เจียวอิงกำลังจะอ้าปากเถียง แต่ม่ออี้กลับชิงร่ายยาวถึงรายละเอียดงานต่างๆ ภายในจวน บอกถึงสิ่งที่ต้องรับผิดชอบและต้องทำเป็นประจำ จากนั้นสะบัดหน้าเดินจากไปอีกครั้ง
เจียวอิงยืนอึ้ง อยากจะกรีดใส่หน้ายัยกิ้งก่านั้นเสียเหลือเกิน แต่การทำตัวมีปัญหากับผู้มีอำนาจนั้นมิใช่สิ่งที่คนอยากอายุยืนพึงกระทำ ม่ออี้เป็นสาวใช้เก่าแก่ นางตั้งตนเป็นหัวหน้าของกลุ่มสาวใช้ เทียบเท่าตำแหน่งพ่อบ้านของจวนอ๋อง
เจียวอิงยกนิ้วขึ้นมานับถึงสิ่งที่ตนต้องทำ มากมายหลายแสนจนอยากจะดำดินหนีเสียเดี๋ยวนี้ แต่เพื่อข้าวเช้า...นางต้องได้กินข้าวก่อน
เวลาใกล้ฟ้าสาง เจียวอิงเดินไปต้มน้ำร้อนที่ห้องครัว เทใส่อ่างขนาดกลาง หยิบผ้าขนหนูมาหนึ่งผืนและเดินตรงไปที่เรือนนอนของหมิ่งจิ้นเหอ
หมิ่งจิ้นเหอไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้อง ทุกเช้าม่ออี้จึงจะนำน้ำร้อนมาวางให้หมิ่งจิ้นเหอที่ประตูหน้าห้องแทนที่จะเอาไปให้ข้างใน
เจียวอิงทำตามคำสั่ง ค่อยๆ เดินไปตามระเบียง ย่อตัวลงและวางอ่างน้ำร้อนอย่างเบามือ แต่แล้วทันใดนั้นประตูกลับถูกเปิดออกกะทันหัน เจียวอิงสะดุ้งตกใจรีบเงยหน้ามองผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าทันที
“ข้าเสียงดังจึงทำให้ท่านอ๋องตื่นหรือ”
หมิ่งจิ้นเหอขมวดคิ้วมองเจียวอิงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “ยกเข้ามาข้างใน”
เจียวอิงสับสนในทีแรก แต่แล้วก็ค่อยยกอ่างน้ำร้อนเข้ามาในห้อง วางลงที่โต๊ะตรงหัวเตียง จากนั้นหันหลังจะเดินออกมา
แต่หมิ่งจิ้นเหอกลับปิดประตูและหันมาจ้องหน้าเจียวอิงตาไม่กะพริบ “ทำไมเจ้ามาอยู่ตรงนี้”
“เอ่อ ขะ...ข้ามาทำงานเจ้าค่ะ”
“ปกตินี่เป็นหน้าที่ของม่ออี้ หาใช่หน้าที่ของเจ้า”
“พี่ม่ออี้สั่งสอนให้ข้าตอบแทนบุญคุณท่านอ๋อง เอาแต่นั่งกินนอนกินเหมือนตอนอยู่ที่จวนตระกูลหลี่ไม่ได้” เจียวอิงอธิบายด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด จนคนฟังหลงคิดไปว่านางคงกำลังคิดถึงชีวิตที่สุขสบายก่อนหน้านี้ของตน
หมิ่งจิ้นเหอเดินไปนั่งที่เตียง มองพิจารณาสตรีตรงหน้าพลางครุ่นคิดถึงกิตติมศักดิ์ความร้ายกาจของนางแล้วก็ได้แต่เอียงคอสงสัย
นับตั้งแต่ได้นางมาเป็นสาวใช้ข้างห้อง หมิ่งจิ้นเหอยังไม่เคยเห็นเจียวอิงทำตัวระรานหรือกลั่นแกล้งผู้ใด นิสัยของนางนิ่งเฉย จิกกัดด้วยคำพูดเป็นบางครั้ง แต่ที่รู้แน่ๆ คือซ่อนความฉลาด รู้เท่าทันคนและซุกซนเป็นที่สุด
“เช่นนั้น ก็เข้ามาเช็ดตัวให้ข้า”
เจียวอิงตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางเงยหน้ามองหมิ่งจิ้นเหออย่างตะลึงตะลาน เห็นใบหน้าคมดุมองมาอย่างเจ้าเล่ห์ ร่างกายกำยำสวมเพียงเสื้อคลุมตัวบางและกางเกงยาวสีขาวที่แนบเนื้อจนสามารถมองทะลุ...
เจียวอิงสะบัดหน้าใส่ความคิดลามก หันไปหยิบผ้ามาชุบน้ำบิดให้หมาดและขยับเข้าใกล้ร่างสูงที่นั่งยิ้มอย่างชอบใจ มือเล็กสั่นเทาเล็กน้อยขณะพยายามจะเปิดเสื้อคลุมออกทีละนิด
หมิ่งจิ้นเหอแทบจะกลั้นหัวเราะกับท่าทางเงอะงะของเจียวอิงไม่ไหว ร่วมรักกับนางมาหลายครั้งต่อหลายครั้ง แต่นางก็ยังมีทีท่าเขินอายไม่กล้าแตะต้องตัวเขาอยู่ตลอด
สงสัยต้องสอนนางให้กระทำมากกว่านี้เสียแล้วกระมัง
หมิ่งจิ้นเหอถอดเสื้อตัวเองออก “เจ้าจะได้เช็ดได้ถนัด”
นั่นคือคำพูดที่แฝงความหวังดีหรือตั้งใจล่อลวงลูกแกะน้อยเช่นนางกันแน่! ใบหน้างามเห่อร้อนจนแทบจะลุกไหม้ หมิ่งจิ้นเหอไม่เพียงจะเป็นชายหนุ่มรูปงามแต่รูปร่างยังกำยำล่ำสัน อาจเพราะฝึกวรยุทธ์มาตั้งแต่เด็กทำให้มองเผินๆ อาจคิดว่าเขาเป็นแม่ทัพหนุ่มมากกว่าท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ก็ได้กระมัง
เห็นเจียวอิงยืนนิ่งไม่ขยับตัว หมิ่งจิ้นเหอจึงเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือเล็กและดึงนางนั่งบนตัก มือหยาบกุมมือของอีกฝ่าย พาถูไปตามร่างกายของเขาช้าๆ ราวกำลังยั่วเย้าหญิงสาว
เจียวอิงก้มหน้าเขินอาย หัวใจเต้นระทึกจนแทบจะหลุดออกมานอกอก รับรู้ถึงความร้อนและลมหายใจอุ่นๆ ของหมิ่งจิ้นเหอแล้วอยากจะเป็นลมเสียเดี๋ยวนี้
“ข้าไม่อนุญาตให้มือคู่นี้ของข้าทำงานหนัก” จู่ๆ หมิ่งจิ้นเหอกลับพลิกฝ่ามือเล็กไปมา เมื่อเห็นรอยแดงจางๆ ก็ย่นหัวคิ้วอย่างไม่พอใจ “หากเสียหายไปจะว่าอย่างไร”
เจียวอิงเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจในคำพูด กระทั่งหมิ่งจิ้นเหอจับมือนางให้ไล่ลงต่ำเรื่อยๆ หญิงสาวสัมผัสถึงบางอย่างที่ร้อนผ่าวใต้ร่มผ้า นางสะดุ้งตกใจพยายามจะชักมือกลับ
แต่หมิ่งจิ้นเหอกลับไม่ยอม ซ้ำยังผลักร่างเล็กลงนอนอย่างรวดเร็ว “สิ่งเดียวที่เจ้าควรจับและออกแรงทำคือร่างกายของข้าเท่านั้น”
เจียวอิงตาเบิกโพลง หน้าแดงก่ำลามไปจนถึงใบหู หลุบตามองบางอย่างที่อยู่ในมือก็รู้สึกว่าลมหายใจติดขัดขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้สัมผัสเจ้าสิ่งนี้ด้วยมือของนางเอง!
หมิ่งจิ้นเหอยกยิ้ม ออกคำสั่งอย่างเผด็จการ “เจ้าจะต้องขยับ ขึ้นลงแบบนี้”
เจียวอิงใจเต้นแรงมากขึ้น ยามเจ้าสิ่งนั้นเริ่มขยายตัว หญิงสาวก็พยายามจะพลิกตัวหนีเพราะหวาดกลัว แต่หมิ่งจิ้นเหอกลับตรึงแขนขาของนางไว้แน่น ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไร้ซึ่งทางรอด
ยามนี้สติของหมิ่งจิ้นเหอขาดสะบั้นเป็นที่เรียบร้อย เจียวอิงกลายเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยของหมิ่งจิ้นเหอ ให้บุรุษได้กลืนกินก่อนมื้อเช้าของจริงจะมาถึงในอีกสองชั่วยามให้หลัง