11

1781 คำ
“ทำไมออกมาช้านักล่ะเซด นี่รดน้ำสังข์แล้วนะลูก ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ถามหา” “ผมเมาครับ เมาค้างลุกไม่ไหว” เซดริกตอบเสียงเรียบ ทว่าน้ำเสียงยังไม่เป็นปกติ ทั้งสีหน้าแววตามีอาการเมาค้างอย่างที่บอก “เหลวไหลที่สุดเลย ก็รู้ว่ามีงานยังจะไปดื่ม ไปรดน้ำสังข์ แล้วพ่อจะไปแนะนำตัวกับผู้ใหญ่” “เฮ้อ” เซดริกได้แต่ถอนใจแล้วปล่อยให้บิดาดึงเข้างาน และเขาแทบจะเป็นคนท้ายๆ ที่เข้าไปรดน้ำสังข์น้องสาว ประคองท่วงท่าให้สง่าผ่าเผยมากที่สุด เพราะมีทั้งผู้ใหญ่และสาวๆ ที่จ้องมองมาด้วยความตื่นเต้น “เกือบมาไม่ทันแล้วนะคะ” ซินดี้แซวเชิงตำหนิ “ก็เกือบมาไม่ทันจริง ๆ มีความสุขมากๆ นะซินดี้ ส่วนกรณ์ พี่ฝากดูแลน้องด้วย อาจจะขี้บ่นหน่อยแต่ทนๆ เอาก็แล้วกัน” เซดริกอวยพรทั้งคู่พร้อมกับยิ้มอ่อนโยน “หึๆ ขอบคุณครับพี่” กรณ์กล่าวขอบคุณพร้อมกับก้มลงไหว้ จากนั้นเซดริกก็เอาหอยสังข์ไปวาง แล้วหันไปมากอดน้องสาวและจูบเบา ๆ ที่หน้าผาก ก่อนจะหันไปกอดน้องเขยอีกครั้ง “เอาล่ะ พี่ไปนั่งดีกว่า เมาค้าง” เขาบอกตรงๆ และเดินออกจากหน้าพิธีไปนั่งโต๊ะที่จัดเอาไว้ให้แขก เพราะขืนยืนหรือเดินต่อไปคงไม่ไหว “น้ำมะนาวเพียวๆ หน่อยนะครับเจ้านาย แก้แฮงค์ได้ดีเหมือนกัน” สุชาติเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วน้ำมะนาวให้ “ขอบใจ รู้ใจดีจังเลย” เซดริกรับมาดื่มทีละนิดเพราะมันเปรี้ยวมากแต่ช่วยได้ดีเลยทีเดียว “ก็ลองหลายๆ อย่างครับ เห็นเจ้านายยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่” “มันก็ต้องใช้เวลา ตอนนี้ยังปวดหัวอยู่มาก ยังเบลออยู่เลยเมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้ เหมือนฝัน” “หือ! นี่คุณเซดจำอะไรไม่เหรอครับ” “ก็เมาไหมวะ ไหนจะกลับมาเมาที่บ้านอีก ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก” “แล้วจำได้ไหมครับว่าไปไหนกับใคร” สุชาติถามเพื่อหยั่งเชิง ซึ่งเซดริกจำได้ว่าพาผู้หญิงขึ้นรถและเลยเถิดเตลิดไปตามอารมณ์ แต่ให้ตายสิ ให้ตาย!!! “เดี๋ยวนะ!!! ทำไม!!! จำหน้าไม่ค่อยได้ มันเลือนรางจังวะ” “ให้ตายสิ เอ่อ จำชื่อได้ไหมครับ” เรื่องนี้สุชาติถามเพราะไม่รู้จักชื่อเหมือนกัน และเห็นหน้าแค่แว๊บเดียวเท่านั้น “ชื่อ...” เซดริกครุ่นคิดและกำลังจะเอ่ย ทว่าบิดาเรียกขึ้นเสียก่อน “ไงลูก ดีขึ้นบ้างไหม แล้วทำไมออกมาเร็วจัง หืม” ฝ่ายบิดาถามเชิงตำหนิ “ผมยืนรออะไรนานๆ ไม่ไหวหรอกครับ แล้วคุณพ่อมีอะไรหรือเปล่า” แอบคิดในใจว่าต้องมีแน่ๆ “มีสิ ไปด้วยกันหนูกี้ก็มาด้วย จำได้ไหมที่พ่อเคยเอารูปให้ดูน่ะ” “เฮ้อ พอจำได้ครับ แต่จำหน้าไม่ได้ครับ” “งั้นไป น้องจะได้ไม่ต้องรอนาน อยากเจอพี่เซดจะแย่อยู่แล้ว” พูดจบบิดาก็ดึงแขนลูกชายให้ลุกแล้วเดินไปทางโต๊ะที่มีผู้ใหญ่นั่งอยู่ “ตายจริง นี่ลูกชายคนโตของเจ้าสัวเหรอคะเนี่ย สูงหล่อ สมาร์ทมากเลย” สตรีท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางลุกขึ้นยืน และยิ้มกว้างด้วยความชื่นชม แต่น้ำเสียงตื่นเต้นแปลกๆ “ใช่ครับ เอ่อเซดริกนี่คุณหญิงงามฉาย เป็นแม่คุณของหนูกี้” บิดาแนะนำ แต่นึกแล้วเชียว เซดริกคิด “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบครับคุณหญิง” “อุ้ยเรียกคุณแม่ก็ได้จ้ะ คนกันเอง” คุณหญิงงามฉายออกตัวแรงเลยทีเดียว “ขอบคุณมากครับแต่ เรียกคุณหญิงจะเหมาะกว่าครับ” เซดริกปฏิเสธแบบสุภาพ “เอ่อ ตามใจจ้ะ เอ่อนี่ กี้ลุกสิลูก นี่พี่เซดริก ยกมือไหว้พี่เขาสิลูก” คุณหญิงงามฉายเป็นคนแนะนำบุตรสาวของตนเองให้เขารู้สึก ส่วนบุตรสาวนั้นคือกีรณา สวย หวาน ดูเรียบร้อยขี้อาย เธอยกมือไหว้ เขาก็รับไหว้อย่างสุภาพ ยิ้มนิดๆ ก่อนจะเบือนสายตามองไปทางอื่น “นั่งก่อนนะลูก” บิดาบอกอีกครั้ง เซดริกก็จำใจนั่งลงสีหน้าไม่รับรู้ถึงอารมณ์เลย “ทราบมาว่าคุณเซดไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ แล้วเพิ่งกลับมาได้ไม่นานเหรอคะ” คุณหญิงงามฉายเป็นคนถาม “ครับ ผมไปดูแลโรงแรมให้คุณแม่ที่ลาสเวกัส กลับบ้านปีละครั้ง” เขาตอบเสียงเรียบ “แล้วนี่จะกลับมาอยู่ยาวเลยหรือเปล่าจ๊ะ” “ก็คิดว่าอย่างนั้นครับ คุณพ่อจะเกษียณ ผมเลยต้องกลับมา ส่วนทางโน้นก็มีเหล่ากรรมการคอยดูแลแทน คงต้องถือโอกาสไปตรวจงานสักสองสามเดือนต่อครั้ง” “แล้วนี่จะรับตำแหน่งเมื่อไหร่ มีเลขาหรือยัง ยัยกี้เพิ่งเรียนจบกำลังหางานเลย พอให้อาฝากงานได้ไหม” ให้ตายสิ คุณหญิงท่านนี้ออกตัวแรงเหลือเกิน “คุณแม่ ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะคะ กี้ไม่ได้จะรบกวนพี่เขาซะหน่อย” กีรณาแทรกขึ้นด้วยความขัดเขิน “ยัยกี้เพิ่งจบโทรจากอเมริกาค่ะ ขอพักสักปี แต่อาอยากให้ทำงานแล้วล่ะ” คงอยากให้ทำก็ตอนนี้นี่แหละมั้ง เขาคิด “ผมคิดว่า คุณพ่อคงเตรียมเจ้าหน้าที่ตำแหน่งต่างๆ เอาไว้ให้ผมแล้วล่ะมั้งครับ คุณกี้เพิ่งเรียบจบมา ผมว่าพักผ่อนก็ดีนะ เหนื่อยกับการเรียนมาหลายปี พักอีกสักปีจะเป็นไร” ประโยคหลังนี่เขาประชดเล็กๆ “ตอนนี้กี้กำลังไปเรียนทำขนมค่ะ ไม่ได้พักผ่อนเสียทีเดียว” “เรียนทำขนม ทำไมครับ” “แค่เรียนเอาไว้ทำให้พ่อแม่กิน หรือเอาไว้ฝากญาติๆ เวลาไปเยี่ยมน่ะค่ะ อาว่าใช้ได้เลยนะคะวันหลังคงต้องให้ยัยกี้ทำมาให้คุณเซดชิม” “เอาไปฝากลุงที่โรงแรมด้วยก็ดีนะหนูกี้ ลุงก็อยากชิม” ให้ตายสิ บิดาก็ออกตัวเสียเหลือเกิน “ต้องขออนุญาตพี่เซดก่อนดีไหมคะว่าจะให้เอาไปส่งหรือเปล่า” กีรณาถามอย่างขัดเขิน เอียงอายบิดม้วน บ้างก็เอามือม้วนผมเล่นเสียอย่างนั้น บุคลิกแบบนี้หรือเด็กนอก เขาคิด “เอ่อ ก็ ผมไม่ค่อยได้รับประทานพวกขนมหวานแนวๆ นี้เท่าไหร่ แต่ถ้าคุณกี้เอาไปให้ พนักงานคงได้ลองชิมกันบ้าง น่าจะดีใจมาก” “เอ่อ พนักงานชิมเหรอคะ” กีรณาถามพร้อมกับทำสีหน้าเจื่อนเล็กน้อย “ก็เผื่ออร่อยถูปาก จะได้ผูกขาดเอามาส่งที่โรงแรม ทำเป็นอาชีพขายได้เงินเลยนะครับ” “ถ้าพี่เซดคิดว่าดี กี้ก็จะลองดูค่ะ” “ครับ ผมคิดอย่างนั้น” “เอ่อ คุยกันไปนะ พ่อต้องไปคุยกับผู้ใหญ่สักหน่อย” บิดาเหมือนจะพาเขามาอยู่ตรงนี้ แล้วหนีไปเสียดื้อๆ หรือเนี่ย “อุ้ย!!! งั้นฉันไปด้วยค่ะเจ้าสัว ให้เด็ก ๆ คุยกันจะดีกว่า” เข้าแผนเสียเหลือเกิน ว่าแล้วทั้งสองก็ลุกไปจากโต๊ะ และทั้งโต๊ะเหลือแต่เซดริกกับกีรณา ทว่าจังหวะเดียวกันสุชาติก็ตามมาดูแล “ผมตามเอาน้ำมะนาวมาให้ครับ เห็นไม่กลับไปนั่งที่เดิมซะที” “ดีมาก ขอบใจนะ” เซดริกรับมาดื่มอีกเช่นเคย เพราะต้องจิบเรื่อยๆ “อุ้ย!!! พี่เซดชอบดื่มน้ำมะนาวเหรอคะ” “ไม่ได้ชอบครับ ผมเมาค้าง” เซดริกตอบตรงๆ กวนๆ ได้อีก เรียกว่าไม่ต้องคีฟลุคอีกต่อไป รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ถอย “เมาค้างเหรอคะ” กีรณาถามด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดตรงแบบนี้ ไม่รักษาภาพพจน์ตัวเองเลย “อ่าฮ๊ะ” เขารับคำในลำคอก่อนจะดื่มน้ำมะนาวจนหมดแก้ว “แล้วนี่ คุณกี้จบโทจากไหนนะครับ เมื่อกี้จำไม่ได้” เขาถามย้ำ แสร้งชวนคุยไปอย่างนั้นเองเพื่อมารยาท “จากอเมริกาค่ะ” เธอตอบพร้อมกับยิ้มหวาน “เหรอครับ ท่าทางไม่เหมือนเด็กนอก เหมือนเรียบจบจากในรั้วในวัง” เขาชมแกมประชด แต่เธอกลับยิ้มขัดเขินเสียอย่างนั้น ทว่าสุชาติเนี่ยฟังออก “จบนอกไม่จำเป็นต้องแรงนี่คะ” เธอตอบ แต่เขากลับมองตาจ้องลึกเข้าไปจนเธอหลบสายตา “คุณพ่อคงชอบผู้หญิงเรียบร้อยแน่ๆ เลย” เขาแกล้งพูด “แล้วพี่เซด ชอบผู้หญิงเรียบร้อยหรือเปล่าคะ” “ชีวิตไม่ค่อยได้เจอคนเรียบร้อยเท่าไหร่ เจอแต่สาวมั่น รักอิสระ เป็นตัวเองสูง ขนาดคุณแม่ยังไม่ใช่คนเรียบร้อยเลย พอเจอคนเรียบร้อยเลยไม่ชิน” “เดี๋ยวก็คงชินไปเองมั้งคะ” “หืม! ชินเหรอครับ ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ เอ่อชาติ พิธีต่อไปคืออะไร” พูดกับเธออยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนเรื่องไปถามสุชาติแทนเสียอย่างนั้น นั่นก็เพราะเขารำคาญนี่แหละ “พิธีดื่มน้ำชาครับเจ้านาย” “เฮ้อ น่าเบื่อจังกว่าจะเสร็จ หลายพิธีเสียเหลือเกิน ดีนะแม่ไม่ให้เอาพิธีเข้าโบสถ์ด้วย ฉันปวดหัวอยากพักผ่อน” “ก็ยังดีครับที่คุณท่านชอบความเป็นไทย อยากได้พิธีแบบไทย ไม่งั้นคงต้องสามพิธีแน่ๆ” “ดูเหมือนพี่เซดจะเป็นคนขี้เบื่อนะคะ ไม่ชอบงานอะไรที่คนเยอะๆ ใช่ไหม” “ก็ ร่างกายอ่อนเพลียนิดหน่อยผมก็เลยอยากพักผ่อน” “อยากได้เครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมคะ กี้จะไปเอามาให้” “เอ่อ ไม่ครับ ผมอยากพักมากกว่า ตอนนี้คงต้องให้คุณกี้นั่งคนเดียวไปก่อน ผมคงต้องไปกินยาแก้ปวดสักหน่อยแล้วจะพัก” จริง ๆ แล้วเขาอยากไปจากตรงนี้เสียเต็มประดา และพอพูดจบเขาก็หันไปพยักหน้ากับสุชาติแล้วลุกทันที “เอ่อ พี่... พี่เซด” กีรณาได้แต่เรียกเบาๆ เหมือนถูกทิ้งเลย พอเขาเดินพ้นไป เธอก็ถอนหายใจหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ระหว่างทางที่เซดริกจะเดินออกไปจากงานนั้น ก็มีสาวๆ ดาหน้ากันเข้ามาสวัสดีแนะนำตัว เป็นอะไรที่เซ็งเสียเหลือเกิน เขาไม่ได้สนใจคนไหนเป็นพิเศษเลย เพราะจิตใจอยู่กับคนอื่นไปหมดแล้ว หวังก็แต่ว่าคนนั้นจะจำความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม