“คุณพริ้ม หยุดเถอะ”
“อยากหย่านักใช่ไหม! ได้ ฉันจะให้แกหย่าสมใจ! ผู้หญิงดีๆ อย่างหนูแก้ว มีผู้ชายจริงใจรอจีบยาวเป็นแถว ไม่เหมือนยัยพินต้าเน่าของแก นอกจากแก ฉันไม่เห็นว่าจะมีใครอยากคบกับมัน!”
“ไปตุลย์ รีบไปดูเมีย พ่อจะดูแลแม่เอง”
สามีกอดร่างภรรยาให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ไล่ลูกชายให้รีบไป
คุณพริ้มไม่ได้โกรธในเชิงหยอกล้อลูกชายเหมือนทุกครั้ง ท่านโกรธจริง เพราะตนุภัทรใจร้ายทอดทิ้งภรรยาในวันที่หล่อนป่วย
“คุณตุลย์ กลับมาแล้วเหรอคะ”
“ครับ” ตอบกลับน้ำเสียงล่องลอย ควบคุมสติไม่ได้ เขายังไม่หายตกใจที่มารดาต่อว่าไปพร้อมกับร้องไห้ อาจจะทำผิดต่อความรู้สึกแม่มากไป แต่ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่แม่ยอมให้เขาหย่า
“ป้าจะยกกระติกน้ำร้อนไปไหน”
“เอาไปให้คุณหมอค่ะ แต่ป้ายังไม่ได้เสียบปลั๊ก ว่าจะเอาไปทำข้างบน มัวแต่แอบฟังคุณนายคุยกับคุณหมอเพลินจนลืม”
“มีหมอกี่คน ผมได้ยินคุณแม่ไล่กลับไปหนึ่งคน”
“สองค่ะ หมอจากโรงพยาบาลมาถึงช้า แต่หมอหนุ่ม จำไม่ผิดน่าจะชื่ออิน พี่ชายเพื่อนสนิทหนูแก้วมาถึงก่อน”
“อยู่กันสองคนเหรอครับ”
“ค่ะ คุณหมอวานป้าลงมาต้มน้ำร้อน”
ชายหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพังในที่ลับตา ไม่งามเลย ตนุภัทรแปลกใจที่หงุดหงิดกับเรื่องหยุมหยิม
“ป้าไปนอนเถอะครับ ที่เหลือผมจัดการเอง”
“ให้ป้าไปนอน ใครจะเช็ดตัว คอยหยิบจับของให้ล่ะคะ”
“ผมจัดการเอง ตีสามกว่าแล้ว ไม่ใช่เวลาทำงานของป้า”
“ถ้าอย่างนั้น ป้าขอรอส่งคุณหมอก่อนนะคะ กลัวตาชิดหลับตอนรอเปิดประตู คุณหมอจะเอารถออกจากบ้านไม่ได้”
“ครับ” เขารับกระติกน้ำร้อนจากป้า เห็นด้วยอย่างยิ่ง ตอนเขาขับรถเข้ามาเงียบเชียว ถ้าโจรบุก น่าจะกวาดของไปเกลี้ยงบ้าน