"มึงแน่ใจนะไอ้คิม" ขันเงินเอ่ยถามเพื่อนรักที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยของเขามีความกระวนกระวายใจซ่อนอยู่
คิมหันต์พ่นควันบุหรี่ออกให้ลอยฟุ้งไปในอากาศ สิ่งที่เขาครุ่นคิดอยู่คือข้อความที่ถูกส่งมาเตือนในเชิงข่มขู่เขา
'ระวังของรักของหวงมึงไว้ให้ดี'
สายตาเย็นฉานั้นทอดมองออกไปราวกับกำลังใช้ความคิด ใช่นี่คือข้อความของคู่อริเขาแน่นอน
"มันไม่มีใครกล้าส่งมาหรอกนอกจากพวกมัน" คิมหันต์ตอบหนักแน่นมีแต่พวกนั้นเท่านั้นที่ยังกล้าต่อกรกับเขา
"มึงจะเอาไง" ขันเงินเอ่ยถามต่อในเมื่อพวกมันส่งมาขู่ขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่คิมหันต์จะอยู่เฉย
"ปิดบัญชี" น้ำเสียงเย็นยะเยือกพร้อมแววตาโกรธเกรี้ยวของเขาที่แสดงออกมาทำให้คนมองถึงกับเสียวสันหลัง
"พี่คิม วีนัสยังกลับไม่ได้ค่ะต้องทำรายงานอีกเพียบเลย" คนตัวเล็กทำหน้างอเกาะขอบกระจกรถหรูที่คิมหันต์มารับหน้าคณะ
"งั้นพี่รอ"
"อีกนานเลยค่ะ เพื่อนวีนัสคงอึดอัดถ้าพี่คิมอยู่เฝ้าด้วย"
"เสร็จแล้วโทรมา พี่จะมารับอยู่แต่ในคณะเข้าใจไหม" คนตัวโตกำชับมือหนาลูบศรีษะเล็กเบาๆก่อนที่เขาจะขับรถออกมาเพื่อสะสางสิ่งที่รบกวนจิตใจ
"เอาล่ะ พร้อมไหมพวกแก" วีนัสที่ฉีกยิ้มหวานพร้อมเสียงปรบมือของเพื่อน
ไม่ใช่ว่าเธอจะอยู่ทำรายงานต่อหรอกนะแต่เธอมีแผนหนีเที่ยวกับเพื่อนเธอต่างหาก
"พร้อมจนกระเป๋าตังค์สั่นแล้วเนี๊ย" ม่านฟ้าเพื่อนในคณะเอ่ยขึ้นพร้อมตบกระเป๋าตัวเองเบาๆ
"กระเป๋าหรือคนเอาให้แน่" วีนัสที่ดูอ่อนหวานและอ่อนแอต่อหน้าทุกคนแล้วตอนนี้เธอเหมือนเด็กน้อยจอมแก่นเลยทีเดียว
"ไปๆเดี๋ยวพี่แกมาเจอก็เป็นเรื่อง"
"พี่คิมรู้ฉันตายศพไม่สวยแน่แกเอ๊ย~" วีนัสพูดพร้อมใช้นิ้วเรียวปาดลำคอตัวเองประกอบไปด้วย
สองสาวที่มาเลือกซื้อของภายในห้างได้เลือกของกันอย่างสนุกโดยไม่รู้เลยว่าทั้งคู่ตกอยู่ภายใต้สายตาของใครบางคน
ตึง!
"โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ" วีนัสที่เดินคุยกับม่านฟ้าจนเพลินคนตัวเล็กชนเข้ากับแผงอกแกร่งตรงหน้า ดวงตากลมโตฉายแววตกใจเล็กน้อยเธอช้อนดวงตาสีดำสนิทจ้องมองใบหน้าบุคคลตรงหน้า
"น้องไอ้คิมใช่ไหม?" ชายหนุ่มหน้าตากวนๆจ้องมองร่างบางตรงหน้าเขานึกถึงตอนที่เพื่อนในกลุ่มของตัวเองส่งรูปเธอมาให้ ตัวจริงสวยกว่าในรูปเป็นไหนๆเหมือนแมวน้อยเลยว่ะ
"ช ใช่ค่ะ" ร่างบางตอบตะกุกตะกักเธอมองดูเสื้อช็อปของชายหนุ่มตรงหน้าก็มั่นใจได้ว่าเขาไม่ได้อยู่มหา'ลัยเดียวกับเธอแน่ นี่มันวิศวะมหา'ลัยไหนกัน
"ไอ้คิมมันมีปัญหาแล้วล่ะ" ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้ายเขาเข้าไปกอดคอคนตัวเล็กที่ตาเบิกโพล่งด้วยความตกใจ
"ตามมาถ้ายังอยากเห็นหน้ามันอยู่"
"พี่คิมอยู่ไหนคะ พี่คิมไม่เป็นไรใช่ไหม" วีนัสเอ่ยถามทันทีเมื่อชายหนุ่มพาเธอมายังห้องคาราโอเกะ
ร่างบางนั่งอยู่ภายในห้องที่มีชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่ด้วย
"ใจเย็นเดี๋ยวมันก็มา" ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อยเขาขยับเข้าไปนั่งใกล้คนตัวเล็กที่ตัวสั่นไปด้วยความกลัว
"พี่เป็นเพื่อนพี่คิมเหรอ? "
"มั้ง? เธอคิดว่าไงล่ะ" ชายหนุ่มตอบกวนๆ เขาถอดเสื้อช็อปออกก่อนจะใช้คลุมไหล่คนตัวเล็กที่ตัวสั่นอยู่ข้างกาย
"เธอชื่ออะไร"
"ชื่อ วีนัสค่ะ พี่คิมมาช้าจัง" ร่างบางเริ่มกระวนกระวายเมื่อสิ่งที่เธอดูจากมือถือของเขาคือรูปพี่คิมที่กำลังมีเรื่องชกต่อยอยู่
พลั๊ก!
ประตูที่ถูกคิมหันต์เปิดออกมาใบหน้าโกรธเกรี้ยวที่มีร่องรอยบาดแผลแสดงให้เห็นว่าเขาพึ่งจะไปมีเรื่องมา
"พี่คิม!" วีนัสที่เห็นคนตัวโตได้รับบาดเจ็บก็รีบลุกแต่ก็ถูกชายหนุ่มรวบเอวบางเอาไว้เสียก่อน
คิมหันต์เดินปรี่เข้าไปกระชากชายหนุ่มออกมาจากร่างบางก่อนจะปล่อยหมัดใส่ใบหน้าอีกฝ่ายอย่างโกรธเคือง
"อย่ามายุ่งกับน้องกูไอ้เฟรม" คิมหันต์กดเสียงต่ำสายตาดุดันแทบจะเหมือนมีดคมกรีดเชือนคนที่ได้สบตามอง
"น้องมึง น่ารักดีนี่หว่าไม่คิดจะแนะนำกูหน่อยเหรอ" เฟรมยิ้มกวนแล้วมองวีนัสที่ถูกคิมหันต์กระชากตัวกลับไป
"พี่คิมนี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่มีแผลแบบนี้" วีนัสช้อนดวงตาใสมองสำรวจใบหน้าของคนตัวสูง แต่สายตาที่เธอได้รับจากเขากลายเป็นความเฉยชาจนเธอถึงกับชะงักไป
"อย่าเล่นสกปรก ถ้ามึงแน่ตัวๆ กับกูหน่อยไหม" คิมหันต์ท้าทายอีกฝ่ายเขาดึงเสื้อช็อปของชายเฟรมออกจากคนตัวเล็กก่อนจะปามันลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบซ้ำ
"กูไม่ได้เล่นสกปรก ลองถามน้องมึงดูกูได้ทำไรน้องมันหรือเปล่า" เฟรมกระตุกยิ้มเขาไม่ได้คิดจะทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องหรอกแค่จะปั่นประสาทอีกฝ่ายก็เท่านั้น
"อย่ายุ่งกับน้องกู ไม่งั้นกูจะไม่หยุดแค่โรงบาลแน่" คิมหันต์เตือนเสียงเรียบก่อนจะคว้ามือร่างบางเดินออกมา
"ทำไมต้องโกหกพี่" น้ำเสียงเย็นชาของคนตัวสูงทำเอาคนตัวเล็กยืนนิ่งภายในโรงจอดรถในห้าง
"พี่ถาม ทำไมต้องโกหกวะ!" คิมหันต์ตะคอกร่างบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน คนตัวเล็กได้ยินถึงกับน้ำตารื้น เธอไม่ชินกับคิมหันต์ในมุมนี้เลย
"วีนัสขอโทษ แต่อยากมาเที่ยวกับเพื่อนแค่นั้นเองพี่คิม"
"แล้วสุดท้ายมันเป็นไง เราดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหนกันถ้าพี่ไม่มาจะเป็นยังไง" คนตัวโตยังคงใส่อารมณ์กับคนตัวเล็ก
เขาได้รับรูปถ่ายของเธอก็ทำเอาเขาโกรธจนแทบคุมไม่อยู่
"แล้วไม่ใช่เพราะพี่เหรอไง มันถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา" วีนัสเถียงกลับ เรื่องนี้เธอไม่ได้เป็นคนก่อจะโทษเธอได้ยังไง
"วีนัส! รู้ไหมว่าพี่แทบบ้าแค่ไหน"
"ไม่รู้ ไม่อยากรู้ด้วย!" ร่างบางตะคอกกลับน้ำตาไหลออกจากดวงตาคู่สวย เธอคิดว่าคิมหันต์จะกอดปลอบโยนเธอเสียอีกแต่เขากลับมาต่อว่าเธอ
"ไอ้คิมใจเย็นดิวะ" ขันเงินรีบห้ามเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักตุมสติแทบไม่อยู่
"กลับ ถ้ายังทำแบบนี้พี่คงต้องบอกอาเวย์"
"ไม่กลับ หนูไม่อยากกลับกับพี่แล้วไม่อยากเห็นหน้าด้วย" ร่างบางสะอื้นน้ำตาไหลไม่หยุดเธอดื้อขนาดไหนแต่คนตัวโตไม่เคยจะดุเธอขนาดนี้มาก่อน
"ไอ้คิมคุยดีๆ ดิวะน้องกลัวแล้วมึงเห็นไหม" ขันเงินยังคงเอ่ยปากห้าม เขารู้สึกสงสารวีนัสที่ร้องไห้จนตาแดงก่ำเห็นแล้วอยากจะเตะไอ้คิมจริงๆ แม่งเอ๊ย
"หนูไม่ไปกับเขานะ วีนัสไปกับพี่ได้ไหมคะ" เธอหาตัวช่วยที่ใกล้ที่สุดนั่นคือภูผาที่ยืนกันเธอเอาไว้ไม่ให้คิมหันต์อารมณ์ร้อนเผลอทำเธอเจ็บ
ภูผาหันกลับไปมองร่างบางที่ดึงชายเสื้อของเขาอยู่
"แน่ใจว่าอยากไปกับพี่" ภูผาเอ่ยถามคนตัวเล็กเลยพยักหน้ารับ
"กูไม่ให้ไป ไอ้ผาถ้ามึงพาวีนัสไปมึงได้เห็นดีกับกูแน่" คิมหันต์เอ่ยเสียงเรียบนัยน์ตาดุดันฉายแววไม่พอใจออกมา
"ถ้ามึงคุมสติตัวเองไม่ได้ กูไม่ปล่อยน้องมันไปกับมึงแน่"