Friend With Benefits 3/2

1152 คำ
หลังแยกย้ายกับเพื่อนหนุ่มหล่อทั้งสี่คนที่คณะ ฉันก็มาเดินเตร็ดเตร่ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้มหาวิทยาลัย ไม่ใช่ว่าว่าง แต่จำเป็นต้องมา มาหาซื้อชุดสุภาพสำหรับใส่ไปกินข้าวกับผู้ใหญ่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพ่อแม่ของวินด์นั่นแหละ “อ้าว! มึงมาอยู่นี่ได้ไง” ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอธามที่ห้างฯ เพราะปกติมันเข้าแต่ร้านเหล้าไม่ก็ห้องสาวๆ ห้างเหิ่งไม่ยักเห็นมาเดิน “มึงมาทำไร?” “มาช่วยมึงเลือกชุด” “หา? มึงเนี่ยนะจะมาช่วยกูเลือกชุด นี่กูหูฝาดหรือเปล่าวะ” ถ้าเป็นน้องกริ๊ง เด็กไอ้ธามก็ว่าไปอย่าง แต่นี่เป็นฉันไง “แปลกตรงไหน” “ก็แปลกตรงที่เป็นมึงกับกูเนี่ยแหละ” “เพื่อนช่วยเพื่อน ไม่แปลกหรอก” นั่นสิ.. เพื่อนกันนี่นา ฉันก้มหน้าหลุบตาต่ำแล้วยิ้มขื่น คิดว่าทำใจเรื่องธามได้แล้วแท้ๆ แต่พอมันพูดย้ำว่าเราสองคนแค่เพื่อนกัน กลับทำให้ฉันเจ็บจุกไปทั้งใจ “งั้นเข้าไปในร้านกันเถอะ ร้านนี้ชุดสวย ราคาดีด้วย” เป็นอีกครั้งที่ต้องแกล้งทำเหมือนว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ข้างในเจ็บจนแทบทนไม่ไหว บางคำพูดคนพูดอาจคิดว่าไม่มีอะไร แต่คนฟังเจ็บไปทั้งใจจนอยากร้องไห้ออกมา ทว่าก็ทำได้เพียงยิ้ม.. ยิ้มให้คนทั้งโลกแล้วเก็บน้ำตาไว้ร้องไห้เงียบๆ กับตัวเอง “กูไปลองชุดก่อนนะ” ฉันบอกธามที่ยืนก้มหน้าพิมพ์แชตรัวๆ คงกำลังรัวนิ้วคุยกับน้องกริ๊งอยู่นั่นแหละ ฮึ! แล้วบอกว่าจะมาช่วยเลือกชุด “อือ” Tham Talk ผมมองตามเจ้าของแผ่นหลังบางที่เดินตรงดิ่งไปยังห้องลองเสื้อ ไม่อยากเชื่อเลยว่าตอนนี้ผมกำลังรู้สึกหน่วงเพราะรู้ว่าไอ้วินด์จะพาเฟย์ไปแนะนำให้พ่อแม่รู้จักในฐานะแฟน แฟนปลอมๆ ที่ไอ้วินด์มันอยากให้กลายเป็นตัวจริง ซึ่งในอนาคตวินด์อาจสมหวัง หากเฟย์เคลียร์ผมออกจากหัวใจได้ คงกลายเป็นมันที่ได้เข้าไปแทนที่ ให้ตายเถอะ! ทำไมผมถึงไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นกันนะ “อะไรกันนักกันหนาวะ” ผมที่กำลังอารมณ์คุกรุ่นก้มมองสมาร์ตโฟนที่ส่งเสียงแจ้งเตือนแชตรัวๆ ซึ่งมันควรเป็นแชตที่ทำให้ผมยิ้ม เป็นแชตที่ทำให้ผมมีความสุข แต่กลับไม่ แชตบ้าที่เด้งรัวๆ ทำให้ผมรำคาญจนอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ราคาแพงนี่ทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด น้องกริ๊งส่งข้อความมาตัดพ้อผมที่ผมเทนัดน้อง น้องถามผมว่าผมไปไหน ผมก็บอกน้องไปตามตรงว่าผมมาหาเพื่อน ซึ่งผมก็มาหาเพื่อนจริงๆ เพื่อนที่ควรมาเป็นอันดับสองรองจากน้องกริ๊ง แต่ผมกลับเลือกเทน้องกริ๊ง ผู้หญิงที่ผมเคยคิดจะคบด้วยเพื่อมาหาเพื่อน “ธาม ชุดนี้ได้ไหม กูสวยเปล่า” ผมกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง ผมนิ่งไปประมาณสามสิบวินาทีได้หลังจากได้เห็นเฟย์ในชุดเดรสสีชมพูเน้นเนินอกอวบของมัน “อือ ก็ได้อยู่” ความจริงคือเฟย์สวยมาก สวยจนทำให้ผมตะลึงเลยล่ะ ถ้าหากไอ้วินด์ได้เห็นเฟย์ในชุดนี้ก็คงไม่ต่างจากผม และคงยิ่งทำให้มันคลั่งเฟย์มากขึ้นไปอีก ผม ผมควรทำยังไงดี “ได้อยู่คือไม่ได้แหละ” เฟย์หน้ามุ่ย ทำแก้มป่องพองลมเหมือนปลาปักเป้า ให้ตายเถอะ! เฟย์น่ารักจนทำผมใจสั่น “ก็สวยดี แต่กูว่าชุดนี้ดีกว่า มึงเอาไปลองสิ” ผมหยิบชุดสีขาวที่อยู่ใกล้มือที่สุดส่งให้มัน ไม่ได้ดูแบบชุดด้วยซ้ำ ดูแค่ไซซ์ที่คิดว่าเฟย์น่าจะพอใส่ได้ “งั้นรอกูลองแป๊บ” ไม่นานเฟย์ก็ออกมาจากห้องลองชุด ซึ่งชุดที่ผมเลือกให้แบบส่งๆ ก็ยังทำให้มันสวยอยู่ดี แค่อาจจะหวานน้อยกว่าชุดสีชมพูตัวก่อนหน้านี้ที่เฟย์ใส่เท่านั้น “เป็นไง ชุดนี้พอได้ไหม” “ได้ กูว่าชุดนี้แหละเหมาะกับมึง” ถึงจะใส่แล้วสวย แต่ก็สวยน้อยกว่าชุดสีชมพูตัวแรกนิดนึง เท่านี้ก็พอแล้ว “แล้วชุดที่เหลือล่ะ กูเห็นมึงเลือกไปตั้งหลายชุด” “อันนี้ชุดใส่เล่นน่ะ คงไม่ต้องลองมาให้มึงดูหรอกมั้ง” “อ๋อ งั้นไปจ่ายเงินเลยไหม กูหิวข้าว ไปกินข้าวกัน” เฟย์เปลี่ยนชุด มันเอาชุดสีชมพูหวานเป็นน้ำเชื่อมนั่นส่งคืนให้พนักงาน แต่ผมมันมือไว คว้าชุดมาได้ก่อนที่พนักงานประจำร้านจะรับไป “เอาอีกตัวสิ เผื่อใส่ไปงานอื่น เดี๋ยวกูซื้อให้” “อย่ามาสายเปย์น่า กูไม่ใช่น้องกริ๊งซะหน่อย” “เอาน่า มึงค่อยเลี้ยงหนังกูคืน” ผมส่งเครดิตการ์ดให้พนักงาน “เอาชุดนี้ด้วยครับ” “เลี้ยงหนัง? นี่เราคุยกันตอนไหนว่าจะไปดูหนัง” “ก็ตอนนี้นี่แหละ ไปกินข้าว แล้วก็ไปดูหนังต่อ” เฟย์ทำหน้าไม่สบอารมณ์ “เอาน่า มึงกับกูไม่ได้ดูหนังด้วยกันนานแล้วนะ อีกอย่างตอนนี้ก็มีหนังเข้าใหม่ตั้งหลายเรื่อง ไปดูกับกูนะ” ผมมันอ้อนไม่เก่งเหมือนไอ้วินด์หรอก แต่ความหล่อก็พอจะสู้ได้อยู่ “งั้นชวนคนอื่นด้วย” เฟย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ทำท่าเหมือนจะส่งข้อความชวนคนอื่นอย่างที่ปากมันพูด “กูดูรอบหนังไว้แล้ว อีกแค่ชั่วโมงเดียวก็เริ่มฉาย พวกนั้นมาไม่ทันหรอก อีกอย่างมึงก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพวกมันมีธุระ ไม่ต้องชวนหรอก” ผมแย่งโทรศัพท์จากเฟย์มาไว้ในมือ มองหน้าจอที่เปิดแอปพลิเคชันไลน์ทิ้งไว้ เลยได้เห็นว่าแชตที่เฟย์ปักหมุดไว้ด้านบนสุดเป็นผม แต่ไม่ใช่แค่แชตเดียวที่เฟย์มันปักหมุด ยังมีแชตไอ้วินด์อีกคน.. ใจผมเจ็บแปลบขึ้นมา “ขอโทรศัพท์กูคืนด้วย” ผมวางโทรศัพท์ใส่มือเฟย์ มองหน้ามัน มันเองก็มองหน้าผม เราสองคนสบตากัน เฟย์ยิ้มให้ผม เป็นยิ้มที่ละลายหัวใจผมให้เหลวเป็นน้ำ “ไอ้ธาม มึงจะจ้องหน้ากูอีกนานไหม” “เออๆ แค่นี้จะโวยวายทำไม” เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเสียอาการกับเฟย์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม