แค้นซ่อนสวาท
ตอนที่10 สัตว์เลื้อยคลาน
___________________
"เธอมันก็เหมือนอาหารที่จืดชืด ไร้ซึ่งรสชาติความอร่อย"ชายหนุ่มกล่าวหา ทั้งที่ความจริงมันหวานล้ำจนเขาติดอกติดใจ แม้จะผ่านมาหลายปี ปากอิ่มเล็กก็ยังหอมหวานรัญจวนใจเขาเสมอ
"คุณโกหก คุณเคยบอกว่าปากของหนูอัยหวาน"อัยวาเถียงกลับ ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง เหมือนจะหัวอ่อนว่านอนสอนง่าย แต่จริงๆหญิงสาวกลับรั้นพอตัว ดูจากท่าทางตอนนี้ที่แสดงออกคีย์รินทร์ก็พอจะรู้
"ตอนนั้นฉันเมา ลิ้นมันคงชาจนไม่รู้ว่า อันไหนหวาน อันไหนขม หรือว่าอันไหนมันจืดชืด"คีย์รินทร์ยิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อทำให้อีกคนมีใบหน้างอง้ำได้ เขารู้สึกสนุกไปอีกแบบ ชีวิตเริ่มมีรสชาติ
"เป็นสัตว์เลื้อนคลานจำพวกไม่มีลิ้นรับรสสินะ"
เสียงเปรียบเทียบระยะเผาขน ทำเอาคีย์รินทร์แทบอยากจะเดินไปหักคอที่เธอกล้าเอาเขาไปเปรียบเทียบกับสัตว์จำพวกตระกูลเลื้อยคลาน
"เธออยากโดนพวกสัตว์เลื้อยคลานไม่มีลิ้น ใช้ปากขบเม้มน้องสาวเธอไหมล่ะ"
คีย์รินทร์ยิ้มร้าย สายตาแพรวพราวด้วยความเจ้าเล่ห์ เขาใช้ดวงตาลุ่มลึกกวาดมอง แล้วหยุดตรงนั้น ทำเอาเด็กสาวแก้มร้อนผ่าว เขาตั้งใจมองต่ำเพื่อกลั่นแกล้ง แต่กลับเป็นเขาเองที่หายใจไม่ทั่วท้อง สามเหลี่ยมนูนเด่นเป็นสง่าอย่างชัดเจนจนทำให้เขาอยากเห็นเนื้อในของมัน
"คุณมันทุเรศ"
"ถึงฉันทุเรศยังไงสุดท้ายคืนนี้เธอก็ต้องอ้าขาให้ฉันเอาอยู่ดี"
"อ๊ะ! ปล่อยนะคะจะพาหนูอัยไปไหน"ร่างบางถูกกระชากลากถูด้วยความแรง เธอพยายามยื้อยุดดิ้นรนแต่ก็ไม่เป็นผล คีย์รินทร์พาเธอออกมาจากบ้านหลังขาว ขายาวก้าวด้วยความเร็วจนคนตัวเล็กล้มคะมำไม่เป็นท่า เข่าบางครูดไปกับพื้นดินที่มีเม็ดกรวดขรุขระ ความคมบาดเข้ากับผิวเนื้ออ่อนจนทำให้เกิดบาดแผลยาว
"จะ เจ็บ"อัยวาร้องบอก มองไปที่ความเจ็บก็เห็นตรงเข่านั้นถลอกลึกมีเลือดสีแดงเข้มซึมออกมา คนตัวเล็กถึงกับหน้าถอดสี สิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือเลือดสีแดงฉาน ทุกครั้งที่ได้เห็นมักจะคลื่นไส้ลมจับ เหมือนที่เธอกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้
"ละเลือด!!"
พึบ!!
คีย์รินทร์ถึงกับตกใจ ร่างบางที่เขายังกุมกำมือเล็กเอาไว้ถึงกับเป็นลมล้มพับกองอยู่ที่พื้นดิน ใบหน้าซีดเผือดราวกับเลือดไม่ได้วิ่งมาหล่อเลี้ยงบนใบหน้า แขนแกร่งตวัดช้อนอุ้มร่างบางขึ้นแนบอกอย่างไม่ลังเล ก้าวเท้าด้วยความมั่นคงเดินตรงไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ จุดหมายคือห้องนอน
"แค่เห็นเลือดถึงกับเป็นลม อ่อนแอชะมัด"
ปากหยักตำหนิขึ้น แต่ก็มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลาเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู จะมีชีวิตรอดอยู่ถึงอาทิตย์ให้เขาแก้แค้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ แค่เห็นเลือดก็จะตายเอา
คีย์รินทร์วางคนตัวเล็กลงอย่างทะนุถนอม ห้องนอนพื้นที่ส่วนตัวมีอัยวาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้เข้ามา เขารีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลเมื่อเห็นเข่าเล็กเริ่มมีเลือดซึมออกมาเยอะขึ้น
"ฉันไม่ได้ห่วง แต่กลัวเธอจะตายก่อนวัยอันควรก็แค่นั้น"
ชายหนุ่มจัดการทำแผล ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเกลืออย่างชำนาญ ซับจนแห้งแล้วทาเบตาดีนไปรอบๆเพื่อป้องกันเชื้อโรค ปิดปากแผลด้วยผ้ากอซสีขาวที่ออกแบบมาทันสมัยพร้อมใช้งาน
"ซุ่มซ่ามไม่เคยเปลี่ยน"คีย์รินทร์ยิ้มเมื่อหวนนึกถึงอดีตหลายปีก่อน แม้จะผ่านมานาน เรื่องราวบางอย่างก็ยังฝันแน่นไม่อาจลืมเลือน
"โอ้โหบ้านหรือคฤหาสน์คะพี่บุรินทร์"อัยวาตื่นเต้นไม่มองทางเดิน สายตาจับจ้องไปยังบ้านหลังโตโอ่อ่าอย่างตื่นตาตื่นใจ จนไปสะดุดเข้ากับกระถางต้นไม้ใบใหญ่ที่มันตั้งตระหง่านมานานหลายปี
"อ๊ะ! จะ เจ็บ"
"หนูอัย"อัญญาวีรีบเข้าไปพยุงน้องสาว เมื่อเห็นเธอล้มคะมำไม่เป็นท่า
"ฮึก พี่อัญ อัยเจ็บ"
"เป็นอะไรมากหรือเปล่า"คีย์รินทร์ที่นั่งดื่มเหล้าสังสรรค์ตามประสาหนุ่มโสดในวันเกิด ถึงกับทิ้งแก้วสับเท้าวิ่งเข้ามาหาเด็กน้อย ที่เขาใช้สายตาและหัวใจจับจ้องตั้งแต่เธอก้าวเท้าลงรถมา ความสดใสในวัยของเด็กมัธยมทำให้ใจแกร่งดุจดั่งหินผาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
"เจ็บมากหรือเปล่า? เดี๋ยวพี่อุ้ม ไปทำแผลกันไม่ต้องร้อง"
"ฮึก เจ็บมากค่ะ"ดวงตากลมโตช้อนมอง เบะปากคว่ำบอกได้อย่างน่าสงสาร คีย์รินทร์ยิ้มอย่างเอ็นดู ความรู้สึกในตอนนี้คืออยากเปย์ค่าเทอม
"เดี๋ยวทำแผลเสร็จไปนอนพักที่ห้องพี่นะครับ"อุ้มคนตัวเล็กขึ้นแนบอก มองใบหน้าจิ้มลิ้มที่มีแต่คราบน้ำตา แม้จะร้องไห้ น้ำตาก็ไม่สามารถทำให้ความน่ารักของเธอลดน้อยลง
"ฮึก ทำไมต้องไปห้องพี่ด้วยคะ?"
"ก็ห้องอื่นเขากำลังทำความสะอาดแอร์ ไม่มีห้องไหนเย็นสักห้อง พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกไม่ต้องกลัว"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังอยู่หน้าห้อง ทำเอาชายหนุ่มละความคิดที่ดำดิ่งอยู่ในอดีตมาอยู่กับปัจจุบัน
"เข้ามา"เสียงเข้มเอ่ยอนุญาต
"นมแค่จะถามว่า จะให้คุณหนูอัยเธอนอนที่ไหนคะ?"ประตูบานหนาค่อยๆถูกผลักเข้ามา คิ้วหนาที่เคลื่อนตัวเข้าหากันจนผูกเป็นปมค่อยๆคลายออก เมื่อรู้ว่าคนที่เคาะประตูอยู่หน้าห้องที่ดังก้องเป็นใคร นมแสงเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่มีความกังวลใจ อยากให้คุณหนูที่ท่านเลี้ยงมาลดความแค้น ที่เหมือนดั่งเปลวไฟลง ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวคีย์รินทร์เอง
"บ้านขาวห้องใต้บันไดครับ"คีย์รินทร์ตอบอย่างไม่ลังเล เธอต้องอยู่ที่นั่นคอยทำความสะอาดในช่วงเช้าตรู่ และต้องออกไปทำงานกับเขาที่บริษัท ไม่ใช่เพื่อเรียนรู้งาน แต่เพื่อให้อยู่ในสายตาจะได้แก้แค้นได้สะดวก
"แต่ห้องมันแคบมากนะคะคุณหนู"นมแสงแย้ง รู้สึกสงสารร่างบางที่ต้องมารับกรรมในเรื่องที่ไม่ได้ก่อ รู้สึกชิงชังอัญญาวีที่ลาโลกนี้ไปโดยที่ยังไม่ได้รับกรรมในการกระทำที่ตัวเองก่อเอาไว้
"เธออยู่ได้ไม่ตายง่ายๆหรอกครับ"