ตอนที่ 3

924 คำ
EP.03 ‘คุณไม่เข้าใจ ผมไม่ต้องการให้เรื่องมันใหญ่โตขนาดนั้น ผมแค่ต้องการขอต้นฉบับของผมคืน เพราะผมมีดิวกับสำนักพิมพ์ประจำของผมเอาไว้แล้ว และก็มีแผนที่จะวางในงานสัปดาห์หนังสือครั้งหน้าด้วย คืนต้นฉบับให้ผมเถอะครับ แล้วผมจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้เอง’ ‘ถ้าเช่นนั้นคงไม่ได้ค่ะ’ ‘ทำไมล่ะครับ’ ‘ก็ฉันจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าคุณไม่ได้มาแอบอ้างน่ะ ถ้าในอนาคตมีคนมาแจ้งแบบนี้ แล้วฉันบ้าจี้ทำตาม แล้วเกิดไม่จริงขึ้นมาล่ะคะ สำนักพิมพ์ของฉันจะหาความน่าเชื่อถือได้จากที่ไหนอีก นักเขียนจะกล้าไว้วางใจเอางานมาส่งให้ฉันเหรอคะ ในเมื่อคนที่นักเขียนจะพึ่งพาได้ก็คือสำนักพิมพ์ แต่ฉันกลับเชื่อคำของคนนอก ถ้าคุณไม่มีใบแจ้งความมาให้ฉัน ฉันก็ยังยืนยันว่าจะต้องสอบถามจากคุณอิทธิพลก่อนค่ะ’ ‘คุณก็เช็กประวัติของผมสิ คุณทำสำนักพิมพ์คุณย่อมรู้จักนักเขียนอยู่แล้วว่าเคยมีผลงานออกมาขายหรือเปล่า แล้วคุณก็เช็กประวัติของอิทธิพลด้วยว่าเคยมีผลงานมาก่อนหน้านี้บ้างไหม แค่นั้นคุณก็รู้แล้ว’ ‘แล้วทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วยคะ เป็นคุณ คุณจะทำเหรอ ใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาบอกว่า ฉันเซ็นสัญญากับโจรขโมยต้นฉบับ แล้วให้ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนถูก มันออกจะแปลกไปหน่อยหรือเปล่าคะ ถึงแม้คุณจะมีหลักฐานพวกนี้มา แต่ถ้าจะมองว่าคุณอิทธิพลเป็นเจ้าของต้นฉบับ และคุณเป็นคนแอบอ้าง มันก็มองได้ไม่ใช่เหรอ’ ‘ผมเข้าใจครับ และก็ยอมรับว่ามันอาจจะแปลกไปสักหน่อย’ ‘ไม่หน่อยหรอกค่ะ แปลกมากเชียวล่ะ ตั้งแต่ฉันเปิดสำนักพิมพ์มาห้าปี คุณเป็นคนแรกที่มาร้องเรียนเรื่องต้นฉบับถูกขโมยกับฉัน’ ‘โอเคครับ มันแปลก แต่ผมไม่เห็นทางไหนที่จะดีกว่านี้แล้ว นี่ผมขึ้นเครื่องมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาคุยกับคุณเรื่องนี้โดยเฉพาะ ถ้าคุณเห็นใจในอาชีพนักเขียน เห็นว่าเรายังต้องพึ่งพากัน คุณก็น่าจะเช็กให้ผมได้ไม่ใช่หรือครับ มันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงของคุณเลย จะเป็นการการันตีด้วยซ้ำว่าคุณได้รับต้นฉบับที่แท้จริง’ ‘เอาล่ะค่ะ ฉันให้โอกาสคุณก็ได้ ฉันจะยอมคืนต้นฉบับให้คุณ ถ้าคุณให้คุณอิทธิพลเขาทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร และอัดคลิปวิดีโอแจ้งให้ฉันทราบว่าเขาได้ขโมยต้นฉบับของคุณมาจริงๆ ยืนยันจากหนังสือที่แจ้งไว้ ถ้าทำได้ตามนี้ ฉันจะเชื่อสนิทใจว่านิยายเรื่องนี้เป็นต้นฉบับของคุณ’ ‘ผมติดต่ออิทธิพลไม่ได้ เขาไม่รับสายผม ส่งข้อความทุกช่องทางก็ไม่อ่าน’ ‘คุณไม่รู้จักบ้านเขาเหรอคะ ไหนว่าเป็นรูมเมทอยู่ด้วยกันมาหลายปี’ ‘รู้จักครับ แต่ผมไปตามเขาที่บ้านไม่ได้’ ใบหน้าสวยจัดมีแววครุ่นคิดชั่วครู่ เดิมทีเขาคิดว่าหล่อนคงจะตอบรับในสิ่งที่เขาร้องขอ คือยกเลิกต้นฉบับและรับค่าลิขสิทธิ์คืนกลับไป แต่ไม่ใช่... ‘เอาเป็นว่าฉันจะรับเรื่องไว้ละกันนะคะ แล้วจะให้ กอง บก. ติดต่อคุณอิทธิพลอีกทางหนึ่งด้วย เพราะยังไงฉันก็ต้องสอบถามจากคุณอิทธิพลก่อน ไม่ใช่แค่เขาผิดหรือเขาถูก แต่เขาเซ็นรับค่าต้นฉบับไปแล้ว ถ้าเขาขโมยต้นฉบับของคุณมาจริง สำนักพิมพ์ก็ต้องดำเนินคดีกับเขาค่ะ แล้วก็ต้องขอค่าต้นฉบับคืนทั้งหมดด้วย คุณเข้าใจฉันนะคะ’ ‘แต่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ผมอยากให้เราจบกันด้วยดี ผมจะชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างเอง’ ‘คุณคะ ฉันทำองค์กรนะคะ ทำสำนักพิมพ์ค่ะไม่ได้เป็นมูลนิธิ ไม่ได้เป็นแม่พระด้วย ไม่ใช่ว่าขโมยมา พอจับได้ก็เลิกแล้วจบกันไป เพราะเรามีค่าต้นทุนนะคะ ตั้งแต่ตรวจต้นฉบับจนถึงเซ็นสัญญา ทุกอย่างมีขั้นตอน และการเบิกจ่ายเงินก็เป็นธุรกรรมไปแล้ว ออกใบหัก ณ ที่จ่ายเรียบร้อยแล้วด้วย ไม่ใช่คืนงานจ่ายเงินชดเชยก็จบ คุณต้องเข้าใจฉันด้วย อย่างน้อยคุณก็ต้องให้เวลาฉันได้ติดต่อคุณอิทธิพลก่อน เข้าใจที่ฉันพูดนะคะ’ ‘แต่คุณ’ ‘บ่ายนี้ฉันมีประชุมต่อค่ะ ขอโทษด้วยที่คุยกับคุณไม่ได้มากไปกว่านี้ และคุณควรจะไปแจ้งความ ฉันเองก็จะดำเนินการในส่วนของฉัน ฝากเบอร์โทรศัพท์ของคุณไว้กับน้องโต๊ะด้านนะคะ คืบหน้ายังไง ฉันจะติดต่อไปค่ะ’ ‘ผมแค่ต้องการต้นฉบับของผมคืน’ ‘ฉันอธิบายไปหมดแล้วค่ะ ถ้าคุณจะไม่พยายามเข้าใจ ฉันก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ ฉันทำดีได้มากสุดแค่นี้เท่านั้น โปรดเข้าใจฉันในฐานะ บก. ด้วยค่ะ เชิญค่ะ’ ‘งั้นผมขอถามอีกเรื่องหนึ่งครับ’ หล่อนนิ่งให้โอกาส เขาจึงถามทันที ‘อิทธิพลส่งงานเป็นไฟล์หรือว่าเป็นเปเปอร์ครับ’ ‘ทั้งสองอย่างค่ะ เชิญค่ะ’ ดาราพรรณก้มมองเอกสารบนโต๊ะทำงาน มือผายไปด้านหน้าคือส่งแขก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม