การเดินทางสู่เมืองหวางอิน ห่างจากค่ายทหารตระกูลตง ราวห้าร้อยลี้ หญิงสาวได้รับการดูแลอย่างดีพอสมควร สตรีวัยกลางคนผู้นั้นชื่อหวังตัน เป็นแม่บ้านที่ตงเยี่ยหรงส่งมาให้ดูแลนาง เพื่อเดินทางไปให้ถึงเรือนของอนุหม้ายในสกุลตง หรือเรียกง่ายๆ อย่างตรงตัวว่า เรือนหม้าย แน่นอนว่ามีคำถามมากมายผุดในหัวซ่างเป่าเหลียน ทว่าจะให้เอ่ยปากถามใครได้ก็ไม่สะดวกใจ นางก็ได้แต่คิดถึงเจ้าของร่าง ที่เคยสื่อสารกันเมื่อนานมาแล้ว อีกทั้งได้รู้ว่าเรื่องราวเดิมที่เคยอ่านได้เปลี่ยนไป ดังนั้นยามนี้สถานการณ์ต่างๆ ในเรื่องจึงไม่เหมือนเดิม รวมถึงมีตัวละคนที่ไม่รู้จักโผล่เข้ามาตลอด
อีกทั้งยามนี้ ในสายตาผู้อื่น นางเหมือนคนปัญญาทึบ พูดจาวกวน และยังไม่เข้าใจธรรมเนียมต่างๆ สักเท่าใด และนอกจากหวังตันผู้เป็นแม่บ้าน ยังมีสาวใช้นางหนึ่งอายุนั้นคงพึ่งพ้นวัยปักปิ่น สีหน้าสีตายามแสดงออกต่อซ่างเป่าเหลียน เรียกว่าไม่ให้ความเคารพอย่างที่ควร
กระนั้นซ่างเป่าเหลียนไม่ให้ความไม่สนใจ ทว่าเป็นสาวใช้ที่อยากหาเรื่อง
“แม่บ้านหวัง... ข้าไม่อยากไปที่เมืองหวางอิน ที่นั้นไม่ใคร่มีผู้คนอาศัย ทั้งห่างไกลเมืองหลวง ข้ารู้ว่าเป็นเมืองที่ใกล้ทะเลด้วย หากมีโจรสลัดขึ้นฝั่ง ข้าอาจถูกจับตัวไปใช้แรงงาน หรือไม่คนที่งดงามอย่างข้า อาจกลายเป็นคณิกาบนเรือ เฮ้อ แค่คิดก็กลัวจนแทบจับไข้”
หวังตันพ่นลมหายใจร้อนๆ ใส่หน้าเด็กสาว แล้วเอ่ยเสียงหงุดหงิดว่า “หากไม่เดินทางไปกับข้า เพื่อรับใช้แม่นางเหลียน เจ้าจงกลับไปอยู่ที่ค่ายตามเดิม ทำงานดูแลความสะอาดเสื้อผ้า และโรงครัวดีหรือไม่ เอ... ไม่สิ ในเมื่อเสี่ยวเหยาเป็นสตรีแสนสวย ข้าเสนอว่า เจ้าควรแขวนป้ายแล้วอยู่กระโจมด้านหลังค่าย คอยรับใช้ทหารหนุ่มๆ ดีกว่า”
สิงตูเหยาแยกเขี้ยวใส่หวังตัน แล้วหันมาทางเจ้านายใหม่ของตน นางเอ่ยลอยๆ อย่างล้อเลียน
“ข้างามก็จริง แต่คงไม่เท่าแม่นางเหลียน ดูเถิดถูกจับแขวนป้าย ทั้งที่สติไม่อยู่กับเนื้อตัว พออุ่นเตียงกับแม่ทัพแล้ว ก็ค่อยพูดจารู้เรื่อง เยี่ยงนี้นับว่าประหลาดแท้
แล้วถ้านางไม่ยั่วยวนผู้คุม ไฉนจะถูกเลือกให้ไปรับใช้แม่ทัพใหญ่ จนเขาให้แม่บ้านหวัง พาตัวไปซ่อน และเลี้ยงดูไว้อย่างลับๆ เช่นนี้”
สิงตู้เหยากล่าวจบ สีหน้าหวังตันพลันเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง ดวงตานางจ้องเขม็งไปที่สาวใช้ แล้วเอ่ยว่า
“หากยังมีชีวิตอยู่ จงพูดให้น้อยลง และอย่าเอ่ยสิ่งไม่ดีต่อแม่นางเหลียน ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เจ้ารู้เห็นก่อนหน้านี้ ควรปิดปากอย่างสนิท เจ้าก็เห็นไม่ใช่หรือ ทหารสองคนที่พาแม่นางเหลียนไปส่งที่กระโจมแม่ทัพใหญ่ก่อนหน้านั้น พวกเขาหายสาบสูญแล้ว ส่วนพวกผู้คุมที่ทำหน้าที่ดูแลด้านหลังค่าย ก็ถูกขังคุกมืดเป็นเวลาครึ่งเดือน”
สาวใช้หน้าซีด และตัวสั่น ก่อนหลบไปนั่งเงียบๆ แม้แต่การหายใจก็พยายามไม่ให้เกิดเสียงรบกวนผู้อื่น
“แม่นางเหลียน”
หวังตันเรียกหญิงสาวเช่นนั้น ด้วยชื่อ และไม่ให้ใช้แซ่เดิม ตามความประสงค์ของตงเยี่ยหรง ซี่งนางไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสะใภ้ห้า หรือภรรยาของไคซี ผู้ที่แม้หากตายไปแล้วกลับไม่พบศพ
ดังนั้นนางก็เป็นเพียง นางบำเรอผู้หนึ่งที่ได้หลับนอนกับตงเยี่ยหรง ทว่าหวังตันผู้นี้ เป็นคนเก่าแก่ของสกุลตง เคยเลี้ยงดูคุณชายหลายคน ร่วมถึงเป็นพี่เลี้ยงวัยเด็กแก่ตงเยี่ยหรงด้วย เขานับถือนางเป็นเสมือนพี่สาวคนหนึ่ง แม้อีกฝ่ายจะปากแข็ง ทั้งแสร้งทำใจร้ายต่อซ่างเป่าเหลียน แต่หากเขาไม่เมตตานาง ไฉนจะให้คนเรียกตัวหวังตัน เพื่อให้พาอีกฝ่ายไปยังเรือนห่างไกลที่เมืองหวางอิน
ซ่างเป่าเหลียนหันมามองหวังตัน ยามนี้แม้จะมีความเสียใจอยู่บ้าง แต่ได้สติคืนมาจนครบ ผิดแต่ผู้เป็นเจ้าของร่างปิดกั้นความทรงจำหลายสิ่งเอาไว้ จึงยากที่นางจะล่วงรู้สิ่งต่างๆ ในเวลานี้ ส่วนความทรงจำในภายหลังของโลกคู่ขนาน ก็ยังไม่เปิดเผยต่อนางอย่างเต็มที่ รู้แต่ว่าตนพอมีความสามารถด้านดูแลคนป่วย และบางครานางก็เห็นตนอยู่ท่ามกลางคนเจ็บที่กำลังรอรับการปฐมพยาบาล
“เมื่อถึงจุดพักม้าข้างหน้า ข้าจะให้สาวใช้ต้มยาให้ท่าน ดื่มจนหมดเทียบที่หมอสั่งไว้ จึงจะมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์” คำพูดของหวังตัน ยิ่งสะท้อนภาพและเสียงในคืนที่ผ่านมา ซ่างเป่าเหลียนอยากสลัดเรื่องร้ายๆ ให้พ้นตัว หากดูเหมือนว่า ตงเยี่ยหรงมีอิทธิพลต่อนางมากเหลือเกิน
“ข้าจะทำตามที่แม่บ้านหวังแนะนำ”
นางตอบอีกฝ่ายเสียงเรียบๆ และนั่งรถม้าไปสักพักก็ถึงจุดที่หวังตันบอก
สถานที่แห่งนั้นเป็นโรงเตี้ยมขนาดเล็ก ผู้คนสัญจรบางตา มีพ่อค้าเร่ กับข้าราชการเดินทางไกลไปตามเมืองต่างๆ รวมถึงคนหนุ่มที่ต้องการไปสอบวัดความรู้เพื่อเป็นขุนนาง
ซ่างเป่าเหลียนแม้จะแต่งชุดเสื้อผ้าสีเข้ม หากนางโดดเด่นยิ่ง ใบหน้าขาวสะอาดหมดจด ผิวกระจ่างใส ยิ่งกว่านั้นคือกลิ่นหอมละมุนอ่อนจากเรือนกาย เป็นกลิ่นคล้ายดอกเหมย สดชื่น เย้ายวน ทั้งสร้างความพิศวง
ขณะที่นางเตรียมรับถ้วยยาต้มที่มีกลิ่นเหม็นหืนจัดมาดื่ม หญิงสาวได้ยังมือไว้ และมองไปยังสาวใช้ที่มีนามว่า สิงตู้เหยา
“แม่บ้านหวัง... ยาถ้วยนี้ไม่เหมือนก่อนหน้าที่ได้ดื่ม”
ซ่างเป่าเหลียนเป็นลูกสาวของเจ้ากรมโยธา แม้ถูกเลี้ยงดูนอกเมือง ไม่ได้เข้าจวนหลัก ด้วยมีดาวหายนะ ต่อฮูหยินคนใหม่ของบิดา ทว่านางพอมีความรู้ อ่านออกเขียนได้ ฝ่ายวิญญาณสาวที่มาสวมร่างงดงามนี้ คือแพทย์หญิงห้องฉุกเฉิน อย่างไรก็แตกฉานหลายสิ่ง เช่นนี้จึงมีความช่างสังเกต
หวังตันนิ่วหน้า และตอนนั้นก็ล้วงหยิบเข็มเงินจากสาปเสื้อ แล้วตรวจสอบน้ำแกงระงับการตั้งครรภ์
ภาพที่ปรากฏในอึดใจต่อมาก็คือ ปลายเข็มนั้นเป็นสีดำ!