“ว้ายยย! นาย จะทำอะไรปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ อร๊ายยย ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต”
ยี่หวาร้องโวยวายด้วยความตกใจเมื่อโดนราชันย์แบกเธอพาดหลังเดินเข้าไปในห้องตัวเอง ทั้งดิ้นทั้งทุบตีหลังราชันย์ด้วยความตกใจเพราะคิดว่าราชันย์จะทำมิดีมิร้ายกับตัวเอง
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ มีคนจะข่มขืนฉัน อ๊ะ! ไอ้บ้า โยนอีกแล้วมันเจ็บนะ รู้จักอ่อนโยนกับผู้หญิงบ้างมั้ยเนี่ย”
ยี่หวาร้องเจ็บออกมาทันทีเมื่อโดนราชันย์โยนทิ้งลงที่โซฟา
“โรคจิตบ้านเธอเค้าอ่อนโยนด้วยหรอ”
ราชันย์พูดกับยี่หวาเสียงเรียบโดยหน้าก็ยังนิ่งขรึมใส่เธอไม่เปลี่ยน จนยี่หวาถอยหลังไปชิดขอบโซฟา
“นะ…นายเป็นโรคจิตจริงๆ หรอ งืออ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
ยี่หวาพูดขึ้นพร้อมกับเบ้หน้าจะร้องไห้
“หยุดพูดฉันรำคาญ ถ้าฉันเป็นโรคจิตจริงๆ ฉันไม่ปล่อยให้เธอมาแหกปากด่าฉันแบบนี้หรอก ฉันฆ่าปิดปากเธอไปนานล่ะ”
ราชันย์พูดใส่ยี่หวาแต่สายตากลับไปสะดุดสร้อยคอที่เธอสวมอยู่ราชันย์จึงรีบเดินเข้าไปหาเธอจนยี่หวาตกใจตั้งท่าจะลุกหนีแต่โดนราชันย์จับไหล่ให้นั่งอยู่ที่เดิม
“กรี๊ดด อย่ามาจับฉันนะ ถอยออกไปเลย ไอ้บะ…”
“แหวนถักนี้ของเธอหรอ”
ยี่หวาหยุดด่าราชันย์ทันทีเมื่อได้ยินคำถามของเขาที่ตอนนี้กำลังจับแหวนถักวงเล็กที่เธอห้อยคอไว้ด้วยความแปลกใจ
“นะ…นายถามทำไม”
ยี่หวาถามราชันย์กลับด้วยความสงสัย
“ฉันถามก็ตอบ”
ราชันย์พูดเสียงดุใส่ยี่หวาขณะที่สายตายังมองแหวนถักสีน้ำเงินที่มีลูกปัดเล็กสีขาวหนึ่งเม็ดที่มีตัวอักษร y สีแดง มือหนายังจับแหวนที่อยู่ในสร้อยไม่ปล่อย
“ใช่ แหวนถักนี้เป็นของฉัน รู้แล้วก็ถอยออกไป”
ยี่หวาตอบราชันย์แล้วผลักเขาออกจนราชันย์เซกลับมายืนตรงหน้าเธอ เมื่อราชันย์ปล่อยแหวนยี่หวาก็กุมแหวนถักที่ห้อยคอไว้อย่างหวงแหนแถมยังรู้สึกแปลกใจเพราะตอนนี้ราชันย์กลับมองหน้าเธอไม่วางตาจนยี่หวาต้องหลบตาเขาแทน
“เธอชื่ออะไร”
ราชันย์เอ่ยถามชื่อยี่หวาทันทีเมื่อเห็นเธอหันหน้าหนีเขา
“อะไรของนาย อยู่ดีๆ ก็คิดมาอยากรู้จักฉันรึไง ถึงได้มาถามชื่อ”
ยี่หวาพูดใส่ราชันย์ทันทีเมื่อได้ยินเขาถามชื่อตัวเอง
“ตอบมา เธอชื่ออะไร”
“จะมาทำเสียงดุใส่ทำไม อยากรู้จักชื่อผู้หญิงก็พูดดีๆ หน่อยไม่ได้รึไง”
ยี่หวาแว๊ดเสียงใส่ราชันย์ทันทีเมื่อเขาทำเสียงดุใส่เธอ
“แค่บอกชื่อจะอะไรนักหนายี่หวา”
“นะ…นายรู้จักชื่อฉันได้ไง”
ยี่หวาเบิกตากว้างตกใจทันทีเมื่อได้ยินราชันย์พูดชื่อตัวเอง
“หูแว่วรึไง ฉันไปพูดชื่อเธอตอนไหน”
ราชันย์พูดขึ้นเสียงเรียบในหน้ายังนิ่งขรึมปกติ
“เมื่อกี๊ฉันได้ยินนายเรียกชื่อฉันจริงๆ นิ นายว่า ‘แค่บอกชื่อจะอะไรนักหนายี่หวา’ นายพูดแบบนี้ ฉันได้ยินเต็มสองหู”
ยี่หวาพูดขึ้นอย่างไม่ยอม
“เธอชื่อยี่หวาหรอ”
ราชันย์ถามยี่หวากลับ
“ใช่ ฉันชื่อยี่หวา นายรู้จักฉันได้ยังไง”
ยี่หวายังถามราชันย์ด้วยความสงสัย
“ฉันจะไปรู้จักคนพูดมากอย่างเธอได้ยังไง หยุดถามแล้วบอกมาว่าผ้าบางๆ ผืนเล็กๆ มั้ย”
ราชันย์พูดปฏิเสธยี่หวาแล้วเปลี่ยนเรื่องเอ่ยถามเธอทันที
“นายจะเอาไปทำไม”
ยี่หวาถามราชันย์กลับด้วยความสงสัย
“เอามาอุดปากเธอไว้มั้ง ถามมากจริงๆ แค่ตอบว่ามีหรือไม่มีก็จบ”
“นายเลี้ยงหมาไว้ในปากรึไง กัดเจ็บจริงๆ มีผ้าขนหนูผืนเล็กอยู่”
ยี่หวาด่าราชันย์แล้วค่อยตอบคำถามเขา
“ไม่เอา มันหนาไป”
พูดจบราชันย์ก็เดินไปยังห้องนอนของเธอทันที จนยี่หวาเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เขาก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนเธอหน้าตาเฉย
“อร๊ายย! ไอ้บ้า นายเข้าไปในห้องนอนฉันทำไม นี่นาย!”
ยี่หวาพูดขึ้นด้วยความตกใจแล้วพยายามเดินเขย่งเท้าไปหาราชันย์ที่ตอนนี้อยู่ในห้องนอนแล้ว เมื่อเข้าไปถึงห้องนอนยี่หวาก็เบิกตากว้างร้องกรี๊ดออกมาทันที
“อร๊าย! อย่านะนาย อย่าฉะ…”
แขวก!
“กรี๊ดด! ไอ้บ้า นายฉีกเสื้อฉันทำไม งืออ นั่นตัวโปรดฉันเลยนะ”
ยี่หวาโวยวายใส่ราชันย์พร้อมกับเบ้หน้าร้องไห้เมื่อเห็นราชันย์ฉีกเสื้อครอปตัวโปรดของเธอขาดต่อหน้าต่อตา
“ก็เห็นมันตัวเล็กก็คิดว่าเป็นเสื้อหมาซะอีก เธอใส่มันด้วยรึไง”
ราชันย์พูดขึ้นเสียงเรียบขณะที่ฉีกเสื้อยี่หวาออกเป็นสองชิ้น จากนั้นก็เดินผ่านเธอออกจากห้องไปอย่างหน้าตาเฉย
“งืออ เสื้อตัวโปรดของฉัน แพงซะด้วย เป็นบ้าอะไรอยู่ดีๆ มาทำลายของรักคนอื่นเค้าเนี่ย”
ยี่หวาเดินเขย่งเท้าตะโกนด่าราชันย์ใบหน้าสวยเบ้หน้าน้ำตาคลอเพราะเสียดายเสื้อตัวเอง แต่ราชันย์กลับไม่ได้สนใจเสียงด่าของยี่หวาเลยแม้แต่น้อย หลังจากเดินออกจากห้องนอนเธอราชันย์ก็ตรงไปยังตู้เย็นที่อยู่ในห้องครัวจากนั้นก็เปิดตู้เย็นหาสิ่งที่เขาต้องการ จนยี่หวาต้องหยุดพูดแล้วยืนมองราชันย์อย่างงงๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร เมื่อราชันย์มองเห็นสิ่งที่ต้องการแล้วก็หยิบมาใส่เศษเสื้อของยี่หวาที่เขาพึ่งฉีกมาจากนั้นก็เดินมาอุ้มยี่หวาทันที
“ว้ายย! นายจะมาอุ้มฉันทำไมอีกเนี่ย”
ยี่หวาเอ่ยถามราชันย์ด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เขาก็มาอุ้มเธอในท่าเจ้าสาว
“จะให้ทำที่โซฟาหรือในห้องนอน”
“ทะ…ทำอะไร ฉันไม่เลือกไม่ทำอะไรทั้งนั้น ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”
ยี่หวาพูดขึ้นด้วยความตกใจแล้วพยายามดิ้นเพื่อให้ราชันย์ปล่อยแต่ก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนของเขา เพราะยิ่งดิ้นเขาก็กระชับกอดเธอแน่นกว่าเดิม
“ไม่ให้ทำจะปล่อยให้เท้าบวมจนมันอักเสบรึไง”
ยี่หวาเงียบเสียงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“ที่บอกจะทำคือนายจะรักษาเท้าที่บวมให้ฉันหรอ”
ยี่หวาถามราชันย์เสียงเบา
“อืม แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำอะไร คิดว่าฉันจะปล้ำเธอรึไง”
ราชันย์ถามยี่หวาพร้อมกับยักคิ้วขึ้นใส่เธอ
“ก็นายเล่นถามกำกวมแบบนั้นใครจะไม่คิดเล่า จะพูดอะไรก็พูดให้ชัดเจนหน่อยสิ”
ยี่หวาแว๊ดเสียงใส่ราชันย์แก้เขินเมื่อดันไปคิดว่าเขาจะปล้ำตัวเอง
“ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงพูดมากน่ารำคาญแบบเธอ”
ยี่หวาถึงกับมองค่อนใส่ราชันย์เมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“ให้มันจริงเถอะ อย่าเผลอมาชอบฉันทีหลังแล้วกัน”
ยี่หวาพูดใส่ราชันย์พร้อมกับมองค้อนใส่เขา
“พูดมาก สรุปจะให้ทำตรงไหน ถ้าไม่ตอบฉันจะไปห้องนอนล่ะนะ”
“โซฟา ทำที่โซฟา”
ยี่หวารีบตอบราชันย์อย่างเร็วเมื่อราชันย์ตั้งท่าจะพาเธอเดินเข้าห้องนอน เมื่อได้ยินคำตอบแล้วราชันย์ก็อุ้มยี่หวาเดินไปที่โฟซาแล้วค่อยๆ วางเธอลง จนยี่หวารู้สึกแปลกใจเมื่ออยู่ดีๆ เขาก็อ่อนโยนกับเธอขึ้นมา เมื่อวางยี่หวาให้นั่งบนโซฟาแล้วราชันย์ก็นั่งลงที่โซฟาข้างๆ เธอ จากนั้นก็จับขาขวาเธอยกขึ้นมาวางบนตักตัวเองทันที
“ว้ายย! จะทำอะไรก็บอกกันก่อนหน่อยสินาย ฉันตกใจนะ อยู่ดีๆ มายกขาแบบนี้”
ยี่หวาแว๊ดเสียงใส่ราชันย์ด้วยความตกใจเพราะเขาทำอะไรไม่บอกเธอก่อนตลอด
“ฉันไม่จำเป็นต้องรายงานเธอทุกขั้นตอน ถ้าไม่อยากเจ็บก็หยุดพูด ยิ่งเธอพูดด่าพูดว่าฉันความโมโหฉันอาจจะไปลงกับมือที่จะประคบเท้าให้เธอ”
ยี่หวาเงียบเสียงทันทีเมื่อได้ยินคำขู่ของราชันย์ เมื่อเห็นยี่หวายอมเงียบแล้วอยู่นิ่งราชันย์จึงค่อยๆ เอาผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบเย็นให้เธออย่างเบามือส่วนยี่หวาได้แต่มองราชันย์ไม่มองตา แววตาและการกระทำที่อ่อนโยนของเขามันทำให้เธอรู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก