ปลาตัวใหญ่

1388 คำ
“แม่งเอ๊ย! อย่าให้กูรู้นะว่าใครมาขโมยปลากู” เสียงทุ้มปนหงุดหงิดสบถออกมาหลังจากดึงแหขึ้นจากน้ำแล้วพบว่าแหที่เขากางไว้เมื่อคืนไม่ติดปลาสักตัว “แล้วจะแดกอะไรล่ะทีนี้ หามาได้กี่ทีก็เอาไปให้บ้านโน้นหมด” เพลิงบ่นพร้อมกับโยนแหลงน้ำไป เมื่อก่อนเขาจะทำกับข้าวกินเอง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่แม่ของปืนมักจะทำกับข้าวเผื่อเขาทุกวี่วัน จนช่วงหลัง ๆ มาเขาแทบไม่ได้ทำอะไรกินเอง เพราะปืนคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ตลอด มีบางวันที่เขาไปกินที่บ้านโน้นเองโดยไม่รอให้เพื่อนมาส่งข้าว แต่วันสองวันนี้แม่ของปืนงานยุ่ง กับข้าวกับปลาไม่ได้ทำเพราะมัวเตรียมจัดการวันลอยกระทง เพลิงเลยต้องเป็นฝ่ายทำอะไรกินเอง “เขาจะตายไหมนะ” ใครบางคนที่ลอยคออยู่ใต้ท่าน้ำซึ่งอยู่ใต้พื้นไม้ที่เพลิงเหยียบอยู่พึมพำ สายชลลอยคอรอสายธารตั้งแต่กลางดึกแล้วพี่สาวก็ไม่กลับมาสักที กระทั่งตอนนี้เป็นเวลาเช้าแล้วเธอก็ยังอยู่ที่เดิม พรายสาวไม่กล้าแม้แต่จะออกตามหาพี่สาวเพราะกลัวจะคลาดกัน เธอเอาแต่ซ่อนตัวอยู่แถวนี้และลอยคอเล่นไปมา “หรือพี่สายธารจะถูกลงโทษที่พาเราขึ้นมา ถูกพรายอาวุโสจับได้เหรอ” พรายน้อยพึมพำไม่หยุด “แต่ถ้าถูกผู้อาวุโสจับได้ก็ต้องออกตามหาเรานี่นา หรือว่าพอเข้าไปในฐานลับแล้วต้องทำอะไรก่อนถึงจะออกมาได้” พรายน้อยคิดไปคิดมาก็สะบัดหัวทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง สายชลมั่นใจในตัวสายธารมาก พี่สาวเธอเป็นพรายอายุน้อยก็จริงทว่าเก่งและฉลาดกว่าพรายรุ่นเดียวกันหลายเท่า หากเกิดอะไรขึ้นพี่สาวต้องเอาตัวรอดได้ อีกอย่างการที่เธอติดอยู่บนโลกมนุษย์ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ในเร็ววันนี้เหล่าพรายจะขึ้นมาทำหน้าที่ ถึงตอนนั้นเธอกลับพร้อมกับพวกเขาก็ได้ แค่อย่าให้ถูกจับได้ว่าเป็นพรายก็พอ “ไปเที่ยวเล่นต่อดีกว่า” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักโดยไม่รู้เลยว่าใครบางคนที่กระโดดลงน้ำตามแหไปเมื่อครู่สัมผัสได้ถึงบางอย่าง “ใกล้จะถึงคืนวันเพ็ญแล้ว คงมีพวกแปลก ๆ ออกมาลองของกันอีกสินะ” ร่างใหญ่นึกในใจขณะดำน้ำไปตามแนวคลองหลังจากกางแหดักปลาไว้เรียบร้อยแล้ว เพลิงเกิดในตระกูลของจอมขมังเวทย์ที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยก่อน ตอนนี้เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่สืบสอดอาคมแก่กล้าและของดีประจำตระกูล และเพื่อจะปิดจบตระกูลจอมขมังเวทย์ไว้เพียงแค่นี้ เพลิงเลยครองตัวเป็นโสดไม่แต่งงานหรือคบหาผู้หญิงคนไหน ที่จริงพอพูดถึงผู้หญิงเขามักจะไม่สุงสิงด้วย ส่วนพ่อของเขาหลังจากเสียแม่เขาไปเพราะคุณไสยของตระกูลตัวเอง ก็บวชเป็นพระในจังหวัดแห่งหนึ่ง ไม่คิดจะสึกอีก ด้านหลังของหนุ่มใหญ่มีพรายสาวตัวน้อยลอยตามมาห่าง ๆ สายชลจำได้ว่าเมื่อคืนสายธารลอยมาทางนี้ ผ่านสวนกล้วยนี้ไปจะมีฐานลับของพรายตั้งอยู่ ไม่แน่ว่าพี่สาวเธออาจอยู่ในนั้น แต่ว่าเธอมองไม่เห็นเพราะยังไม่เข้าพิธีบรรลุนิติภาวะ “ว่าแต่คนคนนั้นเขาจะลอยไปไหนนะ ไม่ใช่รู้ตัวว่ามีพรายอยู่แถวนี้ก็เลยจะไปจับหรอกใช่ไหม ความรู้สึกของเราเหมือนเขาไม่ใช่คนธรรมดาเลย” สายชลพึมพำขณะลอยตามเขาไปห่าง ๆ โดยไม่รู้เลยว่าร่างใหญ่ที่ว่ายทวนน้ำไปรู้ตัวแล้วว่ามีคนตามมา ซ่าา! สองขาแกร่งก้าวขึ้นจากคลองน้ำซึ่งเป็นจุดตื้นเขินเพียงหัวเข่า ข้างหน้านี้เป็นสวนกล้วยของเขาและเป็นทางตัน ลำคลองกลางหมู่บ้านที่ไหลเป็นทางยาวจบแค่ท้ายสวนกล้วยของเขานี้ ซ่าา! เพลิงหันกลับไปยังจุดที่ได้ยินเสียงน้ำเคลื่อนไหว ศีรษะทุยของสาวน้อยนางหนึ่งปรากฏขึ้นห่างจากจุดที่เขายืนอยู่พอประมาณ จุดนั้นเป็นน้ำลึกพอให้คนได้ลอยคอ “...เอ๋? ทำไมเขาอยู่ที่เดิมล่ะ” พรายน้อยเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อปะทะสายตากับเขาพอดิบพอดี เธออุตส่าห์ปล่อยให้เขาขึ้นจากน้ำไปสักพักแล้วเธอจะแอบตามเขาไปเงียบ ๆ แต่ไหงตอนนี้เขาถึงอยู่ที่เดิมล่ะ ต้องทำตัวให้เหมือนคนที่นี่! อย่าให้เขาจับได้ว่าเราเป็นพรายเด็ดขาด! คนที่นี่เขาแทนตัวเองว่าอะไรนะ… ข้า เอ็ง คุณ มึง กู เขา เรา ตัวเอง ฉัน เธอ สมองอันน้อยนิดของพรายสาวพยายามนึกถึงตำราเรียน “ถ้าเป็นผู้หญิงแทนตัวเองด้วยชื่อก็จะน่ารักไปอีกแบบ แต่แนะนำ…” อะไรต่อจากนั้นอีกไม่รู้เธอจำไม่ได้แล้ว แต่ถ้าทำตัวน่ารักละก็ คนตรงหน้าต้องเป็นมิตรกับเธอแน่ “ตามกูมาทำไม” ดวงตาคมดุตวัดมองเจ้าของใบหน้าขาวซีดด้วยความไม่ชอบใจ ริมฝีปากหนาเริ่มบริกรรมคาถาบทหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร เสียงใสเจื้อยแจ้วของคนที่คิดว่าเป็นภัยก็แทรกขึ้น “สายชลมาหาปลาค่ะ” หืม? คำตอบของพรายสาวทำคิ้วเข้มเลิกขึ้น คิดจะหลอกคนอย่างเขาหรือไง อีผีเผือกตัวซีดนี่เป็นผีแน่นอน! “นั่นไงคะ ปลาตัวใหญ่ที่สายชลว่ายตามมา” เสียงใสเอ่ยต่อพร้อมชี้นิ้วมายังเขา ไม่สิ เยื้องกับจุดที่เขายืนอยู่มีลำน้ำเล็ก ๆ ขนาดเซาะพื้นดินจนชุ่ม ตรงนั้นมีปลาช่อนตัวใหญ่เท่าลำแขนของเขาดิ้นไปมา เหมือนมันจะกระโดดขึ้นเหนือผืนน้ำแต่ตกลงแถวนี้ แต่ว่า… ตอนนั้นเองที่เพลิงรู้สึกว่ากลางลำตัวเขานั้นเย็นวาบ ฉิบหาย! ผ้าขาวม้าเขาหายไปไหน! ดวงตาคมดุเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออาภรณ์ชิ้นเดียวที่ปกปิดท่อนล่างเอาไว้นั้นไม่อยู่แล้ว สองมือหนากุมกึ่งกลางกายไว้ เงยหน้าไปมองคนที่ลอยคอทำตาแป๋วไม่ทุกข์ร้อนอะไรอยู่กลางน้ำ “หาสิ่งนี้อยู่เหรอคะ สายชลเก็บได้ตอนว่ายน้ำมา” ประโยคของพรายสาวทำคนหน้าดำนั้นหน้าแดงขึ้นมาทันที มือเรียวชูผ้าขาวม้าของเขาขึ้นเหนือน้ำ และตอนนั้นเองที่ร่างอรชรค่อย ๆ ก้าวขาขึ้นบนบก “...” เขาว่าตัวเองน่าอายเพราะเปลือยกายต่อหน้าหญิงสาวแล้ว ไม่สิ ต่อหน้าสาวน้อยต่างหาก ยัยเด็กผีเผือกนี่ดูแล้วน่าจะอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น แต่ทำไมถึงมาแก้ผ้าแก้ผ่อนต่อหน้าผู้ชายล่ะ เด็กสาวมาแก้ผ้าเล่นน้ำจับปลาได้ยังไง ถึงเป็นผีก็ต้องรู้สิว่าห้ามทำแบบนี้ “นี่ค่ะ” สองขาเรียวก้าวเข้ามาใกล้เขา พร้อมยื่นผ้าขาวม้าให้ ทรวดทรงองค์เอวของสาวเจ้าทำบางอย่างที่สองมือหนากุมไว้กึ่งกลางกายแทบคุมไม่อยู่ มันขยายใหญ่ขึ้น! ไหนว่ามนุษย์ใส่เสื้อผ้า? พรายสาวตัวน้อยนึกในใจขณะยืนสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าของร่างกำยำตรงหน้า ทีแรกเธอว่าจะไม่ขึ้นจากน้ำเพราะตัวเองนั้นไร้อาภรณ์ จากตำราพรายที่สอนกันมาบอกว่าพอขึ้นจากน้ำต้องหาเสื้อผ้าใส่ มนุษย์จะเอียงอายหากเปลือยเปล่าต่อหน้ากัน แต่ที่เธอเห็น… เขาเองก็เปลือยเปล่าเหมือนกัน หรือว่าในตำรามีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว บ้าจริง >>> หนูลูก หนูจะสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ได้นะ เขาโป๊อยู่ค่ะ ><
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม