ตอนที่ 8

1579 คำ
8 เมษายิ้มกานพลูมักจะบอกกับตัวเองและใครๆ ว่าเธอไม่ใช่คนสวย แต่เมษากลับไม่เห็นเป็นเช่นนั้น กานพลูเป็นคนที่สวยทั้งร่างกายและจิตใจ เรือนร่างของคนที่เดินออกจากห้องน้ำห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูผืนโตและยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามผิวเนื้อทั้งขาวและนวลเนียนน่าสัมผัส “มองอะไรหนูเมย์” กานพลูเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนรักมองตนตาวาว เธอเดินนวยนาดไปที่ตู้เสื้อผ้าและคว้าเสื้อชุดหนึ่งออกมาจากตู้ทาบทับไปบนเรือนกาย หมุนไปหมุนมาสองสามรอบราวกับว่ากำลังตัดสินใจอะไรที่หนักหนา เมษาเลิกคิ้วขึ้นสูง เมื่อเห็นกานพลูหยิบชุดผ้าไหมสีเหลืองนวลในตู้มาใส่อย่างแปลกใจ ปกติแล้วเพื่อนรักมักจะมีเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่เป็นสีชมพูเท่านั้น แต่ชุดนี้มันสีเหลืองนี่น่า “แกจะใส่เสื้อตัวนี้จริงๆ หรือกาน ไหนแกเคยบอกฉันว่าใส่สีเหลืองแล้วนึกเนยแข็งทุกที สีเหลือยังทำให้แกดูอ้วนด้วยนะ” กานพลูก้มหน้ามองชุดที่ใส่ก่อนจะทำหน้ามุ่ย “แกว่าฉันใส่แล้วไม่สวยหรือไงหนูเมย์ รู้ไหมชุดนี้พี่ต้นพึ่งจะซื้อมาให้ฉันเองเลยนะ” “ฮ้า...จริงดิ” “จริง” สิ้นคำพูดกานพลูเมษาถึงกับหัวเราะลั่น “ทำไมพี่ต้นถึงซื้อชุดนี้ให้แกล่ะกาน ไหนแกว่าพี่ต้นไม่สนใจเรื่องการแต่งตัวของแกไง แล้วพี่ต้นนึกยังไงถึงซื้อเดรสให้แก...” เมษาถามอย่างแปลกประหลาดใจ ต้นรักษ์เคยใส่ใจเสียที่ไหน กานพลูจะแต่งกายยังไงก็ได้ ขอเพียงแค่ไม่แก้ผ้าออกจากบ้านเป็นพอ แต่คราวนี้กลับซื้อเสื้อผ้าให้... ต้นรักษ์จะต้องมีเหตุผล ถึงได้ซื้อเสื้อให้กานพลู แต่...มันคืออะไรล่ะ เมษามองชุดผ้าไหมสายเดี่ยวสีเหลืองนวล ตรงช่วงอกจับเดรฟและประดับด้วยคริสตัลเม็ดเล็กๆ เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ตรงฐานอกประดับด้วยผ้าชีฟองทิ้งตัวยาวลงมา ชายกระโปรงยาวแค่เข่า เน้นให้ผู้สวมใส่โชว์ได้ทั้งอกอวบและช่วงขาเรียวยาว จนเธออดที่จะชมไม่ได้ ต้นรักษ์เลือกชุดนี้ได้เหมาะกับกานพลูมาก เพื่อนดูสวยเด่นเป็นสง่าขึ้นมาในทันที “ฉันคิดว่า พี่ชายแกน่าจะไปแอบปิ้งใครเข้าแล้วล่ะ แกระวังตัวไว้บ้างนะเพื่อน เดี๋ยวบ่อเงินบ่อทองหายไป มันจะยุ่งเอานะกาน” “บ้า! ไม่หรอกย่ะหนูเมย์ ที่พี่ต้นซื้อมาให้ก็คงจะเห็นว่ามันสวยดี แบบว่าดูดีมีสไตล์ไง แล้วที่สำมะคัน อีตาพี่ต้นบอกว่า...” กานพลูนึกถึงคำพูดของพี่ชายแล้วอดเจ็บใจไม่ได้ “ฉันเห็นว่ามันกำลังลดราคาอยู่ ฉันเลยนึกถึงแกขึ้นมาก็เท่านั้นแหละ” “สองสาวหัวเราะออกมาพร้อมกัน “พี่ต้นเล่นมุกนี้เลยหรือวะกาน แล้วแกยอมได้ไง” เมษาถาม เพราะรู้นิสัยเพื่อนดี เป็นคนไม่ยอมใคร แม้ว่าคนนั้นจะเป็นพี่ชายแท้ๆ ก็เถอะ อีกอย่างกานพลูเป็นคนที่ชอบสีชมพูเป็นชีวิตจิตใจ ข้าวของทุกชิ้นจะต้องเป็นสีชมพูเท่านั้น แต่เสื้อชุดนี้กลับไม่ใช่ ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าสงสัยหรือว่าพี่ต้นสามารถตัดใจจากเธอได้แล้ว และคงจะแอบไปชอบใครเข้าแล้วจริงๆ เมษายิ้ม นิสัยของกานพลูกับเธอไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ต่างก็ไม่คิดยอมแพ้ถ้าตัวไม่ทำอะไรผิด หากเธอทำตัวไม่ดี เพราะเรียกร้องความสนใจ แต่ไม่ว่าจะทำยังไง พ่อก็ยังไม่สนใจอยู่ดี แต่เผอิญสิ่งที่เธอทำในครั้งแรกมันได้เงินด้วย เธอเลยทำมาตลอด “ฉันก็ต้องยอมไง ฉันก็เลยได้ชุดนี้มา ถ้าไม่ยอมซิแก พี่ต้นได้เอาไปโยนทิ้งในถังขยะหน้าบ้านนะซิ ช่วงนี้พี่ต้นยิ่งแปลกๆ มึนๆ งงๆ อยู่ เพราะเห็นว่าจะเก็บเงินซื้อไร่อะไรไม่รู้ทางอยู่ทางภาคใต้โน่น” กานพลูทรุดตัวลงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบเครื่องสำอางมาแต่งแต้มใบหน้าของตัวเองพอประมาณไม่ให้หนาเกินหรืออ่อนเกินไป “ถ้าแกไปอยู่ทางใต้ ฉันคงจะเหงาแย่เลยนะ” เมษาปรารภ ใบหน้าผุดผาดเศร้าลงทันตา “เอาน่า มันยังอีกนานจ๋าเพื่อนรัก ตอนนั้นแกอาจโชคดีได้แต่งงานกับพี่บีไปแล้วก็ได้นะ และก็คงจะมีแต่ฉันนี่แหละ ที่จะกลายเป็นยายแก่เฝ้าคานทองไปคนเดียว” กานพลูพูดให้ดูเป็นเรื่องตลก ลุกขึ้นกอดเพื่อนรักก่อนหันไปหยิบกระเป๋าลูกปัดสีชมพูมาถือไว้ ก่อนจะเดินไปคล้องแขนเมษาพากันออกจากบ้านหลังเล็กของตนด้วยรอยยิ้มกระจ่างใบหน้า สำหรับเธอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่เคยใหญ่เลยสักนิด เพราะเธอคิดเพียงแค่ว่า เมื่อเรื่องมันมาก็มีปัญหาให้แก้ ที่จะแก้ได้หรือไม่ได้มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง “ขอให้มันจริงตามปากแกเถอะกาน ฉันจะถวายหัวหมูให้แกสักสิบหัวเลย” เมษาล้อเล่น “เอาหัวโตๆ เลยนะแก ฉันกลัวหัวเล็กเนื้อน้อย กินได้ไม่อิ่ม” “ได้! เดี๋ยวฉันแถมให้อีกเท่าตัวเลย แกจะได้กินให้หน้าเป็นหมูไปเลย” ว่าแล้วสองสาวก็หัวเราะพร้อมๆ กัน ขณะพากันออกจากบ้านแสนสุขที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่นที่ยังเผื่อแผ่ความรู้สึกนั้นให้กับนกที่หลงรังอย่างเมษาด้วย แม่ของกานพลูเสียชีวิตเพราะเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อตอนที่เพื่อนเธออายุสิบห้าปี ส่วนพ่อก็ตัดทางโลกไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดต่างจังหวัดนานๆ กานพลูกับต้นรักษ์จะไปเยี่ยมท่านสักครั้ง แต่ครอบครัวนี้ก็ไม่เคยที่จะขาดความอบอุ่นแม้แต่น้อย ต้นรักษ์ยังคงทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับน้องสาวอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง “แกแน่ใจนะหนูเมย์ ไอ้ที่จะไปนี่ จะได้เจอพี่บี” ยิ่งรู้ว่าเมษาพยายามแยกตัวเองออกจากเบนนิโต้ มีนาจะต้องคิดหาทางกีดกัดและทำให้เมษาดูร้ายกาจในสายตาชายหนุ่มแน่ๆ “ก็...ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เมษาตอบกลับเสียงแผ่ว “ถ้าอย่างนั้น...ไปที่บริษัทดูก่อนไหม” กานพลูเสนอความคิด “ฮื่อ...เอาตามนั้นก็ได้” สิ้นเสียงเมษา กานพลูก็พารถออกจากบ้านไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการอย่างระมัดระวัง     “คาร์เมน” เบนนิโต้เงยหน้าจากโน๊ตบุ๊คตัวเล็ก ร้องเรียกที่เป็นทั้งเพื่อนและบอร์ดี้การ์ดคู่ใจ ชายหนุ่มเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้วยความเมื่อยล้า เขานั่งเคลียร์งานตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็บ่าย ตอนนี้เลยเหนื่อยและเพลีย อยากจะได้ใครสักคนมาช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าที่เกิดและคนที่เขานึกถึงในตอนนี้ก็คือศรีอัปสร ม่ายสาววัยสามสิบปี สาวสวยใจถึงที่พร้อมจะบริการให้เขาได้มีความสุขเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ “ครับนาย” คนถูกเรียกขานรับ ใบหน้าเฉยชาละจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะตัวเก่งที่เขาใช้ทุกครั้งเวลาที่มาทำงานที่นี่ ชายหนุ่มมองหน้าผู้เป็นนายอย่างรู้ดีว่าคงจะเหนื่อย อยากได้ใครสักคนมาคอยนวดผ่อนคลายอารมณ์ให้ “หลังจากเคลียร์งานบ้าๆ นี่ให้เสร็จ เราสองคนมีโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า” ชายหนุ่มลุกขึ้น สอดมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขณะพาร่างสูงใหญ่ไปยืนที่ตรงกระจกบานแก้วและมองออกไปด้านนอก บ้านหลังนี้พ่อและแม่สร้างขึ้นโดยให้เขาและพี่ชายออกแบบตกแต่งห้องทำงานและห้องส่วนตัวตามความชอบของแต่ละคน ด้านนอกก็ให้เขาและพี่ชายรวมไปถึงคาร์เมนและคริสเตียโนช่วยกันหาต้นไม้ใบหน้าที่แต่ละคนชอบมาปลูกไว้อย่างเป็นสัดส่วน บางต้นไม่น่าจะเข้ากันเลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับดูกลมกลืนและเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ “ไม่มีครับ” คาร์เมนตอบ ก่อนจะก้มลงดูตัวเลขของบัญชีในคอมพิวเตอร์ตัวเดิม คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างมาฉุดรั้งสายตาเอาไว้ ที่เขายังบอกไม่ถูกว่ามันเป็นอะไร คงจะต้องรอให้เบนนิโต้ตรวจสอบอีกครั้งนั่นแหละ เขาถึงจะได้คำตอบที่กระจ่างชัด “มีอะไรหรือคาร์เมน” เบนนิโต้ถามเมื่อหันมาทันได้เห็นสีหน้าคาร์เมนที่เปลี่ยนไปแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งและไร้ชีวิตชีวาเป็นเหมือนหุ่นยนต์มากกว่าคนเสียอีก จนเขาอยากจะรู้เหมือนกัน จะมีใครทำให้สีหน้าเพื่อนคนนี้เปลี่ยนแปลงไปได้บ้าง น้อยนิดก็ยังดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม