แอนโทนี่ปัดมือหล่อนออก ฉวยแก้วไวน์มากระดกดื่ม “กระเถิบออกไปสิ ร้อน อึดอัด!!” เสียงตวาดกับกริยาที่เปลี่ยนไป ลอร่าขมวดคิ้ว จ้องหน้าแอนโทนี่ตาขวาง
“คุณคิดจะเขี่ยฉันทิ้งหรือไงคะ คุณไม่เคยทำกริยาแบบนี้ใส่ฉันนะแอนโทนี่”
“ลอร่า เราสองคนเป็นอะไรกันหะ!!” แอนโทนี่ย้อนถาม
“ฉัน...”
แอนโทนี่เยียดยิ้ม “อย่ามาอ้างว่าเราสนิทกันเลยนะ ผมมันแค่ไอ้กระจอก ในขณะที่คุณเป็นลูกสาวเจอราโดมาเฟียเกาะชิชิลี”
ลอร่ารีบปรับอารมณ์ฉุนเฉียวลง “ใครทำให้คุณอารมณ์เสียคะ?” แล้วก็ฉวยขวดไวน์มารินใส่แก้วที่ว่างเปล่าตรงหน้า พร้อมกับเสือกแก้วไวน์ที่ถูกรินไวน์ลงไปให้แอนโทนี่
“ผมเคยขอให้คุณช่วย พอจำได้ไหมครับ” และแอนโทนี่ก็ฉลาดเป็นกรด เขาเสแสร้งเพื่อกระตุ้นลอร่า
“เรื่องนั้นฉันช่วยคุณไม่ได้หรอกค่ะ” แอนโทนี่ชะงัก เขาถอนใจเอนหลังพิงพนักโซฟาแรงๆ
“ทำไมละ?” เขาย้อนถามหลังปรับอารมณ์กรุ่นๆ ให้คงที่
“พี่ชายฉันหรือพ่อ ไม่มีใครสนใจร่วมงานกับคุณ พวกเขากำลังคิดจะเลิก!” แอนโทนี่ขมวดคิ้ว
“เลิก เลิกอะไรลอร่า”
ลอร่ากดยิ้มมุมปาก “ก็เลิกธุรกิจผิดกฎหมายที่ทำมาทั้งชีวิตน่ะสิคะ นึกอยากเป็นคนดีอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้”
แอนโทนี่ตาลุกวาบ ถึงการค้าของเถื่อนจะได้เงินไม่เท่ากับการขายยาเสพติด แต่หากเขาจับธุรกิจนั่นได้ เขาก็ไม่ต้องก้มหัวให้เปาโล เขามีพื้นฐานและรู้แหล่งค้ายาอยู่แล้ว พอจับธุรกิจนั่นอยู่ตัว ทำไปสักพักค่อยกอบโกยเรื่องค้ายา เขามีฐานลูกค้าอยู่ในมือจะกลัวอะไร
“ที่รักผมซื้อกำไลนี่มา ไม่รู้คุณชอบมั้ยครับ” แอนโทนี่วางกล่องกำไล Hermesที่เขาได้มาฟรีจากเปาโล พลางถามลอร่าด้วยเสียงที่ลดความแข็งกร้าวลง
ลูกสาวมาเฟียไหวไหล่เบ้ปาก “ก็สวยดีค่ะ แต่มันถูกไป คุณจะเอาไปให้ใครก็ตามสบายเลยค่ะ” เครื่องประดับของเธอมีมากมายใส่ไม่หมด และหากแอนโทนี่ต้องการเอาใจเธอ เขาควรรู้เทรสเธอด้วย
“ความจริงผมมีของขวัญชิ้นใหญ่อยู่บนห้อง หากคุณสนใจอยากดู สะกิดก่อนผมจะหลับนะคนสวย ผมเริ่มเมานิดๆ แล้วนะ” และแอนโทนี่ก็รู้นิสัยของลอร่าดี ผู้หญิงคนนี้ไม่ตาวาวกับเครื่องประดับราคาย่อมเยา หากอยากให้ลอร่าทุ่มสุดตัว ของชิ้นนั้นต้องยิ่งใหญ่และราคาต้องแพง
“อย่ามายั่วฉันเลยค่ะ ฉันไม่สนใจของขวัญชิ้นเล็กๆ ของคุณหรอก”
“แน่ใจนะ คอลเล็กชันนี้ เหมือนจะเพิ่งเข้ามาเสียด้วย” แอนโทนี่หยอดไปอีกหน่อย
“คุณอยากเซอร์ไพรส์ฉัน เลยลองใจด้วยกำไลกระจอกๆ นี่เหรอคะ?”
“ครับ” แอนโทนี่ตอบพร้อมกับยิ้มหวาน
“ต้องการอะไรจากฉันคะ ครั้งนี้” คนที่คบกันเพราะผลประโยชน์เลยพอจะมองออก แอนโทนี่ไม่ยอมเสียเปล่า เขาต้องได้บางอย่างกลับคืนไป
“หากพี่ชายกับพ่อคุณอยากเลิกทำธุรกิจมืดนั่น ผมขอเสนอตัว” คนที่ยอมทิ้งงานที่สร้างรายได้มหาศาลแบบนั้นไม่บ้า ก็รวยจนขี้เกียจขวนขวาย และเจอราโดกับลอแลนโซ่น่าจะเพราะอย่างหลัง กาเซียโน่ครองธุรกิจค้าของเถื่อนมาเกือบร้อยปี สมบัติตระกูลนี้คงมีไม่น้อย หากยอมมองข้ามข้อเสียของลอร่าไปบ้าง การได้ครอบครองหล่อนแบบตายตัว มันก็ไม่เลวนัก สำหรับคนที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนแบบเขา
แอนโทนี่ เลย์
“ต้องรอจังหวะสักนิดค่ะ ฉันจะคอยบอกความคืบหน้าให้คุณรู้ ระหว่างนี้ เราควรขึ้นไปดูของขวัญสุดเซอร์ไพรส์นั่นกันก่อนเถอะค่ะ นะคะ”
“ได้เลยคนสวย สำหรับผม อะไรที่ดีกับคุณ ผมก็อยากหามาให้ เราสองคนใช่คนอื่นคนไกลนี่นา”
แอนโทนี่ประคองลอร่าเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง บนห้องนอนที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นสนามรัก ที่หญิงชายใช้ประทะกัน เสียงครางที่ดังลอดออกมา บ่งบอกความสุขที่ล้นทะลักของเขาทั้งคู่ เป็นเกมที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ เพราะกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ถ้ามีใครสักคนเพลี่ยงพล้ำ อาจจะเป็นแอนโทนี่ เนื่องจากลอร่าฝึกประสบการณ์ระหว่างหญิงชาย ตั้งแต่ยังไม่ทันได้แตกเนื้อสาว หล่อนเป็นเด็กใจแตกที่แอบชวนการ์ดของเจอราโดเล่นจ้ำจี้ และเป็นสิ่งเดียวที่ลอร่าชอบ เพราะมันทำให้เธอหายเบื่อ ระหว่างที่ถูกปิดหู ปิดตาอยู่ในคฤหาสน์กาเซียโน่
มาเฟียเฒ่าประคบประหงมบุตรสาวเหมือนการดูแลจานกระเบื้องเนื้อดี ที่ไหนได้ ลับหลังเจอราโดและลอแลนโซ่ ลอร่าเละเทะ จนแม้กระทั่งยกให้เป็นภรรยาของเดนีส เขายังกล้าปฏิเสธ ลอร่าเลยผูกใจเจ็บ หากเธอมีโอกาสแก้หน้าตัวเอง เธอไม่รอช้าที่จะทำ
เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้าแหย็มกับชายผู้นั้น
แอนโทนี่อาจจะเป็นอีกคนที่กล้า หากเขามีทั้งเงินและอำนาจ
อนาคตฝันที่เธอตั้งตารออาจจะเป็นจริง
หากได้ทำแบบนั้น อยากรู้เหมือนกัน เดนีสยังจะเชิดหน้าอยู่ได้ไหม
แอนโทนี่ถอนใจแรงๆ มองตามไฟท้ายรถยนต์ของลอร่าจนรถยนต์คันนั้นหายไปจากสายตา ท่ามกลางรถยนต์ที่วิ่งเต็มท้องถนน
“กูเบื่ออีนั่นแทบกระอัก” เสียงบ่นพึมพำทำให้ลูกน้องคนสนิทมองหน้ากันด้วยแววตาเต็มไปด้วยคำถาม “พวกมึงสงสัยสินะ เบื่อทำไมไม่เขี่ยทิ้งไป คนเรานะโว้ย หากคิดทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง อะไรที่ทนไม่ไว้ให้เก็บไว้ รอโอกาสที่จะเอาคืน ผู้หญิงคนนั้นมีประโยชน์กับเรา วันหน้าหากกูผงาดขึ้นมาแทนกาเซียโน่ ลอร่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้กูไม่ต้องปะทะกับเจอราโดกับไอ้ลอแลนโซ่”
แอนโทนี่อธิบาย การที่เขารั้งลอร่าไว้ไม่ใช่เพราะพิศวาส แค่ผู้หญิงคนนั้นยังมีประโยชน์ ทิ้งขว้างตอนนี้ อนาคตคงเสียดายแย่
รอให้สมหวังก่อน การเขี่ยลอร่าไม่น่าใช่เรื่องยาก
ข่าวฉาวๆ ของหล่อน เขาสะสมเป็นงานอดิเรก วันไหนที่ต้องใช้ขึ้นมาจริงๆ ลอร่าคงแทบฆ่าตัวตาย
บทที่5.ปล่อยวาง
เสียงถอนใจดังเฮือกๆ เกิดขึ้นบ่อยจนตันหยงต้องหันมาจ้องหน้าเพื่อนพราวตรงๆ “ยัยพราวแกเป็นอะไรไปอีกละ?” ทั้งที่เสียงเพลงดังอึกทึกขนาดนี้ เพื่อนของเธอยังมีหน้าซังกะตาย ดนตรีไม่ได้ช่วยให้เพื่อนพราวครึกครื้นขึ้นได้เลย
“ฉันไม่อยากมา แกรลากฉันมาเองนะ”
“แกหน้าซึมกะทือแบบนี้ ฉันปล่อยให้แกอยู่คนเดียวได้ที่ไหนละ” ตันหยงบ่นอุบ
“ฉันแค่เครียดเรื่องงาน” เพื่อนพราวแก้ตัวแบบขอไปที
“อีกนานกว่าจะส่งแบบ แกทำใจร่มๆ เดี๋ยวสมองก็โล่งเองแหละ” ตันหยงปลอบใจ
“สมองฉันมันโล่ง ฉันควรออกไปหาแรงบันดาลใจ ไม่ใช่มาฟังใครไม่รู้แหกปากใส่ แกชอบเข้าไปได้ไงหะ ดนตรีกระแทกๆ แบบนี้น่ะ” เพื่อนพราวขอบ่น การนั่งท่ามกลางควันหนาทึบที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ แถมยังทำลายปอดด้วยการสูดสารนิโคติน แบบนี้มีความสุขตรงไหน
“ความชอบของแต่ละคนเหมือนกันที่ไหนละ หากชอบแบบเดียวกันทั้งหมด โลกนี้คงยุ่งตาย” ตันหยงลอยหน้าตอบ สุภาพสตรีภาพลักษณ์เรียบร้อยอย่างตนเองชอบอะไรที่ท้าทาย ผิดกับเพื่อนพราวที่ดูเปรี้ยวเข็ดฟัน กลับชอบอะไรที่เรียบง่าย
“ฉันไปดีกว่า ส่วนแกจะอยู่สนุกต่อ ก็ตามสบายเลยนะ”
เพื่อนพราวลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินออกไปด้านนอก
“ฉันไปด้วย ช่วงนี้แกไม่ควรอยู่คนเดียว” ตันหยงฉวยกระเป๋า เดินตามมาติดๆ
“แกไม่ต้องห่วงฉันหรอกหยง” เพื่อนพราวกระซิบบอก เธอไม่อยากให้ความไม่สบายใจของเธอ ทำลายความสุขของตันหยง
“ฉันไม่ห่วงแกไม่ได้สิ ไปเถอะ แกจะไปที่ไหน ฉันพร้อมจะไปด้วย” ตันหยงยิ้มให้ เดินมาคล้องไหล่ พร้อมกับรั้งเพื่อนพราวให้เดิน
“ฉันโตแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง” เพื่อนพราวรู้สึกอุ่นวาบในอก
“เพราะโตแล้วไง แกเลยน่าเป็นห่วง คนเราน่ะยัยพราว เสียใจได้ แต่อย่านาน คิดถึงตัวเองให้มากๆ พอผ่านวันนี้ไป วันหน้าแกจะขำกับสิ่งที่ทำ”
ถึงตันหยงจะโตมาในครอบครัวที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยร้าวใดใดเลย แต่เธอก็รู้จักโลก ค่อนข้างเป็นคนแข็งแกร่ง มีอารมณ์ดีทุกๆ วัน เป็นคนมองโลกในแง่บวกมากๆ ใครก็ตามที่อยู่ใกล้ จะพลอยรู้สึกดีไปด้วย และบางครั้งก็รั่ว จนคาดไม่ถึง
“แกกลัวฉันถูกฉุดหรือไงยะ?”