เพื่อนพราวถาม เริ่มยิ้มออก หลังทำหน้าซังกะตายมาหลายอาทิตย์
“เปล่า ฉันกลัวโจรมันปล้นแก เพราะคิดว่าแกมีสตางค์”
ตันหยงก้มมองที่ข้อมือเพื่อนพราว กำไลคอลเลคชั่นนี้ติดตลาด มีราคาสูง หากมีโจรหน้ามืดเข้ามาจู่โจมเพื่อนพราว เพราะเครื่องประดับสองชิ้นนี้ มันไม่คุ้มกับความเสี่ยงนี่เลย
เพื่อนพราวลดสายตามองตาม “ฉันไม่แน่ใจว่าเจ้านี่เป็นของแท้เลยนะ”
ผู้ชายแต่งตัวธรรมดา แม้หน้าตาจะดี เธอไม่แน่ใจนักคู่เดตคืนเดียวของเธอจะมีฐานะ จนมอบของกำนัลราคาแพงให้ตนเอง
“คนต่างชาติเข้าให้ความสำคัญกับของมีลิขสิทธิ์มากเลยนะพราว” ตันหยงแย้ง ในขณะที่บ้านเราการละเมิดสิทธิ์คนอื่น แทบไม่มีคนสนใจ และไม่ค่อยมีใครเอาเรื่องจริงจัง เพราะการสืบกาหลักฐานค่อนข้างเสียเวลา กว่าคดีจบ เสียเวลาชีวิตจนน่าปวดหัว
เจ้าหน้าที่นำสืบก็แทบไม่ขยับ ถ้าคดีนั่นไม่เป็นข่าวดัง
พวกเขาอ้างงบประมาณที่มีแบบจำกัด ประชาชนเลยต้องก้มหน้าทน และจำใจรับความกังวลนั่นไว้เอง
ประเทศที่พัฒนาแล้ว ให้สิทธิ์กับประชาชนมากกว่า
เจ้าหน้าที่รัฐคือประชาชนที่มีหน้าที่ทำงานโดยรับเดือนจากภาษีที่ประชาชนจ่ายให้ เขาสำนึกในหน้าที่ เขาเป็นลูกจ้างของประชาชนทั้งประ แต่บ้านเรา หากมีหัวโขนตำแหน่งข้าราชการสวมไว้ เขาเป็นเจ้านาย ประชาชนเป็นทาส คนพวกนี้ก้มหัวให้คนที่มีฐานะร่ำรวย
เลยมีคำติดปากที่ประชาชนเห็นด้วย ‘ประเทศไทยคุกมีไว้ขังคนจน ถ้ามีเงิน รอดทุกราย’
“หยง ใช่ว่าทุกคนจะเป็นดีนี่”
เพื่อนพราวแย้ง แต่ให้ประเทศพัฒนาไปไกลแค่ไหน ก็ยังมีคนเลว หากินกับคนอื่น ของก็อปเลยมีวางขายเกลื่อนไปหมด เพื่อนพราวเลยไม่มั่นใจ ชายผู้นั้นอาจจะให้รางวัลกับเธอ แต่คงไม่ถึงขั้นทุ่มเท
เพราะเขาหายตัวไปไง
เธอไม่เจอหน้าเขาหลังผ่านคืนเร่าร้อนมาด้วยกัน
“ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้นัก ของแบรนด์ดังมันต้องให้คนรู้ดู”
เครื่องประดับราคาค่อนข้างสูง ต้องเป็นคนที่มีสตางค์เหลือเก็บ และชื่นชอบเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมจ่ายในราคาสูงแบบนี้ได้
ก็แค่กำไล จะแพงอะไรขนาดนั้น
“ฉันหิวแล้ว ไปหาข้าวต้มโต้รุ่งกินกันเถอะหยง” เพื่อนพราวถอนใจ
คงถึงเวลาที่เธอจะสลัดเรื่องแย่ๆ ในใจทิ้ง ชีวิตของเธอไม่ควรสะดุดเพราะความเผลอไผลของตัวเอง เธอถูกมนต์เสน่ห์ของผู้ชายอิตาเลี่ยนสะกดไว้ แต่มนต์นั่นควรคลายออก ทันทีที่จบความสัมพันธ์ แบบOne night stand ชายผู้นั้นบอกแบบนั้นตอนที่เธอและเขาดื่มด่ำความรู้สึกร้อนระอุที่เกิดขึ้นพร้อมกันบนเตียง
เสียงกระซิบของเขา พร่ำบอกแบบนั้น
ความสัมพันธ์ที่ไม่ยึดติด ขอแค่ความสนุกเป็นครั้งคราว
และเธอก็ดันทะลึ่งตอบรับ ความสัมพันธ์ระยะสั้นนั่นเสียด้วย
“โอ้ย ฉันอยากกินคะน้าปลาเค็ม แล้วก็เต้าหู้ผัดพริกเกลือ เอาผัดกุ่ยช่ายกับตับด้วยนะ” ตันหยงตัดโหมดขึงขังมาเป็นสาวน้อยหิวจนตาลาย เพื่อนพราวอมยิ้ม อยากรู้เหมือนกันตันหยงเคยเศร้าบ้างไหม ทุกนาทีของตันหยงคือความสดใส ที่ทำให้คนใกล้ตัวพลอยสดใสไปด้วย
“ถ้าเราสักับข้าวเยอะ แต่กินข้าวต้มแค่สองถ้วย ร้านเขาจะบ่นเราไหมยัยพราว”
พอถึงร้านข้าวต้มที่คนค่อนข้างบางตา เพราะยังไม่ดึกนัก ตันหยงเอียงตัวมากระซิบ
“เขาจะว่าอะไรละหยง เราจ่ายสตางค์ ไม่ได้มาขอกินฟรี”
เพื่อนพราวตอบพลางมองหาที่นั่ง ที่ห่างจุดที่พ่อครัวทำอาหารสักหน่อย เธอรำคาญเสียงเคาะกระทะ แม้มันจะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรำคาญ
สั่งอาหารไม่ไปถึงห้านาที พนักงานเสิร์ฟก็ยกถ้วยข้าวต้มควันกรุ่นมาเสิร์ฟ พร้อมกับน้ำชาอุ่นๆ
“ขอต้มซุปตีนไก่ด้วยนะ เอารสแซ่บๆ เลย” ตันหยงสั่งเพิ่ม
ร้านข้าวต้มโต้รุ่งจะมีซิกเนเจอร์เหมือนกันเกือบทุกร้าน คือซุปตีนไก่เปื่อยๆ ที่ถูกวัฒนธรรมคนไทยครอบงำ จากซุปร้อนๆ กินคล่องคอ พอเติมมะนาวน้ำปลาและพริกทุบ กลายเป็นต้นซุปที่รสจัดน่าชวนกินมากขึ้น
สิบนาทีต่อมาอาหารที่สั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟ ตันหยงแทบไม่พูดไม่จา เจริญอาหารจนหยุดพูดได้สนิท
“โอ้ย! เหมือนท้องจะแตก” ตันหยงลูกท้องน้อยแล้วก็บ่นพึมพำ
“ท้องแตกดีกว่ากับข้าวเหลือนะ” เพื่อนพราวพูดลอยๆ ยกแก้วชาอุ่นๆ ขึ้นจิบล้างปาก
“เสียดายของเหรอยะ”
“เปล่า อร่อย” เธอตอบสั้นๆ แล้วก็ยิ้ม
“ครั้งหน้าแกพาฉันมากินร้านนี้อีกนะ กับข้าวถูกปากต้องมาบ่อยๆ”
“กินมื้อดึกมันอ้วนไม่ใช่ไง” เพื่อนพราวท้วง
“ฉันไม่กลัวอ้วน ฉันกลัวอด” ตันหยงตอบเสียงแข็ง
เพื่อนพราวไม่ได้โต้กลับ เธอโบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟเพื่อเคลียร์ค่าอาหาร พอเด็กเสิร์ฟนำบิลรายการอาหารและยอดที่ต้องชำระมายื่นให้ ตันหยงฉวยมาดู “ค่าเหล้าที่จ่ายวันนี้ มากินข้าวต้มร้านนี้ได้เป็นเดือนเลยนะ” ร้านข้างทางอาหารอร่อยและราคาไม่แรง ถูกจนบางครั้งอยากให้สตางค์เพิ่ม เพื่อช่วยให้คนทำมีกำลังเปิดร้านขายของนานๆ
ทุกวันนี้เศรษฐกิจแย่ ราคาสินค้าพุ่งสูง
แต่ค่าแรงกลับเท่าเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะขยับขึ้น
มันสวนทางกันจนประชาชนต้องประหยัด การจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นเลยลดน้อยลง สินค้าฟุ่มเฟือยกลายเป็นรายการแรกๆ ที่ถูกตัดทิ้ง ร้านขายของเบ็ดเตร็จที่เคยมีให้เห็นไปทั่ว เริ่มลดน้อยลง การขายออนไลน์ กับธุรกิจเดลิเวอร์รี่ทำให้พ่อค้า แม่ค้ารุ่นเก่าถูกแย่งตลาด ยอดขายตก หากปรับตัวทันก็ยังฝืนดันทุรังไปได้อีกนิด แต่หากตามโลกไม่ทัน อนาคตคงไม่แคล้วต้องเซ้งกิจการ
นายทุนเงินหนาครอบครองตลาดเกินครึ่ง คนหาเช้ากินค่ำก็ต้องก้มหน้าทน
เมื่อกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่ของตัวเองไม่สำเร็จ รัฐบาลห่วยๆ แก้ปัญหาไม่ถูกจุด ผลสุดท้าย ประชาชนคือผู้รับกรรม ทั้งๆ ที่ก้มหน้าก้มตาทำงาน หาเงินเสียภาษีไม่เคยปริปากบ่นสักครั้งเดียว
ภาษีจำนวนมหาศาลถูกใช้แบบไม่เกิดประโยชน์
หลายโครงการที่รัฐบาลเสียเปรียบแท้ๆ แต่ก็ยังฝืนดันทุรัง
บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ คนเหล่านี้เสนอตัวเพื่อมาช่วย หรือตั้งใจมากอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองกันแน่
รายได้ต่อครัวเรือนลดลง แต่ค่าครองชีพกลับเพิ่มสูงขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย ผลประโยชน์ทับซ้อนในหน่วยงานรัฐ แต่กลับโยนภาระให้ประชาชนแบกรับไว้
ความอดทนที่มีขีดจำกัดของประชาชนตาดำ กำลังจะหมดลง
คำสาปแช่งเหล่านั้นคงเห็นผลในไม่ช้า และเมื่อไหร่ที่ความอดทนหมดลง การเปลี่ยนแปลงคงเกิดขึ้น พวกเขาแค่หวังให้ตนเองและครอบครัวอยู่ดีกินดี มีสวัสดิการดีๆ ไม่อยากให้คนชนชั้นปกครองใช้อภิสิทธิ์เบียดเบียนตัวเอง
บทที่6.เรื่องบังเอิญที่ไม่มีอยู่จริง
หลังร่างแบบลงสี จนแน่ใจว่าพอแค่นี้จริงๆ สำหรับดีไซน์ใหม่ที่จะส่งให้ดิมอร์พิจารณา เป็นการใช้ผ้าไทยผสมกับผ้าต่างประเทศ สำหรับชุดเดรสที่เหมาะกับทุกงาน ไม่ว่าจะงานเลี้ยงเล็กๆ หรืองานที่มีระดับขึ้นมาอีกหน่อย
แบบผ้าไทยที่ถูกใช้ครั้งนี้ เพื่อนพราวศึกษามากว่าสองปี
เธอคิดว่าต้นสังกัดดิมอร์น่าจะตอบรับ มันเป็นความท้าทายแบบใหม่ ที่ยังไม่มีที่ไหนริเริ่ม
ธรรมดาแล้วการใช้ผ้าครามเริ่มมีคนในประเทศสนใจ ติดตรงที่การผลิตยุ่งยากและอาจจะมีราคาแพงไปสักนิดกับรายได้ของประชากรในยุคปัจจุบัน แต่หากเป็นต่างประเทศ ที่มีรายได้และกำลังซื้อมากกว่า การพัฒนารูปแบบชุดให้เหมาะสม งานชิ้นนี้ก็น่าจะขายได้ เฉพาะตัวผ้าก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
พอผสมกับผ้าไหมอิตาลี ปรับให้เป็นชุดที่ออกงานได้ทุกโอกาส
ผลงานชิ้นนี้เพื่อนพราวคิดว่าเป็นชิ้นโบแดงของตัวเองเลย
“สวยดีนะ พราวคิดได้ยังเหอะ” เพียงตาขยับขาแว่นก้มมองใกล้ๆ
“เห็นผ่านตาที่ไหนสักที่ค่ะพี่ตา แต่นั่นเขาใช้ผ้าไหมทอมือ พี่ตาก็รู้ พราวศึกษาผ้าครามมาหลายปี พราวคิดว่าผ้าชนิดนี้ขายได้ค่ะ”
“พี่เชื่อความคิดพราวนะ เดี๋ยวพี่เสนอให้ผู้ใหญ่พิจารณาเอง”
“ขอบคุณค่ะพี่”
“แบบนี่ส่งให้ดิมอร์ใช่มั้ย?” เพียงตาย้อนถาม
“ค่ะพี่ตา”
“พอดีเลย คารีน่าอยู่ที่นี่ด้วย หล่อนมาถึงเมื่อเช้านี่เอง ไม่ได้มาทำงานหรอก มาเที่ยวน่ะ” ช่วงปลายปี ในหลายที่เริ่มหยุดเพื่อรอฉลองวันคริสต์มาส ดิมอร์ก็เช่นกัน ผู้บริหารหลายคนเดินทางออกนอกประเทศ และคารีน่าเลือกประเทศไทยสำหรับพักผ่อนในวันหยุดยาว