“คืนนี้ไปค้างกับปรางไหมคะ” มะปรางแฟนสาวของผมเอ่ยถามหลังจากที่เธอขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วเพิ่งจะเดินกลับมา ตอนนี้ตัวผมนั่งอยู่สนามแข่งรถของไอ้เตอร์ หรือ ‘ฮันเตอร์’ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของผม ช่วงที่มะปรางไปเข้าห้องน้ำผมถือโอกาสทักหาเพื่อนสาวคนสนิท คนที่เมื่อคืนเราได้นอนแนบชิดกันทั้งคืน
“คืนนี้พี่ไม่ว่างครับ” ผมปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดทบทวนเพราะอยากจะกลับไปชิมความหอมหวานของอ้อยหวานเพื่อนสนิท เพื่อนที่เพิ่งจะเสียความบริสุทธิ์ให้ผม หึ ซิงของเพื่อนสนิทที่ผมได้มาด้วยความเจ้าเล่ห์ของผม โดยมีไอ้กวินช่วยแต่งเสริมเดินเรื่อง
เรื่องมันมีอยู่ว่าคือผมให้ไอ้วินโกหกอ้อยหวานว่าผมทะเลาะกับมะปราง กำลังจะเลิกกับมะปราง
ทั้งที่ความเป็นจริงผมและมะปรางยังรักกันดี
ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่ามันจะง่าย ไม่คิดว่าอ้อยหวานจะยอมตกเป็นของผมอย่างง่ายดาย ถ้าผมรู้ว่าง่ายขนาดนี้ผมทำไปตั้งนานแล้ว
“งั้นคืนนี้ปรางคงจะเหงามากแน่ ๆ” ร่างบางอรชรกอดซบที่แขนแกร่งของผมพร้อมสายตาเชิญชวน
“เอาไว้วันหลังนะครับ วันนี้พี่ไม่ว่างจริง ๆ” พูดแล้วก็โน้มริมฝีปากป้อนจูบนุ่มนวลให้มะปราง
“อย่านอกใจปรางนะคะ”
“ไม่มีทางครับ พี่รักปรางคนเดียว” ผมยืนยันหนักแน่น ซึ่งเรื่องที่พูดมันคือความจริง ก็ผมไม่ได้นอกใจ ผมเพียงแค่นอกกายเท่านั้น
ผมรักมะปรางแค่คนเดียว ส่วนไอ้เรื่องที่ผมบอกรักอ้อยหวานผมก็รักมันไง ไม่ได้โกหกนะ แต่รักแบบเพื่อนครับ ผมแค่พูดให้อ้อยมันฟังไม่หมดก็เท่านั้นเอง
นามของผมที่เพื่อนเรียกคือ ‘ไอ้ช้าง’ แต่ที่พ่อแม่ตั้งให้นั้นคือ ‘ช้างพลาย’ ผมเป็นผู้ชายหุ่นล่ำ สูง 185 เซนติเมตร ใบหน้าคมเข้ม สรุปง่าย ๆ คือผมหล่อนั่นแหละ หล่อแบบล่ำ ๆ แฟนสาวของผมก็คือมะปราง เราคบกันตอนผมอยู่ปี3 มะปรางอยู่ปี2
ผมรักเธอนะ เพราะเธอทำให้ผมมีความสุขเวลาที่อยู่กับเธอ
เธอสามารถทำให้ผมยิ้มแย้มเวลาอยู่ใกล้กัน
เธอคือคนที่ผมรัก
แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะหยุด
ผมจึงไปเรื่อย ๆ
แต่ไม่นานผมจะหยุดที่มะปรางแน่นอน ผมเล็งไว้แล้วว่าคนนี้แหละใช่แน่ ๆ
“คิดถึงมึงจังเลยเตี้ย” เดินเข้ามาในบ้านของอ้อยหวาน หลังจากที่ไปส่งมะปรางกลับคอนโด ร่างบางกำลังนั่งจ้องจอทีวีโดยไม่สนใจผมสักนิด เท่าที่ผมรู้อ้อยหวานมันชอบดูซีรีส์รักหวานแหววเป็นชีวิตจิตใจ ในเมื่อมันไม่สนใจผมจึงล้มตัวลงนอนหนุนตักนุ่มนิ่ม
ที่มาของสรรพนามที่ผมเอ่ยเรียกอ้อยหวาน ก็เพราะความสูงของเราทั้งคู่แตกต่างกันมาก
“เฮ้ย! อะไรของมึง” เสียงหวานเอ่ยด้วยความตกใจ เสียงเธอแผดเข้าที่หูของผมอย่างจัง สาเหตุก็เพราะมือของผมล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นของอ้อย
“เสียงดังทำไม อยู่ใกล้ ๆ เอง แล้วก็ดูไม่เลิกสักทีไอ้ซีรีส์ลวงโลกเนี่ย” ผมชักมือกลับมาโอบกอดเอวคอดของอ้อยหวาน ผมรู้สึกว่ายิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหอมหวนชวนอยากสัมผัสร่างกายนี้มากเหลือเกิน
“ลวงโลกอะไร เขาเรียกรักโรแมนติค ถ้ากูมีแฟนนะกูจะทำแบบในหนังทุกอย่างเลย” อ้อยหวานพูดพร้อมใบหน้าเพ้อฝัน
หึ มันจะมีที่ไหนชีวิตที่ราวรื่นแบบนั้น
“ก็ทำกับกูดิ” ผมพูดออกไปแบบไม่คิด
เธอชะงักก่อนจะก้มหน้ามาสบตาผมที่นอนหนุนตักเธออยู่ จังหวะกำลังดีผมจึงฉวยโอกาสจับที่ท้ายทอยของเธอและโน้มใบหน้าประกบจูบ
จูบสักพักอ้อยหวานก็ถอนจูบทั้งที่ผมอยากจะจูบเธออยู่แบบนั้น เธอเล่นหอมหวานไปทั้งตัว ผมอยากกินเธอ แต่แล้วเธอก็ถามเรื่องที่ทำผมเสียอารมณ์ “สรุปแล้วมึงเลิกกับมะปรางหรือยัง”
“...เลิกแล้ว” ผมลั่นคำหลอกลวงออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง โกหกเพราะยังอยากจะเชยชมร่างกายหอมหวานนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าผมจะเบื่อเท่านั้นเอง ใครใช้ให้ไอ้อ้อยมันหอมหวานแบบนี้ล่ะ
“เรื่องจริงใช่ไหม” อ้อยหวานมองหน้าของผมคลับคล้ายคลับคลาว่ากำลังจะจับผิดว่าผมพูดเท็จหรือไม่
“กูเคยโกหกมึงเหรอเตี้ย” ผมหยิบยกและอวดอ้างถึงสิ่งที่เคยทำ ก็ตั้งแต่เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาผมไม่เคยโกหกมันสักครั้ง จะเริ่มมีก็ตั้งแต่เมื่อวานจนกระทั่งตอนนี้ที่คำโกหกของผมเริ่มพรั่งพรูออกมาเรื่อย ๆ โดยที่อ้อยหวานมันไม่น่าเอะใจว่าผมจะกล้าหลอกมัน
“ก็แค่ถามให้แน่ใจ”
“แล้วมึงแน่ใจหรือยัง” หึ ในที่สุดเธอก็เชื่อผม ต้องขอบคุณความดีที่ผมเคยกระทำ เพราะมันสามารถดึงดูดความเชื่อใจได้เป็นอย่างดี
“ยังอะ” เธอพูดพร้อมส่ายหน้าไปมา ผมคิดว่าเธอเชื่อผมนะ ที่ทำอยู่ก็แค่เขินผมเท่านั้นเอง
“กูรักมึง เชื่อเถอะ” ‘แต่แค่เพื่อนนะ’ ประโยคหลังผมเอ่ยในใจ เรื่องนี้ผมไม่ได้โกหก เพียงแค่พูดไม่หมดเท่านั้น!
“จริงเหรอ” อ้อยหวานหันมามองหน้าผมอีกครั้ง
“อื้ม จริงสิ”
“ช้าง”
“ครับ”
“...ที่จริงกูก็รักมึง รักมานานแล้ว แต่มึงอะมีแฟน เราก็เป็นเพื่อนกันด้วย กูไม่อยากเสียเพื่อนถึงเลือกที่จะไม่บอก แต่ตอนนี้ที่กูบอกความรู้สึกของกูให้มึงรู้เพราะเรื่องของเรามันลึกซึ้งเกินเลยมามาก ซึ่งมึงก็เลิกกับแฟนไปแล้วใช่ไหม”
“อื้อ”
อ้อยหวานยิ้มให้กับคำโกหกของผมก่อนจะเอ่ย “กูสัญญานะว่ากูจะดูแลมึงให้ดี มึงอย่าทิ้งกูนะ”
“...” ยอมรับตามตรงว่าผมตกใจกับสิ่งที่ไอ้อ้อยมันพูด ผมไม่คิดว่าอ้อยจะรักผม
อ้อยหวานรักผม แต่ผมไม่ได้รักเธอ
ไม่ให้ทิ้งงั้นเหรอ สักวันผมก็คงต้องทิ้งเพราะคนที่ผมรักคือมะปราง ถึงวันนั้นเมื่อไหร่ไม่รู้เลยว่าระหว่างผมกับอ้อยจะเป็นยังไง
“มึงหน้าซีด ๆ เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า” มือบางลูบคลำที่ใบหน้าของผม
หน้าซีดงั้นเหรอ ผมเนี่ยนะหน้าซีด
“กูปวดหัว” ผมตอบส่ง ๆ ออกไป ไม่รู้สาเหตุที่ตัวเองนั้นหน้าซีดเหมือน
“รอแป๊บนะเดี๋ยวไปเอายามาให้กิน” เธอหยิบหมอนมารองที่หัวของผม จากนั้นก็เดินหายไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมยากับแก้วน้ำในมือ
“กินยาแล้วนอน กูไปทำกับข้าวก่อน เดี๋ยวมาปลุกไปกินข้าว” ผมกินยาตามที่เธอบอก กินทั้งที่ไม่ได้ป่วย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องกิน
ผมกินยาแล้วก็แกล้งนอน อ้อยหวานเอาผ้ามาห่มให้ผมด้วย ห่มผ้าเสร็จเธอก็ย่อตัวลงนั่งข้างผม
“กูรักมึงมากนะช้าง” เสียงหวานเอ่ยข้างใบหู พูดแล้วเธอก็แตะจูบที่ริมฝีปากของผม
เธอดูรักผมมาก
ถ้าผมรักเธอบ้างมันคงจะดี
แต่นี่ผมแค่อยากลองแล้วเผอิญติดใจ อยากลองซ้ำเท่านั้นเอง