟักมาอย่างทะนุถนอมได้ถูกทำลายลงอย่างง่ายๆ ความรู้สึกของแม่ที่หวงแหนลูกคงคล้ายๆแบบนี้เองสินะ
“ลุกมานั่งนี่เถอะ เราต้องคุยกัน ไม่ต้องร้องไห้พิมพ์ไม่ได้ทำอะไรผิด” ครองขวัญประคองร่างบางที่กำลังสั่นเพราะแรงสะอื้นมานั่งข้างๆเธอ
“พิมพ์ขอโทษค่ะ..”
“พิมพ์ไม่ต้องขอโทษพี่ไม่ได้โกรธพิมพ์ เรื่องแบบนี้พี่รู้ดีว่าพิมพ์ไม่ใช่คนเริ่มและพี่ก็รู้จักนายรินดีพอที่จะคาดเดาได้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ที่พี่สงสัยคือทำไมพิมพ์ถึงยอมนายรินง่ายๆ เขาใช้กำลังกับพิมพ์รึเปล่า”
“........” พิมพ์กานต์กลั้นสะอื้นส่ายหน้าเบาๆ
“งั้นแสดงว่าพิมพ์ก็ต้องยอมเอง ทำไมพิมพ์ถึงยอม”
“........” พิมพ์กานต์ก้มหน้านิ่ง
“พิมพ์ตอบพี่มา” ครองขวัญเสียงเข้ม
“พิมพ์.....พิมพ์...”
“พิมพ์อะไร! ตอบพี่มาเดี๋ยวนี้นะพิมพ์กานต์!”
“พิมพ์...พิมพ์รักพี่รินค่ะ...” พิมพ์กานต์ตอบเสียงแผ่ว
“โอ๊ย! ให้มันได้ยังงี้สิ!” ครองขวัญร้องอุทานทิ้งตัวลงนอนหงายบนที่นอน
เธออุตส่าห์กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูพิมพ์กานต์มาเพื่อให้การินถูกใจที่สุดเผื่อเขาจะหลงรักเธอและเลิกติดใจกับเรื่องบ้าๆ แต่นี่กลายเป็นแม่น้องสาวของเธอดันหลงรักคนที่เกลียดตัวเองที่สุด แล้วทีนี้จะทำยังไง..อนาคตจะเป็นยังไง..น้องสาวที่เธอรักจะเผชิญกับความแค้นของการินได้ยังไง คนที่จะเสียใจที่สุดคือพิมพ์กานต์นั่นเอง
“เฮ้อ! ....” ครองขวัญถอนหายใจกระเด้งตัวลุกจากที่นอน
“นายรินพูดอะไรกับพิมพ์มั่งรึเปล่าว่าจากนี้จะเอายังไง จะรับผิดชอบอะไรยังไงมั้ย”
“ยังไม่ได้พูดอะไรค่ะ สองวันถัดมาพี่รินก็ไปญี่ปุ่นค่ะ” พิมพ์กานต์ค่อยคลายสะอื้นน้ำตาแห้งไปบ้างแล้ว
“แล้วพิมพ์จะเอายังไง”
“เอ่อ...”
“ยังไม่ได้คิดรึไง” ครองขวัญดักคอ
“พิมพ์ก็...ยังไม่ได้คิดอะไรค่ะ” พิมพ์กานต์อ้อมแอ้ม
“แล้วจะอยู่กันไปแบบนี้เหรอ พิมพ์จะทนอยู่ทำไม นายรินจะยอมแต่งงานกับพิมพ์เหรอ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ขวัญ พิมพ์ยินดีอยู่จนกว่าพี่รินจะไม่ให้อยู่หรือไม่ต้องการพิมพ์แล้ว พิมพ์อยากอยู่ช่วยพี่รินทำงาน อยากดูแลพี่ริน ถึงแม้พี่รินจะไม่รักพิมพ์จะเกลียดเคียดแค้นพิมพ์ พิมพ์ก็ทนได้ค่ะ”
“โธ่! พิมพ์!” ครองขวัญขัดใจแทบจะจับน้องสาวเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน
“ได้โปรดเถอะค่ะพี่ขวัญ ให้พิมพ์อยู่เถอะค่ะ นอกจากดูแลพี่รินแล้วพิมพ์ยังหวังว่าสักวันพิมพ์จะทำให้พี่รินหายเข้าใจผิดพิมพ์กับแม่ได้นะคะ ถ้าพิมพ์ยังอยู่ที่นี่พิมพ์อาจจะรู้เรื่องราวที่แท้จริงในอดีตก็ได้ค่ะ”
“ถ้าจะมีใครรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไงในวันนั้นก็คงมีแต่คุณป้าดารินเท่านั้นแหละ”
“คุณแม่พี่รินน่ะเหรอคะ”
“ใช่ คุณป้าเท่านั้นที่จะทำให้นายรินเชื่อได้ว่าความจริงคืออะไร”
“แล้วตอนนี้คุณป้าอยู่ที่ไหนคะ พิมพ์จะไปพบคุณป้าได้มั้ยคะ”
“คุณป้าดาริณอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลหรอก อยู่ถัดไปจากไร่นี่แค่ 2 กิโลเท่านั้นเอง”
“เหรอคะ! ..อยู่ใกล้แค่นี้เอง พิมพ์ไม่เห็นเคยทราบ”
“ไม่มีใครรู้หรอก นายรินปิดเป็นความลับเพราะอยากให้คุณป้าอยู่อย่างสงบ”
“งั้นพิมพ์จะไปเยี่ยมคุณป้าได้มั้ยคะ”
“ถ้าคุณป้าไม่รู้ว่าพิมพ์เป็นใครแล้วนายรินไม่รู้ว่าพิมพ์ไป ก็คงได้มั้ง”
“งั้นพิมพ์คงต้องแอบไปตอนพี่รินไม่อยู่ เอ..แล้วถ้าไปเจอพี่รินที่นั่นจะทำยังไงละคะ”
“นายรินไปไม่ได้หรอก”
“อ้าว..ทำไมละคะ”
“คุณป้าดารินจำนายรินไม่ได้และเห็นหน้าลูกชายไม่ได้เด็ดขาด ถ้าคุณป้าเห็นหน้านายรินคุณป้าจะคุ้มคลั่งอาการจะกำเริบรุนแรงทันที นายรินจึงไม่ได้เจอแม่มาตั้งแต่เกิดเรื่องจนตอนนี้ก็เกือบ 8 ปีแล้ว”
“โธ่! พี่ริน น่าสงสารจริงๆ ”
“ยังมีหน้าไปสงสารเค้าอีก เค้าคิดว่าตัวนั่นแหละเป็นต้นเหตุจนแค้นข้ามศตวรรษอยู่นี่ไง” ครองขวัญหมั่นไส้
“ก็พี่รินน่าสงสารจริงๆนี่คะ พิมพ์เข้าใจเลยว่ารู้สึกยังไงที่เจอแม่ไม่ได้ ตอนจากแม่ไปอังกฤษมันทรมานมากๆเลยค่ะ เพราะอย่างงี้สินะคะพี่รินถึงพยายามแยกพิมพ์กับแม่ออกจากกันเพราะโกรธที่คิดว่าพิมพ์กับแม่เป็นต้นเหตุ แต่ยังไงพิมพ์ก็ยังได้กลับมาหาแม่ ได้กอดแม่ ได้คุยกับแม่ ไม่ได้จากกันตลอดกาล ผิดกับพี่รินที่ต้องดูแลคุณป้าตลอดเวลาหลายปีแต่ก็ไม่สามารถกอดแม่ได้เลยสักครั้ง พี่รินน่าสงสารกว่าจริงๆค่ะ”
