บทที่ 2

1835 คำ
ที่ตรวจครรภ์นับสิบอันตรงหน้าต่างให้ผลไปในทางเดียวกันว่าบุษบาท้อง หญิงสาวจ้องมองมันทั้งน้ำตา เจ้าหล่อนไม่รู้ว่ายามนี้ตัวเองควรรู้สึกเช่นไร เธอสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเอายังไง ทั้งๆ ที่ตัดสินใจได้แล้วแท้ๆ ว่าจะเดินออกจากชีวิตธีทัต แต่ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว เธอมีเจ้าตัวเล็กที่อีกไม่กี่เดือนจะลืมตาขึ้นมาดูโลก “ถ้าพ่อรู้ว่ามีหนู พ่อเขาจะว่ายังไงนะ” แน่นอนว่าผู้ชายดีๆ อย่างธีทัตไม่มีทางปัดความรับผิดชอบ แต่เขาจะรับผิดชอบยังไงนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เอาลูกแต่ไม่เอาแม่ หรือจะเอาทั้งแม่ทั้งลูก คิดตรงจุดนี้พลันทำให้หัวใจดวงน้อยเจ็บแปลบปลาบ แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะตัดสินใจเช่นไร เธอก็ต้องมีส่วนได้เลี้ยงลูก เพราะลูกเป็นลูกของเธอ บุษบาลุกขึ้นจากโซฟาแล้วไปล้างหน้าล้างตา หญิงสาวเปลี่ยนจากชุดเดรสสายเดี่ยวแนบลำตัวเป็นเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นสบายๆ แทน หลังจากที่จัดการกับตัวเองเรียบร้อย เจ้าหล่อนก็กลับมานั่งจมจ่อมอยู่บนโซฟาที่เดิม เธอจ้องมองที่ตรวจครรภ์ที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาคู่หวานสีน้ำตาลเข้มเหม่อลอยคล้ายคนสิ้นหวัง ใช่ว่าจะไม่ยินดีที่กำลังจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตตัวน้อย กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกเป็นกังวลอย่างมากที่ลูกมาเกิดในยามนี้ ธีทัตไม่ได้รักเธอ ในแววตาเขาไม่มีแม้กระทั่งเงาของผู้หญิงที่ชื่อบุษบา จริงอยู่ที่ว่าชายหนุ่มไม่มีทางทิ้งลูก แล้วเธอล่ะ เขาจะทำเช่นไร หญิงสาวเอนหลังนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่บนโซฟาตัวนั้นจนเผลอหลับไป ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่บุษบาปิดเปลือกตาลงก็มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง ทว่าเจ้าหล่อนหลับลึกเสียจนไม่รู้สึกตัว เจ้าของร่างสูงใหญ่แทบลืมหายใจเมื่อดวงตาทั้งสองข้างกระทบกับที่ตรวจครรภ์ที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ “นี่มันอะไรกัน..” ธีทัตหยิบที่ตรวจครรภ์ขึ้นมามองให้ชัดๆ แล้วเหลือบมองคนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราว ใบหน้าหล่อเหลาเครียดเขม็ง หัวใจเต้นเร็วแรงด้วยว่ากลัวสิ่งที่คิดอยู่ในขณะนี้จะกลายเป็นความจริงขึ้นมา เส้นสีแดงสองเส้นนี้หมายความว่าอย่างไร? ด้วยเพราะเป็นผู้ชายและไม่มีความรู้ในด้านนี้ ธีทัตจึงไม่มั่นใจนักว่าผลจากที่ตรวจครรภ์นั้นแปลว่าบุษบาท้องหรือไม่กันแน่ แล้วหากว่าบุษบาท้องจริงๆ ล่ะ เขาจะทำเช่นไรดี “ตื่นเดียวนี้นะบุษ!” เขาเขย่าแขนบุษบาปลุกเจ้าหล่อนเพื่อให้ตื่นขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่อง คนที่กำลังหลับสบายรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาติดหมัดเมื่อถูกรบกวนการนอน บุษบาค่อยๆ ปรือตาขึ้น เธอสะบัดหัวไปมาเพื่อขับไล่ความง่วงงุนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงตะคอกเมื่อครู่ “ทำไมต้องเสียงดังด้วย ปลุกดีๆ ก็ได้นี่คะ” ใบหน้าหวานง้ำงอบ่งบอกว่าเจ้าของมันกำลังไม่พอใจเขา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ “นี่มันคืออะไร!” บุษบามองที่ตรวจครรภ์ในมือของธีทัต เจ้าหล่อนเข้าใจทันทีว่าอะไรกันที่ทำให้ชายหนุ่มโมโหได้ขนาดนี้ ทั้งที่ตลอดมาเขาเป็นคนค่อนข้างใจเย็น “บุษ-ท้อง-ค่ะ” เธอเน้นย้ำทุกถ้อยคำที่พูดออกไป “บุษกำลังตั้งท้องลูกของเรา” เธอไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อจับเขา เธอไม่ได้สิ้นคิดขนาดนั้น แต่ในเมื่อเด็กเกิดมาแล้ว เราสองคนก็ต้องช่วยกันรับผิดชอบและดูแลลูกให้ดีที่สุด “พี่จะทำยังไงคะ” “บุษ.. ท้องจริงๆ เหรอ” เสียงที่เอ่ยออกไปนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน ชายหนุ่มช็อกจนทำอะไรไม่ถูก เขายังไม่พร้อมเป็นพ่อใครในตอนนี้ และที่สำคัญบุษบาไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาปรารถนาอยากได้ เจ้าหล่อนมาเป็นแม่ของลูก สายตาและท่าทางของธีทัตบ่งชัดเหลือเกินว่าชายหนุ่มกำลังรู้สึกเช่นไร เขาไม่ยินดีเรื่องลูกเลยสักนิด หนำซ้ำยังทำราวกับว่าไม่ต้องการเด็กคนนี้เสียด้วยซ้ำ เห็นเช่นนั้นแล้วบุษบาจุกจนพูดไม่ออก กระนั้นหญิงสาวก็ทำได้เพียงเก็บงำความรู้สึกขมขื่นนั้นไว้กับตัวเอง เพราะรู้ดีว่าต่อให้ร้องไห้ปานจะขาดใจตาย ธีทัตก็หาได้สนใจไม่ ตรงกันข้ามกลับทำให้ ชายหนุ่มรำคาญด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่คนที่เขารัก “ใช่ค่ะ บุษท้องจริงๆ บุษกำลังจะมีลูกให้พี่แล้วนะคะ พี่.. ดีใจไหม” เธอนี่มันไม่ใช้สมองคิดก่อนพูดเลยนะบุษบา กล้าถามเขาไปได้ยังไงว่าดีใจไหม เขาไม่ด่าเรื่องที่เธอปล่อยให้ตัวเองตั้งท้องก็บุญเท่าไหร่แล้ว “ฮึ!ไม่สินะคะ” เมื่อเห็นธีทัตยืนนิ่ง หญิงสาวซึ่งเป็นคนตั้งคำถามจึงเอ่ยปากตอบเอง “พี่จะดีใจมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องที่สำคัญคือเราจะเอายังไงกับเด็กคนนี้ต่างหาก” เขาพยายามตั้งสติแล้วคิดหาทางออก ในเมื่อปัญหามันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาทางแก้ไข แต่มีบางเรื่องที่เขาต้องรู้จากปากบุษบาเดี๋ยวนี้ “บุษไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้ตัวเองท้องใช่ไหม” หวังว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช้เด็กคนหนึ่งเพื่อมาผูกมัดให้เขาอยู่กับเธอตลอดไปหรอกนะ เพราะหากเป็นเช่นนั้น เขาก็ตัดสินใจได้ไม่ยากว่าหลังจากลูกคลอดแล้วจะทำเช่นไรต่อไป คิ้วโก่งดังคันศรขมวดมุ่นเข้าหากัน บุษบาโกรธจนหน้าสั่น จริงอยู่ที่ว่าตลอดมาเธอพยายามร้องขอความรักจากเขา แต่ก็ไม่เคยคิดจะเอาชีวิตเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาผูกมัดใคร “บุษรักพี่ก็จริง แต่บุษไม่เคยคิดจะใช้วิธีสกปรกเพื่อให้พี่อยู่กับบุษ แต่ถ้าพี่คิดว่าบุษตั้งใจปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อจับพี่ งั้นลูกคนนี้บุษขอเลี้ยงเอง พี่ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เชิญพี่ไปตามเฝ้าผู้หญิงที่พี่รักได้ตามสบาย ไม่ต้องมาสนใจเราสองแม่ลูก บุษเลี้ยงลูกเองได้ บุษสัญญาว่าถ้าลูกโตขึ้นแล้วถามว่าพ่อไปไหน บุษจะบอกลูกว่าพ่อมันตายแล้ว” เพราะอารมณ์น้อยใจประกอบกับความเครียดที่มีอยู่ก่อนหน้าทำให้บุษบาระเบิดอารมณ์ใส่ธีทัต “บุษ!” ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกระตุ้นต่อมโมโหเขาได้เท่ากับบุษบาเลย หากไม่ติดว่าเธอกำลังท้อง เขาคงจับมาฟาดก้นลงโทษให้รู้แล้วรู้รอดสักป๊าบสองป๊าบ “พี่ไม่ได้บอกว่าพี่จะไม่รับผิดชอบ ยังไงลูกก็เป็นลูกพี่นะ” เขามองบุษบาที่เงียบไปแล้วตัดสินใจพูดต่อ “แต่บุษรู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่ได้รักบุษ พี่ไม่สามารถให้บุษได้มากกว่าสถานะพ่อของลูก ส่วนบุษจะเป็นแม่ของลูกพี่ แต่ไม่ใช่เมีย พี่จะช่วยบุษดูแลลูก เราสองคนจะดูแลลูกช่วยกัน แต่เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ เราจะยังเป็นอิสระต่อกันเหมือนเดิม” จะให้เขารับบุษบาเป็นภรรยาคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอมากไปกว่าคู่นอน บุษบาเบือนหน้าหนีสายตาพ่อของลูกไปทางอื่น หญิงสาวพยายามฝืนไม่ให้น้ำตาไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ข่มความเสียใจซ่อนเอาไว้ข้างในแล้วพยักหน้าช้าๆ อย่างยอมจำนนต่อสถานะที่ธีทัตยกให้โดยไม่เรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้ เพราะรู้ดีว่าต่อให้ร้องขอแค่ไหน ชายหนุ่มก็ไม่มีวันให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้ เพราะเขา.. ไม่ได้รักเธอ “แล้วสถานะพ่อของลูกกับแม่ของลูกนี่สามารถนอนด้วยกันได้ไหมคะ” แม้ไม่ต้องการเรียกร้องอะไรจากธีทัตมากไปกว่าสิ่งที่เขาให้มาก็จริง แต่เรื่องนี้ยังไงก็ต้องพูดกันให้เข้าใจ ในเมื่อเขาบอกเต็มปากว่าไม่รักเธอ ให้ได้มากสุดก็แค่สถานะแม่ของลูก ส่วนจะให้ชายหนุ่มยกเธอขึ้นเป็นเมียออกหน้าออกตานั้นอย่าหวัง เพราะฉะนั้นเธอก็ควรสงวนร่างกายไว้ให้ผู้ชายที่รักเธอจริงๆ ไม่ใช่เห็นเธอเป็นแค่คู่นอนชั่วครั้งชั่วคราวไว้แก้เหงายามไม่มีใคร ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาและบุษบามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาโดยตลอด เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาขึ้นเตียงด้วย แต่นับจากวันนี้ วันที่ความสัมพันธ์แปรเปลี่ยนจากคู่นอนเป็นแม่ของลูก ซึ่งมันไปไกลเกินกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ เขาก็ควรหยุดความสัมพันธ์ทางร่างกายเอาไว้เพียงเท่านี้ ไม่ควรเอาเปรียบเธออีกต่อไป และที่สำคัญคือต้องการให้มีช่องว่างระหว่างเราสองคน “ต่อจากนี้ไปพี่จะแค่ช่วยบุษดูแลลูก ส่วนเรื่องของเราสองคนจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก ในอนาคตถ้าบุษจะมีใคร พี่จะไม่ว่า และยินดีถ้าบุษจะเดินไปข้างหน้ากับผู้ชายดีๆ สักคน” ทุกถ้อยคำที่ธีทัตเปล่งออกมา ทุกวาจาที่ชายหนุ่มเอื้อนเอ่ย มันทั้งชัดเจนและหนักแน่น แจ่มแจ้งเหลือเกินว่าเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งในหัวใจและนัยน์ตาของผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีแม้กระทั่งเงาของเธอ ทุกพื้นที่ในหัวใจเขามีไว้ให้เพียงผู้หญิงที่ชื่ออวัศยาเท่านั้น ส่วนเธอ.. แค่ที่ระบาย ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายปวดหนึบ หัวใจร้าวรอนราวกับจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ กระนั้นถึงแม้เจ็บปวดเพียงใด เธอก็ทำได้แค่ฝืนยิ้มออกมา เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ไปเรียกร้องอะไรใดๆ จากธีทัตทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเรื่องระหว่างเราจะจบลงในวันนี้ แต่ทุกวินาทีนับจากนี้ไป เธอจะใช้ความทรงจำในวันวานมาหล่อเลี้ยงหัวใจของตัวเองเพื่อให้มีแรงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ชีวิตเธอไม่เคยมีใครมารัก ไม่เคยมีครอบครัวที่แท้จริง การที่มีผู้ชายดีๆ คนหนึ่งหยิบยื่นช่วงเวลาแสนพิเศษให้ เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้ว..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม