บทที่ 7

2672 คำ
ธีทัตรอเธออย่างนั้นหรือ.. ฮึ! คงไม่ใช่หรอกกระมัง คนอย่างธีทัตน่ะหรือจะรอเธอกลับบ้าน “ทำไมกลับดึกจัง” เขาเอ่ยทักแม่ของลูกเมื่อเจ้าหล่อนเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า บุษบายกแขนขึ้นดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือตัวเอง “พึ่งสามทุ่มครึ่งเองค่ะ ยังไม่ดึกซะหน่อย ถ้าออกมาเร็วกว่านี้รถติดแย่เลย” คำตอบที่ออกจากปากหญิงสาวทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น “แต่ก่อนก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหากับเรื่องรถติดนี่ พี่เห็นบุษเลิกงานก็กลับบ้านเลยตลอด ไม่เห็นต้องรอให้ดึกดื่นขนาดนี้” น้ำเสียงที่ชายหนุ่มเปล่งออกมาฉายชัดว่าธีทัตกำลังหงุดหงิด เขาเป็นอะไร? “ไม่ดึกหรอกค่ะ สามทุ่มกว่าเอง กลับบ้านเร็วก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี สู้อยู่เคลียร์งานที่ออฟฟิศดีกว่า” ด้วยว่าเธอต้องย้ายตำแหน่งกะทันหัน จึงต้องสะสางงานเก่าที่ยังค้างอยู่ให้เรียบร้อย “ช่วงนี้งานบุษเยอะน่ะค่ะ พอดีต้องย้ายจากตำแหน่งพนักงานแผนกการตลาดไปเป็นเลขาฯ ประธานบริษัท” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เลขาฯ ของประธานบริษัทงั้นเหรอ” “ใช่ค่ะ พอดีเลขาฯ คนเก่าเขาจะย้ายตามสามีไปต่างประเทศน่ะค่ะ บุษเลยกลายเป็นนางสาวส้มหล่น ได้รับโอกาสเลื่อนตำแหน่งและที่สำคัญเงินเดือนก็เพิ่มมากขึ้นด้วย” เธอเล่าเรื่องอันน่าปีติยินดีของตนให้ธีทัตฟังทั้งรอยยิ้ม โดยไม่ได้สนใจเลยว่ายามนี้ใบหน้าคนฟังบูดบึ้งเพียงใด “เป็นโชคดีของบุษมากๆ เลยนะคะพี่ไนซ์ บอสใจดี แถมบริษัทที่บุษทำงานอยู่เป็นบริษัทข้ามชาติ มีฐานการผลิตอยู่สองที่ ทั้งประเทศไทยและก็ไต้หวัน รุ่นพี่ที่ทำงานบอกว่าเลขาฯ คนเก่าต้องตามบอสไปประชุมที่ไต้หวันทุกเดือน แล้วต่อไปเลขาฯ คนใหม่อย่างบุษก็ต้องทำแบบนั้น เที่ยวฟรี มีโรงแรมให้นอนฟรี ค่าตั๋วเครื่องบินก็ฟรีอีกต่างหาก แค่คิดก็ฟินแล้วค่ะพี่ไนซ์” คนฟังยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ ความรู้สึกบางอย่างค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อได้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายพราวระยับยามที่เจ้าของมันขยับปากเอื้อนเอ่ยถึงผู้ชายคนอื่น “แล้วลูกล่ะ บุษอย่าลืมนะว่าตัวเองกำลังท้อง” ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะพาลูกไปจากเธอเมื่อลูกไม่ต้องการนมแม่แล้วแท้ๆ แล้วทำไมถึงไม่รู้สึกยินดีหากบุษบาจะก้าวเดินไปข้างหน้า ไปมีอนาคตที่ดี นี่ไม่ใช่หรือสิ่งที่เขาต้องการ แล้วทำไม.. ต้องหวงแหนเธอด้วย “พี่ไนซ์ไม่ต้องห่วงนะคะ บุษคุยเรื่องนี้กับบอสเรียบร้อยแล้ว ในช่วงแรกที่บุษพึ่งคลอด บอสบอกว่าบุษยังไม่ต้องไปทำงานกับบอสที่ต่างประเทศ แต่เมื่อไหร่ที่ลูกโตพอจะเดินทางได้ บุษถึงจะตามบอสไปประชุมแล้วก็จะพาลูกไปด้วยค่ะ บอสของบุษก็มีลูกสาวเหมือนกันค่ะ บอสเองเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เวลาที่บอสบินไปไต้หวันก็จะพาลูกสาวไปด้วยค่ะ” บุษบาวางแผนเสร็จสรรพโดยไม่ถามความเห็นเขาสักคำ เธอลืมไปหรือเปล่าว่าเด็กในท้องเธอก็เป็นลูกเขาเหมือนกัน “อย่าลืมนะว่าพี่ก็เป็นพ่อของลูกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เกี่ยวกับลูก บุษต้องถามความเห็นพี่ด้วย และถ้าบุษจะไปกับเจ้านายบุษ พี่ไม่อนุญาตให้บุษพาลูกไปด้วย” เรื่องที่ว่าลูกมีธีทัตเป็นพ่อ เธอไม่เคยลืม เพียงแต่คิดว่าอีกสักสองสามปีข้างหน้า ชายหนุ่มอาจจะมีครอบครัวใหม่แล้ว และแน่นอนว่าลูกต้องอยู่กับแม่ เพราะภรรยาเขาคงไม่อยากเลี้ยงลูกสามีที่เกิดจากผู้หญิงอื่น และที่สำคัญเธอจะไม่ยอมให้ลูกไปอยู่กับคนอื่นเด็ดขาด “ที่บุษไม่ได้ถามพี่ไนซ์ เพราะบุษไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ตอนที่ลูกโตพอจะเดินทางได้ พี่ไนซ์อาจจะแต่งงานมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าลูกต้องอยู่กับบุษ และบุษคงไม่สามารถถามพี่ไนซ์ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับลูกได้ เพราะมันอาจทำให้ภรรยาพี่ไม่พอใจ” นี่บุษบาคิดไปไกลขนาดนั้นเชียวหรือ แล้วเจ้าหล่อนไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเขาจะยอมให้ลูกอยู่กับแม่อย่างเธอ “ลูกบุษก็คือลูกพี่ ไม่ว่าพี่จะแต่งงานหรือไม่แต่ง ยังไงเขาก็เป็นลูกของพี่ เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับลูก ถ้ามันสำคัญบุษต้องถามพี่ด้วย อย่าตัดสินใจคนเดียว และอย่าคิดเองเออเองหรือคิดแทนพี่เด็ดขาด” “ได้ค่ะ” เขาพูดถูก ลูกเธอก็คือลูกเรา เรื่องอะไรเกี่ยวกับลูกที่สลักสำคัญมากพอที่จะไปรบกวนเวลาอันมีค่าของธีทัต เธอจะเอ่ยปาก แต่หากคิดว่าไม่ เธอก็จะไม่ไปรบกวนเขา “เราเข้าบ้านกันไหมคะ” เธอเอ่ยชวนเขาเมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรจำเป็นที่จะคุยกันอีกแล้ว เมื่อธีทัตพยักหน้า เธอจึงเดินนำชายหนุ่มเข้าบ้าน ทว่าเพียงแค่ทั้งคู่ก้าวไปข้างหน้าได้เพียงไม่กี่ก้าว เสียงแจ้งเตือนสายเข้าจากโทรศัพท์บุษบาก็ดังขึ้น หญิงสาวหยุดเดินแล้วควานหาสมาร์ตโฟนเครื่องบางในกระเป๋าสะพายของตน ส่วนคนที่ตามมาก็ชะงักเท้าเช่นกัน บุษบาแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าเป็นสายจากใคร ‘สวัสดีค่ะบอส’ ‘ถึงบ้านแล้วใช่ไหมครับคุณบุษ’ วันนี้เราออกจากออฟฟิศพร้อมกัน แยกกันที่ลานจอดรถ เพราะเขามีเอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติด่วน จึงอยู่ทำงานที่บริษัทต่อ ส่วนบุษบาก็อยู่จัดการงานที่ทำค้างไว้ให้เสร็จก่อนที่จะย้ายมาเป็นเลขานุการให้เขา ‘ถึงแล้วค่ะ ถึงโดยสวัสดิภาพ บอสล่ะคะ ถึงบ้านแล้วใช่ไหม’ ‘ถึงแล้วครับ ถึงโดยสวัสดิภาพเหมือนกันกับคุณบุษเลย’ เลขานุการคนใหม่ของท่านประธานหัวเราะเล็กน้อย เธอรู้สึกขันเพราะกฤตดัดเสียงพูดล้อเลียนเสียงเธอ ‘ดีแล้วล่ะค่ะ บอสโทร. มามีธุระอะไรด่วนหรือจะสั่งงานหรือเปล่าคะ’ นี่เป็นสายแรกที่ได้รับจากท่านประธานโดยตรง เธอคิดว่าที่เขาโทร. หาเพราะเรื่องงานจะคุยด้วย แต่หาได้เป็นเช่นที่บุษบาคาดเดาไม่ ‘ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่เป็นห่วงเลยโทร. มาถามว่าคุณบุษถึงบ้านหรือยัง’ ‘ขอบคุณนะคะบอส บุษถึงบ้านปลอดภัยสบายหายห่วงค่ะ’ ‘งั้นก็ดีแล้วครับ พรุ่งนี้เจอกันที่ออฟฟิศนะ กู๊ดไนท์นะครับคุณบุษ’ ‘ฝันดีเช่นกันค่ะบอส’ บุษบาวางสายทั้งรอยยิ้ม ต่างจากอีกคนที่ยืนทำหน้าถมึงทึงราวกับไปกินรังแตนที่ไหนมา “เขากำลังตามจีบบุษอยู่เหรอ” บุษบาหันไปมองเจ้าของประโยคเมื่อครู่ เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะได้ยินธีทัตเอ่ยถามเช่นนี้ ที่ชายหนุ่มถามคงไม่ใช่เพราะหึงเธอหรอกนะ บ้าบอ! ไม่มีทางเป็นไปได้ ที่ถามก็เพราะแค่อยากสาระแนเท่านั้นแหละ “เปล่าหรอกค่ะ” ปากเอ่ยปฏิเสธ แต่การกระทำช่างสวนทางเหลือเกิน ไม่มีเจ้านายที่ไหนโทร. ถามพนักงานใต้การปกครองของตัวเองดึกๆ ดื่นๆ ด้วยความเป็นห่วงเช่นนี้หรอก ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ไอ้บ้านั่นก็รู้ทั้งรู้ว่าบุษบากำลังท้อง มันยังหน้าด้านโทร. หาเมียคนอื่นอีก “แต่เขาดูเป็นห่วงเป็นใยบุษมากเลยนะ” “ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องไงคะ บุษออกจากออฟฟิศพร้อมบอส บอสคงเห็นว่าดึกแล้วเลยเป็นห่วงน่ะค่ะ” อัศวกรุ๊ปมีพนักงานหลายพันคน แต่เขาก็ไม่เห็นว่าจะรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยพนักงานคนไหนเป็นพิเศษ เหตุผลเดียวที่จะยกหูโทรศัพท์โทร. หาลูกน้องก็คือเรื่องงาน หาใช่เพียงแค่ถามพนักงานว่ากลับถึงบ้านเช่นเจ้านายบุษบาไม่ “ดีจังเลยเนอะ เจ้านายบุษดูใส่ใจพนักงานดี๊ดี พี่เองก็เป็นผู้บริหาร มีพนักงานใต้การดูแลเยอะแยะ แต่ก็ไม่เคยโทร. หาใครดึกๆ ดื่นๆ ด้วยความเป็นห่วงสักคน หรือว่า.. บุษจะเป็นพนักงานคนพิเศษ” บุษบาเหลือบตามองพ่อของลูก ปกติเคยสนใจใส่ใจความเป็นไปของชีวิตเธอที่ไหนกัน แล้ววันนี้เขาเป็นอะไร กินยาลืมเขย่าขวดงั้นหรือ หรือว่าศีรษะไปกระแทกอะไรมา สมองเลยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ถึงได้สาระแนชีวิตเธอผิดวิสัย “แต่บุษอย่าลืมนะว่าตัวเองท้องลูกพี่อยู่ จะทำอะไรก็รอให้คลอดลูกก่อน บุษจะมีใหม่พี่ไม่ว่า แต่พี่ไม่ยอมให้บุษพาลูกพี่ไปด้วยเด็ดขาด” ก่อนพูดออกมาใช้สมองคิดแล้วใช่ไหม ในสายตาธีทัตเธอดูเป็นผู้หญิงใจง่ายถึงขนาดที่ว่ากำลังตั้งท้องลูกของผู้ชายอีกคน แต่สามารถมีผู้ชายอีกคนไปพร้อมๆ กันได้เชียวหรือ “พี่ไนซ์ไม่ต้องห่วงนะคะ บุษยังไม่คิดจะหาผัวใหม่ตอนนี้หรอกค่ะ บุษเป็นแม่ ก่อนที่บุษจะทำอะไร บุษย่อมคิดถึงลูกก่อนเสมอ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะคะ อันที่จริงที่พี่ไนซ์พูดก็ไม่น่าจะผิดหรอกค่ะ บางทีคุณกฤตเขาอาจจะเห็นบุษเป็นพนักงานคนพิเศษ ถึงได้ย้ายบุษจากพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ไปเป็นเลขาฯ ต่อไปบุษอาจจะได้เลื่อนตำแหน่งจากเลขาฯ ที่ทำงานบนโต๊ะ ไปเป็นภรรยาของผู้บริหาร ซึ่งหน้าที่หลักคือเอาใจผัวบนเตียงก็ได้นะคะ” เธอพูดจบก็รีบเดินตรงไปที่บันไดทางขึ้นชั้นสอง ด้วยรู้ว่าความอดทนของตนใกล้หมดลงเต็มที แต่อีกคนความอดทนไม่เหลือแล้ว.. ธีทัตก้าวขาตามแม่ของลูกแล้วคว้าแขนเธอไว้ก่อนที่บุษบาจะเดินขึ้นบันได “ที่พูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง!” “พี่เคยอยากให้บุษเดินไปข้างหน้า พี่อยากให้บุษมีใครสักคนไม่ใช่เหรอคะ บุษก็กำลังทำตามความต้องการของพี่อยู่ไง” บุษบาปลดมือหนาที่พันธนาการแขนเธอเอาไว้แล้วสะบัดทิ้ง “บุษรักพี่มาก พี่เป็นโลกทั้งใบของบุษ เป็นทุกอย่าง แต่ที่พูดมามันคืออดีต ตอนนี้บุษหันกลับมารักตัวเอง รักลูกของเรา บุษเรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริง เลิกหลอกตัวเอง ไม่หวังลมๆ แล้งๆ ในสิ่งที่รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ บุษรู้.. สักวันเราสองคนต้องแยกย้าย พี่ไปมีชีวิตของพี่ มีครอบครัวของพี่กับผู้หญิงสักคนที่ไม่ใช่บุษ ส่วนบุษและลูกก็ต้องเดินหน้าต่อไป” ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มหยันเมื่อเห็นธีทัตเงียบลงเมื่อถูกเธอพูดตอกหน้า พูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่ง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ออกจากปากแม่ของลูกเมื่อครู่คือความปรารถนาของเขาจริงๆ และเขาก็เคยทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความต้องการของตัวเองสัมฤทธิผล แต่ทำไม.. ทำไมวันนี้ถึงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว “พี่ไนซ์พูดถูก ต่อให้บุษนอนกับพี่เป็นพันครั้ง พยายามทำเพื่อพี่มากแค่ไหน ทุ่มเทให้พี่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าพี่ไม่ได้รักบุษ สิ่งที่บุษทำไปก็ไร้ประโยชน์ รังแต่จะทำให้พี่รำคาญเปล่าๆ ต่อจากนี้ไปบุษจะไม่ทำมันอีก ระหว่างเราจะเกี่ยวข้องกันแค่เรื่องลูกเท่านั้น” เมื่อหัวใจรักไปแล้ว ยากเหลือเกินที่จะหยุดรักได้ วันวานเธอรัก ธีทัตมากแค่ไหน วันนี้ก็ยังคงไม่แปรผัน แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือปัจจุบันมีอีกคนให้ต้องรักมากกว่า นั่นคือลูกของเราทั้งสองที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หมดเวลาอยู่กับความหวังที่รู้ว่าไม่มีทางเป็นจริงแล้ว “ไม่ต้องห่วงนะคะ นับจากนี้ไปบุษจะไม่กวนใจพี่ไนซ์อีก แล้วเรื่องลูก ถ้าพี่ไนซ์ไม่สะดวกที่จะกลับมาหาบุษทุกวัน บุษก็ไม่มีปัญหา ตอนนี้บุษยังดูแลตัวเองได้ค่ะ หลังลูกคลอดเราค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ว่าจะช่วยกันดูแลลูกยังไง” จะใช้อารมณ์นำเหตุผลเหมือนเช่นที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว แม้เรื่องหัวใจเขาไม่อาจรักเธอได้ แต่ถึงอย่างไรชายหนุ่มก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ ถ้าหากเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับลูก เธอจะบอกให้เขารับรู้รับทราบโดยไม่ปิดบัง ส่วนเรื่องอื่นๆ เธอคิดว่าเราสองคนไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกันอีก ธีทัตไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานบุษบายังพยายามจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาอยู่เลย แต่ทำไมยามนี้เจ้าหล่อนถึงทำราวตัดใจจากเขาได้แล้ว “บุษโกรธพี่เรื่องเมื่อวานเหรอ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอแล้วเปล่งออกไปช่างยากเย็นนัก เขาไม่เข้าใจว่าในยามนี้เกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ บุษบาถึงเปลี่ยนไป ไม่ใช่เพียงคำพูดของหญิงสาว แต่สายตาที่เคยมองมายังเขาก็ไม่เป็นเช่นเดิม “ไม่ใช่หรอกค่ะ นอกจากบุษจะไม่โกรธแล้ว เรื่องที่พี่ไนซ์พูดเมื่อวานก็ทำให้บุษคิดได้ บุษควรขอบคุณพี่ไนซ์ด้วยซ้ำที่พี่ดึงบุษให้กลับมาอยู่ในโลกของความเป็นจริง อันที่จริงเรื่องของเราควรจะจบลงตั้งแต่วันที่บุษกับพี่ทะเลาะกันเรื่องสร้อยบ้าๆ นั่นแล้ว แต่เพราะเราดันมีลูกด้วยกันซะก่อน เรื่องของเรามันเลยยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้ บุษพอแล้วค่ะพี่ไนซ์ บุษรู้แล้วว่าต่อให้บุษดันทุรังแค่ไหน พี่ไนซ์ก็ไม่มีทางรักบุษขึ้นมาได้ ต่อจากวันนี้ไป บุษจะให้โอกาสตัวเองได้เจอกับอะไรใหม่ๆ คนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ ” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาธีทัตแล้วส่งรอยยิ้มบางๆ ให้เขา “ต่อจากนี้ไปเราสองคนจะเกี่ยวข้องกันในฐานะพ่อและแม่ของลูกเท่านั้น ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะคะพี่ไนซ์ บุษสัญญานะคะว่าสักวันบุษจะลืมพี่ให้ได้ ถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ บุษจะได้เรียกพี่ว่าพี่ชายได้เต็มปากสักที” ทำได้เพียงมองตามเจ้าของร่างอรชรที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบุษบาลับหายจากสายตาเข้าไปในห้องนอน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงบนบันไดขั้นแรกแล้วกุมขมับ เขารับไม่ได้กับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับแม่ของลูกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ความรู้สึกหวงแหนและหวั่นกลัวว่าจะสูญเสียของรักไป ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนแม้กระทั่งอวัศยาค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาในหัวใจ กระนั้นก็ยังพยายามปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้คิดอะไรกับบุษบา “ก็แค่ของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น ใครอยากได้ก็เอาไปเลย!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม