"แม่งเอ๊ย!!" คิมหันต์สบถอย่างขัดใจเขารู้ดีว่าเผลออารมณ์ร้อนเพราะความเป็นห่วงคนตัวเล็ก
เขาเหลือบมองร่างบางที่ยืนหลังภูผาน้ำตาที่เขาไม่อยากจะเห็นมัน ตอนนี้กลับเป็นเขาเองที่ใจร้ายทำเธอต้องมีน้ำตาเสียเอง มึงมันเลวไอ้คิม เขานึกโทษตัวเองในใจ
"พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะคนเก่ง" คิมหันต์ลูบหน้าตัวเองพยายามจะสงบสติอารมณ์ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยนแบบทุกที
"พี่คิมใจร้าย รู้ไหมคะ" วีนัสสะอื้นเอ่ยบอกคิมหันต์เสียงสั่นเครือ
"พี่รู้ พี่มันไม่ดีเองเราจะตีจะว่าพี่ยังไงก็ได้" คนตัวโตเดินเข้าไปใกล้ร่างบาง เขาใช้นิ้วเรียวยาวเกลี่ยหยาดน้ำตาให้คนตัวเล็ก
"ฮึก~ วีนัสจะเกลียดพี่แล้ว" ร่างบางทุบกำปั้นเข้ากับแผงอกแกร่ง โดยที่คนตัวโตยังคงยืนนิ่งปล่อยให้เธอทุบตีอยู่แบบนั้น
"จะตีพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าเกลียดพี่เลยนะ" คนตัวโตรวบข้อมือเล็กเอาไว้ เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเธอด้วยสายตารู้สึกผิด
"ถ้าพี่คิมยังดุวีนัสอีกล่ะก็ ฮึก~ วีนัสฟ้องแม่โนแน่"
"โอเค พี่ไม่ดุแล้ว" คิมหันต์ยกยิ้มบางๆเขาเกลี่ยเส้นผมขึ้นทัดหูให้คนตัวเล็ก จะให้เขาใจร้ายกับเธอลงได้ยังไงกัน
หลังจากที่ทั้งคู่ได้กลับมายังคอนโด วีนัสได้ทำแผลให้คิมหันต์ ใบหน้าที่มีร่องรอยเป็นรอยแตกยังคงมีเลือดซิบอยู่
"ทำไมชอบไปมีเรื่องจังคะ ชีวิตมันไม่เร้าใจเหรอ" คนตัวเล็กบ่นพร้อมกับทำแผลไปด้วย
เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมอาเอลชอบมาบ่นเรื่องพี่คิมให้แม่ฟังเป็นประจำ
"เจ็บตัวแต่มีเราทำแผลให้ก็คุ้มนะ" สายตาเย็นชาของคิมหันต์ที่จ้องมองร่างบางตรงหน้ามีแต่ความอบอุ่นและอ่อนโยน แค่มีเธอเท่านั้นต่อให้ต้องมีเรื่องกับคนทั้งโลกเขาก็จะทำ
"เหรอคะ ถ้าเสียโฉมขึ้นมาใครจะแต่งกับพี่กัน"
"เราจะแต่งกับพี่ไหม?" น้ำเสียงจริงจังของคิมหันต์ทำเอาคนตัวเล็กชะงัก
"พูดเล่นเหรอคะ ถ้าพี่คิมยังมีเรื่องทุกวี่ทุกวันแบบนี้ไม่มีใครอยากแต่งด้วยหรอกค่ะ" คนตัวเล็กแบะปากอย่างหมั่นไส้คนตัวสูง ก่อนที่เธอจะเก็บอุปกรณ์ทำแผลไปไว้ในห้องปล่อยให้คนตัวโตมองตามแผ่นหลังบางแล้วอมยิ้มน้อยๆ
"ไอ้คิมแม่มึงให้มาบอกว่ารับสายด้วย" เหมันต์น้องชายแท้ๆของคิมหันต์เดินเข้ามาหาเขายังตึกคณะ
"..." คิมหันต์ไม่ตอบเขาเพียงแค่เหลือบตามองเหมันต์ครู่เดียวแล้วหันกลับมาสนใจเกมส์ในโทรศัทพ์ต่อ
"มึงได้ยินกูป่ะ แม่มึงนะรับสายด้วยดิ" เหมันต์ท้าวสะเอวอย่างเอาเรื่องเมื่อพี่ชายของเขาไม่ยอมตอบ
"แม่มึงดิ อยากรับกูรับเอง" คิมหันต์ตอบปัดอย่างรำคาญ
"มึงไม่รับงั้นกูไปฟ้องวีนัสดีกว่า" เหมันต์ยิ้มร้ายก่อนจะเตรียมตัวหมุนกลับออกไป
แต่ถูกคิมหันต์กระชากคอเสื้อเอาไว้เสียก่อน
"บอกแม่เดี๋ยวกูโทรไป มึงนี่ขี้ฟ้องฉิบหาย" เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เหมันต์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มพอใจ คิมหันต์ที่ไม่เคยเกรงกลัวใครแม้แต่พ่อกับแม่ยังต้องยอมแพ้เมื่อเอ่ยถึงวีนัสเพียงเท่านั้น
"ก็แค่เนี้ย ต้องให้ขู่มึงแพ้กูอยู่ดี"
"มึงจะเดินออกไปดีๆ หรือเดินโชกเลือดออกไป"
"กูน้องมึงนะไอ้สัส แม่งไม่สมควรเป็นพี่กูเลยนะมึง"
"ไม่พอใจก็ไปฟ้องแม่ดิ" คิมหันต์ยักคิ้วกวนใบหน้าเรียบเฉยของเขาทำเอาเหมันต์ถึงกับกัดฟันกรอด
"เดี๋ยวแม่ด่ามึงอย่ามาเสียใจ กูไม่ปลอบหรอกนะ"
"คิดว่ากูสน?" คิมหันต์ปล่อยเหมันต์ก่อนจะใช้มือหนาฟาดลงบนศรีษะจนเหมันต์ถึงกับชี้หน้าคาดโทษเอาไว้
"พี่คิม อ้าวเหมันต์มาด้วยเหรอแล้วเป็นอะไรหน้าบูดขนาดนี้" วีนัสเดินเข้ามาเธอสังเกตุเห็นสีหน้าของเหมันต์ก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
"ไอ้คิมดิ มันตีหัวฉันอ่ะ" ได้ทีเหมันต์ก็เข้าไปกอดเอวบางจากด้านหลังเขาเกยคางบนบ่าเล็กแลบลิ้นเยาะเย้ยพี่ชายที่ยืนมองอยู่
"ปล่อยวีนัส ก่อนที่กูจะกระชากหัวมึงออกมา"
ก๊อกๆ~
เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องคอนโต ทำให้คนตัวโตต้องลุกออกไปเปิดในทันที แต่เมื่อเปิดได้นิดหน่อยแค่ได้เห็นใบหน้ายิ้มระรื่นของขันเงินและภูผาทำเอาร่างสูงถึงกับรีบปิดประตูหนี
"ไอ้สัส ประตูหนีบคอกูไอ้เวร!" ขันเงินที่โผล่หน้าเข้าไปไม่ทันได้ระวังถูกคิมหันต์ปิดประตูใส่เสียเต็มแรง
"ใครเชิญ" คิมหันต์เอ่ยเสียงเรียบเขาย่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยมองเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาเรียบเฉย
"กูเชิญตัวกูเอง ทำไมวะไม่พอใจมึงก็ออกไปดิ"
"ห้องกู" คิมหันต์ปรายตามองเพื่อนทั้งสองที่หัวเราะกันอย่างถูกอกถูกใจ
"น้องวีนัส วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ" ขันเงินเอ่ยทักทายร่างบางที่นั่งดูทีวีอยู่ เธอหันมาส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
"ไม่มีค่ะ พี่ขันเงินกับพี่ภูผาหอบอะไรมากันเยอะคะ" วีนัสมองไปยังถุงใบใหญ่ที่ทั้งสองหนุ่มถือกันมา
"ปาร์ตี้ไง สนใจร่วมวงด้วยไหม"
"ได้เหรอคะ?" ร่างบางฉีกยิ้มกว้างเธอรีบลุกจากโซฟาที่นั่งเมื่อครู่ รีบตรงปรี่มายังขันเงินแต่กลับถูกคิมหันต์ช้อนตัวอุ้มขึ้นเสียก่อน
"ว้าย! พี่คิมปล่อยนะอุ้มทำไม" ร่างบางตกใจในการกระทำของคนตัวโต เธอตวัดสายตาไม่พอใจใส่เขาแต่กลับถูกสายตานิ่งๆของคิมหันต์ส่งกลับมา
"มันสั้นไปเปลี่ยนชุดใหม่" คิมหันต์เอ่ยบอกคนตัวเล็กที่ยังคงอุ้มอยู่ก่อนจะอุ้มพาเธอเข้ามายังห้องนอนของเธอให้ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า
"มึงท่าจะเป็นเอามาก กูก็ไม่เห็นว่าจะโป๊ตรงไหน" ขันเงินเอ่ยขึ้นทันทีที่คิมหันต์เดินออกมาจากห้องของวีนัส
"กูไม่ชอบให้ใครเห็น"
"แล้วมึงอยู่ด้วยทั้งวันทำไมไม่ให้น้องมันเปลี่ยนวะ"
"กูดูได้คนเดียวจบไหม คนอื่นอย่าหวัง" เสียงเย็นชาจนแทบจะเดาอารมณ์คนพูดไม่ออก คิมหันต์เดินมานั่งยังโซฟาก่อนจะเปิดกระป๋องเบียร์ยกขึ้นดื่ม
"พี่คิม วีนัสกินด้วยได้ไหม" คนตัวเล็กออกมาหลังจากเธอเปลี่ยนมาเป็นเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวแล้ว
"โตกว่านี้หน่อยละกัน" คิมหันต์ยกยิ้มเล็กน้อยยังไงๆในสายตาเขาวีนัสก็ยังเป็นเด็กสำหรับเขาอยู่ดี
"โตแล้ว ไม่เห็นเหรอคะ ตัวก็โตนมก็โตด้วยนะ" วีนัสยืดอกแสดงให้เห็นว่าเธอตัวโตแค่ไหนทำเอาชายหนุ่มทั้งสามแทบสำลัก
"พูดอะไรน่ะ เราจะพูดแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ดิ"
"ทำไมไม่ได้ ปกติวีนัสก็พูดกับพี่คิมอยู่แล้วทุกครั้งไม่เคยห้าม"
"พูดกับพี่แค่คนเดียว พี่ไม่ชอบให้ใครได้ยินเข้าใจไหม" คนตัวโตยื่นมือหนามาลูบศรีษะเล็กอย่างเอ็นดู เพราะวีนัสเป็นแบบนี้ไงเขาถึงได้ไม่อยากปล่อยมือเธอไป
"ให้วีนัสดื่มนะคะ มีพี่คิมอยู่ด้วยแถมอยู่ที่ห้องอีกปลอดภัยหายห่วง"
"เออ ให้น้องมันลองเถอะมึงจะกลัวห่าไรนักหนา" ภูผาพูดเสริม
"ตามใจ" คิมหันต์ยื่นกระป๋องเบียร์มาให้คนตัวเล็ก ใจจริงเขาไม่ได้อยากให้เธอลองดื่มเลยสักนิดแต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าถ้าเธออยู่ในสายตาเขาตลอด ดีกว่าเธอจะไปลองดื่มกับคนอื่นที่ไม่ใช่เขา