“สาธุ ขอให้คุณคารีน่าชอบทีเถอะ” เพื่อนพราวยกมือพนมสูงกว่าศรีษะ
“พี่คิดว่าหล่อนน่าจะชอบนะ” เพียงตาออกความเห็น
แบบชุดครั้งนี้เก๋และดูมีอะไรมากกว่าแค่ชุดเดรสสวยๆ
“สาธุ!” เพื่อนพราวยกมือท่วมหัว
เพียงตาหัวเราะ พร้อมกับย้ำ “พี่เอาแบบนี้ไปเลยนะ มีไฟล์ต้นฉบับแล้วใช่มั้ย?”
“มีแล้วค่ะพี่”
“ดี ส่งเข้าmailพี่เลยนะ เผื่อต้องใช้” เพียงตาขยิบตาให้ หากคารีน่าเห็นด้วย เธอจะได้ส่งงานให้ทางดิมอร์เลย จากนั่นก็เริ่มวางแผนหาตลาดสำหรับการผลิตผ้า เพื่อส่งออก คนท้องที่จะได้ลืมตาอ้าปากสักที เมื่อต่างชาติชอบผ้าที่มีเอกลักษณ์ มากกว่าผ้าพื้นๆ ทั่วไป
“งานเสร็จแล้วเหรอยัยพราว” ตันหยงเดินเข้ามาหา
“รอฟังผล หากผ่านจะได้เลิกกลุ้มสักที” เพื่อนพราวตอบ พร้อมกับเอนหลังหลุบเปลือกตาลง งานชิ้นนี้เธอใช้พลังงานมากกว่าทุกงาน เป็นเพราะสมองของเธอทำงานช้า ทุกครั้งที่เผลอมักจะเหม่อเป็นประจำ
“กาแฟสักแก้วมั้ย เดี๋ยวฉันชงเผื่อ” ตันหยงกระซิบถาม หลังเพียงตาเดินออกไปแล้ว
“ไม่ ฉันอยากินน้ำหวานๆ หน่อย ฉันจะลงไปที่ซุปเปอร์ แกละ จะเอาอะไรไหม?” เพื่อนพราวส่ายหน้า ตอบเสียงขึงขัง เธออยากสูดอากาศบริสุทธิ์และยืดเส้นสักหน่อย แทนการอุออู้อยู่ในห้องทำงานต่อ
“ไม่ ขอบคุณ ฉันกินกาแฟดีกว่าตาจะได้สว่าง ว่าแต่ แกไม่รอฟังผลจากพี่เพียงก่อนเหรอ”
ตันหยงถาม เพียงตาเพิ่งหอบแฟ้มต้นฉบับเข้าไปเสนอให้กับตัวแทนดิมอร์ดู ผลยังไม่แน่ใจนัก หากผ่านก็ดี แต่ไม่ผ่านคงต้องแก้อีกยาวเลย
“ขี้เกียจรอ ไม่ผ่านก็แค่แก้ใหม่”
เพื่อนพราวตอบพร้อมกับยิ้ม เธอฉวยกระเป๋าสตางค์เดินหน้าตั้งออกไป
ตันหยงไหวไหล่ เดินเลยเข้าไปด้านหลังที่มีโต๊ะเล็กๆ วางกาน้ำร้อนและกล่องใส่กาแฟซอง เธอชงกาแฟมานั่งหน้ามุ่ยหน้าคอมพิวเตอร์ ตอนที่กำลังจะเคาะแป้นเพื่อพิมรายละเอียดเกี่ยวกับงาน และจัดการใส่รูปในเอกสาร เตรียมที่จะเสนอให้เพียงตา
เสียงฝีเท้าที่ย่ำลงบนพื้นถี่และค่อนข้างดัง
ดึงความสนใจจากตันหยงทั้งหมด “หยง ยัยพราวละ”
เพียงตาถาม เสียงผสมเสียงหอบ
“ลงไปซุปเปอร์ค่ะ ยัยพราวน้ำตาลตก” พอร่างกายขาดความหวาน อาการตาขวางก็เริ่มมา
“แหม ไม่อยู่รอ งานชิ้นนั้นของยัยพราวผ่านนะ มีสามในสี่คนเห็นด้วย บอกยัยพราวเช็กพลาสสปอร์ตด้วยละ เผื่อได้บินเร็วๆ นี้”
ตันหยงเกือบจะกรี๊ด เพื่อนพราวทุ่มกำลังเพื่องานนี้หลายเดือน เวลาทั้งหมดคือการรังสรรค์ผลงานชั้นเยี่ยม และเมื่อมีคนเห็นสิ่งที่เพื่อนพราวต้องการเสนอ ตันหยงก็อดดีใจด้วยไม่ได้
เป็นไปตามที่เพียงตาคาดคะเน
ดิมอร์ต้องการให้เพื่อนพราว ทำงานร่วมกับดีไซน์เนอร์ของเขา
