Episode 07 ขโมย

1263 คำ
Episode 07 “ขอบคุณนะที่มาส่ง แม้ว่าจะเกือบพาเราไปตายก็ตาม” เรากล่าวขอบคุณ พร้อมๆ กับยื่นหมวกกันน็อคกลับคืนให้เขาไป “นั่งทีนี่เข็ดเลย” “เราก็ขับแบบนี้ของเรามาตั้งนานแล้ว แต่ถึงยังไง…เราก็ไม่ได้ทำเธอตกไหมอะ?” เขาเลียขอบปากตัวเองเล็กน้อย ก่อนที่จะถอดหมวกกันน็อคออกและเสยผมตัวเองขึ้นหนึ่งที “ร้อนฉิบหาย! ขอเข้าไปในบ้านได้เปล่า?” “บ้า…จะเข้ามาในบ้านเราทำไม!” ว่าพลางมองตาขวางใส่เขาอย่างไม่ไว้ใจ “เราเป็นผู้หญิงนะ จะให้พาผู้ชายเข้าบ้านแบบนี้ มันไม่ได้!” “แหมะ…ทีงี้มาบอกไม่ได้ แล้วตอนอยู่ที่โรงเรียน! เธอทะเลาะกับน้ำตาลว่าอะไรนะ? เราได้กับเมืองเมาแล้ว เราสองคนหมั้นกันแล้ว” กรีนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับยกแขนขึ้นกอดอก “ผู้หญิงมากมั้ง!” “ก็อันนั้นเราเป็นแฟนกันจริงๆ นี่! ไม่ได้เหมือนนายสักหน่อย ถ้าเกิดเราพานายเข้าไปในบ้านแล้วเมืองเมารู้เข้า เขาอาจจะงอนเราได้” “มันเป็นแค่พระเอกในนิยาย! มันไม่มีทางรู้หรอก! อีกอย่าง…เราก็มาทำงานบ้านเธอตั้งบ่อย ครั้งก่อนก็เข้าไปได้ตลอด แล้ววันนี้มาอารมณ์ไหนถึงไม่ให้เราเข้าไป?” อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าเวลามีงานอะไรเราจะได้คู่กันตลอด ด้วยเหตุผลที่ทุกคนก็รู้ดีว่าเพราะอะไร~ แต่ตอนนั้นที่เราให้เข้าได้ก็เพราะว่ามีคุณพ่อคุณแม่อยู่ที่บ้าน แล้วท่านก็รับรู้ว่ากรีนเป็นยังไง เราเล่าให้ท่านฟังอยู่ตลอด พอเวลามีงานอะไรที่เราได้ทำร่วมกัน เราก็จะนัดกรีนมาทำงานที่บ้านเราเสมอ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ทราบตลอด แต่ครั้งนี้พวกท่านไม่อยู่ จะพาเข้าบ้านเลยมันก็ไม่ควร “ก็ตอนนั้นคุณพ่อกับคุณแม่เราอยู่นี่นา” “ก็คนมันร้อน ขอเข้าไปกินน้ำสักหน่อย เดี๋ยวก็กลับแล้ว” ร่างบางยืนครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะตอบกลับเข้าไปว่า… “ก็ได้ๆ แต่เข้าไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้นนะ” “อืมๆ” เขาพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะทำการดับเครื่องและลงจากรถ จากนั้นก็ได้เดินตามเราเข้ามาในบ้าน “นั่งรอก่อน เดี๋ยวเราไปเอาน้ำให้” เขาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้าเข้าใจ และนั่งรออยู่ที่โซฟา ร่างบางวางกระเป๋านั่งเรียนลง ก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวหยิบน้ำเย็นๆ มาให้ร่างสูงได้ดื่ม “อะนี่น้ำ” “ขอบใจ” เขาพยักหน้าเป็นการขอบคุณ พร้อมกับเอื้อมมือหนามารับน้ำแก้วนั้นไปดื่ม แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อนะคะ เอาแต่นั่งนิ่งๆ ส่วนเราพอคิดถึงเรื่องที่น้ำตาลและมะปรางเล่าให้ฟัง ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ จนเผลอจ้องหน้าเขาไปพักใหญ่ จนเขานั้นรู้สึกรำคาญใจ “จ้องขนาดนี้ ไม่ไปหยิบมีดมาหั่นแล้วกินเนื้อเราเข้าไปเลยล่ะ?” เขาเลิกคิ้วถามเราอย่างสงสัย “มีอะไรงั้นเหรอ?” “ถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่นๆ ในห้องแล้ว นายรู้สึกดีกับเราไหม? แบบ…รู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดี ไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ ที่เขาไม่ชอบนายน่ะ” “อืม ก็รู้สึกนะ…เธอก็ไม่ได้รังเกียจเราจริงๆ อะ มีงานอะไรก็ช่วยเราตลอด แถมยังคอยตามเรามาเรียนอีกด้วย” “งั้น! พูดตามตรงนะ…คือ! นายก็รู้ใช่ไหมว่ามะปรางกับน้ำตาลเขาเป็นพวกคณะกรรมการนักเรียน เวลามีงานอะไรผอ.ก็จะเรียกใช้สองคนนี้อยู่บ่อยๆ” กรีนไม่ได้พูดอะไรตอบ เพียงแต่พยักหน้าเบาๆ “วันนี้ตอนกลางวัน สองคนนั้นเขาเล่าเรื่องของนายให้เราฟังด้วยนะ” “…” แววตาของเขาก็กระตุกเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เราก็พอจะมองออกว่าเขารู้ว่าสิ่งที่มะปรางและน้ำตาลเล่าให้เราฟังมันคือเรื่องอะไร “สองคนนั้นเล่าให้เราฟังว่า พวกเขาเจอนายเข้าไปที่ห้องของผอ.เข้าไปหาอะไรบางอย่างในห้องของท่าน” และเขาก็เริ่มหน้าเสียขึ้นมาทีละนิด เมื่อเราเริ่มพูดเรื่องที่มะปรางและน้ำตาลเล่ามา “แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่านายได้เอาอะไรออกไปจากห้องของผอ.ด้วยไหม” “…” “ถ้านายรู้สึกดีกับเรา รู้สึกไว้ใจเรามากกว่าคนอื่นในห้องที่เกลียดนาย นายสารภาพกับเรามาได้ไหมว่าเข้าไปทำอะไรที่ห้องของผอ.” เขากำหมัดแน่น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับเรามา “ถ้านายขโมยของไปจริงๆ เราก็อยากให้เอาไปคืนนะ ถ้าเกิด! ลำบากหรือร้อนเงินก็บอกเรา เรายินดีช่วย แต่อย่าทำแบบนี้” “เออ! เราขโมยของไปจริงๆ นั่นแหละ!” กรีนโพล่งขึ้นมาทันควัน “พอดีเราร้อนเงินอะ…แต่เราขอไม่บอกนะว่าร้อนเงินเรื่องอะไร! มันเป็นปัญหาส่วนตัวที่บ้าน เราไม่อยากให้เธอมายุ่ง แต่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ก็เลยเลือกที่จะขโมยของ” และแล้วเขาก็ยอมรับสารภาพออกมาจนได้ “เราไม่ได้ตั้งใจนะ!” “แล้วนายขโมยอะไรออกไปเหรอ?” ว่าพลางเอื้อมมือไปลูบไหล่เขาเบาๆ อย่างเข้าใจ “พูดออกมาเถอะ เราไม่บอกใครหรอก ให้มันเป็นความลับระหว่างเรา” “จริงๆ เราอยากได้เงินสดมากกว่า แต่ว่า…น้ำตาลกับมะปรางดันมาเห็นเข้า ก็เลยไม่ทันได้หยิบเงินออกมา เราหยิบมาได้แค่โทรศัพท์ของผอ.น่ะ” กรีนกล่าวตอบ ก่อนที่จะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งออกมา “เขาน่าจะมีสองเครื่องล่ะมั้ง ก็เลยโทรหาเธอได้” “ยังไม่ได้เอาไปขายก็ดีแล้ว” เราถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง เพราะถ้าของที่ขโมยไปยังอยู่แบบนี้ ก็ไม่ยากต่อการเอาไปคืน “เดี๋ยวเราจะเอาไปคืนให้เอง” “เธอจะเอาไปคืนยังไง?” “เราก็จะแกล้งทำเป็นว่า ในระหว่างที่เรากำลังยืนรอรถเพื่อกลับบ้าน มีน้องมอต้นเอาโทรศัพท์เครื่องนี้มาให้เรา น้องบอกว่าน้องเก็บได้ แต่น้องไม่รู้จะเอาไปให้ใครเพราะมันก็เย็นมากแล้ว ก็เลยเอามาให้เราแทน เพราะเห็นว่าเรามีเพื่อนเป็นพวกคณะกรรมการนักเรียน” แผนนี้เริ่ดสุด ความปัง! ฉลาดเลิศ สมแล้วที่เป็นเมียเมืองเมา! คิกๆ “แล้วเขาจะเชื่อเธอเหรอ?” “เราเป็นอดีตรองประธานนักเรียนนะ แถมเกรดก็ดีมาโดยตลอด ในสายตาของผู้ใหญ่เขาก็คงจะมองเด็กแบบเราว่าเป็นคนดี และเก็บของที่หายไว้ได้จริงๆ” ว่าพลางคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเขามาเก็บไว้ที่ตนเอง “ถ้าเกิดให้นายไปคืนเอง ต่อให้นายพูดได้ลื่นไหล แต่นายที่ไม่ถูกกับอาจารย์สักคนในโรงเรียน! มีหรือที่ผอ.ท่านจะไว้ใจ” “เออ…ก็จริง” เขากล่าว “ยังไงก็ฝากด้วยแล้วกันนะ” “อื้ม! แล้วคราวหลังอย่าขโมยของแบบนี้อีกนะ” “รับทราบครับแม่ ผมจะไม่เป็นคนขี้ขโมยอีกแล้วครับ” มาเรียกกูแม่อีก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม