แค้นซ่อนสวาท
ตอนที่15 ห่วง
___________________
"คุณหนูอัยพอจะนอนได้ไหมคะ?"นมแสงนำข้าวต้มหมูสับทรงเครื่องเข้ามาให้คนตัวเล็กที่นอนเอนกายในห้องแคบ เนื้อผิวอุ่นที่ค่อนไปทางร้อนของอัยวา ทำเอาหญิงวัยชรารู้สึกเป็นห่วง
"ดะ ได้ค่ะ หนูอัยนอนได้ค่ะ"อัยวาบอกอย่างไม่ต้องคิด แม้ห้องจะแคบแต่เธอก็สามารถนอนได้ เธอไม่ใช่ลูกคุณหนูตระกูลสูงส่งมาจากไหน มีเสื่อผืนหมอนใบ มีที่ซุกหัวนอนก็ขอบคุณมากแล้ว
"ทานข้าวต้มเสร็จแล้วทานยานะคะนมเป็นห่วง เห็นใบหน้าคุณหนูซีดเซียวนมไม่สบายใจเลยค่ะ"แม้จะเคยเห็นกันเพียงครั้งเดียวเมื่อหลายปีก่อน แต่อัยวาก็ไม่ลืมนมแสงคนที่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้ทานในวันเกิดของคีย์รินทร์ รสมือดีเยี่ยมจนอัยวาต้องยกนิ้วโป้งให้
"ขอบคุณมากๆ ค่ะนมแสง"อัยวายกมือไหว้ผู้ใหญ่ใจดีตรงหน้า อย่างน้อยเธอก็มีนมแสงเป็นที่พึ่ง ความรู้สึกในตอนนี้อยากได้อกอุ่นของผู้เป็นแม่ เพียงแค่คิดดวงตากลมโตถึงกลับร้อนผ่าว
หลังจากที่ทานข้าวทานยาจนเสร็จ อัยวารีบสลัดความคิด เดินตรงไปยังห้องน้ำที่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึง แม้จะเป็นห้องน้ำชั้นล่างแต่กลับดูกว้างใหญ่กว่าห้องที่เธอใช้หลับนอนเสียอีก
หลังจากที่อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ อัยวาเดินกลับเข้ามาในห้องพักใต้บันได เธอล็อกห้องด้วยความเร็ว ยาที่ทานเข้าไปหลังจากทานข้าวต้มเริ่มออกฤทธิ์ ความง่วงเริ่มครอบคลุม เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลงอย่างสนิท และสุดท้ายเธอก็อยู่ในห้วงนิทรา
"นายจะไปไหนครับ"เดฟสังเกตอาการเจ้านายผู้น่าเกรงขามอยู่นาน จึงเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นร่างหนาของเจ้านายหนุ่มก้าวขาออกจากห้อง เดินลงบันไดตรงดิ่งไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน เพราะถ้าจำไม่ผิดเดฟจำได้ว่าเจ้านายคีย์รินทร์ไม่ชอบเดินเล่นค่ำมืดเพราะรำคาญพวกยุงหรือแมลงตัวเล็ก
"กูจะไปดูดาวชมจันทร์"ใจอยากจะไปบ้านหลังขาวต่างหาก ดูดาว ชมจันทร์ อะไรไร้สาระ ไม่เคยอยู่ในหัวสมองเลยตั้งแต่เกิดมา
"แต่วันนี้ฟ้ามืด เดือนดับครับนาย"เดฟบอกเจ้านายด้วยความหวังดี แหงนหน้ามองท้องฟ้ามีแต่ความมืดหม่น แสงสว่างจากดวงดาวไม่มีให้บันเทิงตาสักดวง
"งั้นกูก็จะไปดู ฟ้ามืดเดือนดับ มีงมีปัญหาอะไรกับกูไหมไอ้เดฟ"คีย์รินทร์ถึงกับหงุดหงิด จะไปไหนก็ไม่ไปสักทีตามเหมือนหมาหวงเจ้านายอยู่ได้ แล้วแบบนี้เมื่อไรจะได้ไปบ้านขาวสักที
"แต่ว่า..."
"กูจะตัดเงินเดือนมึงเดฟ มึงไปไกลๆ ตีนกู"คีรินทร์เดินจ้ำอ้าวสับท้าวเดินตรงไปยังบ้านหลังขาว ไม่รู้ว่าตอนนี้คนไม่สบายหลับไปหรือยัง ข้าวต้มที่นมแสงทำไปตามคำสั่งของเขาไม่รู้ว่าเธอทานหมดหรือเปล่า
เดฟกับเคมองตามแผ่นหลังของเจ้านายด้วยความไม่เข้าใจ จะดูเดือนดับแต่ทำไมเดินตรงไปบ้านหลังขาวแบบนั้น หรือว่าดูที่บ้านหลังขาวมันชัดเจนกว่าดูตรงนี้ เดฟเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ
คีย์รินทร์ผลักประตูอย่างเบามือ ถึงแม้อัยวาจะล็อกประตูอย่างแน่นหนาแต่เขามีกุญแจสำรอง เพราะเขาคือเจ้าของบ้าน
ภายในห้องมืดสนิท มีเพียงแสงสว่างข้างนอกที่สาดส่องเข้ามาพอทำให้เห็นรำไร เครื่องอำนวยความสะดวกไม่มีสักชิ้นเพราะคีย์รินทร์เป็นคนสั่งห้าม มีแต่กระเป๋าเสื้อผ้า เสื่อที่ปูลงบนพื้นกระเบื้อง กับหมอนสีขาวใบใหญ่หนึ่งใบ
"ฉันไม่ได้เป็นห่วง แค่มาดูว่าเธอใกล้ตายหรือยัง"
คีย์รินทร์นั่งลงด้านข้าง ใช้หลังมืออังเข้าที่หน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ ทว่าอัยวากลับส่งลำแขนเรียวคว้ากอดเอวสอบอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่ทว่าหัวใจกลับเต้นแปลก ๆ เขาขยับตัวถอยห่างแล้วช้อนร่างบางขึ้นแนบอก พาเธอขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบนของบ้านหลังขาว
"ขี้เซา"แม้ปากจะดุ แต่รอยยิ้มกลับประดับขึ้นบนใบหน้าสากที่ได้รับฉายาว่าเสือยิ้มยาก นัยน์ตาคมขลับที่ไม่เคยมองใครด้วยความอ่อนโยน เด็กสาวที่อยู่ในอ้อมอกกลับได้รับมัน
"ไอ้คนหล่อใจร้าย"ปากเล็กละเมอด่า มุดหน้าเข้าหาอกแกร่งในยามที่คีย์รินทร์อุ้มเดิน
"ต่อให้ฉันใจร้าย ก็ไม่เท่าพี่สาวร้ายกาจของเธอหรอก"
คีย์รินทร์ใช้แผ่นหลังดันประตูบานหนา ห้องกว้างขวาง ที่เป็นทั้งห้องนอนและแกลเลอรี่ เต็มไปด้วยภาพวาดจากฝีมือชายหนุ่มผู้หลงใหลในศิลปะ พู่กัน สีน้ำ คือความสบายใจของคีย์รินทร์
"อื้อ หนูอัยร้อน"
"กำลังจะเปิดแอร์ให้อยู่นี่ไง"
ร่างสูงเดินไปคว้ารีโมทเครื่องปรับอากาศ กดปุ่มเปิดเร่งความเย็น ห้องที่เคยอบอ้าวเริ่มมีความหนาวเข้ามากระทบผิวกาย เม็ดเหงื่อที่ผุดซึมประปรายตามผิวกายงาม ค่อย ๆ เลือนหาย
คีรินทร์ท้าวสะเอวยืนมองร่างบางที่หลับตาพริ้ม เขาใช้ปลายลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างระงับอารมณ์
ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องคอยเป็นห่วง เห็นเธอร้องไห้นิดหน่อยใจก็ปวดหน่วงจนแทบจะพุ่งเข้าไปกอด
ดูอย่างเวลานี้สิ ทั้งๆ ที่เป็นคนสั่งให้เธอนอนในห้องใต้บันได กลับเป็นตัวเขาเองที่ต้องวิ่งโร่อุ้มเธอขึ้นแนบอกแล้วพามาพักในห้องส่วนตัว
คีย์รินทร์ทิ้งตัวลงบนที่นอน คว้ากอดร่างบางที่หลับใหลด้วยฤทธิ์ยา เป็นคืนที่สองที่เขาได้กอดหมอนข้างมีชีวิต ไม่คิดพิศวาสหรอก แค่มีคนให้ก่ายกอดมันทำให้เขาหลับสบายเท่านั้นเอง
เช้า
คีย์รินทร์ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้า มองร่างบางที่อยู่ในชุดนอน สีขาวสะอาดตา อาการที่เธอเป็นเมื่อวาน คีย์รินทร์ยังไม่หายกังวลใจและอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากมาย ใบหน้าแววตายังฉายความเรียบนิ่งคล้ายกับไม่ใส่ใจ
ขาแกร่งก้าวลงจากเตียงสลัดความคิดเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เสียงฮัมเพลงของคนอารมณ์ดีทำให้เด็กขี้เซาสะดุ้งตื่น เธอหันซ้ายแลขวาด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนก แต่ทว่าเสียงหนาที่ดังก้องอยู่ด้านหลัง ทำเอาร่างบางรีบกระโจนลุกจนแทบจะตกเตียง
"ไปอาบน้ำ นั่งอมขี้ฟันเล่นอยู่ได้"
อัยวาตาพร่า หูดับไปชั่วขณะ แก้มขาวถึงกับร้อนผ่าว ก็ดวงตาคู่สวยที่ไม่รักดีน่ะสิ มองเห็นความนูนเด่นใต้ผ้าขนหนูผืนขาวที่พันเอวสอบไว้อย่างหมิ่นเหม่ ไหนจะเส้นผมดำขลับที่ชื้นน้ำถูกเสยขึ้นด้วยมือสากอย่างลวกๆ ทำเอาสติอันน้อยนิดของเด็กสาวกระเด็นกระดอน จนเธอต้องตบมันให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนที่เธอจะกลายเป็นเด็กหื่น
ผู้ชายอะไรดูดีแม้กระทั่งอาบน้ำเสร็จ...
"รีบไปอาบน้ำ แล้วมานอนแก้ผ้าเป็นแบบบนโซฟาให้ฉันวาดรูป"