แค้นซ่อนสวาท
ตอนที่13 อย่าอ่อยลูกน้อง
___________________
แสงแดดสาดส่องเข้ามาในยามเช้า ไอความเย็นจากด้านนอกที่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทำให้อุณหภูมิภายในห้องนอนเย็นขึ้นเป็นเท่าตัว ร่างบางขยับเบียดซุกอิงแอบหาความอบอุ่นให้กับร่างกาย เมื่อได้ที่เธอจึงแน่นิ่งหลับลงไปอีกครั้ง
"จะเบียดอะไรหนักหนา มันขึ้นจนไม่ลงอยู่แล้ว"แขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กอย่างไม่ยอมปล่อยผ่าน แม้ปากจะพึมพำคล้ายตำหนิรำคาญแต่กลับไม่ขยับหนีไปไหน ได้ร่างเล็กมาเป็นหมอนข้างให้ก่ายให้กอดฟินไปอีกแบบ
ปลายนิ้วสากเย็นเล็กน้อย ส่งปัดปอยผมที่ปกปิดใบหน้าหวานทัดเข้าไปที่หลังหูเล็ก แก้มอิ่มที่ไร้เครื่องสำอางงดงามขึ้นสีชมพูระเรื่ออย่างน่ามอง ผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนผิวเด็ก เมื่อก่อนน่ารักยังไงวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงในความรู้ของคีย์รินทร์
"ลุกขึ้นได้แล้วจะนอนกินบ้านเมืองหรือไง"ร่างบางถึงกับสะดุ้งโหยง เสียงอำมหิตวิ่งแล่นเข้าโสตประสาทจากที่หลับลึกอย่างฝันหวานต้องหวาดผวาลนลานตื่นขึ้นคล้ายกับฝันร้าย
"หนูอัยขอโทษค่ะ"ร่างบางหันซ้ายหันขวางัวเงีย ขยับลุกอย่างหลงลืมว่าร่างกายไร้เสื้อผ้าปกปิด สองเต้าขาวผ่องเด่นงาม ทำเอาคนเห็นจิตใจกระเจิดกระเจิงปวดหนึบไปจนถึงช่วงล่างที่ตอนนี้กำลังเหยียดตรงเคารพธงชาติ
"คิดจะอ่อยฉันหรือไง"
อ๊ะ!
คีย์รินทร์รั้งเอวคอดเล็ก ขยับตัวใช้ปากงับเต้างาม ดูดดึงปลายถันอย่างทะนุถนอม อัยวาซ่านเสียว กายบางร้อนเร่าคล้ายกับถูกพิษไข้เล่นงาน แต่ความรู้สึกที่แทรกซึมขึ้นมาคือกำลังน้อยใจ
จากที่คิดจะดิ้นรนหรือต่อต้าน เธอกับนั่งนิ่งราวรูปปั้นให้อีกคนรังแก เธออยู่เพื่อให้เขาแก้แค้น เมื่อเด็กสาวตระหนักได้ถึงตรงนี้เธอจึงควรทำตามข้อตกลง
"ชอบเหรอ?นั่งนิ่งเชียว"คีย์รินทร์ผละปากหยักออกจากเต้างาม จูบลงที่เนื้ออิ่มสองเต้าในระหว่างที่ถาม เห็นคนตัวเล็กนิ่งเงียบใช่ว่าเขาจะรู้สึกดี
อัยวาส่ายหน้าไปมาให้เป็นคำตอบ เธอไม่ได้ชอบ และเธอก็ไม่อยากเป็นที่รองรับอารมณ์ของใครในช่วงเช้า ดวงตากลมโตที่งัวเงียเมื่อสักครู่มันร้อนผ่าวเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้
"หนูอัยไปได้หรือยังคะ?"ไม่รู้ตัวสักนิดว่าน้ำตาไหลอาบบนแก้ม คีย์รินทร์ผันหน้าไปอีกทาง ใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างระงับอารมณ์ โคตรอยากดึงเข้ามากอดปลอบ แล้วบอกว่าขอโทษ
"ไปสิ ต่อไปที่ซุกหัวนอนของเธอคือบ้านขาว ทำความสะอาดที่นั่นให้สะอาดในช่วงเช้า แล้วตามไปรับใช้ฉันที่บริษัท"คีย์รินทร์ออกคำสั่งอย่างไม่ใส่ใจ ลุกจากเตียงโดยร่างกายไร้ซึ่งเสื้อผ้าอาภรณ์
"ค่ะ หนูอัยจะทำตามที่คุณสั่ง"อัยวาขยับร่างเปลือยเปล่าออกจากผ้าห่มด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว เดินตรงไปยังห้องน้ำสวมใส่เสื้อผ้าชุดเก่าแล้วเดินออกจากห้องไป หลงเหลือไว้เพียงกลิ่นกายหอมที่คีย์รินทร์หลงใหล
"เธอมันแม่มดชัด ๆ "ตัวออกจากห้องไปแต่กลับทิ้งกลิ่นอาย ที่ทำให้คีย์รินทร์ปั่นป่วนจนรู้สึกหงุดหงิดหัวใจ
@บริษัทฉัตรบริพัตร
รถลีมูซีนสีดำเงาวับสะท้อนกับแสงแดดคล้ายกับรถทั้งคันเคลือบไปด้วยกระจก สมรรถนะของตัวรถ 859 แรงม้า แล่นจอดเข้าเทียบหน้าบริษัทด้วยความเร็ว
