“ว้ายย! นายทำอะไรเนี่ย อุ้มฉันทำไม ปล่อยฉันลงนะราชันย์”
ยี่หวาถึงกับร้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ราชันย์ก็อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวโดยไม่ยอมบอกเธอก่อน แขนเล็กรีบคว้าคอหนาไว้ทันทีเพราะกลัวตก แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากกว่าเดิมก็คือเธอดันรีบคว้าคอเขาเร็วเกินไปทำให้ใบหน้าหล่อนั้นต้องเอียงหน้าหันมาใกล้หน้าเธอจนจมูกเขาชนกับแก้มเธอเต็มๆ ส่วนราชันย์เมื่อจมูกตัวเองไปโดนแก้มเธอก็ตกใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้ผละหน้าออกเขากลับกดจมูกลงแก้มเธอหนักกว่าเดิมอย่างตั้งใจจนยี่หวาถึงกับรีบผละหน้าออกเองอย่างเร็ว
“ไอ้บ้า นายตั้งใจหอมแก้มฉัน งืออ นิสัยไม่ดี”
ยี่หวาพูดโวยวายใส่ราชันย์พร้อมกับเอามือตีอกแกร่งเขาอย่างแรงแต่ราชันย์กลับยืนนิ่งไม่รู้สึกระคายเคืองกับแรงตีของเธอเลยแม้แต่น้อย
“เห็นกดคอฉันไปขนาดนั้นก็คิดว่าอยากให้หอม ฉันก็เลยสนองให้เธอ ทีหลังอยากให้หอมก็บอกดีๆ”
ราชันย์พูดขึ้นเสียงเรียบเก็บอาการของตัวเองไว้ขณะที่ในใจตอนนี้กลับรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้หอมแก้มที่เขาอยากจะหอมมานานครั้งแรก
“ใครอยากให้นายหอมกันเล่า ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ นายจะอุ้มฉันไปไหน”
ยี่หวาแดเสียงถามราชันย์พร้อมกับดิ้นไปมาแต่ก็ต้องตกใจรีบกอดคอเข้าไว้แน่นเมื่อราชันย์ทำท่าเหมือนจะโยนเธอลงพื้น
“ว้ายย!”
“ถ้ายังพูดมากฉันจะโยนจริงๆ นะยี่หวา อยู่เงียบๆ แล้วให้ฉันอุ้มเดินไปที่รถ”
ราชันย์พูดเสียงดุใส่ยี่หวาเมื่อเห็นเธอดิ้นในอ้อมแขนเขาแล้วเดินออกจากลิฟต์ทันที ส่วนยี่หวาเมื่อโดนราชันย์พูดขู่ก็มองค้อนใส่ราชันย์ทันที
“จะให้ฉันเงียบได้ไง ก็นายไม่ยอมบอกฉันว่าจะพาฉันไปไหนนิ”
ยี่หวาพูดใส่ราชันย์พร้อมกับทำหน้ายู่ใส่เขา
“แต่งแบบฟอร์มนักศึกษาขนาดนี้ ฉันคงจะพาเธอไปกระโดดยางเล่นมั้ง”
ราชันย์พูดกวนยี่กวาแต่ใบหน้ากลับนิ่งขรึม
“นายจะไปส่งฉันที่มหาลัยหรอ”
ยี่หวาถามราชันย์กลับด้วยความสงสัย
“อืม”
ราชันย์ตอบยี่หวาสั้นๆ ขณะที่กำลังเดินไปยังโซนจอดรถของคอนโด
“นายรู้หรอว่าฉันเรียนมหาลัยไหน ฉันยังไม่ได้บอกนายเลยนะ อีกอย่างฉันก็ยังไม่ได้บอกว่าจะให้นายไปส่งด้วย”
“สัญลักษณ์มหาลัยติดอยู่ที่นมขนาดนั้นจะไม่รู้ได้ไง”
ยี่หวาถึงกับตกใจรีบปล่อยมืออีกข้างมาปิดหน้าอกตัวเองทันที
“นี่นายแอบมองหน้าอกฉันหรอ ไอ้บ้า”
ยี่หวาแว๊ดเสียงใส่ราชันย์ด้วยความไม่พอใจ
“นมแบนๆ แบบนั้น ไม่ต้องแอบมองหรอก มองตรงๆ แบบนี้ก็ยังไม่เห็น เธอสบายใจได้ฉันไม่มีวันอ่านกินเธอหรอกเพราะฉันมองไม่เห็น”
ราชันย์พูดแกล้งยี่หวาจนยี่หวาได้แต่มองค้อนกัดฟันใส่เขาทันที
“แบนบ้านนายสิ อยู่ใกล้จนจะตำตายังบอกว่าเล็กอีก อีกอย่างตอนนี้ขยับมือออกจากใต้ราวนมฉันเลยนะ มันใกล้เกินไปแล้ว”
ยี่หวาพูดใส่ราชันย์กลับเมื่อมือเขานั้นมาอยู่ตำแหน่งใต้ราวนมของเธอ ถ้าขยับขึ้นมาอีกนิดเดียวก็โดนหน้าอกเธอแล้ว
“อืม”
ราชันย์ตอบยี่หวาอย่างว่าง่าย แล้วยกยี่หวาขึ้นเพื่อปรับท่าแต่ไม่ได้ทำตามที่เธอบอกเพราะราชันย์นั้นขยับมือขึ้นจนไปโดนนมเธอเล็กน้อยทำเอายี่ถึงกับสะดุ้งตกใจรีบพูดขึ้นทันที
“ราชันย์ นี่นายตั้งใจแกล้งฉันใช่มั้ย”
ยี่หวาพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“อย่าเรื่องมาก ฉันจะจับจะอุ้มเธอยังไงมันก็เรื่องของฉัน ช่วยแล้วยังมาบ่นอีก”
ราชันย์พูดขึ้นเสียงเรียบจนยี่หวาถึงกับมองค้อนใส่เขาด้วยความไม่พอใจ
“ใครขอให้นายช่วยกันเล่า ช่วยเองแล้วยังมาบ่นอีก”
ยี่หวาบ่นให้ราชันย์พร้อมกับทำหน้ายู่ใส่เขาแต่ราชันย์กลับไม่พูดอะไรต่อ เดินอุ้มเธอไปยังรถของตัวเองจนมาถึงรถสปอร์ตสีดำคู่ใจของเขา
“เปิดประตูรถ”
เมื่อมาถึงรถแล้วราชันย์ก็ปลดล็อกรถจากกุนแจที่เขาถือไว้ขณะที่อุ้มยี่หวา
“นายก็วางฉันลงสิ ฉันเดินขึ้นเองได้”
ยี่หวาบอกราชันย์ด้วยน้ำเสียงปกติ
“ฉันบอกให้เปิดก็เปิดสิ”
“เผด็จการ”
ยี่หวาพูดใส่ราชันย์ทันทีเมื่อเขาออกคำสั่งให้เธอเปิดประตูรถอีกครั้ง มือเล็กจึงเอื้อมไปเปิดประตูฝั่งนั่งข้างคนขับ เมื่อยี่หวาเปิดประตูรถแล้วราชันย์ก็ค่อยๆ วางเธอลงอย่างเบามือ เมื่อวางเธอลงแล้วราชันย์ก็เดินไปนั่งฝั่งคนขับทันที จากนั้นก็พาเธอขับรถออกจากคอนโดตรงไปมหาลัย
“นายก็เรียนมหาลัย xxx หรอ”
เมื่อราชันย์ขับรถออกมาแล้วยี่หวาก็เอ่ยถามเขาทันที
“อืม”
ราชันย์ตอบยี่หวาสั้นๆ ขณะที่ตายังมองถนนอยู่
“ราชันย์ นายมีแฟนยังอะ”
ราชันย์ถึงกับชะงักหันมามองยี่หวาทันทีเมื่อได้ยินคำถามของเธอ
“ไม่มี ถามทำไม”
ราชันย์ถามยี่หวากลับแล้วหันไปสนใจถนนต่อ
“คือ...ฉันมีเรื่องอยากจะขอให้นายช่วย”
ยี่หวาพูดขึ้นเสียงเบาใบหน้าแสดงความอ้อนออกมาจนราชันย์ที่หันไปมองยี่หวาแว๊บหนึ่งถึงกับต้องรีบหันหน้ากลับคืนเพราะสีหน้าอ้อนๆ ของเธอมันช่างน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากจะจับมาหอมมาฟัดเลยทีเดียว
“เธอจะให้ฉันแกล้งเป็นแฟนปลอมๆ ล่ะสิ”
ราชันย์พูดขึ้นอย่างรู้ทัน เพราะเห็นเธอบ่นเรื่องหาแฟนปลอมๆ มาหลอกพ่อแม่ของเธอ
“อืออ ได้มั้ย ช่วยฉันหน่อยสิ”
“ถ้าฉันช่วย ฉันจะได้อะไร”
ราชันย์ตอบยี่หวาสั้นๆ ขณะที่ยังขับรถอยู่
“ฉันให้ค่าจ้างเป็นเดือนเลย นายจะคิดเท่าไหร่ก็ว่ามาได้เลย”
ยี่หวาพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ค่าจ้างฉันไม่เอาเป็นเงิน แต่จะเอาอย่างอื่นแทน ถ้าเธอตกลงฉันก็จะทำ”
“นายจะเอาอะไรหรอ”
ยี่หวาถามราชันย์กลับด้วยความอยากรู้
“เอาเธอ”
คำตอบของราชันย์ทำเอายี่หวาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดตรงขนาดนี้
“นะ...นี่นายพูดจริงหรอ”
ยี่หวาถามราชันย์กลับด้วยน้ำเสียงกุกๆ กักๆ
“จริง ถ้าเธอยอมตกลงเป็นคู่นอนกับฉัน ฉันก็จะช่วยเธอทุกอย่างขอแค่เธอบอก”
ราชันย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน จะมีอะไรกันได้ยังไง อีกอย่างที่ฉันอยากหาแฟนปลอมๆ เพราะฉันไม่อยากมีแฟน ฉันยังอยากมีอิสระ ไม่อยากให้ใครมาบังคับมาบงการชีวิตฉัน”
ยี่หวาพูดเหตุผลของตัวเองให้ราชันย์ฟังไปตรงๆ
“อยู่กับฉันไม่มีคำว่าบังคับ เธอชอบอะไร อยากทำอะไร เธอทำได้เต็มที่ ฉันจะสนับสนุนเธอทุกอย่าง เรื่องเอากันฉันไม่ได้บังคับเธอถ้าเธอพร้อมเมื่อไหร่ฉันถึงจะทำ ขอแค่เธอรับปากฉันว่าระหว่างที่ฉันเป็นแฟนปลอมๆ ของเธอ ห้ามไปคุยหรือไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น ถ้าเธอไม่โอเคก็ไปหาคนอื่นแล้วกัน”
ราชันย์พูดร่ายยาวกับยี่หวาเรียกว่าเป็นครั้งแรกที่เขาพูดยาวกับคนอื่นแบบนี้ ส่วนยี่หวาก็ทำหน้าคิดตามคำพูดของเขา
“งั้นฉันขอเวลาคิดก่อนได้มั้ยนาย”
ยี่หวาพูดขึ้นเสียงเบา
“สามวัน”
“อะไรสามวัน”
ยี่หวาถามราชันย์กลับด้วยความสงสัยเมื่ออยู่ดีๆ ราชันย์ก็พูดขึ้นมา
“ฉันให้เวลาเธอคิดสามวัน ถ้าเลยสามวันถือว่าเธอไม่ตกลง แล้วอย่ามาขอร้องฉันอีก”
ราชันย์ตอบยี่หวาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อืออ โอเค”
ยี่หวาตอบราชันย์สั้นๆ จนต้องหยุดคุยกันเมื่อราชันย์ขับรถมาถึงตึกคณะพยาบาลของมหาลัยแล้ว
“นายจะลงไปไหน”
ยี่หวาเอ่ยถามราชันย์ด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเขาปลดเข็มขัดนิรภัยตั้งท่าจะเปิดประตูรถ
“อุ้มเธอไปส่งห้องเรียน”
“ไม่ต้องๆ ฉันไปเองได้ ฉันเดินได้ ขอบคุณนะที่มาส่ง”
ยี่หวารีบปฏิเสธราชันย์แล้วรีบลงรถไปอย่างเร็ว
“หึ”
ราชันย์กระตุกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นยี่หวารีบลงรถไปอย่างเร็ว เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปในตึกแล้วราชันย์ก็ขับรถไปที่ตึกคณะวิศวะที่ตัวเองเรียนทันที
“ราชันย์ทางนี้”
ราชันย์หันไปมองตามเสียงเมื่อเดินเข้ามายังใต้ตึกก็เห็นเพื่อนร่วมห้องตัวเองนั่งอยู่ ด้วยความที่ราชันย์นั้นเป็นคนที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครจึงไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนในห้องแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่คุยกับใคร พอมีงานกลุ่มก็ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมห้องได้ปกติเพียงแค่หลังเลิกเรียนเขาจะไม่ไปไหนกับใครแค่นั้น เพราะส่วนมากไม่อยู่สนามแข่งรถก็ไปอยู่กับเจเดนซะส่วนใหญ่ และตอนนี้เขาก็ต้องทำงานกลุ่มกับเพื่อนอีกสี่คนนั่นก็คือเรย์ กัปตัน สกาย และน้ำตาลที่เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม และยังแอบชอบราชันย์มาตั้งแต่ปีหนึ่งแต่ราชันย์กลับไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เข้าใกล้เลยสักครั้งถึงจะอยู่ห้องเดียวกันก็ตาม เมื่อได้ยินเสียงของเรย์เรียกราชันย์ก็เดินไปหาเพื่อนทันที
“ไม่ขึ้นเรียนหรอ”
ราชันย์ถามเพื่อนๆ ด้วยความสงสัยเมื่อเดินมาถึงแล้ว
“อาจารย์งดคลาสน่ะ พวกเราเลยมานั่งคุยเรื่องงานกลุ่มกัน ราชันย์นั่งลงก่อนสิจะได้เริ่มปรึกษากันเรื่องงาน”
น้ำตาลพูดกับราชันย์ด้วยรอยยิ้มแล้วขยับตัวออกหวังจะให้ราชันย์นั่งข้างๆ
“อืม”
ราชันย์ขานตอบน้ำตาลสั้นๆ แล้วเดินอ้อมไปนั่งข้างสกายที่มีที่นั่งว่างอยู่จนน้ำตาลได้แต่ข่มความรู้สึกผิดหวังไว้เพราะราชันย์ก็ยังเว้นระยะห่างกับเธอเหมือนเดิม เมื่ออยู่ครบแล้วราชันย์และเพื่อนๆ ก็คุยงานกันทันที
#เมื่อวานไรท์ต้องขอโทษคุณรี๊ดด้วยนะคะที่ไม่ได้อัพตอนให้ ไรท์เผลอหลับค่า