เสียงระเบิดโครมคราม แว่วมาตามช่องทางลับด้านเหนือ…
หลิวหงเหินรีบเร่งฝีเท้าไปตามเสียงด้วยใจระทึก แม้การโคจรลมปราณของมันจะยังรู้สึกติดขัดไม่ปลอดโปร่งนัก แต่ความห่วงใยเด็กสาวมีมากล้นเกินกว่าจะรั้งรอรักษากาย
" คนโฉดน้อย !....เหตุใดไร้เหตุผลเช่นนี้ ยังไม่รีบส่งมอบยาแก้พิษมาให้ข้าอีก ! "...
เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กสาวเร่งกระตุ้นให้หลิวหงเหินแผ่พุ่งลมปราณ เผ่นโผนสู่ที่มาของเสียงนางที่อยู่ห่างไปไม่กี่เซียะ
" แม่นางน้อยเพลงกระบี่เจ้ายอดเยี่ยมนัก ไม่ทราบว่าเจ้าเป็นศิษย์ของผู้ใดกันแน่ ! " ปรมาจารย์พิษกล่าวอย่างอิดโรยให้เห็นถนัดตา ในขณะที่หลิวหงเหินไปถึงที่ทั้งสองหยัดยืนอยู่
เด็กสาวมีสีหน้าโกรธขึง ยืนมั่นคงโดยในมือชี้ขลุ่ยตรงไปที่เทพอสรพิษ นางปลดปล่อยลมปราณไปที่เลาขลุ่ยจนเกิดเสียงหวีดหวิวเป็นทำนองแผ่วเบา
หลิวหงเหินเมียงมองจนตะลึงลาน ไม่คิดว่าเด็กสาววัยเยาว์จะมีพลังลมปราณลึกล้ำปานนี้
เกรงว่าเทพอสรพิษก็คงแตกตื่นไม่ต่างจากหลิวหงเหินนัก เมื่อมันลงมือไปสองกระบวนท่าแล้วถูกเพลงกระบี่ลมปราณสลายพลังมันไปสิ้น
ปรมาจารย์น้อยถึงกับต้องถอยหลังไปชิดผนังหิน เพ่งมองหาจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม
" ยังไม่รีบส่งมอบยามาอีก ! " เด็กสาวกล่าวย้ำด้วยเสียงหนักแน่นขึ้น
" เด็กน้อย !...ยูบยาข้ามีมากหลาย อยู่ที่ว่าเจ้าจะกล้ายื่นมือมารับหรือไม่ " เทพอสรพิษกล่าวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมกับยื่นมือส่งขวดยาทรงกลมสีน้ำเงินเข้มตรงไปให้นาง
" อย่าได้สัมผัสมันเชียวแม่หนูน้อย !..." หลิวหงเหินตะโกนห้าม พร้อมกับก้มกายเก็บก้อนหินขนาดใหญ่ไว้ในอุ้งมือ
" ข้าย่อมไม่อยากแตะต้องคนโฉดอยู่แล้ว ! " เด็กสาวกล่าวพลางตวัดขลุ่ยม้วนหมุน ส่งลมปราณไปกับเสียงหวีดหวิวจากลำขลุ่ย ดึงดูดเอาขวดทรงกลมลอยออกจากมือปรมาจารย์พิษ
ทว่าขวดยากลับหยุดอยู่กลางอากาศ เมื่อมืออีกข้างของปรมาจารย์พิษส่งกระแสลมปราณดึงดูดเหนี่ยวขวดยากลับ สองพลังจึงยื้อยุดขวดยาไว้จนแน่นิ่งอยู่กลางอากาศ
" ท่านปรมาจารย์น้อยเหตุใดใจคับแคบนัก ยาขวดน้อยนิดยังไม่ยอมแบ่งปันอีก "...หลิวหงเหินกระโดดไปมา ขณะกล่าววาจาเพื่อไม่ให้จำแนกทิศทางได้แน่ชัด ก่อนจะปาหินในมือตรงเข้าใส่เทพอสรพิษ!...
เทพอสรพิษถูกแบ่งแยกสมาธิ จนต้องยกอีกมือส่งพลังทำลายก้อนหินที่ลอยมาระเบิดแหลกเป็นผุยผงไป
ทำให้ขวดยาที่ค้างเติ้งกลางอากาศ ถูกดึงดูดจนลอยละล่องมาเข้าในห่อผ้าที่เด็กสาวเตรียมรองรับไว้ พร้อมเพรียงกับที่ร่างระหงในชุดคราม ล่อนลงมาเคียงข้างนาง
" นี่คือกลยุทธ ' ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม ' ( เซิงตง จีซี )...ตามชื่อข้าพเจ้าใช่หรือไม่ ? "...เด็กสาวเปลี่ยนกลับเป็นแย้มยิ้มทันที ที่เห็นหลิวหงเหินยืนอยู่เคียงข้าง
" มารดาท่านคงสอนพิชัยสงครามให้ครบถ้วนแล้วใช่หรือไม่ ! " หลิวหงเหินชายตามองปรมาจารย์พิษวาบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวสืบต่อ
" ถึงคราที่เผชิญศัตรูเข้มแข็งเพียงนี้ เจ้าคงต้องเลือกมาใช้สักกลยุทธแล้ว ? "
" เอ ?..." นางยกขลุ่ยตีกับฝ่ามือทำท่าครุ่นคิด
" แม่นางน้อยเราสองคนต่างไร้เรื่องบาดหมาง จะขัดขวางข้าไม่ให้พบลูกศิษย์ไปเพื่ออะไร !" เทพอสรพิษเปลี่ยนท่าทีมากล่าวเยือกเย็น สองมือไพร่หลัง คล้ายแสดงให้เห็นถึงอาการสงบนิ่งไม่คิดจู่โจม
แต่ในสายตาหลิวหงเหินกลับไม่น่าไว้ใจนัก เพราะเทพอสรพิษเล่ห์ร้าย เหลี่ยมลึกเกินกว่าจะวางใจ
" ท่านผู้อาวุโส เวลาล่วงเลยมาหนึ่งราตรีแล้ว เหตุใดท่านไม่พักผ่อนสักครู่เล่า ดูร่างกายท่านอิดโรยอยู่ไม่น้อย !" หลิวหงเหินเบิกยิ้มร่า ด้วยเห็นแน่ชัดว่าปรมาจารย์พิษดูจะมีอายุเพิ่มขึ้น คล้ายเด็กหนุ่มอายุ18-19ได้ เหมือนกับว่าการใช้พลังวัตรในวิชาพิษพิสุทธิ์จะเร่งรุดการเจริญวัยของผู้คนไม่ใช่น้อย
" นายท่านหลิวช่างมีน้ำใจนัก ถ้าจะให้ดีท่านสมควรอยู่ร่วมเป็นสหายพูดคุยกันสักหน่อยเป็นไร ! " มันกล่าวรวบรัด พร้อมกับสะบัดมือปลดปล่อยลมปราณดึงดูดไปที่หลิวหงเหิน
ซึ่งชายร่างระหงเตรียมพลังวัตรคอยท่าไว้ก่อนแล้ว เมื่อถูกพลังดึงดูดอีกครั้ง มันจึงกระโจนตามแรงดูดแล้วหมุนตัวกลางอากาศหลายสิบรอบ ตามเคล็ดวิชาคล้อยบุปผชาติในวังวน เพื่อถ่ายเทพลังวัตรของเทพอสรพิษให้เบียงเบนไปทุกทิศทาง ก่อนจะม้วนตัวกลับมาหยัดยืนที่เดิม
" ลูกไม้เดิมใช้ไม่ได้ผลซ้ำสองหรอกนะท่านปรมาจารย์น้อย "
" ถ้าไม่ชมชอบอยู่ร่วม ข้าจะส่งเสริมให้ท่านไปไกลขึ้นดีกว่ากระมั้ง ! " เทพอสรพิษมีสีหน้าขุ่นเคืองขึ้น ขณะปลดปล่อยพลังดัชนีตามต่อเป็นซ้ำสอง
ทว่าครั้งนี้เด็กสาวกลับกระโจนออกมากวัดแกว่งขลุ่ยหยกขาวในมือ ร่ายไหวเพลงกระบี่เคลื่อนดาราจักร รับแรงและสลายพลังปราณของมันให้กระจัดกระจายไปในหลายทิศทาง
" ข้านึกออกแล้วว่าจะใช้กลยุทธใดดี ! "...เด็กสาวสะบัดขลุ่ยพลางกล่าวพลาง...." นี่เรียกกลยุทธ 'ถอนฟืนใต้กระทะ ' เจ้าว่าสมควรใช้กลยุทธนี้หรือไม่ "
หลิวหงเหินได้แต่ยิ้มรับเจื้อนๆ ....เหตุใดจะใช้อุบายกับข้าศึก แล้วต้องบอกกล่าวให้มันรู้ตัวด้วยเล่า....
ที่เด็กสาวเรียกการเบียงพลังปราณของเทพอสรพิษ ว่าเป็นกลยุทธถอนฟืนใต้กระทะนับว่าถูกต้องแล้ว ตราบเมื่ออีกฝ่ายถาโถมพลังมาอย่างไร้ผลจนมันหมดสิ้นพลังวัตร คงเหมือนกระทะที่ไร้ฟืนไฟความร้อนแล้วจะต้มน้ำดือดได้อย่างไร
ทว่าการถอนฟืนของเด็กสาวกลับสิ้นสุดกระทันหัน เมื่อเทพอสรพิษหยุดยั้งการลงมือ แล้วถอยตัวไปชิดผนังถ้ำยืนแน่นิ่ง เหม่อมองคนทั้งคู่ด้วยความอ่อนล้าโรยรา
" เจ้าเลิกเล่นแล้วรึ คนโฉดน้อย ! " เด็กสาวกล่าวแย้มยิ้มทั้งที่ยังควงขลุ่ยหยกขาวไปมา
ดวงตาเทพอสรพิษรุกวาวราวสัตว์ร้าย สองแขนมันกางออก สองมือแบแนบติดผนังหิน มันยกมุมปากเผยยิ้มอำมหิต ก่อนจะปลดปล่อยถ้อยคำอันกร้าวแกร่ง ให้สะท้านสะเทือนในอากาศ
" เด็กน้อย !...เจ้าคิดว่ารู้จักพิชัยสงครามคนเดียวรึ !"...
สิ้นเสียงกร้าว สองมือมันพลันปลดปล่อยพลังปราณถ่ายเทเข้าไปในผนังหิน มันไหลทะลักพลังวัตรระลอกแล้วระลอกเล่าใส่หินผาอันกล้าแกร่ง ราวกระแสน้ำบ่าทะลักทะลายจนผาหินสั่นระริก เกิดเป็นเสียงครืดคราดสะเทื่อนไปทั่ว
กระทั้งสะเก็ตหินพลันระเบิดออกจากผนัง แล้วพุ่งเข้าใส่เด็กสาวจากทุกทิศทุกทาง
ชั่วอึดใจนั้น เด็กสาวพลันควงขลุ่ยหยกขาวตามสัญชาตญาณ แผ่พลังลมปราณครอบคลุมรักษาตน แต่เศษหินยังคงพุ่งใส่คนทั้งคู่ไม่หยุดยั้ง จนนางต้องเคลื่อนขยับร่ายรำขลุ่ย ไปพร้อมทอดท่าร่างหลบเลี่ยงไปในที
เช่นเดียวกับหลิวหงเหินที่ใช้วิชาคว้าจับกุญชร ผสานเข้ากับวิชาตัวเบา ปัดเบี่ยงเศษหินไปพร้อมกับเคลื่อนขยับท่าร่างหลบเลี่ยง
" เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันใช้พิชัยยุทธใดกัน ? " เด็กสาวร้องถามลั่น ทั้งที่ขลุ่ยในมือยังกวัดแกว่งราวจักรผัน
" เวลานี้ไม่อาจรู้แน่ชัด ที่กระจ่างแน่แท้คือเราต้องใช้สุดยอดพิชัยยุทธบทสุดท้ายแล้ว " หลิวหงเหินตอบกลับไป พร้อมร่ายรำฝ่ามือปัดป่ายเศษหินให้สะท้อนไปจากตัว
ฮิ ฮิ ฮิ...เด็กสาวหัวร่อสดใสไร้เดียงสา พลางกล่าวไปพร้อมพลังปราณที่ถ่ายทะลักออกจากขลุ่ย
" ประเสริฐยิ่ง ยามนี้ไม่ใชกลยุทธหลบหนีจะให้ใช้กลยุทธใดอีก " นางกล่าวไปกับท่วงท่าพุ่งทะยานไปยังทางเดินยาวไกล
ทว่านางกลับต้องตีลังกาม้วนตัวกลับหลัง เมื่อพบว่าที่พื้นหินเบื้องล่างพลันเกิดสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ก่อนจะแตกเป็นแขนงหลายสาย แล้วแผ่นหินได้แยกเป็นเศษกระจายพวยพุ่งเข้าใส่เด็กสาว จนนางต้องรั้งร่างถอยกรูด
" จะรีบไปไหนเจ้าด็กน้อย ! เจ้ายังรับชมพิชัยยุทธ ' ลักขื่อเปลี่ยนเสา ' ไม่หมดสิ้นเลย ! "...เทพอสรพิษกล่าวเสียงแหบห้าว
โดยครานี้มันทรุดเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่ง และใช้มือหนึ่งแบสัมผัสลงพื้น มืออีกข้างยังคงแตะผนังหินข้างตัวมัน ถ่ายเทลมปราณควบคุมเศษหินให้พวยพุ่งใส่ทั้งสอง ราวกับห่าฝนหนักหน่วงกระหน่ำใส่
ถึงครานี้หลิวหงเหินแตกตื่นหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพราะพลังวัตรของปรมาจารย์พิษช่างพิสดารอัศจรรย์ยิ่ง ขนาดผนังห้องกว้างใหญ่ มันยังสามารถควบคุมหินใช้เป็นอาวุธได้ดั่งใจ
แตกต่างจากเด็กสาวหน้าใส ที่ยังยิ้มแย้มจนแก้มออกแดงระเรื่อ คล้ายไม่ทุกข์ร้อนกับวรยุทธอันทรงทรงพลังแม้แต่น้อย
" ฮิ ฮิ ฮื...ที่แท้ท่านเล่นกล ' ลักขื่อเปลี่ยนเสา ' แบบนี้ข้าพเจ้าย่อมมีทางแก้แล้ว " เด็กสาวกล่าวเสียงใส พลางกระโดดลอยตัวขึ้นไปยืนบนไหลหลิวหงเหิน
" คนโฉดชุดคราม ขอยื่มตัวเจ้าเป็นฐานต่อชั่วครู่นะ "...
" มาถึงขนาดนี้ ไม่ต้องขอก็ได้ ! " มันกล่าวด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ โดยหยัดยืนด้วยขามั่นคง แล้วใช้สองแขนโคจรลมปราณถ่ายทอดป้องกันตัว
ส่วนเด็กสาวได้แต่หัวเราะเสียงใส พร้อมกับชูแขนขึ้นสูง โดยมีขลุ่ยวางนอนบนฝ่ามือ จากนั้นขลุ่ยบนมือพลันหมุนเป็นวงเร็วรี่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับปลดปล่อยพลังปราณจากเลาขลุ่ย กระเพื่อมสายลมให้วูบไหวเป็นวงในอากาศ เกิดเป็นกระแสพลังไร้รูปหมุนวนรอบตัวคนทั้งคู่
พอเศษหินพุ่งทะลวงเข้าใส่ กลับกลายเป็นถูกพลังไร้รูปดูดเข้ามาเกาะเกี่ยวเป็นกลุ่ม แล้วหมุนเป็นวงรายล้อมไปกับลมปราณกลางอากาศ จนมองดูคล้ายวงแหวนหินไหลเวียนวนรอบคนทั้งคู่
เทพอสรพิษชมมองจนตะลึงลาน ยิ่งนานเด็กสาวยิ่งสร้างความประหลาดใจให้มันเหลือกำลังหนัก แม้แต่มันทุ่มเทพลังวัตรไปหมดสิ้น เด็กสาวยังหาทางแก้ไขได้ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ
เมื่อมันเลือกใช้กลยุทธลักขื่อเปลี่ยนเสา คือการโจมตีแยกกระจ่ายไม่ให้ศตรูตั้งทัพง่ายดาย แต่นางกลับตั้งรับได้ด้วยวังวนลมปราณ
" คนโฉดชุดคราม เจ้ารู้จักกลยุทธ ' ปิดฟ้าข้ามทะเล ' หรือไม่ ?......ข้าจะนับถึงสามแล้วกลยุทธจะสิ้นสุดลง....เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? "....นางกล่าวแผ่วเบา คล้ายไม่อยากให้เทพอสรพิษได้ยิน
เสียดายที่ผู้มีพลังปราณเปี่ยมล้นเช่นเทพอสรพิษ ย่อมได้ยินทุกสรรพสำเนียง แม้จะแผ่วเบาเพียงใด
แต่ถ้อยคำที่มันได้ยิน กลับทำให้ปรมาจารย์พิษนึกสบถขึ้นในใจ !....." ผิดท่าแล้ว ! "
" หนึ่ง...สอง....สาม...! "
พอสิ้นเสียงที่ด็กสาวนับ เหล่าก้อนหินที่หมุนวน กลับเปลี่ยนทิศทาง วกม้วนเป็นเกลียวแล้วพวยพุ่งเข้าใส่ปรมาจารย์พิษ ดั่งกระแสธารหินอันกล้าแกร่งพุ่งทะลวงเข้าหา
เทพอสรพิษพลันต้องถอนมือจากผนังหิน หันมาตวัดมือส่งพลังป้องกันกาย
" ยังไม่รีบไปอีกเจ้าคนโฉด ! "....เสียงเด็กสาวลอยละล่องไปตามทางเดินทอดยาว พร้อมกับรูปเงาในชุดหลากสีโลดแล่นไปไวดั่งสายลม
หลิวหงเหินพลันกลับตัว พุ่งทะยานร่างติดตามนางไปไม่ห่าง
เช่นเดียวกับเทพอสรพิษ ที่แม้จะติดพันกับเหล่าเศษหิน แต่ก็ยังถาโถมติดตามทั้งสองไปโดยไม่ใส่ใจ กับหินที่กระทบกระเทือนมาโดนตัว
มันทุ่มเทท่าร่าง ส่งกระแสพลังวัตรพลุ่นพล่าน ละล่องลิ่วเข้าใกล้หลิวหงเหินเข้าไปทุกขณะ
แต่หลิวหงเหินกลับรู้เท่าทัน เมื่อสัมผัสว่าเทพอสรพิษเข้าใกล้ พลันส่งลมปราณพุ่งไปเบื้องหน้า ทำให้ตัวมันหมุนวน ก่อนจะดีดเท้าเข้ากับผนังหิน แล้วทะยานย้อนเรี่ยไปตามพื้น สวนทวนกับร่างปรมาจารย์พิษที่พุ่งผ่านอยู่เบื้องบน
" หนึ่ง....สอง...."...
เสียงเจื่อยแจ้วพุ่งมาตามทางเบื้งหน้า พร้อมแรงพลังจากขลุ่ยหยกขาวที่วกจู่โจมเข้าใส่
" เจ้าเล่ห์เจ้ากลนัก ! " เทพอสรพิษร้องก้อง เมื่อรู้ตนว่าเสียที แผนปิดฟ้าข้ามทะเลของนางเสียแล้ว เพราะนางไม่ได้อำพรางเพื่อหลบหนี หากแต่แสร้งหลบหนีเพื่อตีโต้กลับต่างหาก
ทว่าปรมาจารย์พิษเช่นมันไหนเลยจะเสียทีง่ายดาย มันใช่เพียงแขนวกกลับ แล้วถ่ายเทพลังวัตรไปกับสองดัชนี ปะทะซึ่งหน้ากับปราณแกร่งกร้าวจากขลุ่ยนางที่พุ่งมา
สองพลังลมปราณพุ่งชนกันรุนแรงราวฟ้าสะเทือน จนเกิดแรงอัดย้อนกลับเข้าภายในคนทั้งสอง ทำเอาเทพอสรพิษถอยหลังโอนเอน ส่วนเด็กสาวถูกแรงส่งปลิวละลิ่วข้ามไปด้านหลัง
ทำให้หลิวหงเหินต้องกระโจนขึ้นฟ้า ถ่ายพลังรับนางไว้ในอ้อมแขน แล้วจึงล่อนร่างลงมาหยัดยืนกับพื้น
" สาม ! "....
นางระบายถอยคำมากับโลหิตสดๆที่สำลักออกจากปาก ทว่านางกลับยังยิ้มแย้มด้วยแววตาสุกใส
" กลยุทธข้าพเจ้าใช้ได้หรือไม่ ?...เจ้าคนโฉด !..."
...นี้นางเป็นคนประเภทใดกัน บาดเจ็บเช่นนี้ยังยิ้มออกมาได้ หากอาจารย์ทั้งห้ามาพบพานนางเข้า คงต้องเรียกนางเป็นพิสดารน้อยแล้ว !.....หลิวหงเหินนึกวูบขึ้นในใจ ก่อนจะพยุงนางเลี่ยงหลบพิงผนังหิน
เพราะมันเห็นแน่ชัดว่า เทพอสรพิษกำลังขยับกายหยัดยืนมั่นคง ทั้งที่มือมันยังลูบคลำอยู่บนหน้าอก
" คราวนี้เราต้องใช้แผนหลบหนีกันจริงๆแล้วแม่หนูน้อย ! " หลิวหงเหินกล่าวพร้อมเคลื่อนขยับถอยหลัง
ทว่ากลับถูกฝ่ามือนุ่มนิ่มฉุดรั้งแขนไว้
" ผิดทางแล้วเจ้าคนโฉด ! "....เสียงนางแผ่วเบานักขณะยกมือขึ้นตบโขดหินข้างตัว
จากนั้นนางจึงฉุดรั้งร่างชายหนุ่มเข้าไปชิดกับผนังหิน ทันทีนั้นผนังหินพลันหมุนกลับ ! ผลักเอาคนทั้งคู่เคลื่อนหมุนกลับเข้าสู่อีกด้านของทางเดิน
โดยหลิวหงเหินยังได้ยินเสียงตะโกนกร้าวของเทพอสรพิษ แว่วมาตามช่องทางที่ปิดลง
" เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก !.... ปีศาจน้อย ! "...