แค้นซ่อนสวาท
ตอนที่14 สองมาตราฐาน
___________________
"ให้ไปช่วยคุณจินชงกาแฟนะ อย่าเที่ยวไปอ่อยลูกน้องฉัน"อัยวาวางกระเป๋าเอกสารลงบนโต๊ะด้านข้าง เธอรับคำแล้วรีบเดินออกมา ไม่อยากอยู่ให้รู้สึกอึกอัด เธอไม่ได้มีนิสัยอ่อยผู้ชายไปทั่วสักหน่อย คนอะไรปากร้ายปากจัด
ถ้าเธอเห็นตะกร้อครอบปาก เธอก็อยากจะซื้อมาฝากเขาสักอันนัก จะได้เอาไว้ครอบปากจัดๆ พันธุ์อะไรไม่รู้ชอบกัด ชอบดุ เห่าหอนใส่คนอื่นไปทั่ว
ร่างบางเดินตรงไปยังห้องด้านข้างโดยมีบอดีการ์ดเป็นคนบอกทาง เด็กสาวมองเห็นเลขาของคนใจยักษ์กำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมสิ่งที่เจ้านายสั่ง ไม่คล่องแคล่วแต่ก็พอทำได้
"สวัสดีค่ะคุณจิน คุณคีรินทร์บอกให้หนูอัยมาช่วยคุณชงกาแฟค่ะ"ท่าทีนอบน้อมของอัยวาทำเอาจินดาถึงกับเอ็นดู แม้จะอยู่ในชุดธรรมดาแต่ก็ไม่สามารถบดบังความเจิดจรัสบนใบหน้างามและรูปร่างสวยเด่นได้
"เรียกพี่จินดีกว่าค่ะ อย่าเรียกคุณเลยพี่ไม่ชิน ดูแก่ยังไงไม่รู้"จินดาหันมาบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เด็กสาวตรงหน้าดูไร้เดียงสา ดูน่าทะนุถนอม ถ้าจินดาเป็นผู้ชายเธอก็คงจะพูดไปตามความรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าคือสเปก สวย น่ารัก บางมุมก็ดูเซ็กซี่ จินดานึกชม
"ได้ค่ะพี่จิน"อัยวายิ้มหวาน จินดาถึงกับนิ่งไปสักพัก นี่ขนาดแค่ยิ้มยังสะกดผู้หญิงด้วยกันได้เลย
"ชงกาแฟเป็นไหมคะ"จินดาถามขึ้น มือก็ยังสาละวนอยู่กับการจัดคุกกี้ธัญพืชใส่จาน คีย์รินทร์ไม่ชอบทานคุกกี้หวานๆ เขาชอบทานคุกกี้ธัญพืชที่มีประโยชน์ ข้อนี้เลขาอย่างจินดาไม่มีวันลืม เพราะเคยโดนดุจนเกือบโดนไล่ออกเพราะเรื่องคุกกี้
"พอทำได้ค่ะ"อัยวาอยากจะบอกเหลือเกินนี่คืองานถนัดของเธอเลยละ ตอนอยู่ออสเตรเลีย เธอมีเงินใช้ก็เพราะเจ้ากาแฟที่อยู่ในแก้วเนี่ยแหละที่ช่วยชีวิตเอาไว้ เจ้ารสขมที่ช่วยให้คนตาสว่างมีบุญคุณกับเธอเหลือเกิน
จินดาแอบมองร่างบางที่จัดการกาแฟอย่างคล่องแคล่วด้วยความนิ่งอึ้ง ยังกับเคยเป็นบาริสตามาก่อน
อัยวาทำช็อตเอสเปรสโซตามที่คุณจินดาบอก ฟองนมสีขาวรูปหัวใจฟูฟ่องอยู่ในแก้วช่วยเสริมให้กาแฟน่าดื่ม กลิ่นของมันหอมอบอวลจนจินดาเลขารู้อยากลองสักช็อต
"กลิ่นหอมมากค่ะน้องอัย คุณคีย์รินทร์ต้องชอบมากแน่ๆ"จินดาชมเปลาะ อัยวายิ้มกว้างปลื้มในฝีมือของตัวเอง แม้คุณจินดาจะชมว่าดูดี กลิ่นหอม น่าลอง แต่ใช่ว่าจะถูกใจคนในห้อง
"เดี๋ยวหนูอัย ขอเอาไปให้คุณเขาก่อนนะคะ"เธอรีบยกถ้วยกาแฟและคุกกี้ธัญพืชไปให้เจ้านาย ผู้มีอำนาจบาตรใหญ่
"อื้ม! เยี่ยม หอม นุ่มลิ้น แตกต่างกว่าทุกวัน"จินดาถือเอกสารเข้ามาในห้องทำงานเจ้านายอย่างรีบเร่ง จนลืมเคาะประตูอย่างเสียมารยาท เป็นอีกข้อที่เจ้านายหนุ่มผู้เคร่งขรึมไม่ชอบและทุกคนมักจะโดนดี เมื่อเสียมารยาท
"รสชาติกาแฟเยี่ยมนะ ฟองนมรูปหัวใจทำให้เพิ่มอรรถรสในการดื่มกาแฟ เหมือนได้ไปดื่มด่ำอยู่ในต่างแดน ไปเรียนมาตั้งแต่เมื่อไรคุณจิน"ใบหน้าหล่อเหลาผ่อนคลายเมื่อได้ดื่มรสชาติกาแฟถูกใจ ห้องทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของกาแฟ
"จินไม่ได้เป็นคนทำค่ะ น้องอัยเป็นคนจัดการเองทุกขั้นตอนค่ะคุณคี"จินดาดีใจที่ไม่โดนเจ้านายดุ แต่เพียงเสี้ยววิเสียงคำรามดั่งราชสีห์ที่ชื่อคีย์รินทร์ก็พลันดังขึ้น จนจินดาหุบยิ้มแทบไม่ทัน
"ทีหลังอย่าทำตัวไม่มีมารยาทแบบเมื่อครู่อีก รู้ใช่ไหมว่าผมไม่ชอบ"จินดาถึงกับหน้าถอดสี คิดว่าจะรอดที่ไหนได้โดนดุจนมดลูกแห้งไปหมด
"รสชาติกาแฟไม่ได้เรื่อง ขมลิ้น ฟองนมรูปหัวใจก็บิดเบี้ยว"ตำหนิสารพัดแต่ไม่เหลือสักหยด
"แต่เมื่อกี้ คุณคีย์รินทร์ยังบอกว่า * เยี่ยม หอม นุ่มลิ้น *อยู่เลยนะคะ"อัยวาพูดไปตามที่ได้ยิน ใบหน้าชายหนุ่มฉายความสุขเมื่อได้ดื่มกาแฟแก้วเมื่อครู่ ร่างบางถึงกับยิ้มร่าในตา
"ใช่ เมื่อครู่มันเป็นเหมือนที่เธอว่าจริงๆ แต่ตอนนี้รสชาติมันไม่ได้เรื่อง"คีย์รินทร์ผลักถ้วยกาแฟและจานคุกกี้มาด้านหน้า คล้ายกับสั่งว่าเอาไปเก็บ ไม่ต้องมาถามเยอะรำคาญ
"แต่มันหมดแก้วเลยนะคะ"
"ฉันแค่เสียดายของ ฝืนกินให้มันหมดก็เท่านั้น"
"สองมาตราฐาน"อัยวาพึมพำเสียงเบาหวิว ตั้งแต่ชงกาแฟมาครั้งนี้ทำให้เธอเสียความมั่นใจที่สุด ทิปหนัก ๆ ก็ไม่มีให้ แถมยังมาตัดกำลังใจด้วยการบั่นทอนด้วยคำพูดอีก
"ยืนทำหน้างอเหมือนม้าหมากรุกอยู่ได้ ไปเอาเอกสารส่งออกของปีที่แล้วมาไว้ในห้องนี้ทั้งหมด เดินลงบันไดห้ามใช้ลิฟต์ ห้ามให้ใครช่วย"อัยวาบืนปากใส่คนเผด็จการด้วยความหมั่นไส้ แล้วไงถึงไม่พอใจแต่ก็ต้องทำตาม
อัยวาหอมเอกสารปึกหนาเทียวไปเทียวมาหลายรอบจนขาเรียวเล็กสั่นในยามที่ขึ้นลงบันได คีย์รินทร์ออกคำสั่งห้ามให้ใครหน้าไหนช่วย ไม่งั้นโดนไล่ออก แล้วจะมีใครกล้า ถึงอยากจะช่วยก็ตามเถอะ
เหงื่อเม็ดเล็กซึมผุด เสียงหอบหายใจเริ่มดังขึ้น อาการปวดหนึบตรงก้อนเนื้ออกด้านซ้ายทำเอาเด็กสาวล้มลงเฉียบพลัน เธอส่งมือกอบกุมหน้าอกด้วยความทรมาน เอกสารกระจัดกระจายตกหล่นเกลื่อนกลาดเต็มพื้นทางเดิน และมีบางแฟ้มที่ตกไปตามขั้นบันไดโดยที่อัยวาคว้าไว้ไม่ทัน
"ว้าย ! น้องอัย"จินดาที่สังเกตว่ารอบนี้ร่างบางไปนานกว่าปกติจึงแอบมาดูเผื่อมีอะไรที่เธอพอจะช่วยได้ แต่ภาพที่เห็นอัยวานอนลงบนพื้นแข็ง ตัวงอเหมือนกุ้งขด คล้ายกับทรมานอย่างแสนสาหัส
"ใครเป็นอะไร"คีย์รินทร์รีบวางเอกสารในมือลง สาวเท้าแกร่งออกจากห้องเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเลขาดังอยู่ด้านนอก
"น้องอัยค่ะคุณคี"จินดาถึงกับทำอะไรไม่ถูก จิตใจกระเจิดกระเจิงตกไปอยู่คนละทิศละทาง กลัวเธอจะเป็นอะไรไป
ใบหน้าซีดเผือด ท่าทางเจ็บปวดทำเอาคีย์รินทร์รู้สึกไปด้วย ขาแกร่งก้าวไปด้านหน้าอย่างไม่ลังเล ช้อนอุ้มร่างบางขึ้นแนบอกด้วยความห่วงใย ภายในใจมันจุกเสียดอย่างบอกไม่ถูก
"หนูอัย หนูอัย ได้ยินพี่คีหรือเปล่า?"คีย์รินทร์ตบไปที่แก้มขาวเบาๆเพื่อเรียกสติ ดวงตากลมโตที่กำลังจะพริ้มหลับค่อย ๆ เปิดปรือ
"ฮึก อย่าดุหนู"เธอกลัวโดนดุ เพราะเวลาคีย์รินทร์ดุมันน่ากลัว
คีย์รินทร์พาร่างบางไปยังห้องพักที่อยู่ภายในห้องทำงาน แล้ววานให้เดฟตามหมอมาดูอาการคนหน้าซีดด้วยใจที่กังวล ความรู้สึกในตอนนี้คือเป็นห่วง
อัยวาถูกวางลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือ คีย์รินทร์ปัดปอยผมที่บดบังใบหน้าซีดด้วยความระวังเพราะกลัวเธอจะเจ็บ ชายหนุ่มรับผ้าชุบน้ำหมาด ๆ จากจินดา มาซับตามกรอบหน้าให้เด็กสาว สักพักใบหน้าที่ซีดเซียวกลับค่อย ๆ ดีขึ้น จนใจคีย์รินทร์ชื้นขึ้นมาได้หน่อย
สักพักคุณหมอที่อยู่ในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตาก็เข้ามาตรวจร่างกาย บอกเพียงแค่ว่าอาจจะเกิดจากการพักผ่อนน้อย ทำให้เป็นลม ส่วนอาการที่ปวดหน้าอกด้านซ้ายคุณหมอแนะนำให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล จะได้รู้สาเหตุที่แท้จริง
"ไปโรงพยาบาล"คีย์รินทร์เค้นเสียงบอก คล้ายกับว่าเธอกำลังเป็นภาระ
"หนูอัยแค่เหนื่อยเฉยๆไม่ไปนะคะ"ถ้าไปโรงพยาบาลก็ต้องมีค่าใช้จ่าย เธอไม่มีเงิน ยังไม่พร้อมที่จะไป ลำพังเงินที่พี่สาวเอาออกมาให้ชายชู้ 10 ล้านเธอยังไม่มีปัญญาหาคืน แล้วจะให้มาเพิ่มค่าใช้จ่ายไม่เอาด้วยหรอก เงินที่มีก่อนจะกลับมาไทยก็โอนให้คุณพ่อคุณแม่ใช้จนเหลือแต่ตัว
"งั้นกลับบ้าน"คีย์รินทร์สั่งเสียงเข้ม ถ้าไม่ไปโรงพยาบาลก็ต้องกลับบ้าน
"แต่ว่า"อัยวากำลังจะค้าน พอสบเข้ากับสายตาดุร้ายเธอถึงกับปิดปากเงียบ
"เงียบปาก กาแฟก็ชงไม่ได้เรื่อง แถมยังมาสร้างปัญหาให้ฉันไม่ได้ทำงานอีก"