เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาหา แล้วทิ้งตัวลงไปนั่งลงที่แคร่ ครีมรีบขยับตัว แต่ก็นั่งลงข้าง ๆ เขา
“พี่ของครีมจะแต่งงานจริง ๆ หรือน้องครีม” เขาถามออกมาด้วยเสียงผิดหวัง นัยน์ตาที่จ้องสบกับเด็กสาวเต็มไปด้วยความเศร้า
“พี่รู้เรื่องนี้ด้วยหรือคะ”
สายตาของตั้นบ่งบอกถึงความเสียใจจนปิดไม่มิด มันดูอ่อนแรง
“ทำไมพี่จะไม่รู้ เขาพูดกันไปทั้งไร่ พี่ก็เป็นคนในไร่เรือนทองเหมือนกัน ทุกคนในไร่พูดกันแต่เรื่องที่พี่โหน่งจะแต่งงาน และคุยเรื่องเจ้าสาวผู้โชคดีคนนั้นทั้งวัน แล้วก็กำลังเตรียมงานแต่งกันโกลาหลไปหมดแล้ว เฮ้อ...” เขาเล่าเป็นเรื่องเป็นราว
“พี่ร้อนใจ ที่มาพี่อยากเจอเค้ก และพี่แค่อยากมาถามกับเค้กด้วยตัวของพี่เองเท่านั้น ถ้าเค้กจะแต่งงานกับพี่โหน่งจริง ๆ พี่ก็อยากจะได้ยินจากปากของเค้กเองว่าเธอยินดีที่จะแต่งงาน แล้ว....เอ่อ... พี่จะได้.......จบทุกอย่าง”
ตั้นพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าเต็มทน ความรู้สึกพิเศษที่มีต่อเค้กมันฉายออกมาจากแววตาของเขา
“จบทุกอย่าง....” ครีมพึมพำ แล้วเริ่มปะติดปะต่อ
‘หรือคนที่พี่เค้กมีใจพิเศษให้คือผู้ชายคนนี้’
“ช่วยพี่หน่อยได้ไหม ครีมไปบอกเค้กให้พี่หน่อยสิ พี่อยากจะเจอเค้กที่นี่”
“เอ่อ....” เด็กสาวอึกอัก เริ่มมองไปรอบ ๆ ความมืดเริ่มเข้ามาครอบคลุม
“ไปบอกเค้กว่า พี่รอเค้กที่นี่” เขาส่งสายตาอ้อนวอนมาให้สาวน้อยด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวัง
“เอ่อ... พี่ตั้นคะ มันจะมืดแล้ว และอีกอย่างครีมว่ามันไม่ค่อยเหมาะมั้งคะ”
เขาทำหน้าเศร้า นัยน์ตาเริ่มหมดหวังอีกครา
“พี่ตั้นจะไม่บอกเหตุผลที่ต้องการพบพี่เค้กกับครีมสักหน่อยหรือคะ เพื่อเป็นเหตุผลประกอบว่ามันสำคัญมากพอที่ครีมจะช่วยหรือไม่ช่วย”
“หึ...หึ... เฮ้อ....”
เสียงหัวเราะเหมือนหยัน ส่งท้ายด้วยเสียงเป่าลมหายใจแรง ๆ ออกมา ทำให้เธอรับรู้ได้ถึงความหนักใจของอีกฝ่ายจริง ๆ
ชนวีย์กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนบนแขนของตัวเอง พร้อมกับจ้องมองไปยังเมฆที่จับตัวกันเป็นก้อนขาว ๆ เต็มท้องฟ้าไปหมด
“อดีตและอนาคตของพี่ก็เหมือนกลุ่มเมฆก้อนนั้นแหละ มันคลุมเครือมาตลอด ชีวิตของพี่มันก็ปกคลุมไปด้วยอุปสรรคไปเสียหมดสินะ มิน่า... พักนี้เค้กถึงทำมึนตึงกับพี่ เพราะเหตุผลนี่เอง” เขาบ่นพ้อชีวิต
ภาวนาแหงนหน้ามองไปที่กลุ่มเมฆที่ชายหนุ่มเอ่ยถึง แต่ทุกอย่างที่ตั้นคิดและพูดออกมามันไม่จริง ทั้งพี่เค้กและเธอก็เพิ่งรู้เรื่องที่พี่เค้กจะได้แต่งงานกับอาโหน่งวันนี้
“พี่พูดอย่างนี้ คือพี่กับพี่เค้กรักกันหรือคะ”
ครีมถามตรง ๆ ในใจเต้นตึก ๆ กับเรื่องราวที่เธอกำลังรับรู้ ครีมก้มมองไปที่ใบหน้าอันหมดจดของเขา ผู้ชายคนนี้ดูสำอาง การแต่งกายก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ดูจะมีรสนิยมดีเสียด้วยซ้ำ เป็นเหมือนผู้ชายในฝันของพี่เค้ก ขาวสะอาดและดูดี
“ใช่ พี่บอกครีมตรง ๆ นะ พี่กับพี่เค้ก เราสองคนคบกัน”
ครีมมีสีหน้าตกใจ
“หา! ตอนไหน พี่เค้กไม่เห็นเคยเล่าเรื่องของพี่ให้ฟังเลย”
ภาวินีเป็นคนเงียบไม่ช่างพูดเหมือนกับภาวนาหรอก ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอไม่มีใครได้รู้ แม้แต่น้องสาวแท้ ๆ แบบครีม
“ใช่สิ หึ...เค้กก็คงไม่อยากจะบอกกับใครหรอกว่าคบกับพี่ เพราะตอนนี้เค้กกำลังจะเป็นเจ้าสาวของเจ้าของไร่เรือนทอง ไม่ใช่ลูกของขี้ข้าทำงานในครัวอย่างพี่”
คำพูดของตั้นแรงไม่ใช่เล่น ครีมรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของเขาในประโยคเหล่านั้น
“ไม่มั้ง ถ้าพี่เป็นแฟนพี่เค้กจริง ๆ เอ่อ... พี่เค้กไม่ใช่คนแบบนั้น และอีกเรื่อง ครีมคิดว่า พี่เค้กก็ไม่รู้เรื่องที่ตัวเองจะได้แต่งงานกับอาโหน่งหรอกค่ะ”
ตั้นถลันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะส่งมือไปจับมือของครีมเอาไว้แน่น สายตาอ้อนวอนมากกว่าเดิม
“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะครีม ถือว่าเราทำบุญโปรดสัตว์”
“เอ่อ....พี่ตั้นคะ ถ้าให้ครีมไปตามพี่เค้กมาหาพี่ที่นี่เวลานี้ ครีมเชื่อว่าพี่เค้กไม่มาหรอกค่ะ ครีมว่าพี่ไปหาพี่เค้กที่บ้านเองดีกว่า”
“ตอนไหน พี่ไม่อยากช้าไปกว่านี้อีกแล้ว” เขาถามเธอ เพราะตอนนี้ก็เริ่มค่ำแล้ว ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา แสงสีทองเริ่มลับขอบฟ้า แล้วสีดำทะมึนก็เข้ามาแทนที่จนเกือบจะหมดแล้ว
“เอายังไงดี ครีมว่า.........” ภาวนามีท่าทีลำบากใจ
“ไม่เป็นไร ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร” ตั้นพูดเหมือนตัดใจและประชดระทดท้อ ก่อนจะลุกขึ้นยืนทันที เขาหันหลังกลับไปทางที่เขาเข้ามา
“เฮ้ย... เดี๋ยวก่อนสิพี่ เดี๋ยว...... อ้าว...ทำไมใจร้อนจัง พี่ชายคนนี้...” เธอมองตามหลังเขาไปจนลับหายไปในพุ่มไม้นั้น พยายามจะเรียกแต่ตั้นไม่หันกลับมามอง
ในใจของตั้นเขาจะต้องไปหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาเค้ก และคุยกับเธอให้รู้เรื่องในคืนนี้
ภาวนากลับไปที่จักรยานของตัวเองและมุ่งหน้ากลับบ้าน อย่างน้อยวันนี้เธอก็มีเรื่องที่จะคุยกับพี่สาว และจะถามว่าพี่เค้กจะเอาอย่างไรกับพี่ตั้น และชีวิตของภาวินีในอนาคตต่อไป
ชนวีย์เดินกลับเข้ามาในไร่เรือนทอง ขณะที่กำลังเดินผ่านบริเวณกลุ่มคนงานที่กำลังนั่งสังสรรค์และเมาท์มอยเรื่องข่าวดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในไร่แห่งนี้กันอย่างสนุก ทำให้เขาหยุดยืนฟัง
“เขาว่าสินสอดแพงเอาการนะหลานสาวของไร่เจ้าขา จะได้เป็นเจ้าของไร่ของเราตั้งครึ่งหนึ่งแน่ะ”
“โอ้โห....แบบนี้ก็เหมือนตกในถังข้าวสารนะสิ”