“กรี๊ดดด!”
ขณะที่ราชันย์กำลังก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกของชั้นสามก็ต้องเงยหน้ามองไปยังด้านบนเมื่อได้ยินเสียงร้องของผู้หญิง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ตกบันไดลงมาโดนเขา จนราชันย์เซหงายหลังนอนลงพื้นโดยมีร่างบางนอนทับเขาไว้ในท่าหันหน้าเข้าหากัน
“งืออ เจ็บอะ ขอโทษที่ตกมาทับคุณนะคะ คุณเป็นอะ…นาย!”
ยี่หวาพูดขึ้นด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าคนที่เธอนอนทับอยู่คือราชันย์ สาเหตุที่เธอตกจากบันไดขั้นบนสุดของชั้นลงมาเพราะดันมีแมงมุมตัวใหญ่ตกมาใส่แขนเธอด้วยความที่ยี่หวาเป็นคนที่กลัวแมงมุมมากจึงตกใจแล้วพลัดตกบันไดจนมานอนทับราชันย์อยู่ตอนนี้ ส่วนราชันย์ก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อคนที่นอนทับเขาอยู่คือผู้หญิงที่กล่าวหาเขาว่าเป็นโรคจิตเมื่อเช้า
“เธอจะนอนทับฉันอีกนานมั้ย ลุกไปสักทีฉันหนัก”
ราชันย์พูดกับยี่หวาเสียงแข็ง ยี่หวาจึงรีบพลิกตัวออกจากราชันย์ทันที
“ขอโทษ เมื่อกี๊มีแมงมุมตัวใหญ่ตกใส่แขนฉัน ฉันกลัวตกใจจนทำตัวไม่ถูกเลยเซตกลงมา นายเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
ยี่หว่าพูดขึ้นพร้อมกับทำสีหน้ารู้สึกผิด
“ซุ่มซ่ามจริงๆ”
ราชันย์พูดจบก็ลุกขึ้นยืนทันที จนยี่หวาถึงกับเปลี่ยนสีหน้ามามองราชันย์อย่างไม่พอใจ
“นี่นาย ฉันก็พูดดีด้วยแถมยังขอโทษนายแล้ว ทำไมต้องมาว่าฉันด้วย พูดดีๆ ไม่เป็นรึไง”
ยี่หวาแว๊ดเสียงใส่ราชันย์ด้วยความไม่พอใจ ส่วนราชันย์ก็เดินขึ้นบันไดไปโดยไม่พูดและไม่สนใจยี่หวาเลยแม้แต่น้อย
“เป็นใบ้รึไง คนพูดด้วยก็ไม่พูด อ๊ะ!”
ยี่หวาร้องเจ็บทันทีเมื่อลุกขึ้นยืนก็รู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าอย่างแรงจนต้องจับราวบันไดไว้เพราะจะล้ม ส่วนราชันย์ก็หยุดชะงักหันหลังมามองทันที
“ตกมาทับตัวฉันแท้ๆ แต่ร้องเจ็บเหมือนตกลงพื้น คิดจะหลอกให้ฉันช่วยพยุงรึไง ลูกไม้ตื้นๆ”
ราชันย์พูดใส่ยี่หวาทันทีเพราะคิดว่ายี่หวาแกล้งเจ็บ
“ฉันร้องเพราะเจ็บจริงไม่ได้คิดจะอ่อยนาย จะเดินไปแล้วก็เดินไปสิจะมาพูดมาว่าฉันทำไม ฉันไม่ได้คิดจะขอให้นายช่วยสักหน่อย”
ยี่หวาพูดขึ้นด้วยความโกรธเมื่อโดนราชันย์พูดใส่เธอ ส่วนราชันย์เมื่อได้ยินคำพูดของยี่หวาก็เดินไปทันทีโดยไม่สนใจยี่หวาเลยแม้แต่น้อย
“คนไร้หัวใจ”
ยี่หวาบ่นพึมพำคนเดียวแล้วพยายามจับราวบันไดค่อยๆ เดินขึ้นบันไดพร้อมกับเบ้หน้าด้วยความเจ็บเพราะข้อเท้าเธอพลิกช่วงที่ตกบันไดลงมา
“อร๊ายย! นายจะทำอะไร มาอุ้มฉันทำไมเนี่ย”
ขณะที่ยี่หวาพยายามกัดฟันก้าวขาขึ้นบันไดขั้นที่สองก็ต้องร้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ราชันย์ก็เดินกลับมาแล้วอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวจนยี่หวาต้องยื่นมือไปคล้องคอหนาไว้เพราะกลัวตก
“เห็นเธอลงทุนแกล้งเจ็บฉันเลยจะสนองช่วยอุ้มขึ้นบันไดแล้วกัน ถ้าพูดมากฉันจะโยนเธอลงพื้นให้เดินเอง”
ราชันย์พูดขึ้นเสียงเรียบหน้านิ่งขรึมแล้วอุ้มยี่หวาเดินขึ้นไปบันไดทันที ส่วนยี่หวาก็ได้แต่มองค้อนใส่ราชันย์แต่ไม่กล้าว่าเขาตอบเพราะกลัวราชันย์จะทิ้งเธอลง จากที่เคยโดนเขาจับเหวี่ยงที่สวนสาธารณะแล้วดูท่าราชันย์คงต้องโยนเธอทิ้งแน่ๆ ถ้าไปต่อปากต่อคำกับเขา ส่วนราชันย์ก็กระตุกยิ้มมุมปากทันทีเมื่อทำให้ยี่หวาหยุดพูดได้
“เป็นอะไร”
ขณะที่เดินขึ้นมาจนถึงบันไดขั้นสุดท้ายของชั้นสามเพื่อจะไปชั้นสี่ ราชันย์ก็ถามยี่หวาขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเธอดันกอดคอเข้าไว้แน่นพร้อมกับซุกหน้าลงที่อกแกร่งของเขาเนื้อตัวสั่นเทาเหมือนกับกำลังกลัวอะไรอยู่ แต่เขามองไปตรงหน้าก็ไม่เห็นมีอะไร
“นาย ฉันกลัวแมงมุม นายเห็นมั้ยมันอยู่ตรงราวบันได นายเดินเลี่ยงออกจากราวบันไดได้มั้ย”
ยี่หวาพูดขึ้นเสียงสั่นด้วยความกลัว เมื่อได้ยินคำพูดของเธอราชันย์ก็หันไปมองตรงราวบันไดก็เห็นแมงมุมตัวใหญ่กำลังเกาะอยู่ ด้วยความที่เห็นเธอตัวสั่นไม่หยุดเขาจึงรู้ว่าเธอคงกลัวแมงมุมมาก
“อยู่กับฉันแมงมุมมันไม่กล้าเข้ามาหาเธอหรอก”
ยี่หวาเงยหน้ามองราชันย์ทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ถึงเขาจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่กลับทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยมากเลยทีเดียว
“อือออ”
ยี่หวาขานตอบราชันย์สั้นๆ แล้วซุกหน้าลงที่อกแกร่งเหมือนเดิมพร้อมกับกอดคอเขาไว้แน่น เมื่อราชันย์กำลังจะเดินผ่านแมงมุมตัวนั้นไป ส่วนราชันย์ก็ไม่พูดอะไรปล่อยให้เธอกอดตัวเองไว้แล้วเดินขึ้นบันไดไปต่อจนเดินมาถึงชั้นที่สิบห้าซึ่งเป็นชั้นที่ราชันย์อยู่
“ห้องเธออยู่ชั้นไหน ต้องขึ้นไปอีกมั้ย”
ราชันย์เอ่ยถามยี่หวาทันทีเพราะขณะที่เดินขึ้นบันไดมายี่หวาเอาแต่ซุกหน้าที่อกเขาเพราะกลัวจะเห็นแมงมุมอีก จนราชันย์อุ้มมาหยุดที่ชั้นสิบห้าจึงนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้ถามว่าเธอพักอยู่ชั้นไหน เมื่อได้ยินคำถามของราชันย์ ยี่หวาก็เงยหน้ามองเลขชั้นของคอนโด แล้วหันไปยิ้มแห้งใส่ราชันย์ทันที
“นาย ฉันอยู่ชั้นสิบสาม”
ราชันย์ถึงกับก้มมองยี่หวาด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินเธอบอกว่าอยู่ชั้นไหน จนยี่หวาได้แต่ส่งยิ้มใส่ราชันย์
“เธอตั้งใจแกล้งฉันรึเปล่า”
ราชันย์พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ฉันไม่ได้แกล้ง ก็ฉันก้มหน้าตลอดเวลาเลยไม่รู้ว่านายเดินมาถึงชั้นไหนแล้ว อีกอย่างใครจะไปคิดว่านายจะเดินขึ้นมาถึงชั้นสิบห้าเร็วขนาดนี้”
ยี่หวาเถียงราชันย์กลับอย่างไม่ยอมเพราะเธอไม่ได้แกล้งเขาจริงๆ จนราชันย์ได้แต่ถอนหายใจใส่แล้วเดินกลับลงไปชั้นล่างทันที
“ห้องไหน?”
ราชันย์เอ่ยถามยี่หวาเมื่อเดินลงมาถึงชั้นสิบสามแล้ว
“1313”
เมื่อได้ยินคำตอบจากยี่หวาราชันย์ก็อุ้มเธอเดินตรงไปยังห้องที่เธอบอกทันที
“นายไม่เมื่อยหรอ อุ้มฉันเดินมาตั้งแต่ชั้นสามจนตอนนี้เหมือนไม่เหนื่อยเลย อร๊ายย!”
ยี่หวาร้องตกใจทันทีเมื่ออยู่ดีๆ ราชันย์ก็ปล่อยเธอลงแบบไม่ทันตั้งตัว จนเธอต้องกอดเอวเขาไว้ด้วยความตกใจ
“จะปล่อยทำไมไม่บอกเล่า ฉันตกใจหมด”
ยี่หวาแว๊ดเสียงใส่ราชันย์ทันทีเมื่อยืนตั้งหลักได้แล้ว
“ตอนอุ้มฉันยังไม่บอก ตอนปล่อยจะบอกทำไม ถึงห้องเธอแล้วคงเดินเข้าห้องตัวเองได้นะ หรือจะให้ฉันอุ้มเข้าไปในห้อง”
ราชันย์พูดขึ้นพร้อมกับยักคิ้วกวนๆ ใส่ยี่หวา
“ไม่ต้อง ฉันเดินเข้าเองได้ ขอบคุณที่ช่วย”
“หึ ถ้าจะขอบคุณแบบไม่เต็มไม่ต้องขอบคุณหรอก เท้าเธอบวมก็หายาทาด้วย”
ราชันย์พูดกับยี่หวาเสียงเรียบ เพราะยี่หวาใส่ร้องเท้าแตะเขาจึงเห็นเท้าเธอบวมจึงคิดว่าน่าจะเจ็บตอนที่ตกบันไดมาหาเขา ส่วนยี่หวาเมื่อได้ยินคำพูดของราชันย์ก็ก้มมองเท้าขวาของตัวเองทันทีจึงเห็นว่าเท้าเธอบวมมาก
“ไม่น่าล่ะ ถึงรู้สึกเจ็บมาก ขอบคุณนะที่บอกเดี๋ยวฉันไปซื้อยามาทา”
ยี่หวาพูดขอบคุณราชันย์อีกครั้ง
“ห้องเธอไม่มีกล่องยารึไง”
ยี่หวาส่ายหน้าให้ราชันย์เป็นคำตอบ จนราชันย์คิ้วขมวดขึ้นทันที
“เธออยู่ยังไงไม่มียาสามัญติดห้อง เวลาป่วยจะทำยังไง”
ราชันย์พูดดุยี่หวาทันทีเมื่อเห็นยี่หวาส่ายหน้าตอบเขา
“ก็ฉันไม่ชอบกินยา มันขม เวลาป่วยก็หายเอง อีกอย่างฉันก็แข็งแรงป่วยยาก”
“สมองเด็กจริงๆ ไหนคีย์การ์ดห้องเธอ”
ราชันย์พูดใส่ยี่หวาจนเธอได้แต่มองค้อนใส่แต่ก็เปลี่ยนมาทำหน้างงเมื่ออยู่ดีๆ เขากลับถามหาคีย์การ์ดของเธอ
“อยู่นี่ นายถามหาทำไม อ๊ะ! นี่นาย เอาคีย์การ์ดฉันคืนมานะ”
ยี่หว่าพูดขึ้นแล้วหยิบคีย์การ์ดห้องให้ราชันย์ดูแต่ก็ต้องตกใจเมื่อราชันย์นั้นหยิบคีย์การ์ดไปจากมือเธอ ส่วนราชันย์เมื่อได้คีย์การ์ดแล้วก็เดินผ่านยี่หวาที่ยืนหน้าประตูไปเปิดห้องของเธอทันทีจนยี่หวาได้แต่ยืนดูอย่างงงๆ
“ว้ายยย! นาย จะทำอะไรปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ อร๊ายยย ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต”
ยี่หวาร้องโวยวายด้วยความตกใจเมื่อโดนราชันย์แบกเธอพาดหลังเดินเข้าไปในห้องตัวเอง