ตอนที่7 ไม่มีน้องสาว

1327 คำ
แค้นซ่อนสวาท ตอนที่7 ไม่มีน้องสาว ____________________ @คฤหาสน์ฉัตรบริพัตร รถหรูราคาแพงแล่นจอดหน้าคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านบนเนื้อที่หลายสิบไร่ เหล่าแม่บ้านบอดีการ์ดต่างยืนรอต้อนรับเจ้านายเช่นนี้เป็นประจำในช่วงเช้าและช่วงเย็นของทุกวัน เดฟรีบก้าวเท้าลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูให้นายเหมือนเช่นทุกครั้ง พร้อมกับเหลือบมองหญิงสาวที่ไร้สติถูกผลักอย่างไม่ไยดีด้วยความสงสาร "ให้ผมพาเธอไปไว้ที่ไหนครับนาย"ร่างสูงโปร่งก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าเย็นชา โดยไม่ปรายตาดูร่างบางที่เขาสั่งให้ลูกน้องลักพาตัวมาด้วยเลยสักนิด เหมือนเธอเป็นสิ่งของไร้ค่า ไม่ควรค่าแก่การมอง แม้หัวใจไม่รักดีจะรู้สึกหวั่นไหวก็เถอะ ยอมรับว่าสวยจนดูน่าหลงใหลแต่ภายในคงเน่าเฟะไม่น่าแตะต้อง "บ้านขาว" "อะ อะไรนะครับนาย"เดฟถึงกับตกใจ ทุกคนที่ยื่นเรียงรายทั้งสาวใช้บอดี้การ์ดก็ตกใจไม่แพ้กัน เพียงแค่ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถาม เพราะนั่นเป็นเรื่องของเจ้านาย บ้านขาวที่ว่าคือบ้านหลังเล็กที่คีย์รินทร์รัก เพราะเป็นเรือนหอของคุณท่านเจษฎากับคุณหญิงวาสนาผู้เป็นคุณปู่คุณย่าที่ชายหนุ่มเคารพรัก ท่านจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบที่บ้านหลังสีขาว ท่านทั้งสองสร้างบ้านขาวขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง และรักบ้านขาวมาก มีเพียงนมแสงเท่านั้นที่สามารถเข้าไปดูแลทำความสะอาด ที่นั่นล้วนแล้วแต่มีความทรงจำที่พอจะทำให้คีย์รินทร์หายเศร้าได้บ้างในยามที่คิดถึงครอบครัวอันเป็นที่รัก ภาพวาดครอบครัวที่คีย์รินทร์ลงมือถ่ายทอดทั้งจิตวิญญาณ เขาลงมือขีดเขียนด้วยความตั้งใจ และทำมันออกมาได้อย่างงดงามเสมือนมีชีวิต ตั้งตระหง่านงดงามภายในบ้านหลังเล็กแห่งความรัก "มึงหูหนวกหรือไงไอ้เดฟ อยากโดนฝ่ามือหนักๆ ซัดเข้าที่บ้องหูไหมเผื่อจะได้ยินชัดๆ จะได้ไม่ต้องถามซ้ำ"คีย์รินทร์ปรายตามอง เอ่ยวาจาคล้ายกับไม่พอใจ เขาเกลียดที่สุดคือการได้ยินในคำสั่ง แต่กลับถามซ้ำๆ เพื่อเอาคำตอบ เดฟสับเท้าอ้อมไปเปิดประตู ร่างบางที่พิงชิดขอบตัวรถเกือบร่วงหล่นถึงพื้นดีที่เดฟรับไว้ทัน ไม่งั้นใบหน้างามคงกระแทกกับพื้นคอนกรีตอันแข็งแกร่ง จนถลอกเป็นแผลไม่น่าดู "มึงทำอะไรไอ้เดฟ"คีย์รินทร์ตะเบ็งเสียงถาม สิ่งที่เห็นคือลูกน้องกำลังโอบกอดร่างบางที่เคียงข้างเขาเมื่อตอนที่อยู่บนรถ "พอดีคุณอัยเธอจะตกครับนาย"เดฟถึงกับสั่น เสียงหนาของนายที่ทอดถามคล้ายกับไม่พอใจที่เขาถูกเนื้อต้องตัวเด็กสาววัย 19 ปี แต่จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อนายเกลียดเธอเข้าไส้ เกลียดจนฝังใจเข้าไปถึงกระดูกดำ คีย์รินทร์ขบกรามแกร่งแน่นความรู้สึกคือหงุดหงิดที่เห็นลูกน้องถูกเนื้อต้องตัวอัยวา ไม่มีทางเสียหรอกที่เขาจะรู้สึกหวงน้องสาวคนที่ทำให้แม่และน้องเขาต้องตาย เขาแค่กลัวลูกน้องจะหลงเสน่ห์ยายแม่มด ไวกว่าความคิดร่างหนายืนจังก้าตรงหน้ามือขวา คีย์รินทร์ส่งสายตาบังคับให้เดฟส่งร่างบางมาให้เขา โดยไม่ต้องปริปากบอก อัยวายังหลับใหลอยู่ในอ้อมอกคีย์รินทร์ สายตาลุ่มลึกดุจเสือร้ายจ้องมองใบหน้าหวานด้วยความเกลียดชัง แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างที่แทรกซึมขึ้นมาอยู่ภายในใจแกร่งโดยไม่มีใครรู้ "เธอมันแม่มดหนูอัย คิดจะร่ายมนตร์ใส่ฉันเหมือนเมื่อ 4 ปี ก่อน เธอไม่มีทางทำมันสำเร็จแน่นอน ยายเด็กปากหวาน" คีย์รินทร์โยนร่างบางลงบนพื้นปูนที่อยู่ภายห้องเก็บของใต้บันไดด้วยความแรง ห้องแคบเหมือนเป็นสถานที่จองจำกักขังหน่วงเหนี่ยวเธอ คิย์รินทร์อยากให้ลูกน้องได้เห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจหรือแคร์อะไร ที่ยอมอุ้มมาเองก็แค่อยากอุ้มก็แค่นั้น "คุณหนูทำไมโยนเธอแรงแบบนั้นละคะ"นมแสงถึงกับตกใจที่เห็นเด็กสาวถูกโยนลงบนพื้นกระเบื้องแข็งๆอย่างไรความปรานี ป่านนี้กระดูกกระเดี้ยวหักหรือเปล่าก็ไม่รู้ "โยนที่ไหนครับ นี่ผมก็ทะนุถนอมที่สุดแล้วนะครับนม"ปฏิเสธข้างๆคูๆ ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าโยนขนาดนั้นคนถูกกระทำคงเจ็บร้าวไปทั้งตัว "กูให้เวลามึงหนึ่งชั่วโมง ทำให้ตื่นไอ้เดฟ"คีย์รินทร์สั่งเพียงแค่นั้นแล้วกลับหลังหัน สับปลายเท้าเดินออกจากบ้านขาวทันที "นมแสงครับออกมาก่อนเถอะ เดี๋ยวผมต้องปลุกคุณอัยวา"เดฟว่าอย่างร้องขอ ตอนนี้คิดหนักไม่รู้จะปลุกด้วยวิธีไหนดี "ทำไมขมับบวมแบบนี้ล่ะ"นมแสงยังไม่ลุกไปไหน สายตาฝ้าฟางพลันสังเกตเห็นขมับด้านซ้ายของเด็กสาวบวมช้ำจนน่าสงสาร ได้แต่ภาวนาภายในใจขอให้คุณหนูเมตตาและใจดีกับเธอคนนี้บ้าง "สงสัยบวมตอนที่นายผลักเธออยู่บนรถครับนม ขมับไปชนเข้ากับขอบประตูรถเสียงดังจนผมตกใจ"เดฟเดินไปหยิบกล่องยาให้นมแสง แม้นมจะไม่ได้สั่งแต่เดฟรู้ว่านมแสงต้องการมัน "ทำไมคุณหนูถึงใจร้ายกับเธอขนาดนี้นะ"นมแสงพึมพำ เคยเจอเธอหนึ่งครั้งเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเป็นวันเกิดของคุณคีย์รินทร์ บุรินทร์จึงขออนุญาตชวนอัญญาวีผู้เป็นภรรยาและอัยวามาด้วย ตอนนั้นเธออยู่ในช่วงมัธยมปลาย ความน่ารักทำเอาคีย์รินทร์คุณหนูของนมแสงคอยลอบมองเธออยู่ตลอดเวลาด้วยความสนใจ ปลายนิ้วอุ่นค่อยๆนวดยาให้ซึมลงที่ขมับเล็กนั่น พลางพินิจพิจารณาใบหน้าหวานด้วยความเอ็นดู สวยไม่มีที่ติผิดจากพี่สาวอย่างสิ้นเชิง ทว่านมแสงก็ได้แต่ภาวนาขออย่าให้นิสัยร้ายกาจน่ากลัวเหมือนกันเลย "อื้อ" เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆเปิดปรือ กลิ่นยาหม่องโอบโชยชวนให้รู้สึกแสบตาแสบโพรงจมูก อัยวากวาดสายตามองไปรอบ ๆห้องที่ไม่คุ้นเคยทำเอาใจดวงน้อยผุดผวาของความหวาดกลัว เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่ง กระถดถอยชิดผนังเย็นอัตโนมัติด้วยความหวาดระแวง "คุณหนูอัยวา จำนมได้หรือเปล่าคะ"เสียงอุ่นของนมแสงทอดถาม ร่างบางนั่งคิดอยู่สักพัก ทว่ารอยยิ้มของหญิงวัยชราทำให้เธอนึกได้ในทันที ด้วยความกลัวเธอจึงโผตัวเข้าไปกอดอย่างไม่ลังเลพลางคิดภายในใจในที่สุดเธอก็ปลอดภัย "จะ จำได้ค่ะ ฮึก หนูอัยโดนคนใจร้ายจับตัว ฮึก นมแสงเป็นคนช่วยหนูอัยใช่ไหมคะ" "ขวัญเอ๊ยขวัญมานะคะ"นมแสงลูบเรือนผมนิ่มอย่างปลอบโยน ไม่ว่ารู้ในวันข้างหน้าเด็กคนนี้จะต้องเจออะไรบ้าง ถ้ามีสิ่งไหนที่พอจะช่วยได้นมแสงก็จะช่วย ไม่อยากให้คุณหนูสร้างเวรสร้างกรรมแค้นกันไปจนไปถึงชาติหน้า "นมครับ ผมว่าเราออกไปกันเถอะนะครับ"เดฟที่ยืนอยู่นอกห้องแคบร้องบอก เขาไม่อยากให้นายมาเห็นว่านมแสงกำลังโอบกอดปลอบโยนศัตรูของนาย กลัวร่างหนาจะพาลอารมณ์เสียแล้วสุดท้าย อารมณ์ทั้งหมดจะตกอยู่คนตัวเล็ก "ฟื้นเร็วกว่าที่คิดไว้นะ" "พะ พี่คี" "เท่าที่จำได้ฉันไม่เคยมีน้องสาวที่มีเลือดผู้หญิงร่านวิ่งพล่านอยู่ในตัวนะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม