สิบปีที่แล้ว
@ร้านสะดวกซื้อ
ดิ้งงง~
เสียงกริ่งประตูร้านสะดวกซื้อดังขึ้น ครั้นมีคนเดินผ่านเข้ามาใช้บริการ ทว่าบุคคลดังกล่าวกลับไม่ใช่ลูกค้า
พรึ่บ!
“กรี๊ด!” เด็กสาวอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัว จนเนื้อตัวสั่นเทาอย่างหนัก เนื่องจากยืนจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ จู่ ๆ ชายร่างใหญ่ก็โผล่เข้ามาล็อกคอแน่นหนา พร้อมทั้งจ่อปืนที่ศีรษะ
พนักงาน รวมถึงลูกค้าที่ยังอยู่ภายในร้านต่างแตกตื่นไปตาม ๆ กัน แต่ต้องอยู่ในความสงบ เมื่อโจรจับเด็กสาวเป็นตัวประกัน อีกทั้งยังมีอาวุธ
“อยู่เฉย ๆ! ถ้าไม่อยากตาย”
“…” น้ำเสียงเหี้ยมข่มขู่ ทำให้เด็กสาวนิ่งงันราวกับหินอย่างไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวตาย ขณะที่น้ำสีใสไหลพรากออกจากหัวตาเป็นสายธาร เธอได้แต่หลับตาภาวนาในใจ ขอให้ใครสักคนเข้ามาช่วย
ฟึ่บ!
“เอาเงินใส่กระเป๋าให้หมด ถ้าไม่อยากให้อีเด็กนี่ตาย!” โจรร่างใหญ่จ่อปืนไปที่พนักงานสาวพร้อมทั้งโยนกระเป๋าเป้สีดำไปตรงเคาน์เตอร์
ดิ้งงง~
แต่ขณะเดียวกันประตูร้านสะดวกซื้อก็เลื่อนเปิดพร้อมทั้งเสียงแจ้งเตือน ปรากฏร่างสูงของชายหนุ่มชุดนักศึกษาไม่เรียบร้อยปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงสีดำ สวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำอย่างหล่อเท่ดูดี ใบหน้าหล่อ จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม แววตาเรียบนิ่ง ไม่มีความหวั่นกลัวใด ๆ กับเหตุการณ์ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างขวัญเสีย
“เข้ามาทำไมวะ! อยากตายหรือไง”
“ใจเย็นก่อนครับพี่ ผมแค่จะมาซื้อของ เอ๊ะ!..แต่ดูเหมือนพี่จะรีบ ให้ผมช่วยไหม ผมช่วยพี่ได้นะ เอารถผมไปดีไหม ผมมีรถสปอร์ต ถ้าพี่เอาไปขายก็น่าจะได้หลายสิบล้าน” ชายหนุ่มชุดนักศึกษาตะล่อมโน้มน้าว พร้อมทั้งชูกุญแจรถสปอร์ตยืนยันว่าตนเองมีอย่างที่พูด ก่อนจะยื่นข้อเสนอ “เราแลกกันดีไหมครับ พี่เอากุญแจรถผมไป ส่วนพี่ก็ส่งตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นมาให้ผม”
โจรร่างใหญ่ได้ฟังรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังลังเล ในขณะที่เด็กสาวจ้องมองเจ้าของใบหน้าหล่อตรงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความหวัง อยากรอดพ้นจากง่ามมือของโจรโดยเร็ว เพราะไม่รู้ว่าโจรจะลั่นไกลใส่หัวเธอเมื่อไหร่
กึก! ปึก!
“อ๊าดด!” ชายหนุ่มชุดนักศึกษาใช้โอกาสที่โจรร่างใหญ่เผลอ เร่งฝีเท้าเข้าไปแย่งปืน โดยใช้ศิลปะป้องกันตัวในระยะประชิดที่เคยฝึกฝนเป็นประจำ เด็กสาวรู้หน้าที่รีบผละตัวออกห่างจากโจรร่างใหญ่ทันควัน
โจรร่างใหญ่ถูกจัดการ นอนคว่ำหน้าราบไปกับพื้น ส่งเสียงร้องโอดโอย เมื่อแขนทั้งสองข้างไขว้ไปข้างหลัง และ ถูกเข่าแกร่งของชายหนุ่มนักศึกษากดทับจนเกิดความเจ็บปวด หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกตำรวจจับกุมไปเป็นที่เรียบร้อย
…
“พี่คะ! เดี๋ยวค่ะ!” น้ำเสียงใส ๆ ขานเรียกตามหลัง ทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อหยุดชะงักอยู่กับที่ ซึ่งกำลังจะเดินไปยังรถสปอร์ตของตัวเอง ขณะนั้นเสียงฝีเท้าขนาดเล็กก็หยุดยืนอยู่ด้านหลัง
“พี่คะ”
“ยังไม่รีบกลับบ้านไปอีก” เจ้าของใบหน้าหล่อหมุนตัวกลับไปจ้องมองเด็กสาวตัวเล็กนิ่ง ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักดูสดใสขึ้นกว่าเมื่อครู่ แต่แววตาไหวระริกยังเต็มไปด้วยความหวาดผวา
“รอคนมารับค่ะ เมื่อกี้สาขอบคุณพี่มาก ๆ เลยนะคะที่ช่วย พี่ทั้งเก่งทั้งเท่สุด ๆ ไปเลยค่ะ” ริมฝีปากเล็กอมชมพูฉีกยิ้มกว้างพร้อมทั้งยกนิ้วโป้งอันสั้นขึ้นชื่นชมชายหนุ่ม
เจ้าของใบหน้าหล่อไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมาเช่นเคย หันหลังให้เด็กสาวทันทีที่เธอพูดจบ แล้วสาวเท้าเดินไปข้างหน้า มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง แต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าวต้องหยุดชะงักฝีเท้าอีกครั้ง…
“พี่คะ! ช่วยบอกชื่อพี่ได้ไหม?”
ร่างสูงชำเลืองหางตาไปด้านข้าง ก่อนจะเอ่ยบอกชื่อเสียงเรียงนามกับเด็กสาว “….แทนคุณ”
หลังจากนั้นก็ก้าวขายาวเดินตรงไปที่รถสปอร์ต โดยมีเสียงตะโกนของเด็กสาวดังขึ้นตามหลัง
“หนูชื่อเมษานะคะ ขอบคุณค่ะพี่แทนคุณ!”
“…”
ปัจจุบัน
@บริษัท TM Agency Group
หลังจากแทนคุณทานอาหารกลางวันกับเพื่อนสาวคนสนิททั้งสองเสร็จ ก็รีบบึ่งรถกลับมาที่บริษัทตัวเอง มือหนาผลักประตูเดินเข้าห้องทำงาน แต่ต้องชะลอฝีเท้าเดินช้าลง คิ้วหนาหม่นเข้ากันเล็กน้อย เมื่อสายตาโฟกัสไปที่แจกันดอกไม้ถูกจัดวางเด่นอยู่บนโต๊ะทำงาน ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มี
“วุ่นวายจริง ๆ” ใบหน้าหล่อเหลียวไปมองร่างเล็กนอนตะแคงข้างหลับปุ๋ยบนโซฟาตัวยาว ก่อนจะเบี่ยงเท้าเดินเข้าไปหาภรรยาสาวในวินาทีต่อมา
แทนคุณหลุบตามองกระเป๋าเก็บความร้อนบนโต๊ะกระจกตรงหน้าโซฟาที่ภรรยานอนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเลื่อนสายตามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนหลับตาพริ้มไม่รู้ตัว แม้กระทั่งเขาเดินมาหยุดตรงหน้า
“นี่เธอ เธอ!” แทนคุณพ่นลมหายใจหนัก ๆ แล้วเขย่าปลุกภรรยาสาว ทำให้คนที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันขยับยู่ใบหน้าเข้าหากันอย่างรู้สึกตัวตื่น
มาริษาลูบหน้าตัวเองหนึ่งครั้ง เพื่อให้หายจากความง่วงนอน เปลือกตาจะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง แต่ร่างสูงที่ยืนตรงหน้าทำเธอตกใจ จนต้องเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันควัน ส่งผลให้หัวใจเต้นตึกตักถี่เร็ว “พี่แทน!”
“ก็ฉันน่ะสิ ไม่ใช่ผี”
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
“เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่าใครใช้ให้เธอมายุ่มย่ามที่บริษัท”
“สาเอาข้าวเที่ยงมาให้ค่ะ”
“ข้าวเที่ยงอะไร นี่มันจะบ่ายสองแล้ว”
มาริษาดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ พบว่าบ่ายสองครึ่งเกือบบ่ายสาม เพราะตั้งแต่เธอจัดดอกไม้ใส่แจกันเสร็จ ก็มานั่งเล่นโทรศัพท์ระหว่างรอสามีที่โซฟาตัวยาว แต่ไม่รู้ว่าตัวเองผล็อยหลับไปยามไหน
“แล้วพี่แทนทานอะไรมาหรือยังคะ?”
“เรียบร้อย” น้ำเสียงห้วน ๆ เอ่ยตอบจบ ก็หมุนตัวเดินไปทันที พลันทำให้มาริษาใบหน้าหงอยทันที เธอมองตามแผ่นหลังกว้างเดินห่างออกไปด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยว เพราะอาหารที่เธอตั้งใจเตรียมมาให้สามี ดูเหมือนว่าจะเสียเปล่า
“เอาเวลามาทำอาหารให้ฉันเนี่ย ไปอ่านหนังสือเรียนดีกว่านะ” แทนคุณพูดพลางทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ทำงาน
“…” มาริษากัดปากล่างเบา ๆ อย่างรู้สึกเสียใจ ในขณะที่ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอ เพราะสิ่งที่สามีพูดแต่ละอย่างไม่เคยถนอมน้ำใจเธอเลย ทั้งที่เธอตั้งใจทำเพื่อดูแลเอาใจเขา
แทนคุณที่เห็นว่ามาริษาเงียบไป จึงตวัดสายตามองที่เธอ พบว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งทำหน้าเศร้าชวนให้รู้สึกรำคาญใจ “กลับบ้านไปซะ ฉันจะให้ไอ้ทิมไปส่ง”
“ไม่ดีกว่าค่ะ สาอยากกลับพร้อมพี่แทน” มาริษาเงยหน้าตอบอย่างเคือง ๆ
“เธอกำลังขัดคำสั่งฉันนะเมษา”
เมื่อเจอกับสายตาดุดันที่แทนคุณตวัดมองมาเขม็ง ทำเอามาริษารีบหลุบตามองต่ำทันที ส่วนแทนคุณถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่
----------------