ลาริสา เธอช่างงดงามและเหมาะกับเขามากกว่าพริตตี้ต่ำต้อยอย่างเธอ หากทว่าหญิงสาวก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมากนักเพราะตอนนี้เวลางานของเธอสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ร่างเล็กรีบร้อนวิ่งไปยังลิฟท์และก้าวเข้าไปในข้างในซึ่งมีเธอเพียงลำพังแต่เมื่อประตูลิฟท์กำลังจะปิดมันกลับชะงักค้างเพราะถูกมือหนาแกร่งของใครคนหนึ่งดันไว้ ภิณไลย์ญาเงยหน้าขึ้นมองและต้องตกใจ
“นิโคลัส!”
หญิงสาวนิ่งงันเมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาและกดปุ่มให้ประตูลิฟท์ปิดลง เขาหันมายังร่างแน่งน้อยด้วยใบหน้าเครียดเข้มขณะมือข้างหนึ่งยันอยู่บนปุ่มลิฟท์เมื่อภิณไลย์ญากำลังจะเอื้อมมือไปกดมันพอดี
“หลีกไปนะคะ...ฉันจะรีบไปทำงาน”
“จะรีบไปไหน ในเมื่อคุณไม่ได้สังกัดเอเยนซี่ของใครอีกแล้ว”
“แต่ฉันรับงานนี้แล้วต้องทำให้เสร็จลุล่วงค่ะ”
“คุณทำงานให้ใครไม่ได้อีกแล้วเนเน่...ตอนนี้เจ้านายของคุณ...คือผมคนเดียว!”
ภิณไลย์ญาถลึงตาใส่เขา “แต่ฉันเตรียมตัวแล้ว ฉันแต่งตัวและพร้อมจะออกไปทำงานตามคำสั่งของคุณยังไงล่ะคะ”
“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!”
นิโคลัสคำรามพร้อมกันนั้นเขากดปุ่มลงไปถึงชั้นใต้ดินซึ่งมันยิ่งทำให้พริตตี้สาวตกใจ
“นิโคลัส...นี่คุณจะทำอะไร”
“ตอนแรกผมคิดว่าจบงานจะเริ่มสัญญาที่ให้คุณชดใช้หนี้ แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ต้องกลับไปที่งาน... คุณต้องไปกับผมเดี๋ยวนี้!”
“นิโคลัส...อย่านะคะ!”
ภิณไลย์ญาพยายามยื้อสุดเรงด้วยการดึงแขนเสื้อของเขาไว้แน่นและขืนตัวเองไม่ยอมให้เขาลากตัวออกไปจากลิฟท์เมื่อประตูเปิดออกที่ชั้นใต้ดิน แต่ก็ดูเหมือนความพยายามนั้นจะไร้ผลเพราะมือหนาหนักราวคีมเหล็กของนิโคลัสมีพลังมากเกินกว่าหญิงสาวจะต้านไหว เขาดึงข้อมือบางจนร่างเล็กเซตามออกไป ชายหนุ่มแสดงความหยาบร้ายเหมือนกำลังฉุดกระชากผู้หญิงตัวเล็กที่ไม่มีทางสู้ และเมื่อออกไปด้านนอกร่างสูงก็เหนี่ยวภิณไลย์ญาไว้ในอ้อมแขน ตรึงเธอไว้ด้วยกำลังที่มีมากกว่าแม้ว่าร่างอรชรจะพยายามขัดขืนแต่เธอก็ได้เพียงเข่นเขี้ยวใส่
“นิค...ไม่!...คนบ้า...ปล่อยฉันนะ!”
“หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้เลยเนเน่”
“คุณสั่งฉันไม่ได้”
“เป็นลูกหนี้อย่าบังอาจมาขัดคำสั่งผม!”
เสียงคำรามลั่นพร้อมกับที่เขาดันตัวเธอจนหลังชนผนังตึก นิโคลัสดันตัวเข้าหาและภิณไลย์ญามองข้ามไหล่กว้างเห็นชายร่างใหญ่สองคนยืนอยู่ที่รถสปอร์ตสีดำเป็นมันเงาห่างจากที่นั้นไม่ไกล เธอหอบหายใจขณะมือทั้งสองถูกตรึงไว้ด้วยมือหนาหนักจนแน่น เขากดข้อมือบางจนเจ็บร้าวขึ้นไปถึงหัวไหล่ หญิงสาวภาวนาให้มีใครสักคนผ่านมาหากก็ไม่เห็นเงาของใครนอกจาก คนของเขา นิโคลัสก้มหน้าลงไปจนปลายจมูกโด่งฝังลงบนแก้มซีด
“ยังมีข้อตกลงระหว่างเราอีกหลายอย่างและอย่างแรกคือการที่คุณต้องทำตามคำสั่งของผม”
“คุณทำเกินไปแล้ว...ทำเกินไปแล้วจริงๆ”
“ไม่เลย”
เขาคำรามลึกในลำคอและกดแนบริมฝีปากร้อนกับโหนกแก้มของภิณไลย์ญาที่ตอนนี้เมคอัพเลอะเลือนเพราะถูกเหงื่อกลบ ร่างน้อยสั่นเทิ้มนัยน์ตารื้นน้ำแดงก่ำ เธอได้ยินเสียงห้าวหัวเราะหยัน
“นี่มันยังน้อยเกินไป ยังไม่คุ้มกับเงินของผมที่เสียไปตั้งสามล้านดอลล่าห์ คุณควรทำตัวให้สมกับราคาค่าตัวสักหน่อย”
“คุณมองฉันเป็นอะไร เป็นสัตว์เลี้ยงราคาแพงที่คุณซื้อไปไว้ทรมานเล่นอย่างนั้นหรือนิโคลัส”
“ก็เลือกเอา! อยากเป็นสัตว์เลี้ยงราคาแพงหรืออยากจะเป็นทาสที่รู้จักเจียมตัวกันล่ะ ถ้าไม่เลือกทั้งสองอย่างคุณก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตแต่ไร้จิตวิญญาณก็เท่านั้น”
“แค่นี้ฉันก็เหมือนไม่ใช่คนแล้วนิโคลัส!”
ภิณไลย์ญาออกแรงผลักร่างสูงออกห่าง ชายหนุ่มถอยหลังไปสองสามก้าว เขากระชับเสื้อสูทราคาแพงระยับและมองร่างบางตรงหน้าอย่างเหยียดแคลนแม้ว่าเธอกำลังหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บแค้น ปากบางสั่นระริก เธอไม่เคยเกลียดใครมากขนาดนี้หากก็ต้องยอมจำนนด้วยภาวะบีบคั้นเกินจะต้านไหว ถ้าหากพิทย์ไม่เจ็บเจียนตาย ถ้าหากเธอไม่เจอกับคริสต์ก็คงไม่ต้องมาพบกับผู้ชายเลือดเย็นและหยิ่งผยองอย่าง นิโคลัส ซาเวีย เขาเลิกมุมปากขณะสันกรามนูนขึ้น
“ผมคิดว่าคุณคงไม่โง่พอที่จะทิ้งโอกาสช่วยชีวิตน้องชายด้วยการปฏิเสธข้อเสนอของผมเพราะถึงยังไงคุณก็ต้องยอมก้มหน้ารับมันอยู่ดี!”
ร่างสูงสง่าคว้าข้อมือบางไว้อีกครั้งก่อนกระชากร่างเล็กให้เดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตคันงามซึ่งมีบอดี้การ์ดร่างใหญ่ยืนคุมอยู่ที่นั่น คนของเจ้าพ่อธุรกิจยานยนต์ทั้งสามขยับออกห่างราวกับรู้หน้าที่เมื่อนิโคลัสเข้าไปเปิดประตูและบังคับให้พริตตี้สาวเข้าไปนั่งในรถด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เธอนั่งเกร็งและกำหมัดแน่นกระทั่งชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก่อนบึ่งออกจากชั้นจอดรถใต้ดินด้วยความเร็ว ภิณไลย์ญานั่งนิ่ง เธอเม้มปากเข้าหากันแน่นสนิท หลายต่อหลายครั้งที่ได้ยินเสียงระบายลมหายใจของคนหลังพวงมาลัยซึ่งเหยียบคันเร่งจนตัวเลขบอกไมล์บนหน้าปัดดิจิทัลทะยานขึ้นสูงแม้อยู่บนถนนกลางกรุงที่การจราจรยังหนาแน่น