กำหนดเดินทางกระชั้นจนแม้แต่เพียงตายังแอบเสียดาย เธอติดธุระ และไม่สามารถร่วมเดินทางกับเพื่อนพราวครั้งนี้ได้ ส้มเลยหล่นที่ตันหยง ผู้ช่วยและเพื่อนสนิทของเพื่อนพราว
“ยัยพราว พี่เพียงให้ฉันบินไปกับแกครั้งนี้ ฉันตื่นเต้นจนหัวใจจะวาย”
ตันหยงพูดเสียงแหลม ท่าทางดีใจจนปิดอาการไม่มิด
“ฉันดีใจด้วย แกน่าจะได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย ที่นั่นมีแต่คนเก่งๆ”
“เรื่องนั้นน่ะเรื่องรอง ที่ฉันดีใจ เพราะฉันจะได้สัมผัสผู้ชายอิตาเลี่ยนแบบใกล้ๆ” ตันหยงทำท่าทางเคลิ้มฝัน
“ผู้ชายที่นี่ หรือผู้ชายที่นั้น ไม่ต่างกันหรอกหยง” เพื่อนพราวอยากเตือน แต่ท่าทางตันหยงจะไม่ใส่ใจ คงต้องให้ตันหยงได้ทำความรู้จักกับผู้ชายอิตาเลี่ยนเอง ไม่อย่างนั้นตันหยงจะมีคำค้านตลอด
ประสบการณ์เมื่อครึ่งปีก่อน ทำให้ความรู้สึกพิเศษที่เพิ่งเกิดขึ้น ลดลงไปเกินครึ่ง ในความคิดของเพื่อนพราว ผู้ชายไม่ว่าประเทศไหน ส่วนใหญ่เห็นแก่ตัว ผู้ชายเป็นเพศที่มีความแข็งแรง แต่ความอดทนต่ำแทบทุกคน
ผู้หญิงเสียอีกที่มีความอดทนมากกว่า
ไม่แปลกที่ยุคปัจจุบัน ผู้หญิงจะประสบความสำเร็จ มากกว่าผู้ชายหลายร้อยเท่า
“เย็นนี้แกว่างไหมพราว แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
ยังไม่ทันได้ตอบ ตันหยงก็สรุปให้หมดแล้ว เพื่อนพราวส่ายหน้า ความจุ้นจ้านของตันหยงบางทีก็ทำให้เธอหายเหงา ตอนที่เธอซึมหลังกลับมาจากอิตาลี ก็ได้ตันหยงนี่แหละที่เตือนสติ เธอผิดหวังได้ แต่ไม่ควรเก็บไว้นาน ความหม่นหมองนั่นทำร้ายเธอ โดยที่คนทำให้เธอเศร้า ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
เธอเสียใจได้ แต่ก็ต้องรักตัวเองด้วย
ความเศร้าบั่นทอนกำลังใจของเธอ ดังนั้นเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้น ควรทิ้งไป และเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม
บทที่7.ถนนเส้นนี้มีความหลัง
ไม่คิดเหมือนกันว่าตนเองจะได้กลับมาเยือนเกาะชิชิลีอีกครั้ง เพื่อนพราวมองไปรอบๆ ความหลังย้อนกลับมาให้จำเป็นระลอก ถนนเส้นนี้ครั้งหนึ่งเธอเคยมา และความหลังนั่น ยังติดค้างอยู่ในใจ แม้เวลาจะผ่านไปเกือบครึ่งปี
“ที่นี่อากาศดีจังเลยนะแก” ตันหยงกระดี๋กระด๋าเป็นพิเศษ
คงเพราะเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวได้มีโอกาสมาเยือนอิตาลี
“เบาหน่อยเถอะ ฉันอายเขา!!” เพื่อนพราวกระซิบปราม หนุ่มอิตาเลี่ยนหลายคนเริ่มหันมาสนใจ ตันหยงไหวไหล่ตอบเสียงระระริกระรี้
“เบาทำไมยะ ฉันอยากเป็นจุดสนใจ เผื่อบางทีจะมีหนุ่มอิตาเลี่ยนมาสะดุดรัก ฉันมาเยืนอเกาะชิชิลีทั้งที ไม่ถึงเกาะชิชิลี ฉันจะมาให้เสียเที่ยวทำไมยะ”
เพื่อนพราวโครงศีรษะ เดินนำตันหยงไปที่โรงแรม ดิมอร์จัดการหาที่พักไว้ให้ สองอาทิตย์นี้ จะเป็นการร่วมงานกับแบรนด์ดัง หลังเซ็นต์สัญญาไปเมื่อต้นเดือนก่อน การทำงานของบริษัทต่างชาติ มีระบบและกำหนดชัดเจนมาก
“พูดมาก จะไปไม่ไป เดี๋ยวทิ้งให้หลงทางเสียเลยนี่” เพื่อนพราวขู่ แล้วก็แสร้งเดินจ้ำอ้าว
“รอด้วยสิพราว แกจะรีบไปไหน วันนี้เขาให้พักผ่อนก่อนนะ” เสียงตันหยงยังเรียกสายตาได้เหมือนเดิม เพื่อนพราวถอนใจ พยายามโฟกัสสายตาแค่ประตูหน้าโรงแรมที่ตนเองต้องเข้าพัก เธอไม่อยากมองไปทางไหนเลย ความทรงจำนั่นทำให้เธอรู้สึกเศร้า
“ที่นี่ดีจังเลยนะพราว มองไปทางไหนก็ใจเต้น” ตันหยงเดินมากระซิบข้างหู และก็หันกลับไปหลิ่วตาให้หนุ่มต่างชาติ
“ฉันจะฟ้องพี่ตา” เพียงตาคือหัวหน้าที่บังเอิญติดธุระ เลยยกผลประโยชน์นั่นให้กับตันหยง
“พราว แกไม่ใช่คนแบบนั้นฉันรู้” ตันหยงผวาเข้ามาใกล้ รีบลดท่าทางก๋ากั่น และพูดกับเพื่อนพราวด้วยเสียงที่อ่อนลง
“ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น แต่หากทำแล้วลดความกระดี๋กระด๋าของแกได้ ฉันก็อยากทำนะ” เพื่อนพราวหันนมาพูดด้วย หลังเช็กอินเข้าที่พักเรียบร้อย เธอโบกการ์ดเปิดประตูในมือ ขณะเดินนำหน้าเพื่อน
“หากแกทำแบบนั้นจริงๆ แก็กำลังทำให้ฉันพลาดจากการเจอเนื้อคู่นะพราว” ตันหยงเถียงเสียงออดแอด รีบลากกระเป๋าเดินทางตามเพื่อนพราวไปติดๆ
“ฉันขอเตือนในฐานะที่ฉันเคยมาเกาะชิชิลีเป็นครั้งที่สองนะหยง ผู้ชายที่นี่รักอิสระมาก และหากแกทะเล่อทะล่าไม่ดูตาม้าตาเรือ แกอาจเจอตอ”
“ตออะไร ถ้าตอใหญ่ฉันก็ไม่กลัวหรอกนะ” ตันหยงพูดกลั้วเสียงหัวเราะ
“แกอย่ามาทะลึ่ง ตอที่ว่าไม่ใช่ ‘ตอปิโด’ แต่เป็นมาเฟีย ที่นี่มาเฟียชุมกว่ายุง แกอาจไม่ได้กลับบ้านนะ ถ้าคนพวกนั้นสนใจแกขึ้นมา เจ้าหน้าที่ที่นี่กับที่บ้านเราไม่ต่างกันเลย คอรัปชันที่นี่ มากจนแกคิดไม่ถึง”
ตันหยงห่อหัวไหล่ เบิกตาโต เธอมองไปรอบๆ ตัว เริ่มรู้สึกกลัวหน่อยๆ ผู้ชายส่วนใหญ่ที่เห็นผ่านตา รูปร่างกำยำ ตัวโตๆ ทั้งนั้น และสีหน้ากระด้างแทบไม่ต่างกันเลย ถึงจะสวมเสื้อผ้าดูมีราคา แต่เกือบทั้งหมดนั่น เธอแยกไม่ออกหรอก คนไหนคือคนที่น่ากลัว หรือคนไหนที่คบได้
เพื่อนพราวแอบอมยิ้ม กับสีหน้าประหลาดของตันหยง
เธอไม่ได้พูดปด ตันหยงไม่มีทางแยกออก ผู้ชายคนไหนเป็นแค่คนธรรมดา หรือคนไหนคือคนที่น่าจะมีอันตราย
“ขอฉันนอนสักงีบนะ ฉันอยู่โยงเกือบครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว” หลังปิดประตูห้อง เพื่อนพราวเดินเลยเข้าไปในห้องนอน และพูดกับตันหยงที่ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากวิ่งถลาไปที่ระเบียง เพื่อชมวิวท้องทะเลที่เต็มไปด้วยเรือหลากหลายขนาด