“เฮ้อออ!! ...นี่ฉันเลี้ยงแม่พระมาหรอกเหรอเนี่ย” ครองขวัญค้อนขวับ
“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะคะพี่ขวัญ พิมพ์อยากให้ทุกๆคนเข้าใจกันได้ อยากให้พี่รินเข้าใจพิมพ์กับแม่ อยากให้คุณป้าดาริณหายป่วยกลับมาอยู่กับพี่ริน อยากเห็นแม่มีความสุขเท่านี้พิมพ์ก็มีความสุขแล้วค่ะ”
“ถ้าทุกๆคนเข้าใจกันแล้ว คุณป้าดารินหายป่วยกลับมาอยู่กับนายรินได้แล้ว น้าสุอยู่กับคุณพ่อก็มีความสุข แล้วพิมพ์ล่ะ...พิมพ์จะอยู่ที่ไหน” ครองขวัญย้อนถาม
“พิมพ์..เอ่อ..พิมพ์..ก็ ก็กลับไปอยู่กับพี่ขวัญกับคุณลุงกับแม่ไงคะ” พิมพ์กานต์หน้าเจื่อนแต่ก็พยายามตอบเสียงสดใส
“ฮึ! ...อย่ามาทำเป็นพูดดีไป พิมพ์กำลังเล่นกับไฟมันมีแต่จะเผาใจให้มอดไหม้ พี่ไม่อยากเห็นพิมพ์ต้องเสียใจ” ครองขวัญลูบผมสลวยของน้องสาวอ่อนโยน
“ไม่หรอกค่ะพี่ขวัญ พิมพ์ตัดสินใจแล้ว พิมพ์รักพี่รินและจะรักพี่รินคนเดียวตลอดไป ถ้าพิมพ์ไม่สามารถอยู่เป็นคู่ชีวิตกับพี่รินได้พิมพ์ก็จะขออยู่คนเดียวค่ะ พิมพ์อาจจะเสียน้ำตาแต่พิมพ์จะไม่เสียใจในสิ่งที่ตัดสินใจทำวันนี้แน่นอนค่ะ”
“เก่งจริงนะน้องพี่ ในเมื่อตัดสินใจแล้วพี่ก็จะเชื่อว่าน้องพี่ทำได้ ขอให้พิมพ์เข้มแข็งพี่เอาใจช่วย หากมีอะไรที่มันหนักหนาเกินกำลังจะรับไหวก็กลับบ้านเรานะพี่ขอร้อง อย่าได้ทนทรมานตัวเองเด็ดขาด พี่รักพิมพ์นะ คุณพ่อกับน้าสุก็รักพิมพ์ แต่ถ้าให้ดีพี่ก็จะภาวนาให้นายรินรักพิมพ์อีกคนด้วย”
“ขอบคุณค่ะพี่ขวัญ พิมพ์จะไม่ลืมที่พี่ขวัญบอกค่ะ” พิมพ์กานต์สวมกอดพี่สาวแนบแน่น
“เอ๊ะๆ! ลืมถาม” ครองขวัญผลุนผลันผลักน้องออก
“อะไรคะ?” พิมพ์กานต์ตาโต
“ป้องกันรึเปล่า”
“คะ? ..”
“เมคเลิฟกันน่ะ ป้องกันรึเปล่า” ครองขวัญถามตรงประเด็นไปเลย
“อ๋อ..เอ่อ..เปล่าค่ะ” พิมพ์กานต์อึกอักตอบหน้าแดงกับคำถามทื่อๆของพี่สาว
“ห๊า! ไม่ได้นะพิมพ์ ถ้าท้องจะยิ่งยุ่งไปใหญ่”
“เอ่อ...คงไม่หรอกค่ะ ประจำเดือนเพิ่งหมดไปเองค่ะ”
“เฮ่ออออ...โล่งอก แต่ยังไงก็ตามครั้งต่อๆ ไปก็ต้องป้องกันทุกครั้งด้วย จำที่พี่บอกด้วยนะ”
“ค่ะค่ะพี่ขวัญ พิมพ์จะจำไว้ค่ะ” พิมพ์กานต์รับคำอายๆ
ตั้งแต่วันที่สระว่ายน้ำการินก็ยังไม่ได้ยุ่งกับเธออีกเลย วันรุ่งขึ้นเขาก็ต้องเข้ากรุงเทพฯเพื่อจัดการธุระด่วน อีกวันถัดมาเขาก็ไปญี่ปุ่นจนถึงวันนี้ พิมพ์กานต์โล่งอกเหมือนครองขวัญว่าเพราะลืมคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน และก็โล่งอกที่การินต้องไปที่อื่นสักพักเพราะเธอทำหน้าไม่ถูกเวลาเจอเขารู้สึกอึดอัดนิดๆ เขาไปสักพักอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันเธอจะได้ปรับตัวปรับใจสำหรับการอยู่ร่วมกันต่อไป ถึงแม้มันจะคาดเดาอนาคตไม่ได้ว่ามันจะสุขหรือทุกข์ เธอก็ยินดีรับทั้งหมดถ้ามันมาจากชายที่เธอรัก
การินโทรมาบอกเลื่อนการเดินทางกลับจากญี่ปุ่นไปอีก 1 สัปดาห์เพราะจะรอให้ได้ต้นพันธุ์แอปเปิ้ลเสียก่อนจะได้อยู่รอตรวจสอบให้เรียบร้อย ส่วนต้นพันธุ์อื่นๆ ที่หมายตาไว้ได้มาครบแล้วกำลังแพครอส่งกลับไทย พิมพ์กานต์แจ้งให้นายหนุ่มทราบว่าครองขวัญได้มาถึงแล้วและพักอยู่ที่บ้านไร่
“อืม..งั้นพิมพ์ก็ดูแลพี่ขวัญด้วยแล้วกัน พี่คงจะกลับไม่เกินอาทิตย์หน้า ฝากสวัสดีพี่ขวัญด้วย”
“ค่ะพี่ริน พิมพ์จะดูแลให้ดีค่ะ พิมพ์ว่าจะพาพี่ขวัญกับพี่เจคไปเที่ยวด้วยค่ะ”
“ก็ดี มีที่เที่ยวสวยๆเยอะถามป้าชื่นก็ได้ว่าที่ไหนน่าเที่ยวมั่ง เจ้าพิณมันก็มากับพี่ไม่งั้นก็ให้มันพาเที่ยวได้”
“ค่ะพี่ริน”
“อยากได้อะไรที่นี่มั้ยพี่จะซื้อไปให้” เสียงทุ้มๆถาม
“เอ่อ..ไม่อยากได้อะไรค่ะ พี่รินเดินทางกลับมาปลอดภัยก็ดีใจแล้วค่ะ”
“พูดซะพี่อยากกลับวันนี้เลย”
“เอ่อ..” พิมพ์กานต์ยิ้มกับโทรศัพท์
“นอนคนเดียวเหงามั้ย” ถามเสียงออดอ้อน
“ไม่เหงาหรอกค่ะ พี่ขวัญนอนด้วย”
“อ้าว! ทำไมพี่ขวัญไม่ไปนอนห้องเดิมล่ะ” การินอุทานขัดใจ ครองขวัญมีห้องของตัวเองที่ไร่แต่ไม่ไปนอน กลับมานอนกับพิมพ์กานต์
“พี่ขวัญอยากนอนคุยกับพิมพ์ค่ะ นอนห้องเดียวกันก็ได้นี่คะพี่ริน พิมพ์ก็คิดถึงพี่ขวัญค่ะ” พิมพ์กานต์ยังพาซื่อ
“ไม่เอา ให้พี่ขวัญกลับไปนอนห้องตัวเอง”
“ทำไมละคะ นอนห้องพิมพ์ก็สบายดีนี่คะ”
“แล้วถ้าพี่กลับไปจะไปนอนไหนล่ะ” เสียงเริ่มหงุดหงิด
“อ้าว...พี่รินก็มีห้องพี่รินไงคะ..” พิมพ์กานต์ชักเสียงอ่อยไม่รู้ว่าชายหนุ่มอารมณ์เสียเรื่องอะไร
“เอ๊ะ! แล้วถ้าพี่อยากจะไปนอนกอดพิมพ์บ้างพี่จะทำยังไงล่ะ!” การินสะบัดเสียง
“อุ๊ย! พี่ริน” พิมพ์กานต์หน้าแดง
“ไปบอกให้พี่ขวัญไปนอนห้องตัวเอง อาทิตย์หน้าพี่กลับแล้วจะไปนอนด้วย” นายรูปหล่อสั่งดื้อๆ
“เอ่อ..พิมพ์ไม่กล้าบอกค่ะพี่ริน พิมพ์กลัวพี่ขวัญว่า..”
“แค่นี้ทำไมไม่กล้า แค่บอกให้กลับไปนอนห้องตัวเองเท่านั้น”
“พี่รินกลับมาบอกเองละกันนะคะ พิมพ์ไม่กล้าบอกค่ะ..” พิมพ์กานต์อึกอักกลัวครองขวัญจะเอาเรื่องเพราะเพิ่งรู้เรื่องราวระหว่างเธอกับการินไปสดๆร้อนๆ
“ฮึ้ย! ..เออๆๆ เดี๋ยวพี่กลับไปบอกเองก็ได้ ตอนนี้จะนอนด้วยกันก็นอนไปก่อน” การินหงุดหงิด
“กลับมาพิมพ์จะเตรียมอาหารไปนั่งทานกันที่สระว่ายน้ำ หรือไม่ก็จะว่ายน้ำเป็นเพื่อนพี่รินละกันนะคะ”
“ฮะฮะฮะฮะ! ปลอบใจพี่รึไงเนี่ยเด็กหญิงพิมพ์” การินอดไม่ได้หลุดหัวเราะกับคำปลอบใจแบบเด็กๆของสาวน้อยที่เขาคิดถึง
“ก็..ก็..พี่รินอ้ะ” หางเสียงงอนๆ ที่โดนล้อ
“ฮะฮะ..เอาเถอะๆ ไปว่ายน้ำเป็นเพื่อนพี่ก็ได้ ดีเหมือนกันเดี๋ยวพี่หาทูพีซสวยๆไปฝาก ซื้อให้แล้วต้องใส่นะ”
“พิมพ์ไม่เคยใส่ค่ะ มันโป๊”
“อะไรกันอยู่เมืองนอกมาตั้งนานไม่เคยใส่ทูพีซ แล้วเวลาไปว่ายน้ำกับเพื่อนๆใส่อะไรล่ะ”
“ใส่วันพีซแบบมีกระโปรงค่ะ” พิมพ์กานต์ตอบมั่นใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!” การินนึกภาพแล้วหัวเราะงอหาย
“พี่ริน! ..ขำอะไรคะ! ..”
“ขอโทษๆๆ มันขำอะ อยู่ท่ามกลางฝรั่งหัวแดงทั้งฝูงใส่วันพีซแบบมีกระโปรงเหมือนเด็ก 8 ขวบลงสระ มันไม่มองกันงงๆทั้งสระเหรอ”
“เค้าก็มองกันแบบนั้นแหละค่ะ เพื่อนๆก็หัวเราะบอกว่าพิมพ์เชยมาก พิมพ์เลยไปด้วยหนเดียวแล้วไม่ไปอีกเลย”
“อ้าว งั้นวันพีซก็ไม่ได้ใส่อีกเลยน่ะสิ”
“ใส่ค่ะ พิมพ์ไปกับพี่ขวัญแทน”
“เออออ...เด็กน้อย”
“ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ พิมพ์โตแล้ว! ..” เด็กน้อยของพี่รินชักหงุดหงิด
“โอเคๆ โตแล้วจริงๆ โตแล้ว..แล้วก็เป็นของพี่แล้วด้วย”
“พี่ริน..” พิมพ์กานต์หน้าแดงก่ำ นึกดีใจที่ชายหนุ่มมองไม่เห็น
“พี่จะไปสวนแอ๊ปเปิ้ลแล้วแค่นี้ก่อนละกัน ดูแลตัวเองดีๆรอพี่กลับไปล่ะ พี่จะซื้อทูพีซไปฝากใส่ให้พี่ดูด้วย คิดถึงพี่ด้วยล่ะ”
“พิมพ์คิดถึงพี่รินทุกวันค่ะ..” พิมพ์กานต์บอกเสียงเบาแต่ก็ทำให้คนฟังยิ้มโดยไม่รู้ตัว
“แล้วเจอกันพิมพ์กานต์”
ชายหนุ่มวางสายไปแล้วแต่เด็กน้อยของพี่รินยังจ้องโทรศัพท์ด้วยจิตใจอันว้าวุ่น เขาพูดคุยเป็นปกติเหมือนไม่เคยโกรธแค้นเธอมาก่อนเลยตกลงว่าเขาหายโกรธเธอแล้ว? พิมพ์กานต์ดีใจที่การินมีท่าทีคิดถึงและห่วงใยเธอแต่ก็ยังลังเลที่จะไว้ใจว่าเขาจริงใจกับเธอจริงๆ จะว่าเธอยังระแวงก็คงได้ เธอรักเขาน่ะของจริงแต่เขารักเธอรึเปล่าแม้แต่หวังเธอยังไม่กล้า
‘ถึงยังไงพิมพ์ก็รักพี่รินค่ะ ถ้าเพียงพี่รินหายโกรธเกลียดพิมพ์แค่นี้พิมพ์ก็ดีใจแล้วค่ะ…’