โซ่ล่ามรัก : ตอนที่ 2
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แกอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”
“อืมๆ ได้เซ่...อึก ”
“แกไหวแน่นะยัยหวาน”
“แกไปเข้าห้องน้ำเถอะ ฉันอยู่ด้าย~”
ตึก ตึก ตึก
สายตาของเธอก็มองไปเห็นคนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสอง โซน VIP ผู้ชายร่างสูง ผมสีดำสนิท ที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำปลอดกระดุมเผยให้เห็นหน้าอกเล็กน้อย กางเกงขายาวสีดำ หุ่นอย่างนายแบบ มีลูกน้องเดินนำหน้า 2 คน ซ้ายขวา หน้าตาหล่อเข้มตามสไตล์ชาวยุโรปชวนให้เธอหลงเข้าไปในภวังค์ จนผู้ชายคนนั้นเดินมาหยุดที่ตรงหน้าเธอ เธอสังเกตเห็นนัยน์ตาสีเทาคู่นั้น ถึงจะมองไม่ชัดเพราะในผับค่อนข้างสลัว แต่แววตานั้นว่างเปล่า ไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย
“ขะ ขอโทษค่ะ” เธอพูดออกไปอย่างติดๆขัดๆ ทั้งที่เธอเองก็ไม่รู้จะขอโทษเขาทำไม แต่ความรู้สึกของเธอ คิดว่าผู้ชายคนนี้คือบุคคลอันตราย ไม่ควรเข้าใกล้ เธอจึงรีบหลบและเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที
ฟู่วว~ “คนอะไรน่ากลัวชะมัด” เธอใช้เวลาในห้องน้ำไม่นานก็ออกมานั่งโต๊ะกับเพื่อนเธอตามเดิม
“หวานฉันถามอะไรหน่อย”
“คนที่เดินออกจากผับไปเมื่อกี้นี้อ่ะ เขาคือใครเหรอ”
“ที่ออกไปพร้อมกับลูกน้องนั่นนะเหรอ เขาคือ…คริสเตียน”
“เจ้าพ่อใหญ่ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลเลยก็ว่าได้ ใครๆก็ต่างเคารพ เปลี่ยนจากดำให้เป็นขาวได้ง่ายมาก ฉากหน้าคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่หลายบริษัทก็อยากให้เขามาร่วมลงทุนด้วย แม้แต่บริษัทของพ่อฉันเองก็อยากให้เขามาร่วมเหมือนกัน เงินหนา กระเป๋าหนัก”
“แกสนใจเหรอ”
“จะบ้าเหรอ” เธอรีบตอบกลับไปแบบไม่คิด
“แค่เมื่อกี้ฉันเดินผ่านแล้วเห็นเขากำลังลงมาพอดี แค่เห็นก็ดูน่ากลัวยังไงไม่รู้”
“เซนส์แกใช้ได้นะ นี่แหละ บุคคลอันตรายตัวจริง ออกห่างได้ควรออกห่างจะดีกว่า”
พอเพื่อนเธอพูดจบก็ออกไปเต้นตามเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน ปล่อยให้เธอนั่งคิดนึกถึงใบหน้าเขาคนนั้น เธอไม่ได้พิศวาสอะไรเขาหรอก แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดึงดูดมันทำให้เธอลบภาพนั้นไม่ได้เลย
—//—//—//—//—
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงนาฬิกาปลุก ปลุกให้คนที่กำลังหลับอยู่สะลึมสะลือขึ้นมาในช่วงสายๆของวันใหม่ บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลา 10 โมงเช้าแล้ว เธอต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟช่วงบ่าย
“ไม่อยากลุกเลย” เธอรีบเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาทันที แล้วหยิบโทรศัพท์มานอนเล่นบนเตียงนอน ดูข่าว ดูโซเชียลไปเรื่อย สักพักก็ลุกเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
@ร้านกาแฟ
“สวัสดีค่ะพี่นัททิว” เธอพูดสวัสดีพร้อมยกมือไหว้เจ้าของร้านกาแฟที่เธอทำงานอยู่ เธอทำแบบนี้ทุกครั้งเวลามาทำงาน เธอจะสวัสดีทุกคนตามมารยาท
“ว่าไงเรา สอบบัญชีเป็นไงบ้าง” นัททิวเอ่ยถามขึ้นเพราะเขารู้ดีว่าวิชานี้มันยาก
“เฮ่อ~ เซ็งค่ะ มันยากจริงๆค่ะ” เธอตอบด้วยใบหน้าที่เศร้าลงทันที หน้าตาผิดหวังจนคนที่ถามเห็นยังรู้สึกผิดไปด้วยที่ถามแทงใจ
“เอาหน่า ไม่ต้องเศร้าไป งั้นวันนี้พี่ให้เราเลิกเร็วได้ พี่ไม่หักเงิน ถือซะว่าปลอบใจ”
“จริงเหรอคะ พี่นัททิวพูดแล้วนะ” หน้าตายิ้มแย้มขึ้นมาทันตาเห็น ใบหน้าเจ้าเล่ห์ออกมาทันที
“ดะ เดี๋ยวนะ อย่าบอกว่าเธอโกหกพี่”
“เกลได้ท็อปของกลุ่มเลยละค่ะ” เธอพูดพร้อมยักคิ้วเอามือกอดอกแสดงความภูมิใจในตัวเอง
“นิ เด็กแสบ กล้าโกหกพี่เหรอ” นัททิววิ่งไล่จะไปตีเด็กสาว แต่แล้วเธอก็วิ่งหนีพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ดีที่ตอนนี้ร้านยังไม่เปิด เลยไม่มีลูกค้าในร้าน
“วันนี้พี่นัททิวพูดแล้วนะคะว่าให้เกลกลับเร็วได้” เธอตะโกนไปด้วยพร้อมกับวิ่งหนีไปรอบๆร้าน จนต้องยกมือยอมแพ้
แฮ่ก แฮก
“แสบนักนะยัยตัวแสบ ไปเตรียมเปิดร้านได้แล้ว” นัททิวเดินเข้ามาดีดหน้าผากเบาๆ กับความมันเขี้ยวหญิงสาวตรงหน้า เธอก็หัวเราะร่าเริงกับความเป็นกันเองของชายหนุ่มตรงหน้า
ครืด ครืด~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่เธอกำลังจะกลับห้อง เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอแสดงชื่อเพื่อนสาวคนสนิทของเธอ
“ฮัลโหล”
“ยัยเกล เรื่องงานถ่ายแบบแกว่าไง พอดีพี่ที่รู้จักเขากำลังหานางแบบอยู่พอดี ฉันอยากให้แกลองไปดู”
“อือ…ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยจริงๆ”
“แต่มันคือโอกาสแกเลยนะ ถ่ายครั้งหนึ่งก็ได้หลายพัน ถ้าดีหน่อยก็ได้เป็นหมื่นเลยนะ แค่ไปยืนโพสต์ทำหน้าสวยๆ”
เธอทำหน้าครุ่นคิดกับคำพูดของเพื่อนเธอ “แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างละ”
“เดี๋ยวแกไปที่ บริษัทเคทีกรุ๊ปนะ ไปติดต่อขอพบพี่ป้อม บอกมาจากฉัน ส่วนรูปภาพแกฉันส่งให้พี่ป้อมดูเรียบร้อยแล้ว”
ห๊ะ! เธออุทานด้วยความตกใจกับความรวดเร็วทันใจกับเพื่อนสนิท
“เชื่อฉันแกทำได้อยู่แล้ว” ปลายสายพูดส่งกำลังใจให้เธอ
“ โอเคๆ ฉันจะลองเชื่อแกดู แกคงไม่ส่งฉันไปตายหรอก”
“งั้นตกลงตามนี้ บาย” ติ๊ด ปลายสายวางไป
“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไม่ลองก็ไม่รู้ งานคือเงินท่องไว้นะมิเกล” เธอพูดให้กำลังใจตัวเอง ขณะที่กำลังรอรถแท็กซี่เพื่อจะไปบริษัทที่ถ่ายแบบ