รปภ ที่ยืนรักษาความปลอดภัยอยู่ด้านหน้า รีบสับเท้าวิ่งเข้ามาเปิดประตูให้เจ้านายด้วยความเร็ว คีย์รินทร์ก้าวเท้าลงมาด้วยท่วงท่าสง่า เขาคือราชสีห์ผู้กุมบังเ**ยนเศรษฐกิจในไทย ผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดในเอเชีย
"ลงมา นั่งเหมือนคนเป็นใบ้ ตาบอด หูหนวกเชียว"อัยวาค่อยๆ ก้าวลงมา ชุดที่เธอสวมใส่ไม่ควรจะได้นั่งบนรถหรูราคาแสนแพง เด็กกะโบโลแต่งตัวบ้านๆ ควรจะยืดแขนโหนรถเมล์มาถึงจะเหมาะสม
"นี่ครับคุณหนูอัย"เคยื่นกระเป๋าเอกสารให้เด็กสาวได้ถือเมื่อเห็นคำสั่งทางสายของเจ้านาย เรื่องอ่านใจนายเก่งต้องยกให้เค
อัยวารีบเดินตามร่างหนาที่มีความสูงราว 189 เซนติเมตร ซึ่งเธอสูงเพียงแค่ช่วงอกเมื่อยืนอยู่ใกล้ ๆ ชายหนุ่ม อัยวากึ่งเดินกึ่งวิ่งด้วยความเร่งรีบ อีกคนเดิน อีกคนวิ่ง ด้วยช่วงขาที่ยาวไม่เท่ากัน
เด็กสาวหอบเหนื่อยใบหน้าซีดเซียวไร้เลือดฝาดแต่งแต้ม เธอทำความสะอาดบ้านขาวในช่วงเช้าตรู่ งานบ้านค่อนข้างหนักและเกินกำลัง ซึ่งเป็นข้อห้ามที่คุณหมอเคยสั่งไว้อย่าทำงานหนัก ไม่อย่างงั้นเธอจะได้เข้าทำการผ่าตัดหัวใจอีกครั้ง
คีย์รินทร์แอบมองกระจกด้านข้างของตัวลิฟต์ที่ส่องสะท้อนเด็กกะโบโล ในอ้อมกอดของเธอมีกระเป๋าเอกสารของเขาที่เอาไว้ถือแต่เธอดันเอามันไปกอดคล้ายกับเป็นของรักของหวง
เสียงสูดลมหายใจเข้าปอด เหมือนคนต้องการออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงหัวใจตลอดเวลาของอัยวา นั่นถึงกับทำให้คิ้วหนาเคลื่อนตัวเข้าหากันด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้คีรินทร์เอ่ยถาม เพราะไม่จำเป็นต้องรู้ จะตายก็ตาย จะอยู่ก็อยู่ ชายหนุ่มคิดเพียงแค่นั้น
"อย่ามาทำตัวอ่อนแอเรียกคะแนนสงสารอัยวา"คีย์รินทร์ใช้สายตาแข็งกร้าวจ้องมอง อัยวาได้แต่ก้มหน้า เธอเหนื่อยจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว ไม่ได้ทำตัวอ่อนแอเรียกคะแนนสงสารจากใครเสียหน่อย
ติ๊ง!
ตัวลิฟต์เคลื่อนจากชั้นล่างจนถึงชั้นบนสูงสุด คีย์รินทร์ก้าวขาแกร่งออกมาด้วยความมั่นคงเมื่อประตูเปิดออก เขาใช้หางตามองคนตัวเล็กก็เห็นเธอเดินตามมาติด ๆ เลขาหน้าห้องและบอดีการ์ดสองสามคนยืนต้อนรับ โค้งคำนับในยามที่ชายหนุ่มเดินผ่าน
"ขอกาแฟด่วนคุณจิน"คีย์รินทร์หันมาสั่งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน
"รับทราบค่ะเจ้านาย"จินดาอยากจะถามอยู่หรอกว่าเด็กสาวหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูคนนี้เป็นใคร แต่พอนึกขึ้นได้ก็ไม่ควรเผือกเรื่องของเจ้านาย เป็นลูกน้องที่ดีควรทำตามคำสั่งและรอรับเงินเดือนทุกสิ้นเดือนก็พอ
อัยวามองไปรอบ ๆ ห้องกว้าง เมื่อตัวของเธอหยุดยืนอยู่กลางห้องทำงานหรูหรา โต๊ะทำงานตัวใหญ่เหมาะสมกับราคาและตำแหน่งที่ชายหนุ่มดำรงอยู่ ห้องสีครีมที่มองแล้วให้มีสมาธิในการทำงาน แต่ทว่าภาพครอบครัวที่แขวนอยู่บนฝาผนังทำเอาอัยวารู้สึกอ้างว้างแทนชายหนุ่ม ที่มีใบหน้าเรียบตึงอยู่ในตอนนี้
"ไปช่วยคุณจินชงกาแฟ"คีย์รินทร์ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ เปิดแฟ้มดูรายละเอียดสำคัญที่เลขาจัดเตรียมไว้ให้ในช่วงเช้า จินดาเป็นเลขาที่ทำงานอย่างละเอียดรอบคอบไม่เคยมีข้อผิดพลาด นี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่เธอได้ทำงานอยู่ในตำแหน่งนี้มานานโดยที่คีย์รินทร์ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยน
"ค่ะ"
"ให้ไปช่วยคุณจินชงกาแฟนะ อย่าเที่ยวไปอ่อยลูกน้องฉัน"