ตอนที่ 4 | ไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว

1388 คำ
มหาวิทยาลัย T.U อินเตอร์ “อึ๊ด~อาจารย์ปล่อยสักที” แกรมมี่หรือเกมส์ ชายใจเป็นหญิงยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจทันทีที่เลิกคลาสเรียน “วันนี้อาจารย์สอนโคตรนานเลย กว่าจะปล่อย นั่งจนเจ็บตูดแล้วเนี่ย” จีน่าหญิงสาวผมสั้นหน้าตาน่ารักบ่น พร้อมทั้งเก็บสัมภาระบนโต๊ะเรียน “บ่นเป็นคนแก่ไปได้ นี่เพิ่งวิชาแรกเองนะ” มาริษาขำกับสีหน้าท่าทางเหนื่อยหน่ายของเพื่อนทั้งสอง “จ้าแม่เด็กเรียนน~ ไม่เมื่อยเลยว่างั้น?” แกรมมี่เบ้ปากเล่นเสียงใส่เพื่อนสาวอย่างหมั่นไส้ มาริษาเพียงจิ๊ปากตอบโต้กลับไปเท่านั้น ที่จริงเธอก็เมื่อยเหมือนกัน แต่ไม่ได้แสดงออกมาเท่านั้น “เลิกเรียนคาบสุดท้าย ไปดูหนังเข้าใหม่กันปะ” “เอาสิฉันก็อยากดูเหมือนกัน” “แกล่ะสา?” มาริษามีสีหน้าครุ่นคิด หากเมื่อก่อนเธอคงตอบตกลงเพื่อน ๆ ไปโดยไม่ต้องลังเล แต่ตอนนี้สถานภาพของเธอมันไม่เหมือนเดิม เพราะเธอแต่งงานมีสามีแล้ว มีหน้าที่ที่ต้องทำยามเลิกเรียน จะไปไหนมาไหนต้องคิดไตร่ตรองบ้างเป็นธรรมดา “ว่ายังไงไปไหม” “ฉัน…” “ไม่ต้องปฏิเสธเลยนะยัยลูกหนู” แกรมมี่ทำน้ำเสียงเข้มพลางชี้หน้ามาริษาอย่างบังคับ ทำเอาคนถูกจ้องกดดันไม่กล้าปฏิเสธ “ก็ได้ งั้นฉันขอโทรบอกที่บ้านก่อนนะ” “จะโทรรายงานสามีก่อนว่างั้น?” มาริษาหลุบตามองต่ำพลางยิ้มแหย ๆ อย่างไม่ปฏิเสธ “ยะ!” “แล้วแกล่ะฮยอนโดไปด้วยกันไหม?” ฮยอนโดผู้ชายหนึ่งเดียวในกลุ่ม ใบหน้าหล่อขาวสไตล์หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลี นั่งเงียบเล่นโทรศัพท์ฟังบทสนทนาของเพื่อนสาว ละสายตาออกจากหน้าจอสี่เหลี่ยม มองหน้ามาริษานิ่ง ๆ แทนที่จะตอบออกไปในทันที “…อือ” “มองหน้ายัยลูกหนูแล้วตอบหมายความว่ายังไงคะ สามี?” แกรมมี่ถามแซวอย่างมีจริตจะก้าน พลางหรี่ตามองฮยอนโดอย่างจับผิด แต่คนถูกจ้องมองอย่างกดดันกลับนิ่งเฉย ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาแม้แต่นิดเดียว ฮยอนโดพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ แล้วกลับไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมต่อ โดยไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนชายใจเป็นหญิงกลับไป “เย็นชาจริง ๆ เลยพ่อคุณ” จีน่าเล่นหูเล่นตาพูดกระแนะกระแหนเพื่อนชายที่เย็นชาที่สุดในคลาสเรียน จนแทบไม่มีเพื่อนผู้ชายด้วยกัน @Central MMN “ชานมไข่มุกหวานร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ” มาริษาสั่งชานมไข่มุกกับพนักงาน เมื่อได้รับแล้วก็เดินกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีใครสั่งอะไรสักคนนอกจากเธอ พูดคุยกันตามประสาระหว่างรอเข้าโรงหนัง “น้ำลายบูดหมดแล้วมั้งคุณชายน้ำแข็ง” จีน่าเลิกคิ้วขึ้นถามเชิงล้อ เพราะตั้งแต่มาถึงนับคำพูดจากฮยอนโดได้ ส่วนฮยอนโดดเพียงตวัดสายตามองใบหน้าสวย ตากลมของจีน่านิ่ง ๆ อย่างไม่ใส่ใจอะไรมากมาย ก่อนจะกลับไปสนใจโทรศัพท์ในมือต่อ “อยู่ด้วยกันมาเทอมหนึ่งแล้ว แกยังไม่ชินอีกเหรอยะยัยจี” “บางทีก็เงียบเกินไปอะ” “เอาน่าจี คนพูดน้อยไม่ได้แปลว่าไม่รับรู้หรือไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับเพื่อนหรอกนะ แบบเป็นผู้ฟังที่ดีอะไรแบบเนี่ย ใช่ไหมฮยอน” ฮยอนโดละสายตาออกจากหน้าจอสี่เหลี่ยมมองหน้ามาริษานิ่ง แววตาเย็นชาคู่นั้นกลับมีความรู้สึกบางอย่างซ่อนอยู่ “…อือ” “คุณชายน้ำแข็งสมฉายาจริง ๆ เล๊ย~” จีน่าจิ๊ปากใส่ฮยอนโด เมื่อเจ้าของใบหน้าเย็นชาตวัดสายตาดุมองมาอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่ “ไป ๆ หนังจะฉายแล้ว” แกรมมี่ผุดตัวลุกขึ้นพลางกวักมือให้เพื่อน ๆ ลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น หลังจากนั้นก็พากันเดินกลับไปที่โรงหนัง แต่ทุกคนกลับต้องหยุดชะงักฝีเท้าฟังจีน่า “เดี๋ยว ๆ แก” “อะไร?” “นั่นมันสามีแกนิเมษา เดินควงมากลับใครน่ะ” จีน่าชี้นิ้วไปที่ฝั่งตรงข้ามโรงหนังให้มาริษามองตาม “…” ชายหญิงตรงระดับสายตากำลังเดินควงคู่กันมา พลันทำให้มาริษานิ่งงันราวกับหินทันที ความรู้สึกจุกหน่วงที่หน้ากลางอกเหมือนตอนที่รู้ว่าผู้ชายที่แอบรักคือแฟนพี่สาว ต่างกันเล็กน้อยตรงผู้หญิงคนนั้นคือคนอื่น ไม่ใช่คนในครอบครัว “หล่อระดับนั้น ผู้หญิงเยอะก็ไม่แปลก” จีน่าตีท่อนแขนแกรมมี่เบา ๆ พลางขยับปากพูดไม่มีเสียง เชิงต่อว่าจะพูดทำให้เมษาคิดมากเข้าไปอีกทำไม ทำให้แกรมมี่ฉุกคิดได้จึงรู้สึกผิดต่อเพื่อนสาว “ไปได้แล้ว” หมับ! “อ๊ะ!” มาริษาเบิกตากว้างหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อข้อมือถูกฮยอนโดคว้าแล้วดึงให้เดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้แกรมมี่และจีน่าต้องรีบเดินตามเพื่อนทั้งสองไปด้วย “มองอะไรอยู่เหรอคะแทน” “เปล่า” แทนคุณละสายตาออกจากเจ้าของแผ่นหลังเล็กที่คุ้นเคย เธอกำลังเดินจับมือถือแขนกับผู้ชายเข้าโรงหนังไปพร้อมกัน “เราเข้าไปกันเถอะค่ะ ซิลหิวจะแย่อยู่แล้ว” แทนคุณสาวเท้าเดินเข้าร้านอาหารอิสตาเลี่ยนไปพร้อมกับสาวสวยหุ่นเพรียว ขณะในหัวเอาแต่ครุ่นคิดถึงอะไรอย่างไม่หยุด คฤหาสน์ อัศวภัชรกุล 18:30 น. แทนคุณตบไฟเลี้ยวขับเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตัวเอง ลูกน้องละแวกนั้น ต่างโค้งศีรษะทำความเคารพรถของผู้เป็นนายตามหน้าที่ “พี่แทนสวัสดีค่ะ” แทนคุณหยุดชะงักฝีเท้าทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน เมื่อภรรยาสาวสวมใส่ชุดกันเปื้อนเดินออกมาจากห้องครัวกล่าวทักทายพร้อมทั้งยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม “ทำงานมาเหนื่อยไหมคะ” เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มยิ้มแฉ่งสดใส แววตาไร้เดียงสาคู่นั้น ทำให้แทนคุณรู้สึกรำคาญตาเป็นที่สุด แค่เห็นหน้าเธอ ภาพบางอย่างก็พลันฉายเข้ามาในหัวให้นึกหงุดหงิดโดยอัตโนมัติ “ไม่ต้องรู้หรอก!” แทนคุณกระแทกเสียงตอบแล้วเดินไปทันที โดยมีสายตาของมาริษามองตามแผ่นหลังกว้างเดินจากไป แววตาตัดพ้อสั่นระริก มาริษาน้ำตาคลอเบ้า เธอระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างนึกน้อยใจ ตั้งแต่แต่งงานกันมา เขาไม่เคยพูดดีกับเธอเลยสักครั้งเดียว … แกรก แทนคุณที่นั่งเลื่อนหน้าจอสี่เหลี่ยมในมืออยู่บนเตียง กรอกนัยน์ตามองไปทางประตูห้องนอน ที่ถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของภรรยาสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมต่อ “พี่แทนจะอาบน้ำเลยไหมคะ สาจะได้เตรียมน้ำอุ่นให้ค่ะ” “อือ” คนถูกถามยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ไม่สนใจที่จะเงยหน้าขึ้นมามองภรรยาสาว “วันนี้เข้าผับไหมคะ” “…” มาริษาเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจสั่นไหวด้วยความประหม่า เมื่อแทนคุณเฉยเมยต่อคำถามของเธอ เธอสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ “ถ้าไป สาไปด้วยได้ไหมคะ สัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซนค่ะ” “จะตามไปเผื่อ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นแววตาคมกริบตวัดมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างเตรียมพร้อมดุหากคำตอบไม่สมเหตุสมผล ทำเอาคนถูกถามกดดันลนลานในใจ “สา…ก็แค่…อยากไปเที่ยวด้วยน่ะค่ะ” “ฉันไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว อีกอย่างผับฉันต้องอายุยี่สิบปีขึ้นไปถึงจะเข้าได้ ส่วนเธอยังไม่ถึงนิ จะรีบแรดเข้าผับไปไหน รีบอย่างกับจะตายก่อนงั้นแหละ” แทนคุณพ่นวาจาร้ายกาจใส่ภรรยาสาวจบ ก็หยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เดินผ่านร่างเล็กไปทางประตูห้องนอนทันที “…” มาริษาอึ้งงันใบหน้าชาราวกับถูกตบฉาดใหญ่ เจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ เมื่อถูกสามีต่อว่าด้วยถ้อยคำแรง ๆ จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอไม่ได้แรดซะหน่อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม