10

802 คำ
​คุณนรีจัดแจงให้ลูกชายตัวเองนั่งเคียงคู่กับสะใภ้ในมโนของนางอย่างมีความสุข ธีรนุชขยับไปนั่งเก้าอี้ตัวสุดท้ายติดกับแขกคนสำคัญ ก่อนจะยิ้มจางๆออกมา เธอมีวูบเดียวเท่านั้นที่มีความน้อยใจเข้ามา แค่เพียงไม่นาน ความเข้าใจต่างๆก็เข้ามาแทนที่ คุณเธียรไม่ใช่จะไม่เคยควงใคร หรือไม่มีสัมพันธ์พิเศษกับใครสักหน่อย เธอเคยแอบเห็นและตามข่าวของเค้ามาตลอดก็รู้ว่า เค้ามีเพื่อนควงเพื่อนเที่ยวหลายคน เป็นดาราดังก็มาก แม้ฝ่ายหญิงจะกดดันให้ฝ่ายชายออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์บ้าง แต่ก็ไม่ได้รับการเปิดปากใดๆจากชายหนุ่มคนนี้ มือบางตักอาหารพร้อมกับฟังเสียงการสนทนาของคนอื่นๆอย่างเลื่อนลอย เสียงของหญิงสาวข้างตัวชวนทุกคนคุยเรื่องอาหาร เรื่องสถานที่ท่องเที่ยว และเรื่องอะไรหลายอย่างจนทำให้บนโต้ะอาหารเสียงดังกว่าปกติ คุณย่าแอบมองหลานชายกับว่าที่หลานสะใภ้แล้วก็ถอนใจ ถ้าแม่นรีเค้าเลือกข้าง ย่าก็เลือกบ้างก็เท่านั้นเอง "นุช พรุ่งนี้เข้างานกี่โมงลูก" คุณย่าเอ่ยถามคนท้ายสุดที่เงียบผิดปกติอย่างชวนคุย "หนูเข้างานสองทุ่มเลิกแปดโมงเช้าค่ะ" สิ้นเสียงตอบ เธียรวิทย์ก็ขมวดคิ้วทันที เค้าไม่รู้เลยว่า คุณหมอของเค้าต้องไปทำงานกลางคืนด้วย เสียงคุณย่าพูดขยายความเข้าใจ "นุชเค้าเป็นหมอใช้ทุนทำงานที่โรงพยาบาลก็ต้องมีเข้าเวรกลางคืนบ้าง " แพรดาวยิ้มอย่างพอใจ "ถ้าอย่างนั้นวันไหนที่คุณหมอไม่อยู่ แพรจะถือโอกาสมาดูแลคุณย่าบ้างจะได้ไหมคะ" ธีรนุชเดินลงมาจากตึกใหญ่หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จและพาคุณย่าขึ้นห้องเรียบร้อยแล้ว แขกคนสำคัญยังไม่กลับ เสียงพูดคุยดังแว่วๆออกมาจากห้องรับแขกด้านในทำให้เธอตัดสินใจจะกลับบ้านตัวเอง "นุชแฟนคุณเธียรมาหรอ" คำถามแรกที่แม่นางถามลูกสาวตัวเองด้วยความเป็นห่วงด้วยเพราะรู้อยู่เต็มอกว่าลูกสาวรักคุณเธียรเหลือเกิน "คุณนรีพามาจ้ะ น่าจะอยากให้เป็นแฟน" เสียงลูกสาวตอบแม่ตามความจริงก่อนจะทรุดลงนั่งที่โซฟาตัวเล็กในบ้านอย่างเหม่อลอย แม้จะพยายามจะเข้าใจสถานะทุกอย่างแต่ความน้อยใจก็ยังมีอยู่บ้าง เธอเลือกเกิดไม่ได้หรอก วาสนาของเธอทีแม่ที่เป็นแม่ครัวในบ้านนี้ก็ถือว่าดีแล้ว แถมยังมีความเมตตาจากคุณย่าที่คอยอบรมสั่งสอนสนับสนุนเรื่องเรียนตลอดมา จากลูกแม่ครัว กลายมาเป็นคุณหมอสาวที่ทำงานมีหน้ามีตา มีเกียรติในสังคมอยู่ในขณะนี้ "แม่รู้ว่านุชคิดยังไง แต่แม่อยากให้รู้ไว้ว่าตัวนุชเองก็มีดีมากพอ ถ้าคุณเธียรเค้าจะไม่เลือกนุช นุชก็อย่าเศร้านาน นุชมีค่ามากพอสำหรับคนดีๆอีกมากมายนะลูก" ผู้เป็นแม่ปลอบใจลูกสาวที่นั่งเศร้าสร้อยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง เธียรวิทย์ขับรถสีขาวของที่บ้านออกจากบ้านหลังใหญ่เพราะต้องไปส่งแขกสาวที่กลับค่อนข้างดึกแล้ว แพรดาวอดแปลกใจไม่ได้ที่เค้าเลือกใช้เอสยูวีแทนรถสปอร์ตของตัวเอง ชายหนุ่มยิ้มอย่างรู้ทันก่อนจะบอกด้วยเสียงราบเรียบว่า "รถสปอร์ตของผม เป็นของรักของหวงครับ น้อยคนมากจะได้นั่ง ถ้าวันนั้นผมทราบมาก่อนว่าจะต้องไปส่งน้องแพร ผมคงไม่ขับไป" คนฟังกัดฟันทันทีที่ได้ยิน เค้ากำลังจะบอกว่าเธอแค่บังเอิญได้นั่งรถสปอร์ตเท่านั้นถ้าเลือกได้เค้าไม่ให้เธอนั่งรถเค้าแน่ๆ มือบางจิกเล็บตัวเองอย่างข่มใจก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยในทันที คนรถขับรถของเธอตามหลังรถเค้ามาติดๆเพื่อนำรถหรูตามมาส่ง เมื่อมาถึงบ้าน เธียรวิทย์บอกย้ำอีกครั้งว่า "คราวหน้าพี่คงจะไม่ให้น้องแพรกลับดึกขนาดนี้นะครับเกรงใจคุณลุงคุณป้า หรือถ้าจะให้ดีไม่มีคราวหน้าจะดีกว่า " พูดจบก็หันหน้าหนีเธอทันที ก่อนจะที่คนรถจะมาขับรถให้เจ้านายตัวเองอย่างรู้หน้าที่ "ผมโตแล้วนะแม่ถ้าจะมีเมียคงไม่รบกวนให้แม่เลือกให้หรอกครับ" เสียงลูกชายเดินหน้าตึงเข้ามาในห้องนอนหลังจากที่กลับจากไปข้างนอกแล้ว ผู้เป็นพ่อเอามือปิดปากตัวเองกลั้นหัวเราะอย่างสุดกลั้นก่อนจะไปโอบภรรยาที่นั่งหน้าซีดอยู่ปลายเตียง "แม่ไม่เชื่อใจลูกหรอไง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม