บทที่ 3

3724 คำ
ทุกเรื่องราวย่อมมีตอนจบของมัน และทุกอย่างสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ เรื่องของเธอและธีทัตก็เช่นกัน เราสองคนยังอยู่ที่คอนโดมิเนียมเดียวกัน ใช้ชีวิตเหมือนเดิมในทุกๆ วัน เช้าไปทำงาน เย็นกลับมาพบหน้า กินข้าวพร้อมกันบ้าง ดูละครน้ำเน่าหลังข่าวเรื่องที่ชอบด้วยกันเหมือนเคย แตกต่างก็เพียงแค่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางร่างกายเกิดขึ้น ไม่มีจูบหวานๆ ประทับลงมาบนริมฝีปากอีกแล้ว ไม่มีกอดอุ่นๆ จากเขาในยามที่ร่างกายหนาวเหน็บ แต่ก็ไม่เห็นเป็นไร เธอแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ถ้ากายหนาวก็แค่เพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ หรือไม่ก็ห่มผ้าหนาๆ สักผืนก็อุ่นขึ้นแล้ว “อะไรเหรอคะ” เธอเอ่ยถามเมื่อธีทัตยื่นโบรชัวร์บ้านมาให้ ธีทัตนั่งลงข้างแม่ของลูกแล้วยิ้มให้เจ้าหล่อน “บ้านไง พี่จะซื้อบ้านให้บุษ ลูกของเราจะได้อยู่สบายกว่านี้ พี่ว่าห้องนี้มันเล็กเกินไปสำหรับบุษกับลูก” หมายความว่า.. “พี่จะให้บุษย้ายออกจากที่นี่เหรอคะ” ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม รู้สึกวูบโหวงในอกขึ้นมาเฉียบพลัน น้ำตาพานจะไหลขึ้นมาเสียดื้อๆ เจ้าหล่อนรู้ดีว่าลึกๆ แล้วตัวเองยังทำใจเรื่องธีทัตไม่ได้ ลำพังแค่เขาขอเปลี่ยนสถานะ หัวใจก็เจ็บปวดจนแทบทานทนไม่ไหวแล้ว นี่ชายหนุ่มยังไล่เธอกับลูกไปให้พ้นๆ จากเขาอีก ไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยหรือ “บุษไม่โอเคตรงไหนหรือเปล่า” บุษบาค่อยๆ หันหน้ามาแล้วส่งยิ้มให้เขาเหมือนอย่างเคย ทว่าสายตาที่มองมากลับทำให้เขาชะงักงัน ดวงตางดงามคู่นั้นร้าวรอนอย่างเห็นได้ชัด “โอเคสิคะ” เธอพูดทั้งน้ำตา “พี่อุตส่าห์ซื้อบ้านจัดสรรหลังใหญ่ แถมโครงการก็หรูหราขนาดนี้ บุษก็ต้องโอเคสิคะ จะไม่โอเคได้ยังไง” มือน้อยวางแนบบนหน้าท้องตัวเองก่อนจะเอ่ยปากพูด “ขอบคุณพ่อเขาสิลูก พ่อเขาใจดีซื้อบ้านให้เราสองคนแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน” มองดูก็รู้ว่าบุษบาไม่ได้ดีอกดีใจเช่นที่ปากพูดออกมา เขาคว้าเจ้าของร่างอวบอั๋นที่ครั้งหนึ่งเคยแนบชิดหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเข้ามากอด “บุษอย่าเข้าใจผิดคิดว่าพี่ไล่บุษนะ พี่แค่อยากให้ลูกกับบุษได้อยู่ในพื้นที่กว้างๆ ห้องนี้มันคับแคบเกินไป และถึงแม้ว่าบุษจะย้ายไปอยู่ที่บ้าน พี่ก็จะไปหาลูกกับบุษเหมือนเดิม เราจะช่วยกันเลี้ยงเขา เลี้ยงเขาให้ดีที่สุด” มืออุ่นหนาลูบแผ่นหลังบุษบาแผ่วเบา หญิงสาวสะอื้นไห้ในอ้อมกอดพ่อของลูก ผู้ชายที่ไม่มีสิทธิ์คิดอาจเอื้อมคว้าหัวใจเขามาครอบครอง หากว่าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะหนีไปให้ไกลจากชีวิตเขา และจะไม่มีทางให้ธีทัตรับรู้เรื่องลูกเด็ดขาด เพราะเธอเจ็บ เจ็บที่เขาคอยมาทำดี คอยมาดูแลเอาใจใส่ ทำให้เธอหลงดีใจไปว่าเขาคิดเกินเลยด้วย แล้วสุดท้ายชายหนุ่มก็มาพูดตอกหน้าว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นเพียงเพราะว่าเธอเป็นแม่ของลูกเขา หาใช่เพราะรักแต่อย่างใด “ถ้าไม่รักกัน ขอร้องได้ไหมคะว่าอย่ามาทำดีกับบุษเลย..” เธอพาตัวเองออกจากอ้อมกอดอบอุ่นแล้วเอ่ยกับเขาทั้งน้ำตา “บุษเจ็บเหลือเกินค่ะพี่ไนซ์ อย่าทำให้บุษเจ็บไปมากกว่านี้เลยนะคะ พี่ก็รู้ว่าบุษแพ้ความดีและความเอาใจใส่จากพี่ เพราะตลอดชีวิตนี้บุษไม่เคยได้รับมันจากใคร นอกจากพี่ไนซ์คนเดียว มันเลยทำให้บุษตกหลุมรักพี่ ถ้าพี่อยากให้บุษตัดใจจากพี่ได้ รบกวนอย่าอ่อนโยนกับบุษ ใจร้ายกับ บุษมากๆ พูดตอกย้ำบุษบ่อยๆ ว่าพี่ไม่ได้รักบุษ ถ้าพี่ทำอย่างที่บุษขอได้ สักวันบุษคงจะเลิกรักพี่ไปเอง” สงสารหญิงสาวจับใจ แต่เขาก็ไม่อาจฝืนหัวใจตัวเองให้รักเธอได้เช่นกัน “ตัดใจจากพี่เถอะนะบุษ บุษเป็นคนน่ารัก สักวันต้องมีผู้ชายดีๆ มาดูแลบุษแน่นอน เชื่อพี่นะ” เขาไม่อยากให้บุษบามาจมปลักอยู่กับเขา หนทางชีวิตเจ้าหล่อนในวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล ฟังเพียงเท่านี้ก็เข้าใจได้แล้วว่าถึงอย่างไรธีทัตก็ไม่มีวันมอบเศษเสี้ยวหัวใจเขาให้กับเธอ ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้วเธอจะทำอะไรได้ นอกจากทำใจ “ถ้าวันหนึ่งบุษมีใครมาดูแล พี่ไนซ์จะทำใจได้จริงๆ ใช่ไหมคะ” เขายิ้มแล้วพยักหน้าพลางเอื้อมมือไปโคลงศีรษะเจ้าหล่อนเบาๆ “แน่นอนว่าพี่ต้องยินดีอยู่แล้วถ้ามีคนดีๆ มาดูแลน้องสาวพี่” น้องสาวงั้นหรือ.. ฮึ! เธอคงทำได้เพียงก้มหน้าน้อมรับสถานะที่เขายัดเยียดให้สินะ บอกตรงๆ ว่ายังทำใจให้ชาชินกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน เรายังมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอยู่เลย แล้วตอนนี้กลับมาบอกเธอเป็นน้องสาว น้องสาวที่มีลูกของเขาอยู่ในท้องเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว! “แล้วมันจะเป็นไปได้ไหมคะถ้าบุษอยากให้ผู้ชายคนนั้นเป็นพี่ไนซ์” ถึงอย่างไรเราก็มีลูกด้วยกันแล้ว แม้ไม่ได้ตั้งใจให้เขาเกิดมา แต่จะไม่ดีกว่าหรือหากเด็กคนนี้ได้เติบโตท่ามกลางพ่อและแม่ที่พร้อมหน้า ทว่าความหวังที่มีเพียงริบหรี่ก็มอดดับลงเมื่อธีทัตส่ายหน้า “ตัดใจจากพี่เถอะนะบุษ ถ้าพี่จะรักบุษ พี่คงรักไปตั้งนานแล้ว” เขาพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปจากตรงนั้นทันที ทิ้งไว้เพียงหญิงสาวที่ดวงตาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา บุษบายกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าแล้วสะอื้นไห้ เจ็บปวดหัวใจราวกับก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ความรู้สึกขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี “ฮือๆ ไอ้พี่ไนซ์บ้า! เป็นน้องสาวบ้านพี่สิ ตัดใจนะเว้ยไม่ใช่ตัดกระดาษ มันจะได้ตัดง่ายขนาดนั้น” ธีทัตที่นอนเอนหลังอยู่บนเตียงในห้องนอนได้ยินทุกคำพูดที่ออกจากปากบุษบา ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจแล้วภาวนาขอให้เจ้าหล่อนตัดใจจากเขาได้เร็วๆ เพราะใช่ว่าจะไม่อึดอัดกับความสัมพันธ์ของเราสองคน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าอดทน เพราะในท้องหญิงสาวมีลูกของเขาอยู่ จนถึงตอนนี้ก็ยังคลางแคลงใจเรื่องที่ว่าบุษบาพลาดหรือว่าตั้งใจปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อผูกมัดเขากันแน่ แต่ไม่ว่าจะพลาดจริงๆ หรือตั้งใจ อย่างไรเสียหลังจากเด็กได้กินนมแม่ครบหกเดือน เขาก็จะหาจังหวะคุยกับบุษบาอีกครั้งเรื่องลูก เขาอยากให้ลูกอยู่กับพ่อ ส่วนแม่ของลูก เขา.. ไม่ต้องการ บุษบาท้องร้องโครกครากเมื่อจมูกได้กลิ่นข้าวต้มหอมๆ ที่ลอยมาแตะปลายจมูก เจ้าหล่อนรีบปาดลิปสติกสีส้มอิฐลงบนริมฝีปากอวบอิ่มของตัวเองแล้วเช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมก่อนจะก้าวขาออกจากห้องนอนไปยังส่วนครัวภายในห้องชุดขนาดหนึ่งร้อยตารางเมตร ซึ่งในยามนี้มีหนุ่มหล่อกำลังยืนอยู่หน้าเตา “พี่ทำข้าวต้มเสร็จพอดี กินก่อนแล้วค่อยไปทำงาน” เขาตักข้าวต้มหมูสับใส่เห็ดหอมเยอะๆ แบบที่บุษบาชอบไปวางบนโต๊ะตรงหน้าเธอ เรียวปากอิ่มเผยรอยยิ้มกว้างจนส่งให้ดวงตาคู่หวานทอประกายสดใส นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่เคยเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ยามนี้แทบไม่เหลือร่องรอยเหล่านั้นให้เห็น ที่บุษบาเป็นเช่นนี้ก็เพราะหลายวันที่ผ่านมาธีทัตดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี “น่ากินจังเลยค่ะ” เธอสูดดมกลิ่นหอมของอาหารตรงหน้าแล้วยิ้มร่า “สงสัยช่วงนี้ดวงขึ้นแฮะ พี่ไนซ์ทำอาหารให้กินทุกวันเลย” หญิงสาวว่าพลางใช้ช้อนตักข้าวต้มในถ้วยขึ้นมาแล้วเป่าเพื่อให้คลายความร้อนก่อนจะนำเข้าปากตัวเอง “อืม.. อร่อย” “นี่น้ำส้มคั้นสด พี่คั้นเองกับมือเลยนะ ดื่มให้หมดแก้วล่ะ” เขาวางแก้วน้ำส้มไว้บนโต๊ะฝั่งขวามือของบุษบาแล้วมองเจ้าหล่อนรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยพลางแอบลอบพิจารณาแม่ของลูกตัวเองไปด้วย จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็มีส่วนคล้ายอวัศยา ทั้งลักษณะท่าทาง ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยเหมือนสาวน้อยแดนอาทิตย์อุทัย แตกต่างก็เพียงความมั่นคงทางอารมณ์ที่ยังห่างชั้นกันอยู่มาก แต่นั่นก็หาใช่เรื่องแปลก เพราะอายุและประสบการณ์ของอวัศยามากกว่าบุษบา “อร่อยไหม” บุษบาเงยหน้าขึ้นจากชามข้าวต้มแล้วส่งยิ้มกว้างจนตาหยีให้คนที่ทำอาหารเช้าให้ตัวเองกิน “อร่อยมากกก ฝีมือพี่ไนซ์อร่อยที่สุดเลยค่ะ” เป็นบุญปากเธอจริงๆ ที่ได้กินอาหารฝีมือธีทัต น้ำเสียงสดใสและแววตาทอประกายสุขของบุษบาทำให้คนมองรู้สึกจุกในอก ริมฝีปากบางหยักเม้มเข้าหากันราวกับเจ้าของมันกำลังพยายามสะกดกั้นบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ข้างใน แววตาสีดำขลับที่ทอดมองคนกำลังท้องดูลึกล้ำยากยิ่งที่จะตีความหมายว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังคิดอะไรอยู่ “กินเยอะๆ นะ ลูกจะได้แข็งแรง” เขาว่าพลางล้วงกล่องกำมะหยี่สีแดงที่อยู่ในถุงผ้ากันเปื้อนออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะตรงหน้าบุษบา “สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะ ขอโทษที่ให้ของขวัญช้าไปหน่อย” บุษบาตาลุกวาวเมื่อเห็นของที่วางอยู่ตรงหน้า เธอวางช้อนที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากแล้วหยิบกล่องกำมะหยี่ใบนั้นขึ้นมาเปิดดูของที่อยู่ข้างในทันที “พี่ไนซ์ให้บุษจริงๆ เหรอคะ” เธอเอ่ยถามคนที่มอบของขวัญวันเกิดชิ้นแรกในชีวิตให้ตัวเองโดยที่ไม่ยอมละสายตาจากสร้อยคอทองคำขาวที่มาพร้อมกับจี้เพชรเม็ดเล็กๆ “นี่เป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกในชีวิตบุษเลยนะคะเนี่ย” แววตาเจ้าหล่อนฉายชัดว่ากำลังรู้สึกเช่นไร ต่างจากอีกคนที่ทอดมองหญิงสาวด้วยสายตายากจะคาดเดา เขาผู้นั้นกระตุกยิ้มหยันพลางคิดในใจว่าขนาดสร้อยคอเส้นละไม่กี่บาท เธอยังดีใจมากขนาดนี้ แล้วหากเป็นเงินก้อนใหญ่กับทรัพย์สินมากมายที่เขาจะให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับบางอย่างล่ะ บุษบาจะดีใจมากแค่ไหน “บุษชอบไหม” ธีทัตยังคงเอ่ยถามผู้หญิงที่กำลังท้องของตนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเช่นเคย เจ้าหล่อนพยักหน้ารัว “ชอบมากกก ชอบที่สุดเลยค่ะ” เธอวางช้อนที่เดิมทีเคยใช้ตักข้าวต้มเข้าปากแล้วลุกขึ้นไปกอดผู้ชายที่ตัวเองรักสุดหัวใจ “พี่ไนซ์ใส่สร้อยให้บุษได้ไหมคะ” บุษบาคลายอ้อมกอดจากชายหนุ่มแล้วพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ได้สิ” บุษบายิ้มร่าอย่างคนสมใจแล้วหันหลังให้เขา เจ้าหล่อนใช้มือรวบผมสีดำขลับความยาวประมาณบ่าที่เคยแผ่สยายขึ้น คงเพราะต้องการให้เขาสวมสร้อยคอให้เธอได้ถนัด ลำคอชายหนุ่มแห้งผากเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากบุษบา เขาสวมสร้อยคอให้เจ้าหล่อนอย่างเชื่องช้า ด้วยว่ามัวแต่จดจ่ออยู่กับลำคอขาวๆ และผิวเนื้อนวลเนียนของเธอ “เสร็จแล้ว” “พี่ไนซ์ว่าบุษสวมสร้อยเส้นนี้แล้วเป็นยังไงบ้างคะ” เธอหันไปหาเขาแล้วส่งสายตาเชิญชวนให้ธีทัตมองสร้อยที่ลำคอตัวเองและสิ่งที่ต่ำลงไปกว่านั้น อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ประกาศปาวๆ ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธออีก จะสามารถทนได้สักกี่น้ำ หากต้องอยู่ใกล้ชิดกันเช่นนี้ ธีทัตไม่ก้มลงมองต่ำกว่าระดับสายตา เขาเบือนหน้าไปทางอื่น ด้วยกลัวว่าจะระงับความต้องการของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ “ไปทำงานได้แล้วไป เดี๋ยวก็สายหรอก” หญิงสาวหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นธีทัตพยายามทำหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทว่ากลับเห็นความเคลื่อนไหวที่ลำคอหลายต่อหลายครั้งคล้ายว่าชายหนุ่มกำลังกลืนน้ำลาย “โอเคค่า บุษไปทำงานแล้วก็ได้ ตอนเย็นเจอกันนะคะ” เธอส่งยิ้มล้อเลียนเขาแล้วคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกไปจากห้องไป หารู้ไม่ว่ายิ่งหญิงสาวแกล้งยั่วยวนพ่อของลูกเช่นนี้ ยิ่งทำให้ธีทัตตัดสินใจทำอะไรได้ง่ายขึ้น “คุณไนซ์ให้มาล่ะสิ” ลิลลี่เอ่ยปากถามเมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องที่สนิทสนมกันอย่างบุษบามองสร้อยแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บุษบาพยักหน้า “ใช่แล้วเจ้ พี่ไนซ์ให้หนูเป็นของขวัญวันเกิด” เธอเล่าให้ลิลลี่ฟังทั้งรอยยิ้ม ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เห็นได้ชัดเจนว่าบุษบามีความสุขเพียงใด นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเจ้าหล่อนเปล่งประกายเจิดจ้า ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มไม่เลือนหาย “เจ้อิจฉาแกจริงๆ เลยบุษ เมื่อไหร่ที่ฟ้าจะประทานผัวหล่อๆ รวยๆ มาให้เจ้บ้างนะ” “น้อยๆ หน่อยเถอะเจ้ลี่ ไอ้ที่มีอยู่ก็โคตรเพอร์เฟ็กซ์แล้วเหอะ” บุษบาพูดถึงดอกเตอร์อรุณหรือเฮียโอ๋ สามีของลิลลี่ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัท “แต่ก็สู้คุณไนซ์ของแกไม่ได้หรอก นักธุรกิจหมื่นล้าน ทั้งหล่อทั้งรวย ไม่รู้ว่าชาติก่อนแกทำบุญด้วยอะไรนะยัยบุษ ชาตินี้ถึงมีบุญได้แฟนเลิศขนาดนี้” รอยยิ้มของบุษบาค่อยๆ หุบลงเมื่อสำเหนียกได้ว่าแท้ที่จริงแล้วตนถูกจัดอยู่ในสถานะไหนสำหรับธีทัต จริงอยู่ที่ว่าเขาไม่ได้ปิดบังถึงการมีตัวตนอยู่ของเธอ แต่ก็ไม่เคยเอ่ยปากบอกใครว่าเราเป็นอะไรกัน “เจ้ลี่ เจ้ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่ไนซ์ไม่ใช่แฟนหนู” คนใกล้ชิดก็มีเพียงลิลลี่เท่านั้นที่ล่วงรู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเธอกับธีทัต คนพูดมากปากไวหุบปากตัวเองไว้แทบไม่ทันเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป “แต่ก็เหมือนแฟนกันแหละน่าแก เขาอยู่กับแก นอนกับแก นี่มันยิ่งกว่าแฟนอีกนะเว้ย” “ตัวเขาอยู่กับหนูก็จริงนะเจ้ลี่ แต่ใจเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ถ้าไม่ติดว่าผู้หญิงที่พี่ไนซ์รักมีสามีแล้ว ปานนี้พี่ไนซ์คงไสหัวหนูออกจากชีวิตเขาไปแล้วล่ะ” ขนาดว่าอวัศยามีสามีแล้ว ธีทัตยังคอยเทียวแวะเวียนไปหา หากว่าผู้หญิงคนนั้นโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ รับรองได้เลยว่าเธอคงไม่ต่างจากหมาตัวหนึ่งสำหรับเขา ลิลลี่สงสารเพื่อนรุ่นน้องของตัวเองจับหัวใจ “แกยังสาวยังสวย อายุก็ยังน้อย ถ้าสุดท้ายแล้วคุณไนซ์เขาไม่ได้รักแก เจ้ก็อยากให้แกลองเปิดโอกาสให้ตัวเองดูนะบุษ รักคนที่เขารักเรา ดีกว่าพยายามวิ่งตามผู้ชายที่เขาไม่ได้เห็นเราอยู่ในสายตา” เธอคิดว่าบุษบายังมีโอกาส ยังมีเส้นทางให้เลือกเดินอีกเยอะ “คุมดีๆ แล้วกัน อย่าปล่อยให้ตัวเองป่องเชียวล่ะ ไม่อย่างนั้นยุ่งแน่แกเอ๊ย” หากว่าตัดใจมันง่ายเหมือนใช้กรรไกรตัดกระดาษก็คงดีไม่น้อย บุษบามองหน้าเจ้ลี่แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “เจ้..” เธอเรียกลิลลี่เสียงเบาหวิว “หืม” ลิลลี่ฟังบุษบาพูดไปพลางทำงานไปพลาง “หนูท้อง” นิ้วทั้งห้าที่กำลังกดลงไปบนแป้นพิมพ์พลันชะงักงัน ลิลลี่หันขวับมองเจ้าของประโยคเมื่อครู่ ดวงตาทั้งสองข้างของเพื่อนรุ่นพี่เบิกโพลงจนน่ากลัวว่าจะถลนออกมานอกเบ้า “กะ.. แกว่าไงนะยัยบุษ” “หนูท้องกับคุณไนซ์เจ้ ท้องได้สามเดือนแล้วด้วย” กว่าจะหาสติตัวเองพบก็ใช้เวลาหลายนาที ลิลลี่วางมือจากงานแล้วหมุนเก้าอี้ตัวเองไปหาบุษบา “แกไม่ใช่ล้อเจ้เล่นใช่ไหมบุษ นี่แก คง.. ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อรั้งผู้ชายไว้หรอกใช่ไหม” “จะบ้าเหรอเจ้ลี่ ถึงหนูจะรักพี่ไนซ์มากแค่ไหน แต่หนูไม่มีทางเอาลูกตัวเองมาใช้เป็นเครื่องมือทำเรื่องแบบนั้นหรอก” บุษบาวางมือลงบนหน้าท้องของตัวเอง “แต่เจ้รู้ไหม หลังจากที่พี่ไนซ์รู้ว่าหนูท้อง เขาก็ดูแลเอาใจใส่หนูเป็นอย่างดีเลยนะ” แม้รู้ดีว่าที่ธีทัตทำไปทั้งหมดก็เพราะเลือดเนื้อเชื้อไขของชายหนุ่มที่อยู่ในท้องเธอ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นเธอก็มีความสุขเหลือเกินกับสิ่งที่เขาทำ “เรื่องลูกแกต้องตกลงกับคุณไนซ์ให้ดีนะบุษ” ลิลลี่พูดด้วยความเป็นห่วง “เราตกลงกันแล้วเจ้ เขาจะซื้อบ้านให้หนูกับลูกอยู่แล้วก็จะช่วยหนูเลี้ยงลูก แต่.. ไม่ได้จะมาอยู่ด้วย” ก่อนหน้านี้เธอพยายามเรียกร้องจากธีทัตมากเกินไป ซึ่งหากใช้สมองสักนิดจะคิดได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นอาจทำให้เธอสูญเสียทุกอย่าง เพราะฉะนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะพยายามสงบเสงี่ยมเจียมตัวแล้วหาทางพาตัวเองแทรกซึมเข้าไปในหัวใจชายหนุ่มอย่างแยบยลที่สุด เพราะลูกของเธอต้องมีพ่อ เจ้า ตัวเล็กต้องเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมหน้า คนหนึ่งอยากหลอมรวมหัวใจสามดวงของพ่อแม่ลูกเข้าด้วยกัน ทว่าอีกคนกลับกำลังหาวิธีการพรากลูกจากอ้อมอกแม่เพราะไม่ต้องการบุษบา “กูไม่เข้าใจมึงเลยว่ะ ทำไมมึงไม่ลองเปิดใจให้คุณบุษดูวะ ตัวมึงก็ยังโสด แม่มึงก็ไม่ได้มีปัญหาถ้ามึงจะลงเอยกับคุณบุษ และที่สำคัญคุณบุษเขาก็ดูรักมึงจะตายไป ไหนๆ ก็จะมีลูกด้วยกันแล้ว จะไม่ดีกว่าเหรอถ้าลูกมึงได้อยู่กับพ่อแม่แบบพร้อมหน้า กูไม่เห็นด้วยนะเว้ยถ้าจะใช้เงินซื้อลูกจากแม่น่ะ มันดูไร้ศีลธรรมและสารเลวเกินไป” ธีทัตปรายตามองเพื่อนสนิทที่นัดออกมาเพื่อขอคำปรึกษา ด้วยเห็นว่าคเชนทร์เป็นทนาย ทว่านอกจากจะไม่ได้รับคำแนะนำดีๆ แล้ว ไอ้เพื่อนบ้านี่ยังมาด่าเขาอีก “ก็กูไม่ได้รักบุษ มึงจะให้กูทนใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้รักไปตลอดชีวิตหรือไง” “มึงรักคุณเอ๋ยว่างั้น” ประโยคนี้คเชนทร์ฟังมานับครั้งไม่ถ้วนจนเบื่อที่จะได้ยิน “อื้อ” ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการกลอกตามองบนพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เมื่อไหร่มึงจะคิดได้สักทีวะ คุณเอ๋ยของมึงเขามีผัวมีลูกแล้ว มึงก็ควรจะมูฟออนสักทีไหมวะ” “กูมูฟแน่เว้ย แต่ไม่ใช่กับบุษ กูไม่ได้รักบุษ ถ้าบุษไม่ท้อง ป่านนี้เราสองคนก็คงทางใครทางมันแล้ว” แต่ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เขาก็จะรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไปให้ดีที่สุด “กูจะดูแลบุษจนกว่าบุษจะคลอด หลังจากที่บุษคลอด กูจะให้บุษเลี้ยงลูกหกเดือน หลังจากที่ลูกกูไม่ต้องการนมจากแม่แล้ว กูจะให้เงินบุษสักก้อนเพื่อไปตั้งตัว กูจะให้ชีวิตใหม่กับเขา ให้เงิน ให้รถ ให้บ้าน ให้ทุกอย่างที่บุษต้องการ ยกเว้นลูก ลูกต้องอยู่กับกู ส่วนบุษจะมีเส้นทางชีวิตของเธอโดยที่ไม่มีจุดด่างพร้อยใดๆ” ขนาดเขาเป็นคนอื่นยังเจ็บเมื่อได้ฟังสิ่งที่ธีทัตพูด หากเป็นบุษบามาได้ยินประโยคที่ออกจากปากผู้ชายที่เจ้าหล่อนรักสุดหัวใจ คิดไม่ออกเลยว่าหญิงสาวจะเสียใจแค่ไหน “คุณบุษไม่ดีตรงไหนวะ หรือเพราะมึงเห็นว่าเธอไม่มีอะไรคู่ควรกับมึงงั้นเหรอ” ธีทัตส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก กูแค่ไม่ได้รักเขา” “แต่เอากับคุณบุษมาเป็นปีเนี่ยนะ” “มึงก็รู้นี่ว่าทำไมกูถึงอยู่กับบุษ” เพียงเพราะแค่ต้องการใครสักคนไว้คลายเหงา ไว้เป็นที่ระบายความทุกข์ใจ แต่ธีทัตไม่เคยฉุกคิดสักนิดเลยหรือว่าบุษบาเองก็มีหัวใจมีความรู้สึก ทุกข์ได้ เสียใจเป็นเหมือนกันกับเขา คเชนทร์นึกถึงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เคยพบหน้าอยู่หลายครั้ง เขารู้สึกสงสารเจ้าหล่อนจับหัวใจ น่าเสียดาย.. หากสามารถเปลี่ยนผู้ชายที่บุษบารักจากธีทัตมาเป็นเขาได้ก็คงจะดี “กูขอเตือนอะไรมึงไว้อย่างนะไนซ์ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไป กูเข้าใจว่ามึงรักคุณเอ๋ย แต่เรื่องของคุณเอ๋ยมันเป็นไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้สิ่งที่มึงควรทำคือดูแลคุณบุษกับลูกในท้องของเธอให้ดีที่สุด กูไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่มึงจะพรากลูกมาจากแม่ มึงคิดเหรอว่าผู้หญิงอย่างคุณบุษจะเห็นเงินสำคัญกว่าลูกของเธอ ถ้าถามกู กูคิดว่าไม่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม