กึก!
เสียงรบกวนบางอย่าง ปลุกหญิงสาวใต้ผ้าห่มผืนหนาบนเตียงใหญ่สะดุ้งตัวตื่น เธอขยับยู่ใบหน้าเข้าหากันพลางปรือตามองค่อนข้างลำบาก หันมองหาเสียงพลันเจอกับแผ่นหลังกว้าง กำลังหาอะไรบางอย่างตามลิ้นชัก
“พี่แทน” ริมฝีปากจิ้มลิ้มขยับพึมพำ พร้อมทั้งผุดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง ใช้หลังมือขยี้เปลือกตาเพื่อเพิ่มการมองเห็น ก่อนจะเหลือบตามองนาฬิกาแขวนผนัง ตีห้าครึ่ง
เขาเพิ่งกลับเข้าห้องหรอกหรือ
“หาอะไรเหรอคะ?”
“ไม่ต้องยุ่ง นอนไปเถอะ”
ประโยคแล้งน้ำใจที่สามีเอ่ยออกมา มันทำให้มาริษาเจ็บที่หัวใจ เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น มองแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าแววตาสั่นระริก เธอสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะเอ่ยออกไป
“เมื่อเช้าสาจัดห้องนอนใหม่ค่ะ พี่แทนหาอะไรบอกสาได้นะคะ เผื่อสาย้ายไปเก็บที่อื่น”
ปั่ก!
เสียงปิดลิ้นชักเสียงดังพลอยทำให้คนบนเตียงสะดุ้ง แทนคุณหันหลังจ้องมองภรรยาสาวเขม็ง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ เพื่อปรับอารมณ์ “เห็นมีดโกนหนวดอันใหม่ไหม?”
“อยู่ตรงลิ้นชักชั้นแรกตรงนู้นค่ะ” แทนคุณหันมองตามนิ้วเรียวเล็กที่ชี้ไปทางลิ้นชักใกล้ ๆ ห้องน้ำ จากนั้นก็หันกลับไปมองใบหน้าจิ้มลิ้มบนเตียงแวบหนึ่ง ก่อนจะสาวเท้าเดินตรงไปเปิดหาสิ่งของที่ต้องการ ซึ่งก็เจอ
“ถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ห้ามแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายของ…ของฉันอีก” น้ำเสียงเข้มเชิงไม่พอใจเอ่ยสั่งจบก็เดินไปทางห้องน้ำทันที โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่พูดออกจากไปนั้น จะทำร้ายความรู้สึกของภรรยาสาวมากน้อยแค่ไหน
เพราะเขาไม่จำเป็นต้องแคร์เธอ
“ขอบคุณสักคำก็ไม่มี” มาริษามุ่ยหน้าพลางถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเดินออกจากนอน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายหญิง” สายหยุดหัวหน้าแม่บ้านเอ่ยทักทายนายหญิงตัวเล็กของบ้าน ขณะที่กำลังจัดเตรียมอาหารเพื่อใส่บาตรในยามเช้า และ อาหารเช้าของผู้เป็นนาย อยู่กับสาวใช้อีกสองคน
“อรุณสวัสดิ์เช่นกันค่ะ”
“ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” เธอไม่ได้ตั้งใจตื่นตอนนี้หรอก แต่เป็นเพราะคนตัวสูงที่รบกวนการนอนหลับ ซึ่งเธอเป็นคนหลับยากถ้าตื่นแล้วจะไม่หลับอีกง่าย ๆ
“ค่ะ ว่าแต่เตรียมของใส่บาตรอยู่เหรอคะ” มาริษากรวดสายตามองอาหาร ขนม ที่วางบนถาดสีทองสำหรับใส่ของถวายพระคุณเจ้า
“ใช่ค่ะ”
“สาขอใส่ด้วยได้ไหมคะ”
“ได้สิคะนายหญิง”
“ว่าแต่อาหารเช้าทำหรือยังคะ”
“ยังเลยค่ะ ใส่บาตรเสร็จแล้วค่อยกลับมาทำน่ะค่ะ”
“งั้นเช้านี้สาขอโชว์ฝีมือเองค่ะ” ความน่ารักเป็นกันเอง และ บุคลิกนิสัย อ่อนโยน วาจาสุภาพ ของนายหญิงของบ้านสามารถซื้อใจคนใช้ในบ้านให้อยู่หมัดได้ ตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่คฤหาสน์หลังโตวันแรก
….
แกรก
มาริษากลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง หลังจากใส่บาตรพระและทำอาหารเช้าเสร็จ เธอกรวดสายตามองหาแทนคุณที่ก่อนหน้านี้อยู่ในห้อง แต่ตอนนี้ภายในห้องกลับเงียบสงบ มีเพียงเครื่องปรับอากาศที่ยังทำงาน
“ไปไหนอีกแล้วนะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มก้มมองต่ำ พลางถอนหายใจออกมาอีกเป็นครั้งที่สามของวัน
“อย่าบอกนะว่ากลับไปห้องทำงานอีกแล้วอะ ปกติเป็นอย่างนี้หรือเปล่านะ”
“…” เธอรู้ดีว่าสามีไม่ได้รักเลยสักนิด แต่เธอก็ยังอยากอยู่ใกล้ ๆ เขา อยากเห็นใบหน้าหล่อ ๆ ทุกวัน และ อยากดูแลเอาใจใส่เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ แม้ว่าเขาทำให้หัวใจเจ็บบ่อย ๆ ก็ตาม
“รอมาได้ตั้งหลายปี รออีกสักนิดสักหน่อยจะเป็นไรไปล่ะเมษา” มาริษาทำหน้ามั่นใจ หลังจากพูดเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองจบ
เธอต้องทำหน้าที่ภรรยาที่ดีให้ดีที่สุด เผื่อว่าเขาจะเห็นใจแล้วมอบความรักให้เธอบ้าง
“ไปอาบน้ำดีกว่า” ว่าจบเท้าเล็กก็เดินฉับ ๆ ตรงเข้าห้องน้ำทันที
ใช้เวลาทำกิจวัตรประจำวันราว ๆ ครึ่งชั่วโมง มาริษากลับออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยลุคสาวน่ารักตัวเล็ก เสื้อยืดโอเว่อร์ไซซ์สีขาว ยัดชายเสื้อเขาใส่ใต้กระโปรงยีนสั้นถึงต้นขาขาว ปล่อยผมสีดำลอนยาวถึงกลางแผ่นหลัง ไร้เครื่องสำอางบนใบหน้าจิ้มลิ้ม มีเพียงสกินแคร์ และ ลิปมันเคลือบริมฝีปากอมชมพู แต่เท่านั้นก็ทำให้ใบหน้าของเธอดูดีน่ามอง โดยไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากมาย
“พี่แทนยังไม่ลงมาอีกเหรอคะ” มาริษาเดินเข้ามาในห้องอาหาร เห็นเพียงสาวใช้ที่กำลังจะตั้งท่าเดินออกไป
“ยังเลยค่ะ”
มาริษาพยักหน้ารับอย่างขอไปที ก่อนที่จะขยับเก้าอี้ออกเล็กน้อย แล้วหย่อนสะโพกนั่งรอสามี
“พี่วิคะ สาขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้ค่ะนายหญิง”
“ปกติวันหยุดพี่แทนอยู่บ้านหรือเปล่าคะ”
“อยู่เฉพาะวันอาทิตย์ค่ะ”
“อ๋อค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ค่ะ”
หลังจากที่เธอถามสาวใช้จบได้ไม่นาน เจ้าของใบหน้าหล่อทรงแบดบอย เดินเข้ามาในห้องอาหารด้วยชุดเสื้อยืดสีดำ ยัดชายเสื้อเข้าใส่ใต้กางเกงสีดำขาใหญ่ เสื้อหนังแจ็คเก็ตสีแดงลายสีดำและสีขาวช่วงกลางอกพาดอยู่บนไหล่กว้าง
“ไปไหนมาเหรอคะพี่แทน สาเข้าห้องไม่เห็นเจอ”
“ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉันไหม” แทนคุณทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ คิ้วเข้มเลิกขึ้นสีหน้าแววตาฉายถึงความรำคาญ โดยเฉพาะแววตาใสซื่อของภรรยาสาวที่มองมา เขารู้สึกรำคาญเป็นพิเศษ
“สาถามพี่ดี ๆ นะคะ ทำไมต้องโมโหด้วย”
“มันเรื่องของฉัน อ่อ!ยังมีสิ่งที่เธอต้องรู้ และ ต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือก”
“อะไรอีกเหรอคะ?” มาริษามุ่ยหน้าถาม
“เธอ!...ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน ต้องเชื่อฟังฉัน ห้ามดื้อ ห้ามทำตัวน่ารำคาญ เข้าใจ?” นิ้วยาวชี้ไปที่ภรรยาสาวอย่างเผด็จการ ทำเอาหญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ อีกรอบไม่รู้เท่าไหร่ ตั้งแต่ตื่นนอน
“….เข้าใจค่ะ” มาริษาตอบรับอย่างไม่เต็มใจนัก น้อยใจแต่ไม่สามารถเรียกร้องอะไรจากเขาได้เลย
“…” ข้อห้ามของเขาเท่ากับว่าเธอไม่มีความหมายกับเขาเลยสักนิด ทำราวกับไม่ใช่สามีภรรยากัน
----------------