“ข้ารักเจ้ามากถึงเพียงนี้ แต่เจ้า...กำลังทรยศข้า!”
“ข้าเพียงหลอกใช้ความรักโง่เขลาของท่าน มิได้คิดทรยศแต่อย่างใด ในใจของข้ามีเพียงองค์ชายหมิ่งอู๋โจว”
“เจ้า...” เลือดสีแดงฉานไหลทะลัก ใบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด มือข้างที่จับกระบี่พยายามตวัดไปที่สตรีที่ยืนอยู่เบื้องหน้า แต่เรี่ยวแรงที่มีนั้นน้อยนิดยากจะทำอะไรนางได้
“เหลียนฮวา!!!” บุรุษแผดเสียงอย่างเจ็บปวด ทรมานราวโลกทั้งใบแตกสลาย สายตาสตรีที่มองมาอย่างดูแคลนราวคมมีดที่กรีดลงกลางใจ ย้ำเตือนความรู้สึกที่นางมีต่อเขา ไร้ความรัก ปรารถนาเพียงอำนาจเท่านั้น
ร่างสูงงอตัวร้องคำราม เลือดไหลซึมออกจากแผลที่ปริแตก แววตาคลอน้ำตาแต่สะกดกลั้นไม่ให้ไหลออกมา
.....
เพราะเกิดเป็นตัวร้ายจึงไม่ได้คู่กับนางเอก ทั้งๆ ที่เขาก็ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อนางแท้ๆ นางไม่แม้จะเห็นค่า ทั้งยังดูแคลนความหวังดี ตัดสัมพันธ์ของบุรุษอย่างไม่เหลือเยื่อใย
.....
‘หากฉันได้เจอคนที่รักฉันแบบนี้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย ฉันเองก็อยากมีความรู้สึกของการถูกรัก อยากให้คนรักทุ่มเทเพื่อฉันบ้าง’
.....
‘เช่นนั้นหรือ เจ้าเองก็ปรารถนาอยากได้คนรักแบบข้าสินะ หากเจ้าเยียวยาความรู้สึกของข้าได้ สัญญาจะมีข้าเพียงคนเดียว ข้าก็พร้อมจะมอบกายใจแก่เจ้าเช่นกัน’
.....
ท่ามกลางความฝันที่เลือนราง สองบุคคลจากต่างกาลเวลากำลังยืนมองกันด้วยสายตาลึกซึ้ง บุรุษกำลังจะตาย แววตาที่ใกล้ดับแสงมองเห็นสตรีผู้หนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อนหวานพยายามยื่นมือน้อยๆ ออกมา แต่แล้วฉับพลันเสียงเรียกก็ดังขึ้น
“ตื่น! ตื่นได้แล้ว คิดว่าตัวเองเป็นนายหญิงของที่นี่หรือไง”
เจียวอิงสะดุ้งตัวตื่น ลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ สองมือขยี้ตาก่อนค่อยๆ ลืมขึ้นมองคนที่เข้ามาปลุกนาง
เป็นม่ออี้
“ฟ้ายังมืดอยู่เลย” เสียงงัวเงียเอ่ยบอก
“เจ้าลืมแล้วหรือว่าที่นี่เริ่มงานกี่โมง”
“แต่...ท่านอ๋องไม่เคย”
“ท่านอ๋องๆๆๆ อ้างท่านอ๋องอยู่ได้ น่ารำคาญนัก! หากเจ้าไม่ลุกขึ้นมาทำงาน ข้าวเช้าก็อย่าหวังจะได้กิน!” ม่ออี้ตวาดจบก็เดินกระทืบเท้าออกจากห้องไปทันที
เจียวอิงยังคงสะลึมสะลือตื่นไม่เต็มตา ลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมและเดินออกมาด้านนอก ลมหนาวพัดเข้ากระทบร่างบางจนสั่นสะท้าน ครั้นจะก้าวถอยหลังกลับเข้าห้อง เสียงดุก็ดังขึ้น
“อย่าคิดกลับไปนอนเชียว!”
เจียวอิงหน้าบึ้ง ยกมือขึ้นกอดอกก่อนเดินตามม่ออี้ไปที่สวนหลังจวน
ม่ออี้ส่งถังน้ำใบใหญ่ให้เจียวอิง “ไปตักน้ำที่บ่อด้านนู้น ไปใส่ตุ่มทางด้านนั้น”
บรรดาสาวใช้ที่กำลังกวาดใบไม้อยู่แถวนั้นหันมามองด้วยความตกใจ ผิงผิงคือหนึ่งในนั้น นางรีบก้าวเข้ามายืนข้างเจียวอิง “มันจะเกินไปหรือเปล่าพี่ม่ออี้ แม่นางเจียวอิงมิใช่บ่าวเช่นพวกเรานะ”
“นางบำเรอต่างจากบ่าวตรงไหน หรือบริบทการรับใช้ต่างกัน พวกเราทำงานในจวน ส่วนเจียวอิงทำงานบนเตียงหรือ”
ผิงผิงอ้าปากค้างแต่แล้วก็เถียงกลับเสียงแข็ง “ท่านอ๋องมีคำสั่งไม่ให้แม่นางเจียวอิงทำงาน ทั้งยังสั่งให้พวกเราคอยดูแลนาง มิใช่ใช้งาน”
“ตอบแทนบุญคุณท่านอ๋องที่ให้ข้าวให้น้ำให้ที่ซุกหัวนอนมันยากนักหรือ อ้อ! คงคิดว่าตนเป็นลูกคุณหนูผู้ดีมีตระกูล หนักไม่เอาเบาไม่สู้ รักสบายถึงขนาดยอมขายศักดิ์ศรีของตัวเอง”
“พอแล้ว!” เจียวอิงเหลือทนจะฟังคำถากถาง นางยื่นมืออกไปดึงถังไม้จากมือของม่ออี้ “แค่ข้ายอมทำก็จบใช่หรือไม่”
ม่ออี้ยิ้มเยาะ ยืนมองเจียวอิงเดินโซเซไปที่บ่อน้ำ ร่างเล็กโงนเงนยกถังที่บรรจุน้ำจนเต็มเดินกลับไปมาระหว่างบ่อน้ำและตุ่มอยู่หลายรอบ ม่ออี้หัวเราะเสียงแหลมหมุนตัวเดินตรงไปที่ครัวอย่างสะใจ
“แม่นางเจียวอิง ให้ข้าช่วยท่านนะ ยัยพี่อสรพิษไปแล้ว ส่งถังไม้มาให้ข้าเถิด” ผิงผิงกล่าวพลางยื่นมือออกมา แต่เจียวอิงกลับส่ายหน้าบอกไม่เป็นไร นางทำได้
ผิงผิงถอนหายใจ รู้สึกสงสารหญิงสาวเหลือเกิน เจียวอิงไม่ได้อยากมีชีวิตที่ถูกกักขังเช่นนี้ นางถูกแม่นมหลอกมาขาย หาได้สมัครใจแต่อย่างใด
เจียวอิงควักน้ำที่ตักขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้ตื่นเต็มตา ลูบเนื้อลูบตัวให้พอสดชื่นแล้วกลั้วปากอีกสองสามครั้ง
“ข้าว่าพี่ม่ออี้ต้องริษยาแม่นางเจียวอิงเป็นแน่” สาวใช้คนหนึ่งกระซิบ
“ข้าก็ว่างั้น แรกๆ คงคิดว่าแม่นางมาบำเรอท่านอ๋องไม่กี่วันคงถูกเฉดหัวออกไปเฉกเช่นคนอื่น ใครจะคิดว่าท่านอ๋องจะโปรดแม่นางเจียวอิงเพียงนี้” สาวใช้อีกคนกล่าวตอบ
“ถึงขั้นออกไปตามหา ไม่ยอมให้แม่นางห่างกายเชียวนะ ข้าไม่ยักเคยเห็นท่านอ๋องในมุมนี้มาก่อน”
“พี่ม่ออี้เป็นสาวใช้ดูแลท่านอ๋องมาเนิ่นนาน คงอยากไต่เต้าให้สูงกว่าที่เป็นอยู่แต่ก็ไร้วาสนา”
แม้เสียงพูดคุยของบรรดาสาวใช้จะไม่ดังมากแต่ก็ไม่เบาจนเจียวอิงจะไม่สามารถได้ยิน หญิงสาวยกถังน้ำพลางเงี่ยหูฟังเรื่องซุบซิบนินทาไปพร้อมกัน
อ้อ! ถึงว่าทำไมแรกๆ มออี้เฉยชากับข้า แต่พักหลังนี่แสดงท่าทีรังเกียจ คอยกลั่นแกล้งข้าสารพัด ที่แท้ก็หึงหมิ่งจิ้นเหอนี่เอง
เจียวอิงพยักหน้าเข้าใจสถานการณ์ที่ตนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป จวบจนตักน้ำใส่ตุ่มสุดท้ายเจียวอิงก็พ่นลมหายใจพลางยกมือขึ้นทุบหลังของตนด้วยความเมื่อยล้า
“เสร็จแล้วหรือ”
เจียวอิงหันไปเห็นม่ออี้ที่เดินมายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ม่ออี้กำลังกอดอกจ้องเจียวอิงด้วยสายตามาดร้ายอย่างชัดเจน
“วันนี้เจ้าต้องทำงานแทนข้า...ทั้งหมด”
“หา! ทำไมข้าต้องทำงานแทน...”
“เจ้านั่งกินนอนกินมานานเกินไป กล้ามเนื้อคงยึดหมดแล้ว จำต้องได้รับการยืดเส้นยืดสายเสียบ้าง”