เช้าวันต่อมายี่หวาตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้าเพราะต้องไปเรียน ร่างบางค่อยๆ เดินออกจากห้องด้วยชุดนักศึกษาพยาบาลอย่างช้าๆ เพราะวันนี้เธอต้องเข้าภาคปฏิบัติกับหมอจากโรงพยาบาลที่อาสามาสอนถึงที่มหาลัย ถึงข้อเท้าเธอจะดีขึ้นมากเพราะราชันย์ประคบให้แต่ก็ยังมีความเจ็บอยู่เล็กน้อย ยี่หวาจึงยังไม่ทิ้งน้ำลงที่เท้าข้างที่เจ็บเพราะด้วยที่เรียนพยาบาลเธอจึงรู้ว่าควรทำยังไงถึงจะไม่ให้ตัวเองเจ็บมากกว่าเดิม ยี่หวาเดินมาหน้าลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่างยื่นรอสักพักลิฟต์ก็เปิดออก ทำเอายี่หวาถึงกับยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นราชันย์ยืนอยู่ในลิฟต์คนเดียวแต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อราชันย์นั้นไม่สนใจเธอเลยแม่แต่น้อย
“จะเข้ามั้ย ถ้าไม่เข้าก็อย่ามายืนกดเล่น มันเสียเวลา”
ราชันย์พูดเสียงดุใส่ยี่หวา ตาคมมองยี่หวาด้วยความไม่พอใจ จนยี่หวามองค้อนใส่ราชันย์ทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขาจากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์ไปโดยไม่พูดอะไรจากนั้นก็กดปิดลิฟต์ทันที ขณะที่อยู่ในลิฟต์ราชันย์ก็ไม่สนใจยี่หวาเลยแม้แต่น้อยยืนนิ่งเหมือนไม่รู้จักเธอจนยี่หวาทนไม่ไหวรีบขยับไปยืนตรงหน้าราชันย์ทันที ส่วนราชันย์เมื่อเห็นยี่หวามายืนมองหน้าเขาคิ้วหนาก็ขมวดใส่ยี่หวาแต่ไม่พูดอะไร
“นายเป็นอะไร ไม่พอใจอะไรฉัน หรือฉันไปทำอะไรให้นายโกรธ ทำไมอยู่ดีๆ นายถึงมาทำเป็นเหมือนไม่รู้จักฉันแบบนี้”
ยี่หวาพูดขึ้นเสียงดังเมื่อเห็นราชันย์ทำเหมือนไม่รู้จักตัวเอง
“ก็ถูกนิ เราสองคนไม่รู้จักกัน จะให้ฉันคุยกับเธอทำไม”
ราชันย์พูดขึ้นเสียงเรียบ
“ไม่รู้จักได้ไง เมื่อวานนายยังอุ้มฉันเข้าห้องอยู่เลย แถมนายยังรู้จักชื่อฉันแล้วด้วย”
“แล้วเธอรู้จักชื่อฉันมั้ยล่ะ”
ยี่หวาถึงกับเงียบเสียงเมื่อได้ยินคำถามของราชันย์
“หึ ไม่ตอบแสดงว่าไม่รู้จัก งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องคุยกับเธอ”
ราชันย์พูดขึ้นพร้อมกับกระตุกยิ้มเมื่อเห็นยี่หวานิ่งเงียบไม่ตอบเขา ทำเอาราชันย์นั้นหงุดหงิดมากกว่าเดิมเมื่อเธอจำเขาไม่ได้
“ก็ฉันไม่ได้ถามนายเลยนิ นายเป็นอะไร ฉันไปทำอะไรให้นายโกรธหรอ”
ยี่หวาพูดขึ้นเสียงเบาพร้อมกับทำหน้าซึมลงอยู่ดีๆ ก็รู้สึกเสียใจแปลกๆ โดยที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังแสดงอาการน้อยใจออกมาทำเอาราชันย์ถึงกับมองยี่หวาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดด้วยเสียงที่อ่อนลง ยิ่งเห็นใบหน้าเธอซึมลงในใจเขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น เพราะตั้งแต่ที่รู้ว่าชอบเธอ เมื่อไหร่ที่ยี่หวารู้สึกเศร้าและไม่สบายใจมันก็ทำให้เขารู้สึกไปด้วย
“ฉันไม่ได้โกรธเธอ ฉันแค่ไม่อยากยุ่งกับคนมีแฟนแค่นั้น”
ราชันย์ยอมบอกยี่หวาไปตามตรงเพราะเขาเข้าใจแบบนั้นจริงๆ
“ห๊ะ! ฉันนี่นะมีแฟน นายไปรู้มาจากไหนว่าฉันมีแฟน”
ยี่หวาถามราชันย์กลับด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเขาบอกว่าเธอมีแฟนแล้ว
“ฉันเองกับตา”
“นายไปเห็นตอนไหน นายเป็นตั้งแต่ตอนที่อยู่ห้องฉันเมื่อวาน แล้วไปรู้มาจากไหนมาฉันมีแฟน แล้วแฟนฉันคนไหน”
ยี่หวาถามราชันย์กลับมาเป็นจนราชันย์หันไปสบตายี่หวาทันที
“เมื่อคืนมีคนทั้งโทรมาทั้งส่งข้อความให้เธอ ที่เธอไม่รับเพราะกำลังงอนผัวอยู่ล่ะสิ”
ราชันย์ตอบยี่หวาเสียงแข็ง คำตอบของเขาทำเอายี่หวาถึงกับเบิกตากว้างตกใจเมื่อเห็นเขากำลังเข้าใจเธอผิด
“เห็นแค่นี้นายก็มโนคิดว่าฉันมีแฟนได้ไงเนี่ย ฉันยังโสดย่ะ”
คำตอบของยี่หวาทำเอาราชันย์ถึงกับใจเต้นแรงแต่ก็ยังทำหน้านิ่งเก็บอาการไว้
“แล้วไอ้ผู้ชายที่ส่งข้อความหาเธอเมื่อคืนล่ะเป็นใคร”
ราชันย์ถามยี่หวาไปตามตรงเพราะอยากรู้ว่าคนที่ส่งข้อความหาเธอเมื่อคืนเป็นใคร
“ผู้ชายที่โทรหาฉันเมื่อคืนคือคนที่พ่อกับแม่ฉันอยากให้ฉันคบด้วย แต่ฉันไม่ได้ชอบเค้า ฉันถึงไม่อยากรับสายไม่อยากตอบแชทเค้าไง ยิ่งพูดยิ่งกลุ้มคนอะไรตามตอแยไม่เลิก”
ยี่หวาตอบราชันย์ไปตามตรงทำเอาราชันย์ถึงกับแอบอมยิ้มรู้สึกดีใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่ายี่หวายังโสดอยู่ แต่ก็ยังทำเป็นนิ่งใส่เธอเหมือนเดิม
“ไม่ชอบก็ปฏิเสธไปสิ ไม่เห็นจะยาก”
“ฉันปฏิเสธไปแล้ว แต่พ่อกับแม่ฉันกลับยุให้เค้ามาบ้านไม่เลิก ถ้าฉันไม่มีแฟนไปให้พ่อกับแม่เห็นท่านก็คงต้องให้เค้ามาเข้าใกล้ฉันแบบนี้บ่อยๆ แน่ๆ โอ๊ย! พูดแล้วเครียด ให้ฉันหาคนมาเป็นปลอมๆ มันยากกว่าเรียนฟิสิกส์เคมีอีก”
ยี่หวาบ่นขึ้นพร้อมกับทำหน้าเครียดทันที แต่สักพักใบหน้าสวยก็เปลี่ยนมายิ้มเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้
“นายชื่ออะไรหรอ”
ราชันย์ถึงยักคิ้วขึ้นหนึ่งข้างอย่างงงๆ เมื่ออยู่ดีๆ เธอก็ถามชื่อเขาขึ้นมา
“ถามทำไม”
ราชันย์ถามยี่หวากลับเสียงเรียบ
“ฉันถามนายก็ตอบมาสิ”
“นี่เธอกำลังย้อนฉันอยู่นะ”
ราชันย์ทำเสียงดุใส่ยี่หวาทันทีเพราะเธอดันพูดเหมือนที่เขาพูดกับเธอเมื่อวาน
“เอ้า! ก็แค่ถามชื่อมั้ย ฉันแค่อยากรู้จักนาย เจอกันก็จะให้เรียกแต่นายๆ มันก็แปลกๆ มั้ยล่ะ”
ยี่หวาพูดใส่ราชันย์กลับจนราชันย์ได้แต่หันไปมองเธอด้วยสายตาดุ สำหรับคนอื่นอาจจะกลัวสายตาดุของราชันย์แต่ไม่ใช่กับยี่หวาเพราะเธอไม่รู้สึกกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย
“ราชันย์”
เมื่อได้ยินคำพูดของยี่หวาราชันย์จึงตอบชื่อตัวเองสั้นๆ
“นายชื่อราชันย์หรอ”
ยี่หวาถามราชันย์กลับพร้อมกับทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรขึ้นมา
“อืม ทำไม เธอสงสัยอะไรชื่อกับฉัน”
ราชันย์ถามยี่หวากลับด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเธอกำลังทำหน้าคิดอะไรอยู่
“ไม่ได้สงสัยหรอก แค่ฉันแค่รู้สึกคุ้นชื่อนี้อะ เอ๋! นายเรียนวิศวะหรอ”
ยี่หวาเปลี่ยนมาถามราชันย์ขึ้นเมื่อสังเกตเห็นเขาใส่เสื้อช็อบสีแดง
“อืม ส่วนเธอ คิดไม่ถึงเลยนะว่าจะเรียนพยาบาล ทรงเธอไม่น่าจะชอบพยาบาลนิ”
ราชันย์ตอบยี่หวาสั้นๆ แล้วพูดใส่เธอทันทีเมื่อเห็นยี่หวาใส่ชุดพยาบาล และอีกอย่างในตอนเด็กยี่หวาเคยบอกเขาว่าไม่อยากเป็นหมอเป็นพยาบาลเหมือนพ่อกับแม่ แต่อยากเป็นครู ตอนที่เห็นเธอใส่ชุดนักศึกษาพยาบาลก็ทำเขารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เห็นเธอเรียนคณะที่ตัวเองไม่ชอบ
“ใช่มั้ย ทรงฉันไม่ควรจะมาเป็นพยาบาลใช่มั้ยนาย จริงๆ ฉันไม่ได้อยากเรียนหรอกแต่ที่บ้านอยากให้เรียนเพื่อให้สานต่อดูแลโรงพยาบาลของตัวเอง ตอนแรกจะให้ฉันเรียนหมอด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่เรียน ถ้าไม่ติดว่าให้ฉันเรียนคณะพยาบาลกับการแลกให้ออกมาใช้ชีวิตอิสระที่คอนโดฉันไม่ยอมเรียนหรอก แต่พอขึ้นปีสามได้เริ่มดูแลคนป่วยก็รู้สึกว่าไม่ได้แย่อะไร ได้คุยกับผู้ป่วยผู้สูงอายุหลายๆ คนมันก็รู้สึกมีความสุขไปอีกแบบ ฉันเลยพักจากความฝันเป็นครูตัดสินใจจะทำงานพยาบาลอย่างเต็มที่”
ยี่หวาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงตอนตัวเองดูแลผู้ป่วยตอนออกฝึกปฏิบัติ ทำเอาราชันย์ถึงกับกระตุกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ แต่ทั้งสองก็ต้องชะงักเมื่อลิฟต์นั้นเปิดออกพอดี
“ยังไม่หายเจ็บหรอ”
ราชันย์เอ่ยถามยี่หวาเมื่อเห็นเธอค่อยๆ เดินเขย่งออกจากลิฟต์โดยมีเขาเดินตามมาติดๆ
“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะแต่มันยังเจ็บอยู่นิดนึง ฉันกลัวมันเจ็บมากอีกเลยไม่อยากทิ้งน้ำหนักลงเท้าข้างที่เจ็บ ว้ายย! นายทำอะไรเนี่ย อุ้มฉันทำไม ปล่อยฉันลงนะราชันย์”
ยี่หวาถึงกับร้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ราชันย์ก็อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวโดยไม่ยอมบอกเธอก่อน แขนเล็กรีบคว้าคอหนาไว้ทันทีเพราะกลัวตก แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากกว่าเดิมก็คือเธอดันรีบคว้าคอเขาเร็วเกินไปทำให้ใบหน้าหล่อนั้นต้องเอียงหน้าหันมาใกล้หน้าเธอจนจมูกเขาชนกับแก้มเธอเต็มๆ