บทที่ 1 : บทนำ
โซ่ล่ามรัก : ตอนที่ 1
“ยัยมิเกล แกท็อปวิชาบัญชีอีกแล้วนะ”
เสียงที่ดูตกใจทุกเรื่องและทุกครั้งนั่นคือเพื่อนเธอเอง น้ำหวานเพื่อนสนิท เพื่อนรัก เพื่อนคนเดียวของมิเกลเลยก็ว่าได้ เอาจริงๆ เธอเองพูดคุยกับใครทุกคนก็คือเพื่อนนั่นแหละ แต่เพื่อนคนที่มองหน้าแล้วรู้ใจ มีคนเดียวก็คือน้ำหวานเนี่ยแหละ
“หึ ชินแล้ว”
เธอไหวไหล่ตอบกลับไปแบบมั่นหน้าให้เพื่อนมั่นไส้เล่น เอาจริงๆ วิชานี้ถือว่าค่อนข้างโหดกับนักศึกษาบัญชีเลยก็ว่าได้ เวลาจะสอบเก็บคะแนนแต่ละครั้งทุกคนก็จะติวกันเหมือนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลย เธอกับเพื่อนสนิทก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ติวกันแบบหามรุ่งหามค่ำ
“หมั่นหน้าหมั่นโหนกจริงจริ๊ง~~~”
“ฉันพลาดเองที่ชมแก มันทำให้แกดูหมั่นหน้าไปอีก”
ฮ่า ฮ่าๆๆ
“แต่แกก็เก่งจริงๆ แหละ ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย แกคือเดอะเบสเลย ถามจริงๆ เถอะ แกไม่เหนื่อยบ้างเหรอวะ ไหนจะเรียนหนัก ทำงานเลิกก็ดึก วันหนึ่งแกนอนกี่ชั่วโมงเอง แกคือผู้หญิงถึกจริง”
“ถ้าฉันไม่ทำงาน แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนใช้ละ ต่อให้ฉันได้ทุนเรียนดีไม่ต้องเสียค่าเทอม แต่ค่าห้อง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกละ แกก็น่าจะรู้ดี”
ชีวิตเธอมันไม่ง่ายเลย เงินทุกบาทเธอหาเอง ไม่เคยเดือดร้อนใคร ทั้งเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมันเหนื่อยมากจริงๆ เพราะต้นทุนชีวิตของคนเรามันไม่เหมือนกัน ส่วนน้ำหวานบ้านค่อนข้างมีฐานะเลยก็ว่าได้ ชีวิตลูกคุณหนูซึ่งต่างกับมิเกลสุดขั้ว หลายครั้งที่น้ำหวานเอ่ยปากอยากจะช่วย เอาเงินให้ยืมก่อนเพราะไม่อยากเห็นเธอเหนื่อย แต่เธอก็เลือกที่จะปฏิเสธทุกครั้ง เพราะสุดท้ายแล้ว มิเกลคิดว่าก็ต้องมานั่งใช้หนี้อยู่ดี คิดซะว่าลำบากตอนนี้อนาคตก็จะสบาย ต่อให้ไม่รู้อนาคตข้างหน้าก็ตาม
“เฮ้อ ฉันละเหนื่อยแทนแกจริงๆ เลย ยัยมิเกล”
“แต่วันนี้ฉันขอพาแกไปเลี้ยงที่แกติวสอบให้ฉันนะ แกตกลงกับฉันแล้ว อย่าผิดคำพูดนะ”
ฮ่า ฮ่า...
“อ้อนเป็นเด็กไปได้”
“วันนี้ฉันลางานแล้วละ ฉันจะกินให้แกจนไปเลย”
“โอ๊ย ฉันอยากจนจังเลยคุณเพื่อน”
ฮ่า ฮ่า...ทั้งสองต่างพากันหัวเราะ พูดคุยกันไปเรื่อยๆ ต่อให้เจอกันบ่อยแค่ไหน ทั้งสองคนก็ยังมีเรื่องคุยกันอยู่ตลอดเวลาอยู่ดี
_______________
ติ้ง
ประตูลิฟต์เปิดออก
“เฮ้อ เหนื่อยจังเลย”
“คิดถึงที่นอน คิดถึงหมอนจังเลย”
แกร่ก ครืด~
มิเกลเปิดประตูเข้าห้องด้วยความเหนื่อยล้า ห้องของเธอเป็นห้องเล็กๆ ตามแบบหอเด็กมหาวิทยาลัยทั่วไป เตียงนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำ โต๊ะกินข้าว ก็คือห้องเดียวกัน เธอใช้ชีวิตในห้องสี่เหลี่ยมแบบนี้จนชินแล้ว ชีวิตเธอไม่ได้สุขสบายมาตั้งแต่แรก ตอนเด็กอาศัยอยู่กับปู่ย่าที่ต่างจังหวัด เธอนับถือปู่ย่าเหมือนพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเอง พ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอเลือกที่จะไม่รับรู้เรื่องราวของพ่อแม่เธอเอง ไม่อยากเห็นแม้แต่รูปถ่าย เธอไม่คิดที่จะตามหา พอเริ่มโตขึ้นหาเงินได้เธอก็จะทำงานแบ่งเบาภาระปู่กับย่า จากเด็กต่างจังหวัดต้องมาเรียนในเมืองกรุงมันไม่ง่ายเลย แต่เธอก็โชคดีที่ได้เพื่อนดีๆ อย่างน้ำหวาน
ติ๊ด ติ๊ด ~ (เสียงนาฬิกาปลุก)
ฮ้าววว อื้ออ~ เธอสะลึมสะลือพร้อมกับบิดขี้เกียจไปด้วย
เมื่อมองดูนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเย็นแล้ว น้ำหวานบอกจะมารับตอน 2 ทุ่ม เธอจึงเดินเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วเดินไปเลือกเสื้อผ้า เลือกวนไปวนมา สุดท้ายก็เลือกเดรสสายเดี่ยวสีดำตัวสั้น แหวกหน้าอกนิดหน่อย ถึงเธอจะเด็กบัญชีแต่สไตล์การแต่งตัวก็สวนทาง คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเด็กบัญชีต้องเรียบร้อย แต่ตัวเธอนั้นไม่เลย เธอคิดว่าการแต่งตัวมันคือภายนอก ใครจะมองไงก็ช่าง เราไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นเขามองจะแคร์ทำไม
แต่งหน้านิดหน่อย เติมปากนิด ปัดแก้มหน่อย ปล่อยผมดัดลอนปลายแอบเซ็กซี่เบาๆ ตามสไตล์
ก๊อกๆ ๆๆ
“ยัยมิเกลเสร็จหรือยัง”
“เสร็จแล้ว ไปกันเลยไหม”
“โอโห~~ ไหนบอกว่าเบาๆ ไงยะหล่อน แต่งตัวแบบนี้หวังได้กลับมาสักคนว่างั้น”
ฮ่าๆๆ “แกนี่เวอร์ตลอด”
น้ำหวานใช้สายตามองอย่างพินิจพิจารณา เด็กสาวใบหน้ารูปไข่ได้รูป ปากนิด จมูกหน่อย อกคัพ D เลยก็ว่าได้ ทุกอย่างมันดูเพอร์เฟคไปหมด
“นี่!!! แกไม่ลองไปสมัครพวกนางแบบ หรือลองถ่ายแบบดูอะ นมก็บึ้ม สะโพกก็ดี ขายาว หุ่นเซียะ นี่มันหุ่นนางแบบชัดๆ”
“เอาไหม ฉันมีคนรู้จักอยู่นะ เงินน่าจะดีกว่าร้านชงกาแฟที่แกทำอยู่”
อือ... “ฉันขอคิดดูก่อนละกัน ฉันกลัวไปทำบริษัทเขาเจ๊งมากกว่า ใครจะอยากมาดูนางแบบโนเนมอย่างฉันละ”
“เชื่อฝีมือน้ำหวานเถอะ หึๆ สายตาฉันถึงนะ ฉันว่าแกได้ขึ้นปกนิตยสารแน่นอน” น้ำหวานพูดแววตาเป็นประกายเหมือนเห็นอะไรในตัวเพื่อนของเธอ
“เรื่องนั้นเดี๋ยวฉันให้คำตอบ แต่ว่าตอนนี้จะไปได้ยัง”
ฮ่าๆ ๆๆ “ไป ไปไปได้แล้วค่ะ”
ณ ผับ Zip
ตื๊ด ตะ ตื๊ด ดึ้ด
สายตานับสิบหันมามองตอนที่พวกเธอทั้งสองคนที่กำลังเดินเข้ามาในผับ
แสงสียามค่ำคืน เสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ผู้คนมากมายต่างมาเที่ยวเลี้ยงสังสรรค์กันสนุกสนาน บางคนก็เต้น บางคนก็นัวเนียกันตามประสา บางคนก็เมาเละเทะ
ที่นี่มี 2 ชั้น ชั้นล่างก็เป็นแนวปาร์ตี้ สายวัยรุ่น หรือนั่งตามบาร์ เหมือนผับทั่วไป แต่ชั้น 2 เป็นโซน VIP ซึ่งคนที่จะได้ขึ้นไปก็ระดับตัวท็อปๆ พวกกระเป๋าหนักทั้งนั้น เพื่อนของเธอชอบเล่าให้ฟังว่า ข้างบนเป็นพวกผู้มีอิทธิพลใหญ่ หรือเรียกง่ายๆ ว่ามาเฟีย ฉากหน้าดูเหมือนนักธุรกิจทั่วไป แต่ฉากหลังก็อำนาจมืดทั้งนั้น
“นี่ เกล แกว่าจะมีผู้ชายคนไหนมาจีบแกปะ แบบขอไลน์หน่อยครับ ขอเบอร์หน่อยครับ มีแฟนหรือยังครับ”
พอ! “หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว” เธอรีบยกมือห้ามเพื่อนของเธอทันที เธอรู้ว่าน้ำหวานอยากให้เธอมีแฟน
“ฉันไม่คิดเรื่องแบบนั้นหรอก คิดแล้วน่าปวดหัว อยู่คนเดียวสบายจะตาย ไม่ต้องคอยแคร์ ไม่ต้องคอยสนใจ”
“ถามจริง! แกไม่เหงาเหรอวะเกล”
เธอเลือกที่จะไม่ตอบ แล้วยกเหล้ามากระดกหมดแก้ว พร้อมกับโยกไปตามจังหวะเพลงมันๆ น้ำหวานเองก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อะไรอีก ทั้งสองคนก็สนุกกอดคอกันเต้นตามจังหวะเพลงไปอย่างเมามัน แอลกอฮอล์เข้าปากมันเหมือนทำให้สนุกกันมากขึ้น