Chapter 2
สะใภ้คนโปรด (1)
เช้านี้เป็นวันหยุด การนอนหลับของอคิราห์ถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงอาเจียนที่ดังแว่วมาจากห้องน้ำ เขาลุกพรวดขึ้นนั่งตามความเคยชิน...พริมายังไม่หายจากอาการแพ้ท้อง หล่อนจะแพ้หนักในตอนเช้า และเป็นแบบนี้มานับตั้งแต่ฝังตัวอ่อนที่เกิดจากน้ำเชื้อของเขาและไข่ของหล่อนเข้าไปในผนังมดลูก เมื่อตัวอ่อนฝังตัวและเจริญเติบโต ฮอร์โมนในร่างกายก็เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ เหมือน กับการตั้งครรภ์แบบปกติทั่วไป
ชายหนุ่มเดินไปยังห้องน้ำ แววตาเจือความอาทรส่งไปถึงคนที่ยืนโก่งคออาเจียนอย่างทรมาน ในขณะที่เขาก็ไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังมองหล่อนด้วยความสงสารและเห็นใจ เขาไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของหัวใจตัวเองที่แสนซับซ้อนยากเกินคาดเดา
"พรีม...ไหวหรือเปล่า"
หล่อนพยักหน้าแทนคำตอบ สัมผัสได้ถึงความอุ่นซ่านที่ซึมซาบไปทั่วแผ่นหลังจากการที่มือใหญ่ช่วยลูบหลังให้...มันซึมซาบไปถึงก้อนเนื้อที่กำลังหวั่นไหว เพราะแบบนี้ เขาเป็นแบบนี้ ปากบอกไม่รักแต่การกระทำชวนให้ไหวหวั่น เขาใส่ใจดูแลหล่อนดีเกินไป หัวใจจึงรั้นรักไม่เชื่อฟังกันเลย
"พรีมเวียนหัว สงสัยเพราะนอนดึก พรีมขอโทษที่ทำให้คุณ
ต้องมานั่งดูแลกันแบบนี้"
หล่อนยอมรับผิดหากเขาจะตำหนิเรื่องพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เขากลับเลือกที่จะวางมันลง
"ช่างมันเถอะ เอาตัวเองตอนนี้ให้รอดก่อน เวียนหัวแล้วเดินได้ไหม กลับไปนอนพักต่อเผื่ออาการจะดีขึ้น"
"พอได้ค่ะ"
เขาประคองคนที่อาเจียนจนแขนขาอ่อนแรงกลับมาที่เตียง ประหนึ่งหล่อนเป็นเมีย เป็นแม่ของลูกตัวจริงที่เขาต้องคอยประคบประหงม ดูแลห่วงใยเสียจนลืมตัวว่าต่างมีสถานะใดต่อกัน
พริมาเอนหลังพิงหมอนที่ตั้งซ้อนกันเอาไว้ โดยมีอคิราห์นั่งอยู่ข้าง ๆ เขามองหน้าซีดเซียวที่เปลือกตาถูกปิดลงราวอ่อนล้า สีหน้าของหล่อนไม่ค่อยสู้ดีนัก ยาดมถูกยื่นไปจดจ่ออยู่ตรงปลายจมูกเพื่อให้หล่อนสูดดมบรรเทาอาการ
"ทายาหน่อยนะพรีม เผื่ออาการเวียนหัวจะดีขึ้น"
หล่อนพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ยังนอนหลับตา เขาเอายาหม่องน้ำมาป้ายตรงขมับทั้งสองข้างแล้วนวดคลึงเบา ๆ ไออุ่นจากปลายนิ้วผสานฤทธิ์ยาซึมซาบไปทั่ว ซึมลึกไปถึงหัวใจ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ แล้วหล่อนจะทานทนไปได้อย่างไร จะทนไม่รักเขาได้ไหม ในเมื่อต้องใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาไปอีกตั้งหลายเดือน
หล่อนถึงได้อยากจบด้วยการหย่าก่อนจะถลำลึกไปมาก กว่านี้ ถ้าเขายอมหย่าหล่อนจะเอาลูกติดตัวไปด้วย จะปิดเรื่องที่หล่อนกับเขาร่วมกันทำไม่แพร่งพรายออกไปให้ใครรู้ แต่เขากลับไม่ยอมหย่าจนกว่าลูกของเขาจะคลอดออกมา แต่หล่อนไม่อยากเล่น
เกมต่อไปอีกแล้ว ถ้าถึงวันที่เกมจบลงหล่อนคงขาดใจตายเสียแน่ ๆ
ท่ามกลางความคิดหลากหลาย เสียงทุ้มนุ่มก็แทรกเข้ามาในโสตประสาท
"พอจะกินอะไรได้ไหม มื้อเช้าสำคัญ คุณไม่ได้ตัวคนเดียว ฉะนั้นจะอดมื้อใดมื้อหนึ่งไม่ได้ เพราะพวกเขาต้องการสารอาหารจากแม่ที่เพียงพอ"
เขาพูดจบหล่อนก็ทำหน้าเหม็นเบื่อ ส่ายหน้าไปมาราวเด็กกำลังถูกบังคับให้กินผัก
"พรีมกินอะไรไม่ลงค่ะ มันคลื่นไส้ พรีมคงลงไปทานมื้อเช้ากับทุกคนไม่ไหว คุณลงไปคนเดียวนะคะ ฝากขอโทษคุณพ่อของคุณด้วยที่ต้องเสียมารยาท"
"ไม่ลงไปก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงก็ต้องฝืนใจกิน เดี๋ยวผมให้คนเอาขึ้นมาส่งที่นี่ โอเคนะพรีม"ฃ
เสียงเขาเริ่มเข้ม หล่อนไม่อยากขัดใจจึงยอมแพ้
"ก็ได้ค่ะ คุณน่ะชอบบังคับพรีม"
"ก็เพราะผมเป็นห่วง..."
เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าเผลอหลุดปาก หรืออะไรก็แล้วแต่ การที่เขาชะงักไปหล่อนจึงลืมตามอง ก็เห็นว่าแววตาเข้มกำลังเบนความสนใจไปทางอื่นราวต้องการปิดซ่อนความรู้สึก และเขาก็ทำร้ายหัวใจที่กำลังพองโตด้วยการบีบมัน
"ผม...ผมแค่เป็นห่วงลูกของผม เพราะถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมาพวกเขาจะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ฉะนั้นรักษาเนื้อรักษา
ตัวให้ดี จนกว่าพวกเขาจะคลอดออกมา"
"ค่ะ"
หล่อนปิดเปลือกตาลงตามเดิม ไม่อยากมองหน้าเขาอีกต่อไปแล้ว ก่อนจะสัมผัสได้ถึงการลุกขึ้นยืนของเขา
"เอาข้าวต้มร้อน ๆ นะพรีม เดี๋ยวผมลงไปบอกแม่ครัวให้"
"ก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องใส่กระเทียมเจียวมานะคะ"
"อืม..."
ที่ต้องกำชับเพราะตอนนี้หล่อนแพ้กลิ่นของมันอย่างหนัก จากที่ก่อนหน้าหล่อนชอบทานเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับเหม็นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เสียงเปิดและปิดประตูดังขึ้น ทั่วทั้งห้องเงียบงันหลังจากเขาออกไป เมื่อจมอยู่กับตัวเอง พริมาก็เริ่มจะคิดถึงเรื่องเดิม ๆ อีกครั้ง หล่อนทาบฝ่ามือลงบนหน้าท้องที่ยังไม่นูนเด่นชัด รอบขอบตาร้อนผ่าว ได้แต่พร่ำโทษตัวเอง...ไม่น่าเลย หล่อนไม่น่ารับงานนี้ตั้งแต่แรก ไม่น่าพาตัวเองเข้ามาในชีวิตของเขา อยากหาทางออกแต่ออกไม่ได้ เริ่มรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เกินจะแบกรับไหว มันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกเสียแล้ว
ตรงมุมที่ใช้ทานอาหาร ซึ่งทุกคนในบ้านตื่นลงมาทานมื้อเช้ากันพร้อมหน้า เหลือก็เพียงแต่อคิราห์กับพริมา และการที่ อคิราห์เดินมาคนเดียว สายตาของอัทธ์ก็มองหาลูกสะใภ้ขึ้นมาทันที
"มากินข้าวด้วยกันสิตาคิน แล้วเมียแกล่ะ ไม่ลงมาเหรอ"
แววตาเข้มมองไปยังแม่เลี้ยงที่นั่งอยู่ใกล้กับบิดา ถัดไปเป็นอชิระและอณิมา น้องต่างแม่ของเขา เขาแค่นยิ้มไปให้พวกเขาอย่างเสียมิได้ ไม่อยากทำให้บิดาลำบากใจตั้งแต่เช้า
"พรีมแพ้ท้อง เวียนหัวลงมาไม่ไหวครับคุณพ่อ ป้านิ่มอยู่ไหน ผมอยากได้ข้าวต้มร้อน ๆ สักถ้วย"
ชายหนุ่มเดินไปเมียงมองมื้อเช้าแบบบุฟเฟต์ที่แม่ครัวเตรียมไว้ วันนี้เขาไม่เห็นมีข้าวต้ม และคงต้องสั่งแม่ครัวทำให้ใหม่
"แม่ครัวไปโรงพยาบาลแล้ว ให้หนูพรีมกินอย่างอื่นนอกจากข้าวต้มได้มั้ย"
"เธอกินอะไรไม่ได้หรอกครับคุณพ่อ"
อคิราห์เดินตรงไปยังครัว เขาคิดว่าคงจะต้องลงมือเองเมื่อแม่ครัวไม่อยู่ ในขณะเดียวกันนั้นอณิมาก็ลุกจากที่ของตน หล่อนเดินตามหลังพี่ชายคนโตที่หายเข้าไปในห้องครัว
ในห้องครัว อคิราห์กำลังมองหาหม้อใบเล็ก เขายืนงงอยู่ในครัวเพราะไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน ไม่ได้ทำอาหารทานเองมานาน เขาจึงต้องทบทวนความจำ กำลังคิดว่าแค่การต้มข้าวต้มสักถ้วยมันช่างยุ่งยากสิ้นดี พริมาจะรู้ไหมว่าเขาลงทุนลงมือด้วยตัวเองเช่นนี้