ผับ Moon
“ไอ้ทิมไปส่งเมษากลับบ้านด้วย” แทนคุณออกคำสั่ง ใบหน้าหล่อตึงเครียด หลังจากได้รับรายงานเรื่องผับถูกวางเพลิง ก็รีบร้อนมาที่ผับทันที ซึ่งเป็นจังหวะที่ภรรยาสาวกำลังจะกลับบ้านพอดี จึงจำเป็นต้องพาเธอติดรถมาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ครับนาย” ทิมโค้งศีรษะน้อมรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย แทนคุณเร่งพาตัวเองออกจากรถยนต์หรูสีดำวิ่งตรงไปยังทางประตูเข้าผับด้านหลัง ส่วนเมษาเธออยากตามสามีไปมากกว่ากลับบ้าน
“อย่าเพิ่งไปค่ะ”
ทิมที่กำลังจะขับรถออกจากโรงจอดรถของผับเป็นต้องหยุดนิ่ง ช้อนตาขึ้นมองนายหญิงของบ้านผ่านกระจกรถตรงหน้าเหนือศีรษะ คิ้วเข้มขมวดเข้ากันเล็กน้อยอย่างมีคำถาม
“…”
ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!
หมัดหนัก ๆ ของแทนคุณฟาดเข้าที่ใบหน้าของเหล่าบรรดาลูกน้องจำนวนห้าคน ที่ยืนเรียงรายตรงหน้าคนละหมัด โทษฐานที่ละเลยหน้าที่ปล่อยให้คนไม่ประสงค์ดีรอบเข้ามาวางเพลิงได้ ดีที่สามารถควบคุมเพลิงได้ทัน จึงไม่มีอะไรเสียหายมากมาย
“พวกมึงไสหัวออกไปให้หมด อย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก!” แทนคุณตะเบ็งเสียงอย่างฉุนเฉียว ที่ลูกน้องทำงานไม่เอาไหน เหล่าบรรดาลูกน้องทั้งห้าเหงื่อตกไปตาม ๆ กัน เมื่อถูกไล่ออกจากงาน ซึ่งไม่มีใครกล้าเอ่ยขอร้อง เพราะรู้ดีว่าหากผู้เป็นนายตัดสินใจหรือเอ่ยปากแล้ว ไม่มีวันเปลี่ยนใจ จึงรีบพากันวิ่งออกไปก่อนที่จะถูกตัดคอ
“ขออนุญาตครับนาย”
แทนคุณเสยผมบริเวณหน้าม้าขึ้นลวก ๆ พลางหอบหายใจหนัก ๆ ด้วยความโมโหที่ไม่มีท่าทีว่าจะสงบลงเสียที ก่อนจะหมุนตัวหันไปหาลูกน้องที่วิ่งเข้ามาทำความเคารพ
“คนของเราสามารถตามจับตัวคนวางเพลิงได้แล้ว ตอนนี้พาไปขังที่ห้องมืดเรียบร้อยครับ”
“เคล้นเอาความจริงจากมันให้ได้ อย่าให้ถึงมือกู”
“ครับนาย”
มาริษาชะลอฝีเท้าเดินให้ช้าลงก่อนจะหยุดอยู่กับที่ หัวคิ้วขมวดด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเหล่าบรรดาชายชุดดำวิ่งออกมาจากประตูทางเข้าด้านหลังผับ มุมปากของแต่ละคนมีเลือดผุดซึม
“ทำไมพี่เขาถึงได้แผลออกมากันล่ะคะ มีเรื่องชกต่อยกันเหรอคะ?” เธอเอียงศีรษะถามลูกน้องคนสนิทของสามี แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้
“ผมว่านายหญิงเปลี่ยนใจกลับบ้านดีกว่าครับ”
“ไม่ค่ะ พี่ทิมไม่ต้องกลัวพี่แทนนะคะ เดี๋ยวสารับผิดชอบเองค่ะ”
ทิมหม่นคิ้วเข้าหากันเป็นปมพลางพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ อย่างนึกรำคาญ ความดื้อรั้นของหญิงสาวตัวเล็ก ที่มีสถานะเป็นภรรยาของผู้เป็นนาย เขาไม่น่าใจอ่อนปล่อยให้เธอลงจากรถตั้งแต่แรกเลย
“งั้นผมขอตัว” ว่าจบก็โค้งศีรษะทำความเคารพนายหญิงของบ้านตามหน้าที่ แล้วเดินตรงไปขึ้นรถหรูสีดำทันที โดยมีสายตาของมาริษามองตามหลังไป
แกรก
แทนคุณผลักประตูเข้าห้องทำงาน แต่สองเท้ากลับต้องหยุดเดินกะทันหัน จ้องมองภรรยาที่นั่งอยู่ในห้องสายตาแข็งกร้าว
“ฉันให้เธอกลับบ้านไม่ใช่เหรอ? มานั่งอยู่ที่นี่ทำไม” น้ำเสียงเข้มดุเอ่ยถาม พลอยทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นถี่เร็วราวกับว่าจะทะลุออกมานอกเบ้าให้ได้ด้วยความประหม่า
“สะ…สายังไม่อยากกลับบ้าน เลยดื้อกับพี่ทิม แต่พี่แทนอย่าทำโทษพี่ทิมนะคะ สาเร้าหรือที่จะอยู่เองแหละ”
หมับ!
“อ๊ะ!” มาริษานิ่วหน้าเมื่อถูกแทนคุณกระชากแขนให้ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาบีบแก้มนุ่มอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ ใบหน้าหล่อดูดีฉายแววดุร้ายน่ากลัว
“กลับบ้านไป อย่ามายุ่มย่ามที่นี่!”
“โอ๊ย! สาเจ็บนะคะ”
“เจ็บสิดี! ถ้ายังกล้าขัดคำสั่งฉันอีกล่ะก็ เธอได้เจ็บกว่านี้แน่”
ฟุบ!
“อ๊ะ!” ร่างเล็กกระแทกตัวนั่งบนโซฟาอีกครั้ง เมื่อถูกร่างใหญ่ผลักอย่างแรง
“ออกไป” มาริษามองสบตากับแทนคุณแววตาสั่นระริก โดยที่ยังนิ่งไม่ขยับตัวไปไหน ก่อนที่อีกฝ่ายจะละสายตาจากเธอก่อน แล้วสาวเท้าเดินไปที่โต๊ะทำงาน โดยไม่สนใจไยดีความรู้สึกเธอเลยแม้แต่น้อย
…
“เดี๋ยว” ประโยคเอ่ยรั้งของแทนคุณ ทำให้มาริษาที่กำลังจะเปิดประตูออกไปตามคำสั่ง เป็นต้องหยุดชะงักมือ แล้วหมุนตัวกลับหลังไปมองสบตากันอีกครั้ง
“อยากอยู่ก็อยู่ ฉันอนุญาต”
มาริษาเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงวย ไม่เข้าใจอารมณ์ของสามีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาราวกับคนเป็นโรคไบโพล่า
“จะยืนอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะกลับเลยหรือไง?”
มาริษาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งพลางกระชับกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนก้าวขาเดินไปข้างหน้า หย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาตัวเดิม โดยที่แววตาคู่สวยยังเต็มไปด้วยคำถาม
#สิบนาทีต่อมา
“นัดเพื่อนเหรอคะ?” มาริษาถูกแทนคุณพามานั่งร่วมโต๊ะวีไอพีชั้นสองของผับติดกับระเบียง ซึ่งเห็นโซนด้านล่างได้แทบทุกมุม เสียงเพลงดังกระหึ่มพลอยทำให้หัวใจเต้นโครมครามตามไปด้วย
“เปล่า” แทนคุณตอบกลับเพียงเท่านั้น ขณะมือหนาหยิบมวนบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตขึ้นมาคาบ มาริษขมิบเปลือกตาเข้าหากันบ่อยครั้ง เนื่องจากรู้สึกตาลาย เพราะแสงไฟหลากสีภายในผับ
“อย่าสูบตรงนี้ค่ะ กลิ่นมันเหม็น” มาริษารีบห้ามปรามทันที เมื่อแทนคุณกำลังจะเปิดไฟแช็กเป็นต้องหยุดชะงักนิ้วแกร่ง หัวคิ้วหม่นเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจที่ถูกสั่ง
“ฉันจะสูบ”
“งั้นสาขอตัวกลับเข้าห้องนะคะ”
“ฉันไม่อนุญาต แล้วฉันก็จะสูบตรงนี้ เธอไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรทั้งนั้น”
คำพูดเอาแต่ใจของผู้เป็นสามี ทำเอามาริษาหน้าหงิกเธอกัดปากล่างแน่น โดยไม่สามารถขัดขืนอะไรได้
“จิ๊!” แทนคุณคีบบุหรี่ที่กำลังสูบออกจากปาก แล้วส่งเสียงในปากอย่างหงุดหงิด เมื่อเสียงไอแอก ๆ ของคนที่นั่งอยู่เคียงข้างดังแข่งกับเสียงเพลงในผับคอยกวนใจไม่หยุด ราวกับเป็นการประท้วง โดยเฉพาะสีหน้าของเธอ ทำให้เขาต้องดับไฟบุหรี่อย่างจำใจ
“เธอนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ” มือหนาคว้าแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นกระดกดื่มแก้เซ็งแทน ส่วนมาริษาใช้นิ้วเรียวถูกขยี้จมูกไปมา เพราะกลิ่นฉุนของบุหรี่ยังหลงเหลือ
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง มาริษายังนั่งเฉย ๆ อยู่ข้างสามีที่เอาแต่ดื่มไม่พูดอะไรกับเธอสักคำ เธอกรวดสายตามองนู้นมองนี่ภายในผับตามประสาคนอยากรู้อยากเห็นจนเบื่อ
“พี่แทนคะ” ริมฝีปากจิ้มลิ้มขยับขานเรียกสามี แต่คนถูกเรียกกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เธอจึงกระตุกเสื้อเชิ้ตสองสามที เจ้าของใบหน้าหล่อที่ดูเริ่มเมามายก็หันกลับมาจ้องท่าทางไม่สบอารมณ์
“อะไร?”
“สาขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะคะ”
“อือ”
เมื่อได้รับคำตอบจากสามี มาริษาผุดตัวลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินไปแต่…
หมับ!
“อ๊ะ!” มือใหญ่คว้าข้อมือแล้วกระตุกดึง ทำให้มาริษาทรุดตัวนั่งบนตักแกร่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“O” แต่ไม่ทันที่มาริษาจะได้ตั้งตัว ใบหน้าคมคายโน้มลงมาประกบจูบอย่างรวดเร็วเสียก่อน ส่งผลให้ใบหน้าเห่อร้อน ม่านตาเบิกกว้างทันทีทันใด สัมผัสที่แนบชิดทำให้ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากอีกฝ่ายชัดเจน
การกระทำน่าอายของแทนคุณ พลอยทำให้หัวใจมาริษากระหน่ำเต้นถี่เร็วจนแทบหลุดออกมานอกอกให้ได้
“อื้อ!” มาริษาตั้งสติได้ เธอส่งเสียงประท้วงพลางผลักแผงอกแกร่งต่อต้านแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะสู้แรงคนตัวโตกว่าไม่ได้ ขณะที่ริมฝีปากอวบอิ่มถูก ทั้งดูดทั้งขบเม้มอย่างแรงสลับกันจนชาหนึบไปหมด ราวกับริมฝีปากของเธอเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนตัวโต
“…”
--------------------