โซ่ล่ามรัก : ตอนที่ 4
การถ่ายแบบยังดำเนินต่อไป แต่ที่ทำให้บรรยากาศชวนอึดอัดก็เพราะมีสายตาที่คอยจับจ้องการถ่ายแบบอยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้บริหารหนุ่มจะลงมาดูการถ่ายแบบนี้ด้วยตัวเอง ทั้งๆที่โมเดลลิ่งยังไม่ได้ไปรายงานเขาเลยว่าจะมีนางแบบมาแคสงาน แต่ทุกความเคลื่อนไหวในบริษัทต่อให้ไม่มีคนไปรายงานเขาจะรู้ทุกเรื่อง แม้แต่พนักงานในบริษัททะเลาะกันเอง
“ถ้าทำได้แค่นี้ก็กลับไปซะ” อยู่ๆเขาก็พูดขึ้น ทุกอย่างหยุดนิ่ง พอเขาพูดเสร็จก็เดินไปหาเธอที่ยืนอยู่หน้าฉากถ่ายแบบ ทำให้เธอต้องก้าวขาถอยหลังอัตโนมัติในตอนที่เขาเข้ามาใกล้ พร้อมกับเอื้อมมือกำลังจะมาจับที่เสื้อของเธอ
“จะ จะทำอะไรคะ” เธอพูดตะกุกตะกักพร้อมกับปัดมือนั้นออกด้วยความลืมตัว พร้อมกับจ้องหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว เธอมองเข้าไปในนัยน์ตาสีเทานั้น มองเห็นเงาสะท้อนตัวเองผ่านนัยน์ตานั้น ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ สายตานั้นดึงดูดคนรอบข้างก็จริง แต่มันกลับเป็นแววตาที่ว่างเปล่า ไร้ความรู้สึก
“หึ” มือนั้นเข้าไปกระชากเสื้อเชิ้ตตัวบางที่เธอสวมใส่อยู่ทันที ทำให้กระดุมร่วงหล่นตามพื้น เผยในเห็นหน้าอกอันใหญ่โตที่ปิดแทบไม่มิดด้วยบราเซียลูกไม้ สายตานั้นไล่มองลงไปยังแพนตี้ตัวจิ๋ว
“นี่!!! คุณ” เธอรีบเอามือปิดหน้าอกแล้วจับเสื้อมาคลุมร่างเหมือนเดิม
“บริษัทฉันเป็นบริษัทระดับโลก ไม่ใช่งานเด็กอนุบาล” เขาตะโกนใส่หน้าเธอแล้วหันกลับไปมองทีมงานทุกคน ทุกคนต่างก้มหน้าหลบสายตาพิฆาตนั้น พอเขาพูดจบก็เดินกลับมายังที่เดิม
เอ่อ...“บอสคะ เดี๋ยวป้อมบรีฟงานน้องใหม่นะคะ พอดีน้องเขาพึ่งมาวันแรก ป้อมเลยให้น้องเขาถ่ายเบาๆก่อน” โมเดลลิ่งหนุ่มพยายามอธิบายงานให้เจ้านายเขาฟัง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือใบหน้าที่เรียบนิ่ง ไม่พูดอะไร ทำให้โมเดลลิ่งรับรู้ได้ในทันทีว่าควรทำอย่างไร โมเดลลิ่งหนุ่มจึงเดินไปหาเธอแล้วบรีฟงานอีกครั้ง
“พี่ป้อมคะ เกลว่ามันจะโป๊เกินไปนะคะ เกลคงทำไม่ได้แน่” เธอตอบกลับไปหลังจากโดนบรีฟงานเสร็จ สายตาอ้อนวอนนั้นทำให้โมเดลลิ่งลำบากใจไม่น้อย
“พี่เชื่อว่าน้องมิเกลทำได้แน่นอนค่ะ ช่วยพี่หน่อยนะ ขอร้องล่ะ” โมเดลลิ่งหนุ่มกำลังจะยกมือไหว้ขอร้องเธอ แต่เธอเห็นแบบนั้นรีบจับมือห้ามทันที ทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ
“เกลจะลองทำดูค่ะ แต่ถ้าเจ้านายพี่ไม่พอใจก็หานางแบบคนอื่นได้เลยนะคะ เกลทำได้แค่นี้จริงๆ”
ทุกคนสแตนบายถ่ายกันใหม่ทั้งหมด แต่รอบนี้เธอถ่ายออกมาแนวเซ็กซี่สุดๆ ด้วยหน้าอกของเธอที่ใหญ่แทบจะล้นออกมาจากบราเซีย ทรวดทรงองค์เอวของเธอชวนหลงไหน จนทีมงานอึ้งไปตามๆกัน
เขามองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา แต่เขากับพอใจไม่น้อยกับเรือนร่างของเธอ
“โอเค เรียบร้อยครับ เลิกกองได้” เสียงปรบมือดังทั่วสตูดิโอ ทุกคนต่างชื่นชมเธอ ไม่น่าเชื่อว่านางแบบที่ไม่เคยถ่ายงานที่ไหนมาก่อนจะทำได้ขนาดนี้ เธอยิ้มรับและขอบคุณทุกคน พอเธอหันไปมองมุมที่เขาคนนั้นอยู่ กับไม่เห็นเขาแล้ว เธอรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก ที่ไม่มีสายตาคอยกดดันเธอ
“ค่าเหนื่อยวันนี้” เลขาส่งเงินให้เธอ แล้วรู้สึกว่าทำไมมันหนากว่าปกติ ทั้งที่เธอคิดว่าหลักพันแน่นอน แต่เงินปึกหนามากจนเธออดสงสัยไม่ได้
“พี่ทำไมมันดูเยอะจังเลยคะ?”
“ไม่เยอะหรอกก็แค่หนึ่งแสนบาทเท่านั้นเอง”
“ห๊ะ!!! สะ…แสนเหรอคะ เกลแค่ยืนหมุนไปหมุนมาเองนะคะ”
“รับไปเถอะ บอสเขาอนุมัติงบมา พี่มีหน้าที่เอามาให้เฉยๆ”
“เดี๋ยวพี่จะนัดวันให้เรามาเซนต์สัญญาเป็นนางแบบของบริษัทนะคะ”
“ต้องเซนต์ด้วยเหรอคะ เกลคิดว่าคงไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกค่ะ เกลต้องเรียนด้วย แถมยังทำงานพิเศษด้วย”
“พี่ป้อมเขาอยากได้น้องเกลจริงๆนะคะ ไม่งั้นคงไม่ให้พี่มาดูแลแทบจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวหรอกค่ะ”
“เอางี้ลองไปคิดดูละกัน แต่เรื่องเรียนไม่กระทบอยู่แล้วล่ะ ส่วนงานพิเศษอยากจะทำตรงนี้หรืออยากทำเหมือนเดิมก็ลองคิดดูนะ ทุกวันนี้พี่ว่างานไหนได้เงินดีเราควรรีบคว้าไว้” เลขาสาวพูดพร้อมยิ้มให้เธอ
______________
ติ้ง~ ครืด~
มิเกลถึงกับสะดุ้งเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกมา ก็เจอกับคนที่ไม่อยากเจอ ไม่คิดว่าตัวเองจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้
“จะยืนอีกนานไหม” ลูกน้องเขาพูดขึ้นขณะที่เธอกำลังจ้องคนที่อยู่ในลิฟต์
เธอจึงตัดสินใจก้าวขาเข้าลิฟต์ตัวเดียวกับคริสเตียน
“เอ่อ….ฉันว่าคุณให้เงินฉันเยอะเกินไป ฉันแค่มายืนหมุนไป หมุนมา แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย” เธอพูดออกไปทั้งๆที่ก็แอบหวั่นอยู่ไม่น้อย
“ถ้าไม่เอาก็ทิ้งไป” คริสเตียนพูดขึ้นและประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นเป้าหมาย ทำให้ร่างสูงก้าวออกจากลิฟต์เดินชนไหล่เธอไปอย่างไม่ใส่ใจ
@ห้องพัก
เธอก็ยังนั่งมองเงินที่ได้มาวันนี้ มันทำให้เธอคิดว่าจะเอายังไงดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่างานถ่ายแบบเงินนั้นดีจริงๆ แต่เธอก็ลำบากใจที่จะบอกรุ่นพี่คนสนิทที่ร้านกาแฟ เพราะรุ่นพี่นั้นดีกับเธอทุกอย่าง
“เฮ้อออ……”
ตึ๊ง~ เสียงแอปพลิเคชันไลน์แจ้งเตือนดังขัดจังหวะความคิด
Line
Namwhan : วันนี้เป็นไง โอเคไหม?
Miguel : ก็ดี
Miguel : (สติกเกอร์เหนื่อย)
Miguel : ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหม
Namwhan : ได้เสมอเมื่อเพื่อนต้องการ “ร้านเดิม”
@ผับ Zip
“แกช่วยอธิบายที ไม่ใช่มาถึงแล้วกระดกเหล้าแบบนี้ ใครหน้าไหนมันทำอะไรแก” น้ำหวานพูดขึ้น เพราะตั้งแต่มาถึงเห็นเพื่อนตัวเองนั่งกระดกเหล้าเข้าปากไม่พูดไม่จา
“ฉันแค่เลือกไม่ถูกเฉยๆ ว่าฉันควรทำงานไหนดี ร้านกาแฟฉันก็เกรงใจพี่นัททิว แต่งานนางแบบเงินก็ดี”
“นังบ้า ฉันก็นึกว่าใครทำอะไรแก เป็นฉันก็เลือกเงินก่อนอยู่แล้ว ต่อให้แกไม่ทำงานที่ร้านกาแฟ แกก็ยังเป็นน้องที่สนิทกับพี่นัททิวอยู่ดี แต่ถ่ายแบบเสร็จแกก็ยังมาหาพี่เขาได้”
“เออจริงสิ่ >< ทำไมฉันคิดไม่ได้นะ”
“แหมๆ ที่เรื่องเรียนที่ว่ายากแกยังทำได้ เรื่องแค่นี้กลับคิดไม่ได้ ฉันละเชื่อแกเลยยัยเกล”
“งั้นชน วันนี้ฉันเป็นเจ้ามือเอง วันนี้ได้ค่าตัวมาเยอะ ฉันเลี้ยงแกได้สบายเลย” เธอพูดพร้อมกับระบายยิ้มส่งให้เพื่อนสาวคนสนิท มันก็จริงตามที่เพื่อนเธอพูด ทำไมเธอมองข้ามตรงนี้ไป
~เวลาล่วงเลยมาสักพัก~
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” มิเกลลุกขึ้นและไม่ลืมที่จะบอกเพื่อนสาวที่กำลังสนุกสนานกับแสงสีเสียง
ด้านของคริสเตียน
“อาวุธล็อตนี้เรียบร้อยดีไหม” น้ำเสียงเข้มถามลูกน้องคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาไร้ความรู้สึก
“เรียบร้อยดีครับ ผมกับไอ้ฟาโรห์ไปเช็คของด้วยตัวเอง”
“ถ้าใครมันเล่นตุกติก ฆ่ามันได้เลย”
"......"มิเกลกำลังจะเดินผ่านโซนนั้นไป แต่เธอกลับได้ยินเสียงคนคุยกันพอดีทำให้เธอต้องหยุด และตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เหมือนเสียงที่เธอได้ยินนั้นคุ้นหูมาก แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก
ครืด ครืด~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้มิเกลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความรนรานและกดปิดเสียงก่อนรีบเดินออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
“หึ พวกหนูสกปรก” คริสเตียนพูดขึ้นพร้อมกับพยักหน้าให้กับลูกน้องเป็นที่รู้กันว่าต้องทำอะไรต่อหลังจากนี้