หลังจากผู้ชายพวกนั้นไปฉุดเมขลาในวันนั้นก็โดนจับ แต่โดนจับข้อหาอื่น และคนพวกนั้นก็เป็นเพื่อนของชัชชาติที่เธอไหว้วานให้ไปฉุดเมขลา เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ชัชชาติเอามาข่มขู่เธอเพื่อแบล็กเมล์ไถเงิน
“ดา/คุณดา” ประโยคที่จิรดาหลุดปากออกมาทำให้องศาและเมขลาอุทานออกมาพร้อมกัน แต่จิรดาหน้ามืดไปเสียแล้ว เธอไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไง ขอแค่วันนี้ได้จัดการมารหัวใจออกไปก็เป็นพอ
“แกตายเสียเถอะ แกมานี่เลย” จิรดาจิกผมของเมขลาออกไปจากบ้าน ในขณะที่องศารีบวิ่งตามไปห้ามปรามเอาไว้
“ดาใจเย็นๆ ก่อนนะ”
“พี่นอนกับมันพี่ยังจะให้ดาใจเย็นอยู่อีกเหรอคะ”
จิรดาควักปืนออกมาจากกระเป๋า จ่อไปที่ศีรษะของเมขลา นั่นทำให้องศาหยุดกึก เขาตั้งสติและคิดว่าจะทำเช่นไรเพื่อยุติความเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น
“พี่รักมันเหรอ รักมันใช่ไหมถึงได้นอนกับมัน”
“ไม่ใช่ เมขลาเป็นผู้หญิงที่เพื่อนพี่ซื้อมาให้ในวันเกิดเท่านั้น พี่ก็เป็นแค่ลูกค้า เหมือนผู้ชายที่ซื้อผู้หญิงกินทั่วไป” ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาซื้อกิน แต่เขาไม่ได้จริงจังรับมาเป็นเมีย
“แกได้ยินแล้วใช่ไหม แกมันเป็นแค่ผู้หญิงขายตัว นางบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวที่ผู้ชายซื้อกิน ไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนอยากได้แกเป็นเมียยกย่องเชิดชูหรอก ผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแบบแกไม่มีใครเขาเอาแกหรอก” จิรดาเหยียดปากรู้สึกสะใจเป็นที่สุด
“ถ้าผู้ชายเขาต้องรับผู้หญิงทุกคนที่ซื้อกินเป็นเมีย ก็คงมีเมียเป็นโขยง แกจำใส่กะโหลกเน่าๆ กลวงๆ ของแกเอาไว้ด้วย นังสารเลวเอ๊ย!” จิรดาเกลียดชังสองแม่ลูกจับใจ เพราะแม่ของมันทำให้แม่ของเธอตกบันไดจนตาย ถ้ามันไม่ยุ่งกับพ่อของเธอ แม่เธอก็คงไม่อายุสั้นแบบนี้
“พี่คิดว่าดาควรปล่อยเมขลาไปนะ และพี่ก็ไม่เคยคิดจะยกย่องเชิดชูผู้หญิงคนอื่น พี่กับดาหมั้นกันแล้ว อีกไม่กี่เดือนจะแต่งงานกันนะครับ” องศาพูดให้คู่หมั้นสาวใจเย็นให้มากที่สุด
“พี่ไม่ควรนอกกายนอกใจดาไปมีอะไรกับคนอื่น”
“นั่นมันตอนที่พี่แต่งงานมีภรรยาแล้ว” องศาตอบเสียงขรึม และเขาก็คิดเช่นนั้นจริงๆ หากแต่งงานมีครอบครัวเขาจะไม่มีวันที่จะไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นแน่นอน
“แต่พี่หมั้นกับดาแล้ว”
“พี่ขอโทษครับที่ทำให้ไม่สบายใจ” องศาคิดว่าเขาไม่ควรแก้ตัวเพราะการซื้อผู้หญิงกินทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรก็จริง แต่ก็ไม่ควรให้คู่หมั้นของตนเองรู้ เพราะรู้แล้วมันจะทำให้ไม่สบายใจ เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกผิดจริงๆ อีกทั้งเขาเองก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะจัดของขวัญแบบนี้ให้เขาด้วย
เขาไม่ได้โทษเพื่อน แต่รู้ว่าในเครื่องดื่มนั้นก็ไม่ใช่เหล้าธรรมดา และคงมีบางสิ่งบางอย่างเจือปนอยู่ด้วย เขาเข้าไปอาบน้ำและคิดว่าเมขลาจะออกไปจากห้อง แล้วเขาอาจจะไม่ต้องทำอะไรเธอแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ไป และเขาก็มีความปรารถนาที่รุนแรงมากเหลือเกิน
มันอาจจะไม่ใช่ยาปลุกเซ็กซ์ชนิดร้ายแรง แต่มันก็ทำให้ความต้องการของเขาคุกรุ่นขึ้นมาแบบหักห้ามไม่อยู่นั่นเอง
“ดาวางปืนลงเถอะ เชื่อพี่” องศาพูดอย่างใจเย็น ครั้งนี้เขายอมรับผิดจริงๆ ไม่คิดว่าจิรดาจะมาเห็น แต่เขาจะปล่อยให้เมขลาเดินทางกลับไปคนเดียวกลางค่ำกลางคืนแบบนั้นก็คงทำไม่ได้
“พี่สัญญามาก่อนว่าจะไม่ยุ่งกับมันอีก และไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นด้วย”
“พี่สัญญา”
“จริงใช่ไหมคะ”
“จริง” เขารับปากและไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเมขลาแต่แรก ยิ่งต้องแต่งงานกันเขาก็ไม่อยากให้ผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยารู้สึกไม่ดีเช่นนี้
“แกได้ยินแล้วใช่ไหม ถ้าฉันยังเห็นแกยุ่งกับคู่หมั้นของฉันอีก แกตายนังเอย” จิรดาผลักไสร่างของเมขลาออกไปและเก็บปืนเข้ากระเป๋า องศาผ่อนลมหายใจออกจากปาก เขาหันไปมองหน้าเมขลาเป็นการพยักหน้าให้เธอไปได้แล้ว
เมขลาเห็นดังนั้นก็ไม่รั้งรอ เธอรีบวิ่งหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุหัวกระเซอะกระเซิง หัวใจช้ำๆ ของเธอมันเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่
แต่เธอจะเป็นอะไรไปไม่ได้เพราะเธอยังต้องดูแลมารดาที่รัก หญิงสาวปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะเดินทางไปหามารดาที่โรงพยาบาล
ท่านนอนหลับอยู่เธอจึงไม่ต้องการรบกวนท่านเลยไม่ปลุก ปล่อยให้ท่านได้นอนพักผ่อน
“แม่จ๋า หนูเหนื่อยจังเลยค่ะ” เมขลายกมือของมารดาขึ้นมาแนบกับใบหน้าเนียนของเธอที่ตอนนี้มันมีแต่คราบน้ำตา
“หนูเป็นลูกที่ไม่เอาไหนเลยใช่ไหมจ๊ะ ดูแลแม่ได้ไม่ดี แล้วยังทำให้คนอื่นเขาทะเลาะกันด้วย” คนพูดสะอื้นจนแทบจะขาดใจ ในขณะที่จินดาค่อยๆ ปรือตาตื่น
“อะ... เอย” เสียงที่เอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรงทำให้เมขลาต้องปาดน้ำตาทิ้ง เธอกุมมือมารดาเอาไว้ด้วยความห่วงใยสุดหัวใจ
“แม่จ๋า... วันนี้แม่เป็นยังไงบ้างจ๊ะ” อาการเจ็บปวดจากมะเร็งร้ายและการเดินไม่ได้ทำให้ท่านทรมานเป็นอันมาก เมขลาเศร้าใจและทุกข์ใจเป็นที่สุด
ท่านส่ายหน้าไปมา กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะยกมืออ่อนแรงสัมผัสใบหน้าของบุตรสาวเบาๆ
“นะ... เหนื่อยไหม” เป็นประโยคที่ทำให้เมขลายิ้มออก เธอส่ายหน้าไปมาน้ำตายังรินไหล
“ไม่เหนื่อยจ้ะ แม่ต้องรักษาจนหายกลับมาเดินได้เหมือนเดิม เราจะได้อยู่ด้วยกันไงจ๊ะ”
ท่านยิ้มให้เธอ แม้จะเป็นรอยยิ้มที่แห้งแล้งเต็มทน เพราะคนป่วยจะยิ้มอย่างสดชื่นคงเป็นไปไม่ได้ เธอเข้าใจมารดา แต่ท่านก็ไม่เคยอารมณ์เสียหรือโวยวายใส่เธอ
เมขลาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ท่านอย่างไม่รังเกียจ เช็ดเนื้อเช็ดตัวป้อนข้าวให้ท่าน การได้ดูแลมารดาทำให้เธอมีแรงกายแรงใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
เมขลาดูแลมารดาเสร็จเรียบร้อยก็บอกท่านว่าจะกลับห้องเช่าไปเอาเสื้อผ้า จึงฝากฝังพี่พยาบาลเอาไว้และรีบเดินทางกลับห้องเช่าโดยเร็ว
ในขณะที่เมขลาไปแล้ว และเป็นช่วงส่งเวรของพยาบาลในตอนเย็น จิรดาก็เดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม จินดาได้เห็นจิรดาเข้าก็ตกใจแทบช็อก แต่เพราะเธอขยับตัวหนีไม่ได้ นั่นทำให้ได้แต่นอนตกตะลึงอยู่แบบนั้น
“ตกใจเหรอที่เห็นฉันนังเมียน้อย” คนพูดตรงเข้ากระชากผมของคนป่วยอย่างเกลียดชัง
“แกกับลูกแกสันดานเหมือนกันไม่มีผิด ชอบแย่งของคนอื่น ในขณะที่แกก็ชอบแย่งผัวคนอื่น แกรู้ไหมว่าลูกสาวสุดที่รักของแกไปนอนกับคู่หมั้นของฉัน ฉันจับได้คาหนังคาเขา” ประโยคของจิรดาทำให้จินดาตกใจแทบช็อก
“สารเลวทั้งแม่ทั้งลูก แกกับลูกแกมันน่าจะตายๆ ไปซะ แกน่ะฉันไม่เป็นห่วงหรอก เพราะฉันจะจัดการแกให้ตายวันนี้เอง แต่ลูกของแก ฉันอุตส่าห์ให้คนจ้างผู้ชายไปรุมข่มขืนพี่องศาก็ดันเสือกมาช่วยเสียก่อน แต่รอบนี้ฉันจะสงเคราะห์ลูกแกไปลงนรกให้ได้ ฉันสัญญากับแกอย่างแน่นอน”
“มันนอนกับพี่องศา รู้ไหมทำไม เพราะมันเป็นกระหรี่ไง มันขายตัวให้ผู้ชายไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้วเพื่อเอาเงินมารักษาไอ้ง่อยอย่างแกไง แต่งานอื่นดีๆ มีให้ทำตั้งเยอะไม่ทำ ดันไปขายตัวเป็นโสเภณีชั้นต่ำ เลวทั้งแม่ทั้งลูกเลย แกว่าไหมล่ะ” ร่างของจินดากระตุกเพราะช็อก ในขณะที่จิรดาหัวเราะชอบใจ
“ฉันว่าจะเอาหมอนกดหน้าแกให้หายใจไม่ออก แต่แกดันเสือกชักตายไปเองนะ” จิรดาเหยียดยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
“แกควรไปลงนรกตั้งนานแล้วตั้งแต่ที่แกทำให้แม่ของฉันต้องตาย” จิรดามองร่างที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะขาดใจตายเพราะช็อกอย่างสะใจ นิ้วเล็กๆ ของเธอจ่อไปที่จมูกของศัตรูคู่แค้นและพบว่าไม่หายใจเธอก็หัวเราะอย่างสะใจ รีบจัดท่าคนป่วยให้นอนปกติ และห่มผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วยแบบไม่เหลียวหลัง