ผีพราย

1299 คำ
“ไอ้เพลิง! ไอ้เพลิง!” เสียงของปืนดังขึ้นอยู่ไกล ๆ แม้ท่าน้ำหน้ากระท่อมกับท้ายสวนกล้วยนี้จะอยู่ไกลกันมาก แต่เพราะเสียงนั้นก้องกังวานจึงได้ยินไกลมาถึงตรงนี้ “มีคนมา!” ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียง ร่างเล็กกระโดดลงน้ำอย่างรวดเร็วจนคนที่กำลังพันผ้าขาวม้าไว้รอบเอวปรามไม่ทัน “ยังไม่ได้ถามอะไรต่อเลย” ร่างกำยำว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมา “สรุปยัยเด็กเผือกนั่นเป็นผีจริงไหมวะ” คิดแล้วก็ทำท่าจะเดินกลับ แต่เสียงตุบตับของปลาช่อนตัวใหญ่ที่ดิ้นไปมาบนโคลนทำให้เขาต้องเดินกลับไปหามัน กำรอบคอปลาไว้แน่นไม่ให้หลุดมือแล้วเดินลัดสวนกล้วยไป “มึงไปไหนมาเนี่ย กูนึกว่าจมน้ำตายห่าไปแล้ว เห็นแต่แหไม่เห็นคน” ปืนว่าให้เจ้าของร่างใหญ่ที่เดินทำหน้าถมึงทึงเข้ามา “ไปหาปลามาอีกแล้วเหรอ วันนี้กินหมูกินเนื้อเถอะมึง กูเบื่อปลาว่ะ” พอเห็นเพื่อนถือปลาช่อนตัวใหญ่มาก็เอ่ยขึ้น “งั้นมึงทำกับข้าว ส่วนปลานี่เอากลับไปให้แม่ด้วย เดี๋ยวกูตัดหยวกกล้วยไปให้ เผื่อแม่จะแกงส้มใส่ปลาช่อน แม่ยุ่งใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวกูหั่นปลาหั่นหยวกให้เลย” ว่าจบก็ทำท่าจะทุบหัวปลาแต่เพื่อนรักรีบห้ามไว้ก่อน “เดี๋ยวก่อนไอ้เพลิง มึงหยุดเลย” ว่าแล้วก็แย่งมีดมา “อะไรของมึง” “ถ้ามึงฆ่าปลาตัวนี้ พร้อมหั่นเป็นท่อนเรียบร้อย แล้วก็ตัดหยวกกล้วยให้กูเอาไปให้แม่เสร็จสรรพ วันนี้กูก็อดกินอย่างอื่นน่ะสิ นี่เป็นแผนของมึงใช่ไหม กูรู้ว่ามึงชอบแกงส้มหยวกกล้วยใส่ปลาช่อน แต่เอาไว้วันหลังเถอะมึง วันนี้แม่กูไม่ทำกับข้าว” “ไม่ได้ให้แม่ทำ ให้มึงทำ” “ไม่ทำโว้ย วันนี้กูจะไปซื้ออย่างอื่นมาทำ เดี๋ยวหลังวันลอยกระทงกูจะให้แม่แกงให้มึงกิน ตกลงไหม” “แล้วปลานี่จะทำยังไง เอาไปตากแห้ง?” “มันยังไม่ตายสักหน่อย เอาไปลอยไว้ในโอ่งบ้านกูก่อนแล้วกัน” สองคนตกลงกันได้ ปืนก็กลับบ้านไปพร้อมกับไหใบน้อยที่มีปลาช่อนตัวใหญ่ลอยอยู่ในนั้น เพลิงอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เดินไปที่ท่าน้ำอีกครั้ง เขาอยากรู้ว่าเด็กผีตัวขาวซีดนั่นมาทำอะไรที่นี่ แล้วถ้าเป็นผีที่ทำร้ายผู้คนจริง ๆ ทำไมถึงไม่ทำอะไรเขา “มีมือซีด ๆ ขาว ๆ ดึงขามันลงน้ำไปจริง ๆ นะ ฉันเห็นกับตา” “ไอ้จ้อยลูกยายน้อยตกน้ำตาย!” “เรือลุงทุยคว่ำอยู่กลางคลอง ตอนนี่ยังหาแกไม่เจอเลย เป็นศพไปแล้วมั้ง” “อีแพรเมียไอ้ปานมันจมน้ำตาย มีคนเห็นว่ามีอะไรดึงมันลงไป” “ไอ้ใหญ่ผัวนังอ้อยจมน้ำตาย! นังอ้อยมันว่าผัวมันเดินตามผู้หญิงลงน้ำไป” “ลุงหมายจมน้ำตาย!” ทุกครั้งที่ผู้คนในหมู่บ้านหายหรือตายมักจะตกน้ำ จมน้ำ อยู่ตลอด หลายครั้งมีคนเห็นว่าบางอย่างใต้น้ำเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องพวกนี้ ตอนเย็นเพลิงพายเรือไปหาปืนที่บ้าน บ้านของผู้ใหญ่ดาบพ่อของปืนอยู่ติดท่าน้ำเหมือนบ้านของเขา ตั้งอยู่ไม่ห่างกันมากแต่ก็ไม่ใกล้กันมาก แต่ทุกครั้งที่ปืนมาหาเพลิงเขาจะเดินมาเพราะไม่กล้าพายเรือ จักรยานก็ปั่นไม่เป็น มอเตอร์ไซค์แม่ก็ไม่ให้ขับ นี่แหละชีวิตลูกชายหัวแก้วหัวแก้วของผู้ใหญ่ดาบกับแม่ใหญ่แหวน “อ๊ากก! ผะ ผี ผีพราย กูเห็นผีพราย!” พายเรือไปได้สักพักเสียงเอะอะกลางน้ำก็ดังขึ้น เรือสองสามลำชนกันอยู่กลางน้ำจนมีคนจมน้ำสามสี่ราย เพลิงรีบเข้าไปช่วยก็พบว่าพวกเขากลับจากไปช่วยงานที่วัด “ผีพรายอะไรของมึงไอ้ม่อน” เพลิงเอ่ยขึ้นขณะดึงมือคนที่ลอยคออยู่ขึ้นจากน้ำ “กูเห็นจริง ๆ นะไอ้เพลิง มันล่มเรือกู พอกูจมน้ำมันก็มาดึงขากู” “มึงเห็นเป็นตัวเลยเหรอ?” “โธ่ไอ้เหี้ย! ใต้น้ำมืดแบบนั้นกูจะไปเห็นได้ยังไง แค่รู้สึกเหมือนมีตัวอะไรมาดึงแขนดึงขากู” คนสร่างเมาโวยวายก่อนจะกอดตัวเองนั่งสั่นงันงกบนเรือ เมื่อช่วยกันเสร็จแล้วต่างคนก็แยกย้ายกัน เพลิงหยุดดูจุดเกิดเหตุ กวาดตามองไปรอบบริเวณเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างใต้ผืนน้ำ “ไม่ได้ล่มเรือสักหน่อย ตัวเองพายโยกเยกไปโยกเยกมาแล้วทำเรือล่มเองต่างหาก” เสียงหนึ่งบ่นอยู่อีกฟากของลำคลอง “รู้งี้ไม่ดึงขึ้นมาก็ดี คนขี้โกหก จมน้ำตายไปเลย พรายไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” พรายสาวบ่นต่อก่อนจะมุดลงใต้น้ำ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อใต้น้ำตอนนี้มีใครบางคนกำลังดำดิ่งตรงมาหาเธอ ผู้ชายคนนั้น… ซ่าา! “แค่ก ๆ ปล่อยนะ!” พรายสาวแหวใส่เจ้าของมือใหญ่ที่บีบท้ายทอยเธอแน่น เขากระชากเธอให้ลอยคอเหนือผืนน้ำ “มึง… มาทำอะไรที่นี่” คำแรกเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และหนักแน่นขึ้นในประโยคถัดมา ลืมไปเลยว่าเป็นเด็ก แถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย ถึงจะเป็นผีแต่เขาก็ไม่อยากหยาบคายกับเด็กผู้หญิงหรอกนะ “สายชลไม่ได้ทำนะ สายชลมาช่วยต่างหาก ตาลุงขี้เมานั่นโกหกว่าผีพรายทำร้ายเขา” เสียงแหลมเอ่ยรัว ๆ พร้อมจ้องมองคนที่ลอยคออยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาขุ่นเคือง ไม่สิ แววตาแบบนี้มันเป็นแววตาของคนขี้ฟ้องชัด ๆ “แล้วมึ... แล้วเธอมาทำอะไรแถวนี้” “สายชลมาหา…” ถ้าตอบว่ามาหาพี่สาวคงไม่ดีแน่ “สายชลมาหาปลาค่ะ” ตอบพร้อมยิ้มแฉ่งใส่เขา “ผีพรายกินปลา?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความไม่เข้าใจนัก อยู่มาจนอายุสี่สิบก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าผีพรายกินปลาเป็นอาหาร “ก็… ค่ะ” ใบหน้าขาวซีดพยักรัว ๆ ให้เขา “ไปจากคลองนี้ซะ ปีนี้หมู่บ้านจ้างคนมาทำพิธีล้างคลอง พรุ่งนี้เช้าพิธีจะเริ่ม” เพลิงบอกคนตัวเล็กแล้วปล่อยมีออกจากท้ายทอยบาง ก่อนจะลอยคอกลับไปที่เรือ พิธีล้างคลองจะมีจอมขมังเวทย์มาปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในลำคลอง เมื่อทำพิธีเสร็จก็จะมีการทำบุญให้ดวงวิญญาณที่จมหายตายจากไปเพราะลำคลองแห่งนี้ ทุกปีหมู่บ้านนี้ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่หลังจากสร้างวัดใหม่เสร็จ มัคนายกที่มาใหม่เสนอให้ทำ พอพวกลูกบ้านเห็นดีเห็นงามด้วย พ่อผู้ใหญ่จึงไม่อยากขัด อีกอย่างชาวบ้านจะได้สบายใจ ไหน ๆ ก็จะจัดงานลอยกระทงแล้ว ทำพิธีล้างคลองก่อนก็คงไม่เสียหายอะไร แต่จอมขมังเวทย์ที่ว่าน่ะ ไม่ใช่เพลิงหรอกนะ เขาไม่รับงานมานานมากแล้ว ตอนนี้เป็นเจ้าของสวนกล้วยที่ปลูกกล้วยทิ้งไว้เฉย ๆ ใช้ชีวิตด้วยการหาปลากินไปวัน ๆ เท่านั้น >>> ถ้าชื่นชอบก็อย่าลืมกดไลก์หรือกดหัวใจให้ด้วยนะคะ ><
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม