บทที่ 5 เข้าห้องหอ

1215 คำ
ชายหนุ่มนั่งรออยู่ในห้องรับแขก วันนี้เป็นงานมงคลสมรสระหว่างเขากับของขวัญ มีการเชิญเพียงแค่ญาติผู้ใหญ่ที่สนิทสนมใกล้ชิดกันเท่านั้น แม้กระทั่งเพื่อนรักที่สนิทเขายังไม่เชิญใครสักคนเลย เป็นงานแต่งงานแบบลับที่สุด เอาจริงก็แค่ไม่อยากให้ใครรู้นั่นแหละ นั่งรออยู่เพียงไม่นานน้าสร้อยก็พาเจ้าสาวของงานในวันนี้เดินเข้ามา ก็ไม่ได้ผิดคาดสักเท่าไหร่ สวยมาก เป็นผู้หญิงที่สวยไม่มีที่ติ ไม่รู้เหมือนกันว่าชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไร เขาจ้องมองร่างบางตรงหน้าที่ตอนนี้ขยับตัวนั่งลงตรงหน้า คืนนี้แหละเขาจะจัดการให้หนักเลย ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องคุณแม่ก็ไม่ยอมให้เจอเลย เวลาจะไปไหนก็จะพาของขวัญตามไปด้วยแทบทุกที่ ทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะได้ลากหญิงสาวมาจัดหนักให้สาสม ไม่ได้มีอะไรกับเธอมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว เพราะฉะนั้นคืนนี้จะปลดปล่อยให้สาสม เคยพยายามจะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นแต่มันไม่ได้จริง ๆ 3 ปีที่ผ่านมาเขามีแค่เธอคนเดียว ยอมรับเลยว่าไม่ได้มองผู้หญิงคนไหนเลย เพราะไม่ว่าจะเห็นกี่คนของขวัญก็คือผู้หญิงที่เด็ดที่สุดสำหรับเขา "คอปเตอร์สวมแหวนให้น้องสิลูก" และเมื่อนั่งลงได้ไม่นานก็มีผู้ใหญ่คอยแนะนำวิธีการต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้ถึงพิธีสวมแหวนแล้ว "ส่งมือมา" เขายื่นมือไปตรงหน้าหญิงสาว หญิงสาวเงยหน้ามองสบตาเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือข้างซ้ายไปวางไว้บนมือของเขา "จะลีลาทำไม แล้วไม่ต้องมาเขินหรอก เหอะ" เขาจ้องมองใบหน้าของเธอที่ตอนนี้แก้มแดงเป็นลูกตำลึงลามไปถึงใบหูแล้ว คอปเตอร์หยิบแหวนออกมาจากกล่องจากนั้นก็สวมลงไปบนนิ้วนางข้างซ้าย จากนั้นเธอก็ยกมือกราบเขาแนบตัก "ขอบคุณค่ะ" "ของขวัญสวมแหวนคืนให้พี่เขาสิลูก" เธอพยายามหน้าเล็กน้อยก่อนจะหยิบแหวนอีกวงขึ้นมา จากนั้นก็จ้องมองไปยังชายหนุ่มตาใสแป๋ว คอปเตอร์ยื่นมือข้างซ้ายไปให้เธอสวมแหวนอย่างง่ายดาย แต่อีกเดี๋ยวก็คงได้ถอดแล้วแหละ เพราะเขาคงไม่คิดที่จะใส่ออกไปไหนไม่งั้นคนก็รู้กันหมดว่าแต่งงานแล้ว หลังจากนั้นก็มีพิธีการรดน้ำสังข์ แต่ใจในตอนนี้อยากเข้าห้องหอมากกว่า "เราต้องให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเข้าห้องหอกันก่อน เดี๋ยวจะเกินฤกษ์เอา" หึ ได้เวลาแล้วสินะ เมื่อนึกได้อย่างนั้นเขาก็อมยิ้มแก้มปริรีบเดินตรงเข้าไปยังให้หออย่างไว แต่ทว่าคนตัวเล็กเหมือนจะรู้ว่ากำลังจะเผชิญชะตากรรมอะไร จ้องมองมาทางเขาก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอดังอึก สงสัยจะกลัวเขาให้หอกับเขาแล้วมั้ง "แม่ขอให้ทั้งสองคนมีความสุขมาก ๆ นะลูก คอปเตอร์อย่ารังแกน้องนะเข้าใจหรือเปล่า" คุณแม่หันมามองใบหน้าของลูกชายก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความกดดัน "ผมรู้แล้วน่า ส่งตัวเสร็จก็ออกไปได้แล้วมั้ง อยากพักผ่อนจะแย่แล้วเนี่ย" เขารีบไล่ผู้ใหญ่คนอื่นที่อยู่ภายในห้องออกไป คุณแม่ได้ยินแบบนั้นก็ยื่นมือมาตีหลังเขา จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารบางอย่าง "อะไรกันคะเนี่ย" ของขวัญเคยถามด้วยความแปลกใจ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าเอกสารในมือของผู้ชายคนนั้นคืออะไร "ใบทะเบียนสมรสน่ะหนูของขวัญ" "ฮะ!" "คะ!" ทั้งสองคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อคุณแม่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส ก่อนจะหันมามองสบตากันด้วยความมึนงง "ไหนบอกว่าไม่ต้องจดทะเบียนก็ได้ไง" ลูกชายรีบทักท้วงทันที แต่ทว่าก็ต้องอมยิ้มเมื่อคนเป็นแม่จ้องมองมาทางเขาอย่างเอาเรื่อง "มีเงื่อนไขด้วยนะ ถ้าเกิดว่าลูกหย่ากับหนูของขวัญก่อนจะมีทายาทให้แม่ สมบัติทุกอย่างจะตกเป็นของมูลนิธิทันที เซ็นจ้ะ" เขาอ้าปากค้างอย่างช็อกสุดขีด จะเล่นแบบนี้กันเลยหรือไง ตอนแรกคิดว่าถ้าได้จดทะเบียนกันจริงอาจจะขอหย่าทีหลัง แต่เงื่อนไขใหม่ก็คือจะต้องมีทายาทด้วยไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ได้สมบัติอะไรเลย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย "ไม่มากไปเหรอครับแม่ผมยอมแต่งก็ดีแค่ไหนแล้ว ยังจะมีทายาทด้วยกันอีก" เขาแสดงสีหน้าหงุดหงิดอย่างชัดเจน คนเป็นแม่เห็นแบบนั้นก็เก็บทะเบียนสมรสไว้ตามเดิมก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ตามใจงั้นโอนให้มูลนิธิทิ้งไว้เลยแล้วกัน คุณทนายเอาพินัยกรรมมาเปลี่ยนหน่อย" และเมื่อคุณแม่พูดแบบนั้นเขาก็รีบร้องห้ามท่านทันที "ซะ...เซ็นก็ได้" และเมื่อคุณแม่ได้ยินแบบนั้นก็อมยิ้มก่อนจะยื่นซองเอกสารมาให้ชายหนุ่ม เขารับมาถือไว้ในมือก่อนจะจรดปากกาเซ็นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก เหลือบสายตาหันไปมองของขวัญที่ตอนนี้ทำหน้าช็อกอย่างพูดไม่ออก เดี๋ยวเถอะจะเอาให้สาสมไปเลย ยัยตัวต้นเรื่อง "เซ็นสิของขวัญฉันง่วงนอนแล้ว" เขาหันไปกดดันร่างบางคะยั้นคะยอให้รีบเซ็นเอกสาร ลีลาอยู่นั่นแหละเริ่มรำคาญแล้วนะ เธอเห็นเขาเริ่มอารมณ์เสียก็รีบรับเอกสารมาเก็บไว้ก่อนจะใช้ปากกาเซ็นเอกสารตามที่ทนายแนะนำ และเมื่อคุณแม่ได้ในสิ่งที่พอใจก็อมยิ้มออกมาอย่างดีใจสุดขีด "งั้นพวกเราไม่กวนแล้วนะตามสบายจ๊ะลูกชาย ลูกสะใภ้" และเมื่อคุณแม่พูดจบก็พาทุกคนออกไปจากห้องหอ ปล่อยให้คู่บ่าวสาวได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง นอนพักผ่อนด้วยกัน และนี่แหละเป็นเวลาที่เขารอคอย รับรองว่ายัยบ้านี่ไม่รอดแน่ และหลังจากที่ทุกคนออกไปหมดของขวัญก็ไม่รอช้ารีบขยับตัวลุกขึ้นเตรียมจะเข้าไปในห้องน้ำเพราะไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน เพราะใบหน้าของผู้ชายที่เรียกว่าสามีช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน "เธอจะไปไหน" หญิงสาวหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลง โดนเขาเรียกซะแล้วสิจะแก้ตัวยังไงดีล่ะ เธอค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าของเขาด้วยแววตาสั่นกลัว "คือว่าหนูจะไปอาบน้ำค่ะ" และเมื่อได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็แสยะยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ ขยับตัวลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้จนของขวัญเดินถอยหลังไปจนชิดกำแพง "อาบด้วยกันสิ" เมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบส่ายหน้าทันที แต่ทว่าไม่ทันแล้วเพราะตอนนี้ถูกชายหนุ่มรวบตัวเอาไว้ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาซุกใส่ตรงซอกคอ "ยะ...อย่าค่ะ อ๊ะ คะ...คุณคอปเตอร์!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม