แค้นซ่อนสวาท
ตอนที่12 ดูถูก ดูแคลน
___________________
"ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะฉันก็กลัวโรคจากเธอเหมือนกัน"คีย์รินทร์กระตุกปมผ้า สลัดมันให้พ้นหูพ้นตาด้วยความรำคาญ กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เจือมากับลมหายใจทำให้อัยวารู้สึกสะท้านแปลก ๆ มันหอมรัญจวนจนทำให้เธอปั่นป่วนในอารมณ์
คีย์รินทร์ส่งปลายนิ้วหยาบไล้ไต่ตามไหปลาร้า วนเล่นไปมาจนอัยวาขนลุก ไม่ว่าคีย์รินทร์จะแตะตรงส่วนไหนของร่างกายเด็กสาวก็ร้อนรุ่มจนเหงื่อซึมผุด คล้ายกับไฟฟ้ากำลังแล่นผ่านทั่วเรือนกาย ยิ่งคนตรงหน้าแสดงท่าทางหื่นกามด้วยการเลียริมฝีปาก ร่างบางยิ่งตื่นตระหนกด้วยความกลัว
อัยวาถูกผลักด้วยความแรง ร่างทั้งร่างนอนแผ่หลาลงบนที่นอนนุ่มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว มือทั้งสองข้างส่งปิดหน้าอกและดอกไม้งามด้วยความหวงแหน ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องเปลือยร่างกายต่อหน้าชายใด กายบางสั่นเทิ้ม แม้อุณหภูมิภายในห้องจะเย็นยะเยือกแต่ร่างกายเด็กสาวแรกรุ่นกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อเมื่อเจอเข้ากับสายตาอันเย็นชาและดุดัน
"แสดงละครเป็นเด็กสาวที่ไม่เคยผ่านดุ้นชายได้เก่งนี่"
คีย์รินทร์ถากถาง มุมปากโค้งขึ้นด้วยความเหยียดหยัน ขยับร่างหนาขึ้นคร่อมกักขังเด็กสาวไม่ให้เธอได้ขยับหนี ดวงตาลุ่มลึกก้มมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้นัยน์ตาสั่นระริกอย่างหวาดกลัว ยิ่งอัยวาหวาดผวาตื่นกลัวมากเท่าไรนักล่าเสือร้ายอย่างคีย์รินทร์ยิ่งชอบ
"หน้าอกเธอสวยดีนะ ผ่านปากและมือชายมากี่คนแล้วล่ะ"คำชมที่มาพร้อมกับคำดูถูกเหยียดหยาม ทั้งที่ภายในใจรู้ดีว่าอัยวาเด็กน้อยตาแป๋วบริสุทธิ์มากแค่ไหน แค่จูบยังเงอะงะไร้เดียงสาจนน่าเอ็นดู แต่วันข้างหน้าคีย์รินทร์อยากให้เธอได้ดูเอ็น…
งับ!
อ๊ะ!!
"หนูอัย จะ เจ็บ"เสียงเล็กเจือสั่นเมื่อถูกปากหยักขบกัดเม็ดถันด้วยความแรง คีย์รินทร์ดึงดูดด้วยความรู้สึกคือมันเขี้ยว มืออีกข้างเคล้นคลึงบีบขยำจนเนื้อหน้าอกขาวปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้วใหญ่ คีย์รินทร์สนุกไปกับความเจ็บและความทุกข์ทรมานของคนใต้ร่าง เขาทั้งบีบทั้งขยำจนทำให้อัยวาส่งเสียงร้องอ้อนวอนได้อย่างน่าเวทนา
"ฮึก คุณคี ปะ ปล่อยนะคะ หนูอัยเจ็บ"ยิ่งเธอร้องห้ามด้วยน้ำเสียงเจือไปด้วยความเจ็บปวดคีย์รินทร์ยิ่งถูกใจ โดนแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก เพราะนี่มันแค่เริ่มต้น ชายหนุ่มค่อนขอดภายในใจ
"หน้าอกใหญ่แต่โคตรไร้ประสิทธิภาพ ไม่หวาน แค่ใช้ลิ้นแตะความรู้สึกก็คืออยากจะอ้วก"คีย์รินทร์ผละร่างหนาออกจากการคร่อม มองเนื้อบางที่ขึ้นรอยแดงช้ำด้วยความรู้สึกสงสาร ทว่าอีกใจกลับกู่ก้องร้องบอกว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องแล้ว เขาไม่ได้พิศวาสเธอ ไม่ได้สนร่างกายของเธอ เพราะฉะนั้นจะเกิด รอยแดง รอยช้ำ ก็ช่าง
ความรู้สึกของคนฟังคือมันรู้สึกแย่จนพรั่งพรูออกมาเป็นน้ำตา แค่มาเป็นตัวแทนในการแก้แค้นก็แย่พอแล้ว ยังมาเจอคำพูดดูถูก ทำเอาอัยวาสะอื้นขึ้นมา เนื้ออกด้านซ้ายของคีย์รินทร์กลับกระตุกวูบราวกับเจ็บไปกับเธอด้วยเมื่อเห็นน้ำตาแห่งความเสียใจ
"ฮึก ทำไมต้องว่าหนูอัยแรง ๆ ด้วย ฮึก ทำไมต้องว่าให้เสียใจ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาหนูอัยไม่เคยให้ผู้ชายหน้าไหนถูกเนื้อต้องตัว ฮึก ไม่เคยเลยสักครั้ง"ร่างบางตัดพ้อ ไหนบอกว่าทำดีย่อมได้ดี ต่อไปนี้เธอจะไม่เชื่ออะไรอีกแล้ว
"ลุกขึ้น เห็นน้ำตาแล้วโคตรรำคาญหมดอารมณ์ ออกไป"กลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองด้วยการออกคำสั่ง น้ำเสียงดุดันตะคอกดังลั่นทำเอาอัยวาเสียใจร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม พยายามที่จะไม่เสียน้ำตา สุดท้ายเธอมันก็เป็นได้แค่คนขี้แพ้ แพ้มาตลอดทั้งชีวิต
"บอกให้ลุกขึ้นไง หูหนวกหรือไงวะ!"
"…"
"อ้อ!ที่ไม่ลุกคืออยากโดนเอา"ชายหนุ่มเกลียดนักคนที่กล้าขัดคำสั่ง เขากระชากแขนบางจนร่างที่นอนเปลือยให้เด้งขึ้นมาด้วยกำลัง อัยวาถูกบดจูบด้วยความรุนแรง เธอไม่ได้ต่อต้านนั่งนิ่งให้คนใจดำกระทำเธอได้อย่างสมใจ กลิ่นคาวเลือดโชยคลุ้ง เธอรู้สึกเจ็บแสบ ระบมทั่วริมฝีปาก ได้แต่ท่องไว้ภายในใจว่าให้อดทน
"ไง ! รู้สึกดีจนต้องนั่งนิ่งให้ฉันจูบเลยเหรอ?"ใบหน้าหวานมีแต่คราบน้ำตา คีย์รินทร์พยายามไม่มองมัน เพราะทุกครั้งที่เห็นใจมันรู้สึกเจ็บ ลำคอตีบตันอย่างบอกไม่ถูก
คีย์รินทร์ตั้งใจส่งท้องนิ้วโป้งกดซับมุมปากที่มีเลือดสีเข้มซึมขึ้น แต่มือกลับต้องชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรเมตตาหรือเห็นใจศัตรู คำด่าทอ และทำให้อีกคนเสียใจ ทรมาน เท่านั้นถึงจะเหมาะสม
"นอนลงไป ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ในเมื่อฉันให้โอกาสไปเธอไม่ยอมไปเอง"อัยวาแนบตัวลงไปกับที่นอน ดึงผ้าห่มผืนหนาที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาปิดกายด้วยความรู้สึกสมเพชตัวเอง
คีย์รินทร์กลับไปนั่งที่โซฟา รินเหล้าอุ่นเพียวใส่แก้วคริสตัล สาดลงลำคอด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดที่อีกคนทำให้เขารู้สึกจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง
แก้วแล้วแก้วเล่าที่ชายหนุ่มสาดความเมาใส่คอแกร่ง แต่แค่นี้ไม่ระคายเคืองคอให้ชายหนุ่มรู้สึกมึนเมาหรอก ฤทธิ์เมรัยทำได้แค่ทำให้ลำคอหนาแห้งผาก สิ่งที่มอมเมาและจะทำให้เขาไม่มีสติได้คือร่างเล็กนั่นต่างหาก
สักพักขาแกร่งก้าวเดินไปยังเตียงนอน มองร่างบางที่หลับตาพริ้ม ผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ดวงตาที่เคยมืดลึกดุจดั่งหุบเหวกลับอ่อนโยนลง ไร้รังสีอำมหิต
คีย์รินทร์แทรกตัวลงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน นอนหงายใช้มือก่ายหน้าผากอย่างคิดไม่ตก กลิ่นกายของสาวบริสุทธิ์ช่างรบกวนจิตใจเขาเหลือเกิน จนท้ายสุดต้องตัดสินใจนอนหันหลังให้ กะว่าจะท่องพุทโธ ธัมโม ภายในใจ แล้วพยายามข่มตาให้หลับไป คิดง่ายแต่ทำโคตรยาก…
"ตัวหลับ แต่ส่งกลิ่นกายเหม็น ๆ มารบกวนคนอื่นเขา แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน"คีย์รินทร์ยิ้มในหน้า ปากบอกว่าเหม็น แต่ลำแขนแกร่งกลับคว้าร่างบางให้มาซบแนบอก โอบกอดสูดดมกลิ่นผมคนตัวเล็กอย่างชื่นใจชุ่มปอด อารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านเมื่อครู่อันตรธานหายไปเฉียบพลัน คีย์รินทร์ไม่คิดเลยสักนิดว่าจะต้องมาทำตัวเป็นแมวขโมย แอบกอด แอบหอมเด็กสาวที่เขาทำให้เธอเสียน้ำตา เสียเหลี่ยมชะมัด รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น
"โคตรเหม็นเลยว่ะ!"